หลังจากเห็นภาพอดีตของผู้ครอบครอง One For All คนแรก อิสึคุที่นอนไม่หลับก็ออกมาวิ่งออกกำลังพร้อมกับใช้ความคิดไปด้วย
"สุดท้ายฉันก็กลับไปนอนต่อไม่ได้"
"ฉันยังจำฝันนั้นได้อย่างชัดเจน"
"ในตอนที่มือของพวกเราสัมผัสกันนั้น..."
"ตอนที่ฝันจบลง"
"ฉันเห็นเหล่ารุ่นก่อนหน้าทุกคน"
วันต่อมา อิสึคุเอาเรื่องที่เกิดขึ้นมาบอกให้ All Might ฟัง
All Might : เธอเห็น...ความทรงจำของรุ่นแรกงั้นรึ?!
อิสึคุ : ครับ...ว่าไปแล้วมันก็เป็นความทรงจำของออลฟอร์วันด้วย
อิสึคุ : "ความทรงจำที่สืบทอดมาของวันฟอร์ออล"...ออลไมท์ คุณเคยบอกว่าสมัยยังเป็นวัยรุ่นคุณก็เคยเห็นเหมือนกันใช่ไหมครับ?
All Might : ใช่ หลังจากที่ฉันเห็นมัน อาจารย์ของฉัน...ผู้สืบทอดรุ่นก่อนของวันฟอร์ออลก็บอกฉันเรื่อง "ความทรงจำที่สืบทอด"ให้รู้ และเพราะฉันเห็นภาพในอดีตนั่นแหละฉันถึงสามารถเล่าที่มาของพลังให้เธอรู้ได้
อิสึคุ : ผมเห็นจนถึงตอนที่มันถูก "ยัดเยียด" ให้กับเขา...แล้วจากนั้นคนแรกสุดก็พูดกับผมโดยตรง
อิสึคุ : เขาบอกว่าผมยังใช้พลังได้แค่ 20%...และยังพูดถึงจุดที่ไม่ใช่อัตลักษณ์ธรรมดาอีกต่อไป...
อิสึคุ : เมื่อตอนงานแข่งกีฬา คุณบอกผมว่ามันไม่น่าจะมีจิตใจหรือความรู้สึกรับรู้อยู่ในพลังนี้
อิสึคุ : แต่ผมว่ามันไม่ใช่แบบนั้นแล้วล่ะครับ...
ถึงตรงนี้ All Might ก็ต้องคิดหนักกับสิ่งที่เพิ่งจะเคยได้รู้ของพลังที่เคยเป็นของตนเองมาก่อน...
"เขาพูดงั้นรึ..."
All Might : ฉันไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้น และอาจารย์ของฉันก็ไม่เคยพูดถึงให้ฟังเหมือนกัน
All Might : เท่าที่ฉันรู้เธอเป็นคนเดียวที่เกิดปรากฎการณ์นี้ขึ้น แต่ว่า...
แล้ว All Might ก็นึกถึงที่สิ่งที่อาจารย์ของเขา ชิมูระ นานะ เคยบอกให้ฟัง
นานะ : นั่นไม่ใช่ความฝันหรอก มันคือความทรงจำที่สืบทอดมาน่ะ
All Might : ความทรงจำที่สืบทอดมาหรือครับ?
นานะ : ฉันมั่นใจว่าในอัตลักษณ์นี้มีหลายสิ่งหลายอย่างรวมอยู่
นานะ : "ฉันอยากจะทำสิ่งนั้นแล้วก็สิ่งนี้ ฉันอยากจะเป็นอย่างนี้แล้วก็อย่างนั้น" เมื่อ "พลัง" แปรเปลี่ยนไปเป็น "ความปราถนาที่แรงกล้า"
นานะ : ความคิดและความปราถนาทั้งหมดที่ถูกรวบรวมและเก็บสะสมไว้ในตัวผู้ใช้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของ "พลัง"
นานะ : ฉันคิดว่าอย่างนั้นน่ะนะ
All Might : มันฟังดูเหมือนเรื่องเหนือธรรมชาตินะครับนั่น
นานะ : ฉันว่ามันโรแมนติกออกนะ!
นานะ : ถึงแม้ว่าคนหนึ่งจะล้มลงกลางคันระหว่างทาง
นานะ : เธอก็สามารถพบกับพวกเขาได้อีกภายในวันฟอร์ออล! นั่นคือความสุนทรีของชีวิตอย่างที่สุดแล้วล่ะ
เมื่อเห็น All Might นิ่งไป อิสึคุจึงเรียกเขาจนทำให้ All Might สะดุ้งเล็กน้อย
All Might : เธอบอกว่าเมื่อตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็มีการระเบิดเกิดขึ้นด้วยสินะ? แล้วเธอบาดเจ็บบ้างหรือเปล่า?
อิสึคุ : ไม่ครับ ผมปลอดภัยดี
All Might : นั่นดีแล้ว ที่ฉันสามารถบอกเธอได้ จากความเข้าใจของฉัน...คือสิ่งที่แม้แต่ฉันยังไม่เข้าใจกำลังเกิดขึ้นอยู่
All Might : ที่เขาพูดถึงเรื่องที่เกินกว่าการเป็นอัตลักษณ์ธรรมดาไปแล้วนี่หมายถึงการพัฒนาขึ้นของอัตลักษณ์ที่กำลังถูกพูดถึงทางทฤษฎีหรือเปล่า? สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นผลจากเรื่องนั้นหรือเกิดจากปัจจัยภายนอกกันแน่?
All Might : แล้วมีอะไรอื่นเกิดขึ้นอีกไหม?
อิสึคุ : หลังจากนั้น...มีอยู่สองคนที่ผมไม่สามารถเห็นหน้าของพวกเขาได้...คุณเองก็พร่ามัวด้วยเหมือนกัน
อิสึคุ : ผมก็สงสัยว่ามันเป็นเพราะคุณยังค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆหรือเปล่า...?
All Might : ฉันก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่นักเหมือนกัน...ขอโทษทีนะ แต่ฉันก็พูดได้เต็มปากว่าพลังนี้เป็นพวกเดียวกับเธออย่างแน่นอน
All Might : จากนี้ไปเรามาหาคำตอบไปด้วยกันเถอะนะ
อิสึคุ : ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!
อิสึคุ : เอ้อ...มีอีกอย่างด้วยครับ
อิสึคุ : อาจารย์ของคุณ...เป็นคนที่สวยมากๆเลยครับ!
All Might : จริงอย่างที่เธอว่าเลยล่ะ!
แล้วก็ได้เวลาเริ่มชั่วโมงเรียน ซึ่งเป็นการฝึกภาคสนาม All Might รู้สึกสนใจจึงขอไปดูด้วย
ระหว่างทางพวกเขาเจอกับอ.ไอซาว่าซึ่งมากับชินโซ ฮิโตชิ นักเรียนจากแผนกสามัญที่เคยสู้กับอิสึคุเมื่อตอนงานแข่งกีฬา
แล้วก็มาถึงสนามฝึก บรรดานักเรียนห้อง 1-A มีการปรับปรุงชุดของตนเองเพื่อให้เหมาะกับอากาศหนาว โดยบางคนเพิ่มผ้าคลุมหรือเสื้อโค๊ตเข้าไป ส่วนคนที่เป็นชุดคลุมทั้งตัวอยู่แล้วอย่างอีดะก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปนัก ส่วน Invisible Girl ฮากาคุเระนั้นเปลี่ยนถุงมือกับรองเท้าใหม่...คาดว่าอาจจะเปลี่ยนชุดด้วย แต่เนื่องจากชุดต้องโปร่งใสตามร่างกายของเจ้าหล่อน ทำให้มองไม่เห็น
ส่วนบาคุโกนั้นสวมชุดใหม่ที่คลุมปิดช่วงบนทั้งหมด ซึ่งอิสึคุก็ทึ่งเพราะนี่เป็นการปรับปรุงที่สมเหตุสมผลดีมากๆ เพราะอัตลักษณ์ของบาคุโกต้องใช้เหงื่อเป็นตัวสร้างระเบิด ถ้าอากาศหนาวแล้วเหงื่อไม่ออกก็จะใช้งานไม่ได้ ดังนั้นจึงแก้ปัญหาตรงจุดด้วยการสวมชุดคลุมเพื่อรักษาความร้อนให้เหงื่อออก
ซึ่งบาคุโกที่โดนวิเคราะห์ตรงจุดก็ไม่สบอารมณ์ตามเคย...
แต่คนที่มีการเปลี่ยนแปลงชุดบ่อยที่สุดนับแต่เข้าเรียนมาก็คือตัวอิสึคุเอง เริ่มจากสวมรองเท้าหัวเหล็กเพื่อเสริมพลังเตะ สวมถุงมือป้องกันไม่ให้กำปั้นบาดเจ็บ และล่าสุดคือปลอกแขนที่ช่วยบีบอัดและเล็งเป้ากระสุนอากาศ ซึ่งอิสึคุก็บอกว่าปลอกแขนนี้จริงๆเป็นเวอร์ชั่นที่สองแล้ว โดยฮัตสึเมะ เมย์จากแผนกสนับสนุนช่วยปรับปรุงให้เข้ากับพลังของเขามากขึ้น
อีกด้านหนึ่งโอจาโกะที่ได้ยินอิสึคุพูดถึงฮัตสึเมะก็นึกถึงเรื่อง "เหตุการณ์" ที่เคยเห็นฮัตสึเมะใกล้ชิดกับอิสึคุ...
เพื่อหยุดตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่าน เด็กสาวจึงอัปเปอร์คัตตัวเองเข้าไปเต็มคาง!
ชั่วโมงเรียนวันนี้จะพิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะจะเป็นการฝึกร่วมระหว่างห้อง 1-A และ 1-B และเป็นการเปิดตัวชุดฮีโร่ของบรรดานักเรียนห้อง 1-B ที่เหลือด้วย (เดิมมีแต่เท็ตสึเท็ตสึ, โมโนมะ และเคนโดเท่านั้นที่เคยเห็นชุด)
ซึ่งนาย Copycat โมโนมะที่ชอบหาเรื่องห้อง 1-A ก็เอาผลสำรวจ(หามาเอง)ของการแสดงงานวัฒนธรรมว่ามีผู้ชมลงความเห็นว่าชอบของห้องไหนมากกว่า ซึ่งทางห้อง 1-B ชนะคะแนนโหวด 50 ต่อ 48
ขณะที่โมโนมะยังคงพล่ามไม่เลิก เคนโด หัวหน้าห้อง 1-B เตรียมจะซัดสั่งสอนตามระเบียบ แต่อ.ไอซาว่าเร็วกว่าและใช้แถบผ้ารัดคอโมโนมะจนแน่นิ่งไป
Blood King : วันนี้เรามีแขกพิเศษมาร่วมด้วย
Blood King : ช่วยกรุณาอย่าทำให้ตัวเองขายหน้าด้วยล่ะ
อ.ไอซาว่า : เขาได้ยื่นเรื่องขอย้ายมาเรียนสายฮีโร่
อ.ไอซาว่า : ชินโซ ฮิโตชิคุง จากสายสามัญ ห้อง 1-C
(ชินโซสวมชุดกีฬาของยูเอย์ แต่มีผ้าคลุมและอุปกรณ์เสริมปิดปาก น่าจะไว้ช่วยเสริมอัตลักษณ์ของเขาที่สามารถควบคุมจิตใจของคนที่ตอบรับคำพูดของเขาได้)
Spoil Boku no Hero Academia 194 : ท้องฟ้าหน้าหนาว! โรงเรียนยูเอย์!
"สุดท้ายฉันก็กลับไปนอนต่อไม่ได้"
"ฉันยังจำฝันนั้นได้อย่างชัดเจน"
"ในตอนที่มือของพวกเราสัมผัสกันนั้น..."
"ตอนที่ฝันจบลง"
"ฉันเห็นเหล่ารุ่นก่อนหน้าทุกคน"
วันต่อมา อิสึคุเอาเรื่องที่เกิดขึ้นมาบอกให้ All Might ฟัง
All Might : เธอเห็น...ความทรงจำของรุ่นแรกงั้นรึ?!
อิสึคุ : ครับ...ว่าไปแล้วมันก็เป็นความทรงจำของออลฟอร์วันด้วย
อิสึคุ : "ความทรงจำที่สืบทอดมาของวันฟอร์ออล"...ออลไมท์ คุณเคยบอกว่าสมัยยังเป็นวัยรุ่นคุณก็เคยเห็นเหมือนกันใช่ไหมครับ?
All Might : ใช่ หลังจากที่ฉันเห็นมัน อาจารย์ของฉัน...ผู้สืบทอดรุ่นก่อนของวันฟอร์ออลก็บอกฉันเรื่อง "ความทรงจำที่สืบทอด"ให้รู้ และเพราะฉันเห็นภาพในอดีตนั่นแหละฉันถึงสามารถเล่าที่มาของพลังให้เธอรู้ได้
อิสึคุ : ผมเห็นจนถึงตอนที่มันถูก "ยัดเยียด" ให้กับเขา...แล้วจากนั้นคนแรกสุดก็พูดกับผมโดยตรง
อิสึคุ : เขาบอกว่าผมยังใช้พลังได้แค่ 20%...และยังพูดถึงจุดที่ไม่ใช่อัตลักษณ์ธรรมดาอีกต่อไป...
อิสึคุ : เมื่อตอนงานแข่งกีฬา คุณบอกผมว่ามันไม่น่าจะมีจิตใจหรือความรู้สึกรับรู้อยู่ในพลังนี้
อิสึคุ : แต่ผมว่ามันไม่ใช่แบบนั้นแล้วล่ะครับ...
ถึงตรงนี้ All Might ก็ต้องคิดหนักกับสิ่งที่เพิ่งจะเคยได้รู้ของพลังที่เคยเป็นของตนเองมาก่อน...
"เขาพูดงั้นรึ..."
All Might : ฉันไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้น และอาจารย์ของฉันก็ไม่เคยพูดถึงให้ฟังเหมือนกัน
All Might : เท่าที่ฉันรู้เธอเป็นคนเดียวที่เกิดปรากฎการณ์นี้ขึ้น แต่ว่า...
แล้ว All Might ก็นึกถึงที่สิ่งที่อาจารย์ของเขา ชิมูระ นานะ เคยบอกให้ฟัง
นานะ : นั่นไม่ใช่ความฝันหรอก มันคือความทรงจำที่สืบทอดมาน่ะ
All Might : ความทรงจำที่สืบทอดมาหรือครับ?
นานะ : ฉันมั่นใจว่าในอัตลักษณ์นี้มีหลายสิ่งหลายอย่างรวมอยู่
นานะ : "ฉันอยากจะทำสิ่งนั้นแล้วก็สิ่งนี้ ฉันอยากจะเป็นอย่างนี้แล้วก็อย่างนั้น" เมื่อ "พลัง" แปรเปลี่ยนไปเป็น "ความปราถนาที่แรงกล้า"
นานะ : ความคิดและความปราถนาทั้งหมดที่ถูกรวบรวมและเก็บสะสมไว้ในตัวผู้ใช้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของ "พลัง"
นานะ : ฉันคิดว่าอย่างนั้นน่ะนะ
All Might : มันฟังดูเหมือนเรื่องเหนือธรรมชาตินะครับนั่น
นานะ : ฉันว่ามันโรแมนติกออกนะ!
นานะ : ถึงแม้ว่าคนหนึ่งจะล้มลงกลางคันระหว่างทาง
นานะ : เธอก็สามารถพบกับพวกเขาได้อีกภายในวันฟอร์ออล! นั่นคือความสุนทรีของชีวิตอย่างที่สุดแล้วล่ะ
เมื่อเห็น All Might นิ่งไป อิสึคุจึงเรียกเขาจนทำให้ All Might สะดุ้งเล็กน้อย
All Might : เธอบอกว่าเมื่อตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็มีการระเบิดเกิดขึ้นด้วยสินะ? แล้วเธอบาดเจ็บบ้างหรือเปล่า?
อิสึคุ : ไม่ครับ ผมปลอดภัยดี
All Might : นั่นดีแล้ว ที่ฉันสามารถบอกเธอได้ จากความเข้าใจของฉัน...คือสิ่งที่แม้แต่ฉันยังไม่เข้าใจกำลังเกิดขึ้นอยู่
All Might : ที่เขาพูดถึงเรื่องที่เกินกว่าการเป็นอัตลักษณ์ธรรมดาไปแล้วนี่หมายถึงการพัฒนาขึ้นของอัตลักษณ์ที่กำลังถูกพูดถึงทางทฤษฎีหรือเปล่า? สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นผลจากเรื่องนั้นหรือเกิดจากปัจจัยภายนอกกันแน่?
All Might : แล้วมีอะไรอื่นเกิดขึ้นอีกไหม?
อิสึคุ : หลังจากนั้น...มีอยู่สองคนที่ผมไม่สามารถเห็นหน้าของพวกเขาได้...คุณเองก็พร่ามัวด้วยเหมือนกัน
อิสึคุ : ผมก็สงสัยว่ามันเป็นเพราะคุณยังค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆหรือเปล่า...?
All Might : ฉันก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่นักเหมือนกัน...ขอโทษทีนะ แต่ฉันก็พูดได้เต็มปากว่าพลังนี้เป็นพวกเดียวกับเธออย่างแน่นอน
All Might : จากนี้ไปเรามาหาคำตอบไปด้วยกันเถอะนะ
อิสึคุ : ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!
อิสึคุ : เอ้อ...มีอีกอย่างด้วยครับ
อิสึคุ : อาจารย์ของคุณ...เป็นคนที่สวยมากๆเลยครับ!
All Might : จริงอย่างที่เธอว่าเลยล่ะ!
แล้วก็ได้เวลาเริ่มชั่วโมงเรียน ซึ่งเป็นการฝึกภาคสนาม All Might รู้สึกสนใจจึงขอไปดูด้วย
ระหว่างทางพวกเขาเจอกับอ.ไอซาว่าซึ่งมากับชินโซ ฮิโตชิ นักเรียนจากแผนกสามัญที่เคยสู้กับอิสึคุเมื่อตอนงานแข่งกีฬา
แล้วก็มาถึงสนามฝึก บรรดานักเรียนห้อง 1-A มีการปรับปรุงชุดของตนเองเพื่อให้เหมาะกับอากาศหนาว โดยบางคนเพิ่มผ้าคลุมหรือเสื้อโค๊ตเข้าไป ส่วนคนที่เป็นชุดคลุมทั้งตัวอยู่แล้วอย่างอีดะก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปนัก ส่วน Invisible Girl ฮากาคุเระนั้นเปลี่ยนถุงมือกับรองเท้าใหม่...คาดว่าอาจจะเปลี่ยนชุดด้วย แต่เนื่องจากชุดต้องโปร่งใสตามร่างกายของเจ้าหล่อน ทำให้มองไม่เห็น
ส่วนบาคุโกนั้นสวมชุดใหม่ที่คลุมปิดช่วงบนทั้งหมด ซึ่งอิสึคุก็ทึ่งเพราะนี่เป็นการปรับปรุงที่สมเหตุสมผลดีมากๆ เพราะอัตลักษณ์ของบาคุโกต้องใช้เหงื่อเป็นตัวสร้างระเบิด ถ้าอากาศหนาวแล้วเหงื่อไม่ออกก็จะใช้งานไม่ได้ ดังนั้นจึงแก้ปัญหาตรงจุดด้วยการสวมชุดคลุมเพื่อรักษาความร้อนให้เหงื่อออก
ซึ่งบาคุโกที่โดนวิเคราะห์ตรงจุดก็ไม่สบอารมณ์ตามเคย...
แต่คนที่มีการเปลี่ยนแปลงชุดบ่อยที่สุดนับแต่เข้าเรียนมาก็คือตัวอิสึคุเอง เริ่มจากสวมรองเท้าหัวเหล็กเพื่อเสริมพลังเตะ สวมถุงมือป้องกันไม่ให้กำปั้นบาดเจ็บ และล่าสุดคือปลอกแขนที่ช่วยบีบอัดและเล็งเป้ากระสุนอากาศ ซึ่งอิสึคุก็บอกว่าปลอกแขนนี้จริงๆเป็นเวอร์ชั่นที่สองแล้ว โดยฮัตสึเมะ เมย์จากแผนกสนับสนุนช่วยปรับปรุงให้เข้ากับพลังของเขามากขึ้น
อีกด้านหนึ่งโอจาโกะที่ได้ยินอิสึคุพูดถึงฮัตสึเมะก็นึกถึงเรื่อง "เหตุการณ์" ที่เคยเห็นฮัตสึเมะใกล้ชิดกับอิสึคุ...
เพื่อหยุดตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่าน เด็กสาวจึงอัปเปอร์คัตตัวเองเข้าไปเต็มคาง!
ชั่วโมงเรียนวันนี้จะพิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะจะเป็นการฝึกร่วมระหว่างห้อง 1-A และ 1-B และเป็นการเปิดตัวชุดฮีโร่ของบรรดานักเรียนห้อง 1-B ที่เหลือด้วย (เดิมมีแต่เท็ตสึเท็ตสึ, โมโนมะ และเคนโดเท่านั้นที่เคยเห็นชุด)
ซึ่งนาย Copycat โมโนมะที่ชอบหาเรื่องห้อง 1-A ก็เอาผลสำรวจ(หามาเอง)ของการแสดงงานวัฒนธรรมว่ามีผู้ชมลงความเห็นว่าชอบของห้องไหนมากกว่า ซึ่งทางห้อง 1-B ชนะคะแนนโหวด 50 ต่อ 48
ขณะที่โมโนมะยังคงพล่ามไม่เลิก เคนโด หัวหน้าห้อง 1-B เตรียมจะซัดสั่งสอนตามระเบียบ แต่อ.ไอซาว่าเร็วกว่าและใช้แถบผ้ารัดคอโมโนมะจนแน่นิ่งไป
Blood King : วันนี้เรามีแขกพิเศษมาร่วมด้วย
Blood King : ช่วยกรุณาอย่าทำให้ตัวเองขายหน้าด้วยล่ะ
อ.ไอซาว่า : เขาได้ยื่นเรื่องขอย้ายมาเรียนสายฮีโร่
อ.ไอซาว่า : ชินโซ ฮิโตชิคุง จากสายสามัญ ห้อง 1-C
(ชินโซสวมชุดกีฬาของยูเอย์ แต่มีผ้าคลุมและอุปกรณ์เสริมปิดปาก น่าจะไว้ช่วยเสริมอัตลักษณ์ของเขาที่สามารถควบคุมจิตใจของคนที่ตอบรับคำพูดของเขาได้)