[CR] :: ทริปเฟลๆ ก่อนเจอฟ้าหลังฝนที่อุบลราชธานี ::


...............................................
ฝากเพจเราด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/wherewegopage/


“ไปนั่งรถไฟใหม่เที่ยวกัน”
เรื่องของเรื่องคือเราอยากไปลองนั่งรถไฟใหม่กัน จากที่เห็นเปิดตัวมานานแล้วก็ไม่ได้ไปกันซักกะที
และแล้วโอกาสก็มาถึง ตอนหยุดยาว 4 วันของเดือนกรกฎาคมนี่แหละ จะได้ลองนั่งกันซักที
เริ่มแรกเราก็เอาตารางรถไฟใหม่ทั้ง 4 เส้นทางมากางดูเลยว่ามีไปจังหวัดไหนบ้าง แล้วก็จิ้มเลยว่าอยากไปจังหวัดไหน

ลูกไผ่: “ไปไหนดีอ่ะคะ พัทลุงมั้ย”
พี่ปุ่น: “โอเค”

ตอนแรกเราก็หมายมั่นปั้นมือดิบดี ตกลงกันแล้วว่าจะไปพัทลุง ที่เที่ยวในจังหวัดค่อยว่ากัน ไม่ซีเรียส แค่อยากนั่งรถไฟเที่ยว

พี่ปุ่น: “รถไฟมีไปลงอุบลด้วยนี่”
ลูกไผ่: “อ้าว มีลงอุบลด้วยเหรอคะ ไผ่นึกว่ามีแต่อุดร”

จริงๆอุบลเป็นจังหวัดที่เราจองตั๋วเครื่องบิน AirAsia ไป-กลับแค่ประมาณ 900 กว่าบาท ถูกมากๆ ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่พอถึงวันจะบินเรากลับติดงาน ทำให้ลาไปไม่ได้ก็เลยต้องทิ้งตั๋วเครื่องบินไป รอบนี้พอรู้ว่า อ้าว รถไฟมีไปลงอุบลด้วยนี่นา เป้าหมายของเราเลยเปลี่ยนจาก พัทลุง มาเป็น อุบล ทันที

พอได้ที่แล้วเราก็กาปฏิทินวันแรกที่เราสามารถจองรถไฟล่วงหน้าไว้เลยจ้า คือรถไฟไทยเนี่ย เราสามารถจองล่วงหน้าได้แค่ 60 วันนะคะ ยิ่งถ้าเป็นรถไฟใหม่ในวันหยุดยาวอย่างนี้นี่ยิ่งต้องเล็งวันดีๆเลย เนื่องจากเวลาตารางเวลาของรถไฟ เราเลยเลือกที่จะบินในขาไป แล้วค่อยนั่งรถไฟในขากลับ เราจองตั๋วเครื่องบิน AirAsia ไฟลท์ 11:00 ของวันศุกร์ ก็จะถึงอุบลประมาณเที่ยงกว่าๆ และจองตั๋วรถไฟกลับรอบ 19:00 ของวันจันทร์ เดี๋ยวเราจะมารีวิวรถไฟใหม่ให้อีกทีนะคะ

“ไปอุบลหน้าฝนเหรอพี่ น้ำมันไม่ขึ้นเหรอ” น้องที่รู้จักกันของเราทักตั้งแต่รอบที่เราจองตั๋วเครื่องบินไว้ก่อนจะ cancel ไป
ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่า ไม่ได้ซีเรียส แค่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดก็โอเค
แล้วพอเดือน ก.ค. เรากับพี่ปุ่นก็โดนถาโถมด้วยงาน มาจากไหนก็ไม่รู้ นี่ละนะ ชีวิตมนุษย์เงินเดือน T^T
เลยแทบไม่มีเวลาได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับ อุบล หน้าฝนไว้เลย ดีนะที่ยังทันได้จองโรงแรมไว้ก่อน นี่ขนาดว่าเราจองโรงแรมไว้ล่วงหน้าเกือบ 2 เดือนนะคะ  โรงแรมยังแทบจะเต็มหมดแล้วค่ะ ใครจะไปในช่วงเทศกาลนี่ต้องแพลนกันดีๆเลยนะคะ
เราจองโรงแรมผ่านทาง Agoda ค่ะ

คืนที่ 1 เราเลือกนอนโรงแรมในตัวเมืองอุบล => โรงแรม Suwi Coco Boutique Resort ราคา 476 บาท / คืน
คืนที่ 2-3 เราไปนอนแถวๆสามพันโบก => โรงแรม ปลายฟ้ารีสอร์ท ราคา 783 บาท / คืน
สรุปค่าที่พักของเราทริปนี้ 3 คืน เท่ากับ 2,042 บาทค่ะ

Day 1:
ทริปนี้เป็นทริปที่เราต้องใช้รถเช่า เพราะว่าสถานที่เที่ยวแต่ละที่ค่อนข้างห่างกัน และเราไม่มีเวลาหาข้อมูลเรื่องรถประจำทาง
แม้แต่เช่ารถ เราก็มาหากันตอน last minute ก่อนออกบ้านไปขึ้นเครื่องในเช้าวันศุกร์ 555
ซึ่งในช่วงเทศกาลหยุดยาวอย่างนี้ บริษัทที่ให้เช่ารถหลายที่ก็ปล่อยเช่าเต็มไปหมดแล้ว เดชะบุญที่มีที่นึง คือ บริษัทเอก รถเช่า ที่เค้ามี Suzuki Ciaz ที่ลูกค้าที่จองไว้ cancel หลุดมาถึงเรา 1 คันพอดี น้ำตาจะไหล 555
ค่าเช่ารถวันละ 1,100 บาท เราใช้ทั้งหมด 4 วัน ก็ 4,400 บาทค่ะ
ตอนที่ตกลงเช่า เราก็แจ้งเวลาเครื่องลงไว้กับเค้า พอเราถึงสนามบินอุบล เค้าก็เอารถมาจอดรอเราไว้ตรงที่จอดรถเรียบร้อยค่ะ ตรงนี้จะต้องวางมัดจำตอนรับรถไว้ 3,000 บาทนะคะ


ได้รถละทีนี้พร้อมเที่ยว เราคุยกันไว้ว่าจะเที่ยวก่อนแล้วค่อยเข้า check in โรงแรมกันตอนเย็นๆ
พอดี๊...พอดีว่าเรามารอบนี้ตรงกับวันเข้าพรรษาในวันพรุ่งนี้พอดี ซึ่งที่อุบลเค้าก็จะมีเทศกาลแห่เทียนพรรษา จากที่ search ดูใน Google วันนี้แต่ละวัดแต่ละหน่วยงานเค้าจะเอารถเทียนของตัวเองไปตั้งขบวนรวมกันที่ วัดทุ่งศรีเมือง เราเลยปักหมุดจะไปที่นี่เป็นที่แรก แต่พอขับรถไป เราก็ไปเจอสถานที่สุดชิลล์ที่นึง


พี่ปุ่น: “จริงๆที่นี่ก็น่าเดินนะ ลงไปเดินมั้ย”
ลูกไผ่: “นั่นสิ ไปค่ะไป”

ว่าแล้วเราก็จอดรถแล้วลงมาเดินตรงสถานที่ที่เป็นแม่น้ำกว้าง แล้วมีทางเดินลงไปบนน้ำ ดูจากใน map ที่นี่คือ ‘อ่างเก็บน้ำห้วยวังนอง’


ช่วงนี้น้ำขึ้นสูงมากค่ะ ปริ่มเลย มองไปกว้างสุดลูกหูลูกตาเลย
วันนี้อากาศไม่ร้อน ไม่มีแดด เลยเดินสบายมากๆ


ที่นี่เค้ามีสระบัวด้วยนะคะ ดอกบัวสีชมพูกับม่วงกำลังออกดอกสวยเลย
ตรงริมทางเดินลง มีฝูงวัวของชาวบ้านที่เค้าเอามาปล่อยให้กินหญ้าตรงนี้ด้วย ชิลล์อ่ะดิ๊ เจ้าวัว


เดี๋ยว! ทำไรกัน!?


ชิลล์กันอยู่ที่อ่างเก็บน้ำซักพัก เราก็ออกเดินทางไปยังที่ที่เราปักหมุดไว้ตอนแรก ระหว่างทางเราก็เจอรถเทียนพรรษาของแต่ละวัดประปราย
ลูกไผ่: “เอ้ เค้าน่าจะยังไม่ได้ย้ายไปรวมกันที่วัดทุ่งศรีเมืองแน่เลยค่ะ สงสัยจะไปตอนเย็นๆค่ำๆมั้ง”
แล้วพอดีเราก็ผ่านวัดนึงที่เค้ากำลังช่วงกันทำรถแห่เทียนอยู่ ก็เลยตัดสินใจจอดดูที่วัดนี้ละกัน
รถเทียนพรรษาใหญ่มากๆ ค่ะ มีทั้งพระและชาวบ้านมาช่วยกันทำเยอะแยะเลย


ถ้าเข้าไปดูใกล้ๆ จะเห็นเป็นงานแกะสลักที่ละเมียดละไมมาก โห...นี่เค้าใช้เวลาทำกันนานเท่าไหร่นะ กว่าจะได้คันขนาดนี้


จากที่เข้าไปดูเค้าทำเทียนพรรษากัน นี่ก็บ่ายแก่ๆแล้ว เรายังไม่ได้ทานข้าวกันเลย ก็เลยแวะทานอาหารตามสั่งกันที่ร้านข้างๆวัดนี่แหละ นั่งทานเคล้ากับเสียงเพลงลูกทุ่งที่ชาวบ้านเปิดกันสนุกสนาน ไปๆมาๆ ฝนตกจ้า!!! ตกหนักด้วย นั่นแงะ มาวันแรกก็เจอเลย....อุบลหน้าฝน

เรานั่งรอให้ฝนซา แล้วก็เดินกลับไปที่รถ คงถึงเวลาที่เราต้องเข้าโรงแรมแล้วล่ะฝนตกขนาดนี้
โรงแรม Suwi Coco Boutique Resort ตั้งอยู่นอกเมือง ใช้เวลาขับรถประมาณ 20 นาที จากตัวเมือง ด้านในจะมีที่พัก 2 แบบ คือแบบที่เป็นบ้านหลังเดี่ยวๆ และแบบที่เป็นตัวอาคารแบบในรูป


เราได้พักแบบเป็นบ้านหลังเดี่ยวๆนะคะ ที่พักดีเลยค่ะ สะอาดสะอ้าน


แต่ที่เราชอบคือ พอเดินออกไปเปิดระตูกระจกข้างหลังห้อง ก็จะเจอระเบียงที่ให้นั่งห้อยขากินลมฟังเสียงฝนตรงนี้ได้ มันดีย์มากอ่ะค่ะ


สรุปเราก็นอนเกลือกกลิ้ง ฟังเสียงฝนกันในโรงแรมแล้วก็ search หาข้อมูลร้านข้าวเย็น ร้านกาแฟน่ารักๆไปพลางๆ
จริงๆ ก่อนที่เราจะมาอุบล เพื่อนที่ออฟฟิศเราบอกว่า
“นี่ เธอ เธอต้องไปให้ได้นะ ร้านน้ำเต้าหู้เตาถ่าน เพื่อนเราไปมา บอกว่าดี”
อ่ะ ได้เป้าหมายร้านนึงละ ทีนี้เหลือร้านข้าว แล้วก็ตกลงกันได้ว่าวันนี้เราจะไปทานอาหารร้านดังของที่นี่กัน
ว่าแล้วฝนหยุดตก เราก็ออกมาทาน ‘ร้านอาหารเวียดนามอินโดจีน’ ในตัวเมืองอุบลกันค่ะ

ร้านนี้เค้าจะมี 2 ฝั่งนะคะ สงสัยจะเป็นร้านเก่ากับร้านใหม่ที่เค้าขยายเพิ่มออกมา เจ้าของเดียวกัน นั่งได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ
ส่วนรถ เราเอาไปจอดที่ปั๊มฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับร้านค่ะ


เราสั่งอาหารไป 3 อย่าง มี แหนมเนืองแบบห่อเอง (ที่ร้านเค้ามีแบบห่อแล้วให้ด้วย), กุ้งพันอ้อย, เส้นหมี่หมูย่าง รสชาติโอเคนะคะ แหนมเนืองให้เยอะมาก อิ่มเลยมื้อนี้ ราคาอยู่ที่ 500 บาทค่ะ


ของคาวเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาของหวาน เราจะไปต่อกันที่ ร้านน้ำเต้าหู้เตาถ่าน!

จริงๆ ร้านอยู่ไม่ได้ไกลมากเลยค่ะ แต่ร้านดั๊นนนอยู่ตรงแถวๆที่ที่เค้าไปตั้งขบวนแห่เทียนกัน รถเลยติดมากกกก ติดขั้นสุด เอ๊ะ นี่ชั้นอยู่กรุงเทพรึเปล่าเนี่ย เราใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ กว่าจะไปถึงที่จอดรถในวัดใกล้ๆกับร้านน้ำเต้าหู้เตาถ่านได้
วัดกับร้านน้ำเต้าหู้อยู่ค่อนข้างห่างกันนิดหน่อย ต้องเดินต่อไปอีกซักพัก แต่ก็ทนรถติดและเสี่ยงเข้าไปใกล้ร้านโดยที่ไม่รู้ว่าจะมีที่จอดรึเปล่า และแล้วเราก็มาถึงซักที ‘ร้านน้ำเต้าหู้เตาถ่าน’ ที่ร้านจะเป็นตึกแถวห้องเดียว ด้านหน้าจะมีรถเข็นน้ำเต้าหู้อยู่ ให้เราสั่งน้ำเต้าหู้ตรงนี้ก่อนแล้วค่อนเดินเข้าไปนั่งข้างในค่ะ


เค้ามีเครื่องให้เลือกเยอะ เราขอแนะนำนี่เลย ฟักเชื่อม อร่อยมาก รู้งี้จะเลือกใส่แต่ฟักเชื่อมอย่างเดียว หรือว่าเพราะเราชอบทานหวานหว่า 555


ข้างในร้านน่ารักมากค่ะ จะออกแนวคลาสสิกๆ เก๋ๆ  วันนี้คนไม่เยอะมาก (สงสัยเพราะไปดูเทียนกันหมด) เลยนั่งสบายๆ


Mission วันนี้ complete แล้ว ได้เวลาฝ่ารถติดกลับโรงแรมแล้ว
ชื่อสินค้า:   อุบลราชธานี
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่