....เอิ่มม...สวัสดีค่ะเรามีเรื่องบางอย่างที่ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับชีวิตคู่ของเราเอง...😭😭
เล่าถึงแฟนเก่าก่อนคบกะแฟนคนปัจจุบันก่อนน่ะค่ะ
คือเรื่องมันมียุว่าแฟนเก่าเรากะแฟนคนปัจจุบันบังเอิญเค้าเป็นเพื่อนกันไม่รู้หรอกว่าสนิทกันมากมั้ย แต่ที่รู้ๆพ่อแม่เค้าสนิทกันใช้ได้ยุและเค้าก้เคยเล่าว่าสมัยเด็กเค้าเล่นด้วยกันมาโตมาพ่อเค้าทั้งสองก้ทำธุรกิจร่วมกันมาเค้าทั้งสองเปนคนมีฐานะในระดับหนึ่งแต่เราก้มีฐานะเหมือนกันแต่ในระดับยากจนเลยแหละ แต่ด้วยความที่เราเปนคนยากจนแม่และพี่สาวของเค้ารวมไปถึงญาติๆเค้าก้ไม่ชอบเราเพราะเค้ากลัวเราจะไปหลอกลูกชายเค้า ตอนแรกแฟนเราก้พาเราไปเที่ยวบ้านเค้าบ่อยๆเพราะบ้านเค้ากะที่เราฝึกงานไม่ไกลกันมากนัก ตอนแรกแม่เค้าก้เหมือนจะรักและเอ็นดูเราน่ะชวนเรามาช่วยทำกับข้าวบ้าง ชวนมาเที่ยวที่บ้านบ้างเราก้ด้วยความเกรงใจอีกอย่างก้ไม่ไกลกันนักเราเลยไปก้ได้ว่ะ (ช่วงนั้นฝึกงานที่อนามัยใกล้บ้านเค้าเราเรียนสาสุขต้องจับฉลากไปฝึกงานต่างถิ่นยุ2เดือน) พ่อเค้าก้เหนเราเปนเดกน่าเอนดูมั้งชวนคุยตลอดจนเข้าเรื่องจะขอหมั้นเปนเรื่องเปนราว ตอนนั้นรู้จักกันกันแค่สองอาทิตย์เองมั้งเรายังไม่ตอบตกลงจะเปนแฟนกันเลย เราก้ตกใจยุน่ะว่าทำไมรีบร้อนจัง เราก้บอกไปว่ายังไม่พร้อมหรอกพ่อกะแม่เราต้องการให้เราเรียนจบก่อน อีกอย่างเราก้ยังไม่ได้รู้จักกันดีเลย แต่ด้วยความที่เราเปนคนต่างถิ่นเลยอยากผูกมิตรกันไว้ด้วยการไปเที่ยวบ้านเค้า ในช่วงตอนนั้นเราไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่รู้จักใครเลยและเปนถิ่นทุระกันดานมากหาร้านข้าวนี่โคตรลำบากดีสุดก้ข้าวเหนียวไก่ทอดทุกวันเพราะทำกับข้าวเองไม่ทัน เอ่อลืมบอกไปว่าไปเช่าบ้านพักยุกะเพื่อนสี่คนฝึกงานคนละที่กันกะเพื่อนในละแวกเดียวกัน แต่ก้มีเค้านี่แหละที่เข้ามาทำความรู้จักชวนไปนู่นี่นั่น พาไปเลี้ยงข้าว ชวนเที่ยวทำความรู้จักพื้นที่หลังเลิกงาน ทำกับข้าวมาฝากเกือบทุกวันเผื่อเพื่อนเราด้วยน่ะ ทำดีกะเราตลอดในช่วงเวลาสองเดือนที่ฝึกงานที่นั่น เหมือนช่วงหยุดเสาอาทิตย์เราและเพื่อนๆก้จะขึ้นรถกลับบ้านกันแต่ก้เดินทางลำบากมาก ต้องต่อรถสองต่อเดินทางเปนสองชม.กว่าจะถึงบ้านกัน มียุวันนึงเพื่อนเราตกรถเค้าก้อาสาไปรับเพื่อนเราและมารอรับเรา เรารู้สึกว่าเค้าใจดีกะเราจัง เค้าพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้เราเปนแฟนและในที่สุดเราก้ตกลงเปนแฟนคบกันอย่างจิงจัง และแล้ววันนี้ก้มาถึงสองเดือนผ่านไปเราฝึกงานที่นั่นเสร็จก้กลับมหาลัยมาเรียนตามเดิมตอนนั้นเรายุปีสามขึ้นปีสี่ต้องเช่าหอใหม่. เค้าก้อุส่าช่วยขนของให้เรามาหาหอกันและพ่อเค้าก้ใจดีช่วยค่ามัดจำหอให้เรา. ซึ่งเล่าก่อนเลยว่าเราไม่ขอเงินพ่อแม่ตัวเองมาตั้งแต่เรียนปี2เพราะได้ทุนเรียนและทำงานขายสมุด ขายเสื้อผ้าออนไลน์พอจะมีรายได้เลี้ยงตัวเองโดยไม่ต้องขอพ่อแม่เลน ตอนนั้นเราซึ้งใจมาก รู้สึกว่าทำไมครอบครัวเค้าใจดีกะเราจัง เราก้เริ่มตายใจและก้สนิทกะเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ไปเที่ยวบ้านเค้าบ่อยขึ้นจนเรากะเค้าเริ่มมีความสัมพันที่ลึกซึ้งกันตอนนั้นเราเริ่มรู้สึกรักเค้าเข้าแล้ว จนมีวันหนึ่งเค้าชวนเรานอนบ้านเค้าทำให้พ่อแม่เค้าจะมาพูดเรื่องขอหมั้นกะผู้ใหญ่ฝ่ายเราอย่างจิงจัง แต่ก้ไม่ได้หมั้นกันยุดี เพราะตามตกลงกันพ่อแม่เราจะให้หมั้นกันได้ก้ต่อเมื่อเราเรียนจบเท่านั้นซึ่งมันก้เหลืออีกปีนึงกว่าเราจะเรียนจบ แต่ก้เปนข้อดีสำหรับเราน่ะเราเองก้ไม่ได้รีบร้อนอรัยหรอกเพราะเราก้ไม่ค่อยแคร์สายตาคนนอกยุแล้ว เราเปนคนชิวๆอรัยก้ได้ที่ไม่เดือดร้อนใคร เราว่าการที่ไม่รีบร้อนหมั่นกันจะทำให้ได้ศึกษาลองใจกัน และมั่นใจว่าเราไม่ได้เลือกคนผิด แต่แล้วเราก้เลือกผิดค่ะ เพราะเค้าพาผู้หญิงคนอื่นมานอนบ้านเค้าเหมือนกันและเหมือนพ่อแม่เค้าก้ตามใจเค้าน่ะค่ะ อีกอย่างมารู้จากคนข้างบ้านเค้าค่ะว่าแม่เค้าชอบลูกสะใภ้รวย เราก้อ้าวทำไมเปนงี้ไปได้ เราเริ่มมีปัญหากันบ่อยขึ้นจากการกระทำเค้าบ้าง เช่นเล่นการพนันทะเลาะถึงขั้นตบตีซึ่งเราก้รับไม่ได้. ชอบโกหกและเจ้าชู้มากและจากญาติๆเค้าที่คอยยุยงส่งเสริมให้เราเลิกกันเพราะเราจนไม่มีอรัยจะไปเทียบกะเค้าได้ เราเลยต้องทำใจยอมรับมันและไม่ทนกับคำดูถูกเหยียดย่ำให้ช้ำใจเราเดินออกจากชีวิตเค้าโดยไม่ไปหาเค้าอีกเลยแต่ก้มีบ้างช่วงแรกๆที่เค้าติดต่อกลับมาถามว่าเราจะไปหาเค้าอีกเมื่อไหร่ เราก้บอกว่าจะไม่ไปแล้วล่ะจากนั้นก้แยกย้ายกันไปเราเหงาหงอยกินอรัยไม่ได้เปนอาทิตจนน้ำหนักลดไปสามกิโลหุ่นเราดีขึ้นมาก เราเสียใจน่ะแต่ก้แข็งใจว่าจะไม่กลับไปเจ็บช้ำแบยเดิมอีก เค้าก้บล็อคเราทุกอย่างขาดการติดต่อไปอย่างง่ายดายเหมือนเค้าไม่เคยรักเราไม่มีเยื่อใยเหลือให้กันเลย เราก้พยายามทำใจมาตลอด ปล่อยให้ตัวเองโสดมาเปนระยะเวลาเกือบหกเดือนในช่วงหกเดือนนั้นมีคนเข้ามาจีบมาทำดีกะเราก้หลายคนแต่เราไม่ถูกใจกับใครเลนยุในช่วงจะขึ้นปีสี่เทอมสองเราติดเพื่อนมาก จนไม่มีแฟนก้ได้เพราะเพื่อนเราก้โสดเหมือนกัน เที่ยวกัเพื่อนอยู่กะเพื่อนจนเกิดความเคยชินว่าเออเนาะนี่กุก้ยุได้โดยไม่ต้องมีใครนี่หว่า และมารู้ข่าวที่หลังว่าเค้าจะแต่งงานกับแฟนใหม่ของเค้าที่ได้ข่าวว่าที่ผู้หญิงคนนั้นมีฐานะร่ำรวย สวย และเปนที่ยอมรับของญาติๆ และครอบครัวของเค้า และผู้หญิงคนนั้นก้ดู ดีกว่าเราทุกอย่าง เรามีเพียงแค่ความรู้และครอบครัวที่อบอุ่นมากๆเราก้ว่ามันโอเคแระ เพราะตอนนั้นเราเริ่มทำใจได้ละ จนวันนึงก้มีหนึ่งในผู้ชายที่ทักมาจีบเราทุกวันอย่างสม่ำเสมอมีของมาเอาใจเราซื้อตุ๊กตาหมีตัวโตมาเซอไพรวันเกิดทั้งที่ไม่ได้เปนอรัยกัน เราเริ่มเหนในความพยายามของผู้ชายคนนั้น จนเรายอมเปิดใจให้เค้ามาดูแลเรา และเราก้มารู้ทีหลังว่าเค้าคนนี้เปนเพื่อนกับแฟนเก่าเรา พอเรารู้ความจิงว่าเค้าเปนเพื่อนกะแฟนเก่าเรา เราก้บอกเค้าไปตรงๆว่าเราอ่ะเคยเปนแฟนเก่าเพื่อนเค้าน่ะเค้าจะรับเราได้มั้ย บ้านเราจนน่ะ รัยงี้ เค้าก้บอกว่าเค้ารับได้ทุกอย่างที่เปนเรา.....เดี๋ยวมาเล่าต่อง่วงล่ะ
จะหยุดพอแค่นี้หรือจะไปต่อดี?
เล่าถึงแฟนเก่าก่อนคบกะแฟนคนปัจจุบันก่อนน่ะค่ะ
คือเรื่องมันมียุว่าแฟนเก่าเรากะแฟนคนปัจจุบันบังเอิญเค้าเป็นเพื่อนกันไม่รู้หรอกว่าสนิทกันมากมั้ย แต่ที่รู้ๆพ่อแม่เค้าสนิทกันใช้ได้ยุและเค้าก้เคยเล่าว่าสมัยเด็กเค้าเล่นด้วยกันมาโตมาพ่อเค้าทั้งสองก้ทำธุรกิจร่วมกันมาเค้าทั้งสองเปนคนมีฐานะในระดับหนึ่งแต่เราก้มีฐานะเหมือนกันแต่ในระดับยากจนเลยแหละ แต่ด้วยความที่เราเปนคนยากจนแม่และพี่สาวของเค้ารวมไปถึงญาติๆเค้าก้ไม่ชอบเราเพราะเค้ากลัวเราจะไปหลอกลูกชายเค้า ตอนแรกแฟนเราก้พาเราไปเที่ยวบ้านเค้าบ่อยๆเพราะบ้านเค้ากะที่เราฝึกงานไม่ไกลกันมากนัก ตอนแรกแม่เค้าก้เหมือนจะรักและเอ็นดูเราน่ะชวนเรามาช่วยทำกับข้าวบ้าง ชวนมาเที่ยวที่บ้านบ้างเราก้ด้วยความเกรงใจอีกอย่างก้ไม่ไกลกันนักเราเลยไปก้ได้ว่ะ (ช่วงนั้นฝึกงานที่อนามัยใกล้บ้านเค้าเราเรียนสาสุขต้องจับฉลากไปฝึกงานต่างถิ่นยุ2เดือน) พ่อเค้าก้เหนเราเปนเดกน่าเอนดูมั้งชวนคุยตลอดจนเข้าเรื่องจะขอหมั้นเปนเรื่องเปนราว ตอนนั้นรู้จักกันกันแค่สองอาทิตย์เองมั้งเรายังไม่ตอบตกลงจะเปนแฟนกันเลย เราก้ตกใจยุน่ะว่าทำไมรีบร้อนจัง เราก้บอกไปว่ายังไม่พร้อมหรอกพ่อกะแม่เราต้องการให้เราเรียนจบก่อน อีกอย่างเราก้ยังไม่ได้รู้จักกันดีเลย แต่ด้วยความที่เราเปนคนต่างถิ่นเลยอยากผูกมิตรกันไว้ด้วยการไปเที่ยวบ้านเค้า ในช่วงตอนนั้นเราไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่รู้จักใครเลยและเปนถิ่นทุระกันดานมากหาร้านข้าวนี่โคตรลำบากดีสุดก้ข้าวเหนียวไก่ทอดทุกวันเพราะทำกับข้าวเองไม่ทัน เอ่อลืมบอกไปว่าไปเช่าบ้านพักยุกะเพื่อนสี่คนฝึกงานคนละที่กันกะเพื่อนในละแวกเดียวกัน แต่ก้มีเค้านี่แหละที่เข้ามาทำความรู้จักชวนไปนู่นี่นั่น พาไปเลี้ยงข้าว ชวนเที่ยวทำความรู้จักพื้นที่หลังเลิกงาน ทำกับข้าวมาฝากเกือบทุกวันเผื่อเพื่อนเราด้วยน่ะ ทำดีกะเราตลอดในช่วงเวลาสองเดือนที่ฝึกงานที่นั่น เหมือนช่วงหยุดเสาอาทิตย์เราและเพื่อนๆก้จะขึ้นรถกลับบ้านกันแต่ก้เดินทางลำบากมาก ต้องต่อรถสองต่อเดินทางเปนสองชม.กว่าจะถึงบ้านกัน มียุวันนึงเพื่อนเราตกรถเค้าก้อาสาไปรับเพื่อนเราและมารอรับเรา เรารู้สึกว่าเค้าใจดีกะเราจัง เค้าพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้เราเปนแฟนและในที่สุดเราก้ตกลงเปนแฟนคบกันอย่างจิงจัง และแล้ววันนี้ก้มาถึงสองเดือนผ่านไปเราฝึกงานที่นั่นเสร็จก้กลับมหาลัยมาเรียนตามเดิมตอนนั้นเรายุปีสามขึ้นปีสี่ต้องเช่าหอใหม่. เค้าก้อุส่าช่วยขนของให้เรามาหาหอกันและพ่อเค้าก้ใจดีช่วยค่ามัดจำหอให้เรา. ซึ่งเล่าก่อนเลยว่าเราไม่ขอเงินพ่อแม่ตัวเองมาตั้งแต่เรียนปี2เพราะได้ทุนเรียนและทำงานขายสมุด ขายเสื้อผ้าออนไลน์พอจะมีรายได้เลี้ยงตัวเองโดยไม่ต้องขอพ่อแม่เลน ตอนนั้นเราซึ้งใจมาก รู้สึกว่าทำไมครอบครัวเค้าใจดีกะเราจัง เราก้เริ่มตายใจและก้สนิทกะเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ไปเที่ยวบ้านเค้าบ่อยขึ้นจนเรากะเค้าเริ่มมีความสัมพันที่ลึกซึ้งกันตอนนั้นเราเริ่มรู้สึกรักเค้าเข้าแล้ว จนมีวันหนึ่งเค้าชวนเรานอนบ้านเค้าทำให้พ่อแม่เค้าจะมาพูดเรื่องขอหมั้นกะผู้ใหญ่ฝ่ายเราอย่างจิงจัง แต่ก้ไม่ได้หมั้นกันยุดี เพราะตามตกลงกันพ่อแม่เราจะให้หมั้นกันได้ก้ต่อเมื่อเราเรียนจบเท่านั้นซึ่งมันก้เหลืออีกปีนึงกว่าเราจะเรียนจบ แต่ก้เปนข้อดีสำหรับเราน่ะเราเองก้ไม่ได้รีบร้อนอรัยหรอกเพราะเราก้ไม่ค่อยแคร์สายตาคนนอกยุแล้ว เราเปนคนชิวๆอรัยก้ได้ที่ไม่เดือดร้อนใคร เราว่าการที่ไม่รีบร้อนหมั่นกันจะทำให้ได้ศึกษาลองใจกัน และมั่นใจว่าเราไม่ได้เลือกคนผิด แต่แล้วเราก้เลือกผิดค่ะ เพราะเค้าพาผู้หญิงคนอื่นมานอนบ้านเค้าเหมือนกันและเหมือนพ่อแม่เค้าก้ตามใจเค้าน่ะค่ะ อีกอย่างมารู้จากคนข้างบ้านเค้าค่ะว่าแม่เค้าชอบลูกสะใภ้รวย เราก้อ้าวทำไมเปนงี้ไปได้ เราเริ่มมีปัญหากันบ่อยขึ้นจากการกระทำเค้าบ้าง เช่นเล่นการพนันทะเลาะถึงขั้นตบตีซึ่งเราก้รับไม่ได้. ชอบโกหกและเจ้าชู้มากและจากญาติๆเค้าที่คอยยุยงส่งเสริมให้เราเลิกกันเพราะเราจนไม่มีอรัยจะไปเทียบกะเค้าได้ เราเลยต้องทำใจยอมรับมันและไม่ทนกับคำดูถูกเหยียดย่ำให้ช้ำใจเราเดินออกจากชีวิตเค้าโดยไม่ไปหาเค้าอีกเลยแต่ก้มีบ้างช่วงแรกๆที่เค้าติดต่อกลับมาถามว่าเราจะไปหาเค้าอีกเมื่อไหร่ เราก้บอกว่าจะไม่ไปแล้วล่ะจากนั้นก้แยกย้ายกันไปเราเหงาหงอยกินอรัยไม่ได้เปนอาทิตจนน้ำหนักลดไปสามกิโลหุ่นเราดีขึ้นมาก เราเสียใจน่ะแต่ก้แข็งใจว่าจะไม่กลับไปเจ็บช้ำแบยเดิมอีก เค้าก้บล็อคเราทุกอย่างขาดการติดต่อไปอย่างง่ายดายเหมือนเค้าไม่เคยรักเราไม่มีเยื่อใยเหลือให้กันเลย เราก้พยายามทำใจมาตลอด ปล่อยให้ตัวเองโสดมาเปนระยะเวลาเกือบหกเดือนในช่วงหกเดือนนั้นมีคนเข้ามาจีบมาทำดีกะเราก้หลายคนแต่เราไม่ถูกใจกับใครเลนยุในช่วงจะขึ้นปีสี่เทอมสองเราติดเพื่อนมาก จนไม่มีแฟนก้ได้เพราะเพื่อนเราก้โสดเหมือนกัน เที่ยวกัเพื่อนอยู่กะเพื่อนจนเกิดความเคยชินว่าเออเนาะนี่กุก้ยุได้โดยไม่ต้องมีใครนี่หว่า และมารู้ข่าวที่หลังว่าเค้าจะแต่งงานกับแฟนใหม่ของเค้าที่ได้ข่าวว่าที่ผู้หญิงคนนั้นมีฐานะร่ำรวย สวย และเปนที่ยอมรับของญาติๆ และครอบครัวของเค้า และผู้หญิงคนนั้นก้ดู ดีกว่าเราทุกอย่าง เรามีเพียงแค่ความรู้และครอบครัวที่อบอุ่นมากๆเราก้ว่ามันโอเคแระ เพราะตอนนั้นเราเริ่มทำใจได้ละ จนวันนึงก้มีหนึ่งในผู้ชายที่ทักมาจีบเราทุกวันอย่างสม่ำเสมอมีของมาเอาใจเราซื้อตุ๊กตาหมีตัวโตมาเซอไพรวันเกิดทั้งที่ไม่ได้เปนอรัยกัน เราเริ่มเหนในความพยายามของผู้ชายคนนั้น จนเรายอมเปิดใจให้เค้ามาดูแลเรา และเราก้มารู้ทีหลังว่าเค้าคนนี้เปนเพื่อนกับแฟนเก่าเรา พอเรารู้ความจิงว่าเค้าเปนเพื่อนกะแฟนเก่าเรา เราก้บอกเค้าไปตรงๆว่าเราอ่ะเคยเปนแฟนเก่าเพื่อนเค้าน่ะเค้าจะรับเราได้มั้ย บ้านเราจนน่ะ รัยงี้ เค้าก้บอกว่าเค้ารับได้ทุกอย่างที่เปนเรา.....เดี๋ยวมาเล่าต่อง่วงล่ะ