ฉบับที่ ๕๗ วันอังคารที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
เรื่อง กิจวัตรทหารทางโลก ทางธรรม ควรพิจารณาอยู่เนือง ๆ ตามหลักธรรมใด?
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 61 ที่ผ่านมา แฟนเพจเฟซบุ๊ก CSI LA เปิดเผยเอกสารที่อ้างว่าเป็นตารางการทำงานของพลทหาร ซึ่งเอกสารดังกล่าวระบุหัวข้อว่า “งานบ้านประจำวันสำหรับพลทหาร” โดยมีเวลาประจำคือ 06.30 น. และ 15.00 น. ประกอบด้วยการทำงานต่างๆ ที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการฝึกทหาร เช่น เปลี่ยนน้ำที่ศาลพระภูมิ ศาลตายาย ทำความสะอาดถุงกอล์ฟ เก็บกวาดถูศาลาหน้าบ้าน ล้างจาน เป็นต้น อีกทั้งยังมีงานประจำสัปดาห์ด้วย อาทิ ตัดใบเตยใส่รถ ทำความสะอาดห้องเก็บของ ซักผ้าเช็ดเท้า เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเน้นไปในความไม่เหมาะสม “รับใช้ชาติ แต่มารับใช้นาย” “กิจวัตรเป๊ะ งานแม่บ้านชัดๆ” “ค่าจ้างฟรี ภาษีประชาชน” คนใช้ไม่ต้องหา มีเกณฑ์มาให้ทุก 2 ปี”
เรื่องนี้ รายการ B.S. เคยนำเสนอไปแล้ว โดยเทียบกับกองทัพธรรมจากเรื่อง “ทหารรับใช้มีไว้ทำไม” หลักการคือ “อุปัฏฐาก” การฝึกตน เพื่อป้องภัยจากการล่าอาณานิคมทางโลกและกิเลสในทางธรรม สำหรับฉบับนี้ ผู้เขียนนึกถึงหลักธรรมที่พระพุทธองค์ทรงให้พระภิกษุพิจารณาอยู่เนือง 10 ข้อ และมีบูรพาจารย์ได้สร้างกิจวัตร 10 ให้พระภิกษุทำเป็นประจำ ซึ่งทหารทางโลก ลองพิจารณา ดังนี้
ธรรมที่บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ 10 อย่าง
1. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า บัดนี้เรามีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว อาการกิริยาใดๆ ของสมณะ เราต้องทำอาการกิริยานั้นๆ
2. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า ความเลี้ยงชีพของเราเนื่องด้วยผู้อื่น เราควรทำตัวให้เขาเลี้ยงง่าย
3. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า อาการ กาย วาจาอย่างอื่นที่เราจะต้องทำให้ดีขึ้นไปกว่านี้ยังมีอยู่อีก ไม่ใช่เพียงเท่านี้
4. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า ตัวของเราเองติเตียนตัวของเราเองโดยศีลได้หรือไม่
5. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า ผู้รู้ใคร่ครวญแล้ว ติเตียนเราโดยศีลได้หรือไม่
6. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งนั้น
7. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีกรรมเป็นของตัว เราทำดีจักได้ดี ทำชั่วจักได้ชั่ว
8. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่
9. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรายินดีที่สงัดหรือไม่
10. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า คุณวิเศษของเรามีอยู่หรือไม่ ที่จะให้เราเป็นผู้ไม่เก้อเขินในเวลาเพื่อนบรรพชิตถามในกาลภายหลัง
ส่วนกิจวัตร 10 ของพระ พร้อมคำอธิบาย
1. บิณฑบาต เพื่อปลดภาระการทำมาหากิน เอาเวลามาฝึกขัดเกลาตนเอง
2. กวาดวัด เป็นการฝึกรักษาความสะอาด กาย วาจา ใจ โดยผ่านการทำความสะอาดเสนาสนะ
เป็นการรักษาสมบัติพระศาสนา
3. ปลงอาบัติ เช้า เย็น เพื่อความบริสุทธิ์และตั้งใจฝึกสติ ตลอดวัน
4. ทำวัตร ( สวดบทที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม จ้ำจี้จ้ำไช / สวดบทที่พระพุทธองค์เทศน์ตามวาระ
5. พิจารณาปัจจเวกขณ์ ก่อนบริโภคใช้สอยปัจจัย ๔ เพื่อความไม่มัวเมาในการใช้ปัจจัย ๔
6. เข้าไปรับใช้อุปัชฌาย์ เพื่อจับดี ถ่ายทอดคุณธรรมความดีของท่านมาสู่ตัวเรา
7. บริหารสิ่งของส่วนรวม อย่ามองว่า ไตรจีวร เป็นของส่วนตัว ให้มองว่าเป็นสมบัติของพระพุทธเจ้า เป็นธงชัยพระอรหันต์ เป็นธงชัยของผู้จะไปพระนิพพาน ถ้าคิดอย่างนี้ เราจะเคารพสิ่งของที่เราได้มาแล้วใช้อย่างทะนุถนอม ใช้อย่างรู้ประมาณ
8. ขวนขวายศึกษาพระธรรมวินัย เพื่อเพิ่มปัญญา
9. เอาใจใส่ต่อสงฆ์ หรือของสงฆ์ พระ ต้องตระหนักเสมอว่า เราใช้ของบนหัวญาติโยม
เพราะฉะนั้นต้องใช้อย่างระวัง รู้ประมาณ
10. ดำรงตนให้น่าไหว้ ตรวจดูว่า เราเองมีความประพฤติ มีศีล มีธรรม ถึงขนาดเราอยากกราบ เคารพตนเองได้หรือยัง
สรุป การพิจารณาสิ่งต่างๆ สิ่งที่สำคัญคือหลักการ เหตุผล ทำเพื่ออะไร ทำไม ได้อะไร ยิ่งไปกว่านั้น คือ หลักธรรม เพราะจะนำมาซึ่งความสุข และพ้นทุกข์ได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน ดั่งเหตุการณ์กิจวัตรของพลทหาร ถ้าทำแล้วตรงข้ามกับหลักการเป็นทหารกองทัพไทย สังคมจะตำหนิได้ เหมือนกิจวัตรกองทัพธรรม ไม่ตั้งใจออกบวชนั่นเอง เพราะต่างก็อาศัยปัจจัย 4 จากประชาชน พุทธศาสนิกชน เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
B.S.
14 ส.ค. 2561
ตอน กิจวัตรทหารทางโลก ทางธรรม ควรพิจารณาอยู่เนือง ๆ ตามหลักธรรมใด เวลา 14.00-14.20 น.
https://youtu.be/dzk7cNZYoqE
กิจวัตรทหารทางโลก ทางธรรม ควรพิจารณาอยู่เนือง ๆ ตามหลักธรรมใด?
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 61 ที่ผ่านมา แฟนเพจเฟซบุ๊ก CSI LA เปิดเผยเอกสารที่อ้างว่าเป็นตารางการทำงานของพลทหาร ซึ่งเอกสารดังกล่าวระบุหัวข้อว่า “งานบ้านประจำวันสำหรับพลทหาร” โดยมีเวลาประจำคือ 06.30 น. และ 15.00 น. ประกอบด้วยการทำงานต่างๆ ที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการฝึกทหาร เช่น เปลี่ยนน้ำที่ศาลพระภูมิ ศาลตายาย ทำความสะอาดถุงกอล์ฟ เก็บกวาดถูศาลาหน้าบ้าน ล้างจาน เป็นต้น อีกทั้งยังมีงานประจำสัปดาห์ด้วย อาทิ ตัดใบเตยใส่รถ ทำความสะอาดห้องเก็บของ ซักผ้าเช็ดเท้า เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเน้นไปในความไม่เหมาะสม “รับใช้ชาติ แต่มารับใช้นาย” “กิจวัตรเป๊ะ งานแม่บ้านชัดๆ” “ค่าจ้างฟรี ภาษีประชาชน” คนใช้ไม่ต้องหา มีเกณฑ์มาให้ทุก 2 ปี”
เรื่องนี้ รายการ B.S. เคยนำเสนอไปแล้ว โดยเทียบกับกองทัพธรรมจากเรื่อง “ทหารรับใช้มีไว้ทำไม” หลักการคือ “อุปัฏฐาก” การฝึกตน เพื่อป้องภัยจากการล่าอาณานิคมทางโลกและกิเลสในทางธรรม สำหรับฉบับนี้ ผู้เขียนนึกถึงหลักธรรมที่พระพุทธองค์ทรงให้พระภิกษุพิจารณาอยู่เนือง 10 ข้อ และมีบูรพาจารย์ได้สร้างกิจวัตร 10 ให้พระภิกษุทำเป็นประจำ ซึ่งทหารทางโลก ลองพิจารณา ดังนี้
ธรรมที่บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ 10 อย่าง
1. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า บัดนี้เรามีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว อาการกิริยาใดๆ ของสมณะ เราต้องทำอาการกิริยานั้นๆ
2. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า ความเลี้ยงชีพของเราเนื่องด้วยผู้อื่น เราควรทำตัวให้เขาเลี้ยงง่าย
3. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า อาการ กาย วาจาอย่างอื่นที่เราจะต้องทำให้ดีขึ้นไปกว่านี้ยังมีอยู่อีก ไม่ใช่เพียงเท่านี้
4. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า ตัวของเราเองติเตียนตัวของเราเองโดยศีลได้หรือไม่
5. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า ผู้รู้ใคร่ครวญแล้ว ติเตียนเราโดยศีลได้หรือไม่
6. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งนั้น
7. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีกรรมเป็นของตัว เราทำดีจักได้ดี ทำชั่วจักได้ชั่ว
8. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่
9. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรายินดีที่สงัดหรือไม่
10. บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า คุณวิเศษของเรามีอยู่หรือไม่ ที่จะให้เราเป็นผู้ไม่เก้อเขินในเวลาเพื่อนบรรพชิตถามในกาลภายหลัง
ส่วนกิจวัตร 10 ของพระ พร้อมคำอธิบาย
1. บิณฑบาต เพื่อปลดภาระการทำมาหากิน เอาเวลามาฝึกขัดเกลาตนเอง
2. กวาดวัด เป็นการฝึกรักษาความสะอาด กาย วาจา ใจ โดยผ่านการทำความสะอาดเสนาสนะ
เป็นการรักษาสมบัติพระศาสนา
3. ปลงอาบัติ เช้า เย็น เพื่อความบริสุทธิ์และตั้งใจฝึกสติ ตลอดวัน
4. ทำวัตร ( สวดบทที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม จ้ำจี้จ้ำไช / สวดบทที่พระพุทธองค์เทศน์ตามวาระ
5. พิจารณาปัจจเวกขณ์ ก่อนบริโภคใช้สอยปัจจัย ๔ เพื่อความไม่มัวเมาในการใช้ปัจจัย ๔
6. เข้าไปรับใช้อุปัชฌาย์ เพื่อจับดี ถ่ายทอดคุณธรรมความดีของท่านมาสู่ตัวเรา
7. บริหารสิ่งของส่วนรวม อย่ามองว่า ไตรจีวร เป็นของส่วนตัว ให้มองว่าเป็นสมบัติของพระพุทธเจ้า เป็นธงชัยพระอรหันต์ เป็นธงชัยของผู้จะไปพระนิพพาน ถ้าคิดอย่างนี้ เราจะเคารพสิ่งของที่เราได้มาแล้วใช้อย่างทะนุถนอม ใช้อย่างรู้ประมาณ
8. ขวนขวายศึกษาพระธรรมวินัย เพื่อเพิ่มปัญญา
9. เอาใจใส่ต่อสงฆ์ หรือของสงฆ์ พระ ต้องตระหนักเสมอว่า เราใช้ของบนหัวญาติโยม
เพราะฉะนั้นต้องใช้อย่างระวัง รู้ประมาณ
10. ดำรงตนให้น่าไหว้ ตรวจดูว่า เราเองมีความประพฤติ มีศีล มีธรรม ถึงขนาดเราอยากกราบ เคารพตนเองได้หรือยัง
สรุป การพิจารณาสิ่งต่างๆ สิ่งที่สำคัญคือหลักการ เหตุผล ทำเพื่ออะไร ทำไม ได้อะไร ยิ่งไปกว่านั้น คือ หลักธรรม เพราะจะนำมาซึ่งความสุข และพ้นทุกข์ได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน ดั่งเหตุการณ์กิจวัตรของพลทหาร ถ้าทำแล้วตรงข้ามกับหลักการเป็นทหารกองทัพไทย สังคมจะตำหนิได้ เหมือนกิจวัตรกองทัพธรรม ไม่ตั้งใจออกบวชนั่นเอง เพราะต่างก็อาศัยปัจจัย 4 จากประชาชน พุทธศาสนิกชน เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
B.S.
14 ส.ค. 2561
ตอน กิจวัตรทหารทางโลก ทางธรรม ควรพิจารณาอยู่เนือง ๆ ตามหลักธรรมใด เวลา 14.00-14.20 น. https://youtu.be/dzk7cNZYoqE