
ฮัลโหลลลล สวัสดีค่า มีรีวิวที่เที่ยวที่เหมาะจะไปในหน้าในนี้มากๆ มาฝากจ้า
ทริปที่เต็มไปด้วยสายหมอก ภูเขา และศิลปะ
หน้าฝนแบบนี้ใครไม่มีไอเดียว่าจะไปเที่ยวไหน ขึ้นเหนือไปเชียงรายกันเถอะ!
ตั๋วเครื่องบินโปรถูกกว่าเชียงใหม่ คนน้อย สงบกว่าด้วยเด้ออออ
จะมีอะไรให้ทำบ้าง เลื่อนอ่านใต้รูปได้เลยจ้า
(ทริปนี้สารภาพว่าลืมเอาเมมโมรีกล้องไป รูปส่วนใหญ่เลยมาจาก I phone 7 นะคะ)
จะมีสถานที่ไหนน่าไป มีอะไรน่าทำบ้าง เลื่อนอ่านด้านล่างได้เลยจ้า

1. ไร่ชาฉุยฟง
สถานที่แรกที่เราเลือกไปเมื่อถึงเชียงรายคือ ไร่ชาฉุยฟง จริงๆแล้วเชียงรายยังมีไร่ชาอีกหลายแห่ง แต่ว่าไร่อื่นๆจะอยู่ไกลจากตัวเมืองออกไปอีก (เราพักในตัวเมืองเชียงรายทุกคืน) ไร่ชาฉุยฟงใช้เวลาจากตัวเมืองออกไปประมาณ 1 ชั่วโมง วันที่ไปเป็นวันหยุดคนเลยเยอะมากกกกก
แต่ด้วยตัวไร่ที่มีความใหญ่มากๆ มีมุมถ่ายรูปเยอะ คนเยอะแค่ไหนเลยไม่ต้องแย่งวิวกันเลยจ้า สามารถเลือกถ่ายรูปตรงจุดที่ไม่มีคนได้
เราใช้เวลาในไร่ชาไม่นานนัก เพราะนอกจากตรงจุดที่เราอยู่และถ่ายรูปมาแล้ว ตรงอื่นก็เต็มไปด้วยมวลมหาประชาชนที่หลั่งไหลกันมาเที่ยวในวันหยุดยาว
เอาเป็นว่าใครไปไม่ตรงวันหยุดคงได้เดินเล่นชิวๆ อยู่ในไร่ได้เป็นชั่วโมงๆเลยแหละ เพราะนอกจากวิวสวยๆแล้ว อากาศยังดีมากๆอีกด้วย

ต้องใช้ความสามารถในการหามุมถ่ายรูปนิดนึง เพราะอย่างที่บอกว่ามวลมหาประชาชนที่ไปเจอในวันหยุดนั้นมหาศาลมากกกก เจอมุมที่ไม่ติดคนปุป ต้องรีบถ่ายกันรัวๆ

ออนนีกับร่มของเธอ ในวันที่ฝนไม่ตก กางทำไมงง5555

มองยอดชาจนตาลายแล้วก็ไปค่ะ มูฟไปที่อื่น ไม่มีอะไรทำแล้ว555555

2. ดอยช้างมูบ
จากไร่ชาฉุยฟง เราขึ้นไปต่อที่ดอยช้างมูบ (จริงๆก่อนหน้านั้นไปดอยตุง แต่สำหรับเราเฉยๆมากๆ คนเยอะมากด้วย เลยกลับออกมาไว) ดอยช้างมูบอยู่ไม่ไดลจากดอยตุงมากนัก
ขึ้นไปบนดอยจะมีจุดชมวิวที่เป็นชายแดนประเทศ มีทหารเฝ้า แต่สามารถออกไปชมวิว ถ่ายรูปได้
เราไปหน้าฝน มองออกไปเลยเต็มไปด้วยหมอก สวยแปลกตาไปอีกแบบ

แอบคิดเหมือนกันว่าถ้าไม่มีหมอก เห็นวิวข้างล่างเต็มๆ คงจะสวยน่าดู

ข้างบนลมแรงมากๆ และหมอกลงด้วย กับเสื้อผ้าฤดูร้อนของชาวเรา คิดเอาว่าหนาวขนาดไหน ใครจะไปแนะนำเตรียมเสื้อหนาวเผื่อๆเด้อ

3. ภูชี้ฟ้า (เวอร์ชั่นหมอกลง)
ภาพในหัวที่คิดไว้ตอนตกลงกันกับเพื่อนว่าจะขึ้นภูชี้ฟ้าคือวิวภูเขาสวยๆ ตัดภาพมาที่ความจริง เหมือนถ่ายรูปกับฉากขาว!
ต้องบอมรับว่าใจนึงก็ผิดหวังกับภูชี้ฟ้า แต่ว่าอีกใจนึงก็ไม่เสียใจเลยที่มา เพราะเราได้สัมผัสอากาศหนาวแบบปากสั่นในเดือนกรกฎาคม!
ทางเดินขึ้นภูชี้ฟ้า 720 เมตร ทางชันๆ ดินแฉะๆแบบฝนเพิ่งตก!
เดินลุยหมอกหัวเปียก ขึ้นไปถึงข้างบนสุด เพื่อไม่เห็นอะไรเลยนอกจากหมอก!
แต่ระหว่างทางมันสนุกมากๆ ได้หัวเราเพื่อนที่ลื่นล้ม ได้พูดคุยกับน้องๆคนพื้นที่ ได้เรียนรู้ธรรมชาติใหม่ๆที่ไม่เคยรู้จัก แค่นี้ก็คงคุ้มแล้วสำหรับภูชี้ฟ้าที่ไม่เห็นอะไรเลยของเรา
โฉมหน้าไกด์นำทางของเรา น้องๆน่ารักมาก เจออะไรข้างทางก็บอกเราตลอด สอนให้รู้จักหนอนลูกแก้ว และวิธีประดิษฐ์ของเล่นจากกิ่งไม้ น้องนำทางเองก็ลื่นล้มเองบ้าง น่ารักดี ใครไปอย่าลืมอุดหนุนน้องๆนะคะ น้องน่ารัก ทำงานหารายได้แต่เด็ก

ทางขึ้นแรกๆจะมีราวให้เกาะแบบนี้ แต่แค่แปปเดียวราวนั้นก็หายไป ต้องพึ่งกำลังยึดเกาะของขาตัวเองล้วนๆ

ระหว่างทางก็จะหมอกลงหนาๆ ลงแบบหัวเปียกไปหมดแล้วจ้าพี่จ๋า

ตอนเราไปไม่มีใครเลยนอกจากกรุปเรา ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หมอกลงจนหัวเปียก พื้นลื่นขนาดนี้ คนดีๆเค้าก็คงไม่มากัน

ขึ้นไปถึงไม่เจออะไรเลย เหมือนอยู่บนยอดเขาที่รอบตัวเป็นฉากสีขาวๆ เดินทางมาไกลเพื่ออะไรแบบนี้เหรอ55555

แต่ถ้าใครชอบบรรยากาศหมอกๆ เหงาๆ ยืนทำเอ็มวีร้ายๆก็แนะนำเลยจ้า หมอกเยอะสะใจแน่นอน แต่สำหรับเราคือไว้เจอกันใหม่หน้าหนาวนะภูชี้ฟ้า หน้าหนาวเมื่อไหร่ฉันจะกลับมาแก้มือ!

4. วัดร่องขุ่น (White temple)
วัดร่องขุ่นคือวัดเดียวในประเทศไทยที่เราอยากไป!
ต้องออกตัวก่อนเลยว่าเราเป็นคนไม่เที่ยววัด แต่สำหรับที่นี่คือไม่เที่ยวไม่ได้ เพราะมันสวยมากกกก
ตัววัดสีขาว หรือที่ฝรั่งเรียกว่า White temple สร้างขึ้นอย่างปราณีต สวยทุกมุมจริงๆ
ทัวร์จีนก็เยอะจริงอะไรจริง เลือกวัน เลือกเวลาดีๆเด้อ
วัดอยู่ห่างจากตัวเมืองไปแค่20 นาทีเท่านั้น วันที่เราไปฟ้าครึ้มๆ เลยไม่ร้อนมาก แต่แอบคิดว่าถ้าเป็นวันฝนไม่ตกนี้คงต้องมาแค่ช่วงเช้า ไม่งั้นตัวไหม้แน่นอน

ชื่อภาพว่าพี่เห็นหนูไหม ใครหาน้องหล้าเจอบ้าง5555

วัดใหญ่มากๆ และมีมุมสวยๆ ให้ดู ให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ เช่นกัน ไม่รู้จะบรรยายอะไร สวยมากจริงๆ ให้ภาพเล่าเรื่องแล้วกัน

5. บ้านดำ
อีกหนึ่งสถานที่แลนด์มาร์คของเชียงราย
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี นั่นเองค่า
อยู่ห่างจากวัดร่องขุ่นประมาณ10 นาทีเท่านั้น
สารภาพตรงนี้ว่าเราไม่ได้เข้าไปด้านใน
เพราะวันที่ไปคนเยอะมากกกก มากแบบจะล้น และเสียค่าเข้าคนละ 80 บาท
เลยได้แต่ยืนมองอยู่ด้านนอก เดินเล่นข้างนอกเอา
ใครไปไม่เจอมวลมหาประชาชนแนะนำให้เข้าข้างในนะคะ
มีการแสดงและอื่นๆอีกมากมาย หารีวิวอ่านก่อนได้จ้า

6. ขัวศิลปะ
เชียงรายเป็นเมืองแห่งศิลปะ!
มีหอศิลป์เยอะมากๆ สามารถเสริจหาและเลือกลมได้ตามอัธยาศัย
ส่วนเราได้มีโอกาศไปแวะที่ขัวศิลปะ เพราะอยู่ใกล้ๆกับบ้านดำ ด้านในมีจัดแสดงศิลปะต่างๆ
ไปเดินเพลินๆ ได้อยู่เด้อ

7. หมู่บ้านกระเหรี่งบ้านป่าอ้อ
เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากตัวเมือง
ด้านในจะมีชุมชนกระเหรี่ยงเล็กๆ ถึง5เผ่าเลยทีเดียว!
เสียค่าเข้าชม 200 บาท ส่วนตัวนี่ว่าแอบแพง เพราะสอบถามชาวกระเหรี่ยงข้างในได้ความว่า เงินไม่ได้ถึงเค้า แต่จะให้เป็นข้าวสารแทน ด้านในเลยต้องขายของกันแบบฮาร์ดเซลล์มากๆ
แนะนำสำหรับคนมีเวลาเหลือๆ เที่ยวที่อื่นในเมืองเสร็จลองแวะไปดูได้จ้า

แต่ก็ถือว่าเป็นอีกที่ที่เที่ยวเพลินๆ เดินชิวๆ เรียนรู้วัฒนธรรม เพิ่มความรู้ใส่สมองอันน้อยนิดของเราบ้าง ฆ่าเวลาได้แบบไม่เสียดายเวลาอ่ะ สรุปคือไม่รู้จะไปไหนก็ลองไปดูก็ได้ สนุกไปอีกแบบเด้อ

8. ข้างทาง
วิวข้างทางระหว่างขึ้นดอย ไร่ชา ขึนภูต่างๆ เห็นตรงไหนสวยและจอดรถได้จงแวะ!
เพราะระหว่างทางมีวิวสวยๆ พีคๆ อยู่เยอะมากกก

อันนี้ทางลงจากภูชี้ฟ้า

เราเหมา 2แถวเที่ยวนะคะ คุณลุงใจดีมากๆ เจอที่สวยๆก็จอดให้ด้วย ใครสนใจคอนแทคคุณลุงหลังไหมค์มาได้เลยจ้า

การเดินทางทุกวันของทริปนี้ เราใช้วิธีเหมารถสองแถวเอา หารกันแล้วราคาไม่แพง นั่งรับลมชิวๆ ถูกกว่าเช่ารถขับหรือเหมารถยนต์ด้วยเด้อ

ส่วนที่พักเราพัก Sound Sleep Hostel
เป็น Hostel เตียงรวม ตัวห้องก็ปกติ Hostel เตียงสองชั้นปกติทั้วไป แต่ด้านล่างเกร๋มากๆ เป็นร้านกาแฟ ใครเที่ยวเชียงรายแวะมานั่งได้นะคะ ชื่อร้าน Sound brown cafe อยู่ซอย สันป่าหนาด ต้นๆซอยเลยจ้า

ใครสนใจก็ตามไปพักได้นะคะ เกร๋ด้วย แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าไปอีก

นอกจากภาพจาก I phone ของเราแล้ว เรายังมีวิดีโอมาฝากด้วย เป็น Vlog สนุกๆ ตลอดระยะเวลา 4 วันที่เชียงรายของเรากับเพื่อนๆ
ใครที่สนใจอยากไปเที่ยวก็ลองเข้าไปดูได้นะคะ
ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม หรืออยากพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องท่องเที่ยว เข้ามาพูดคุยกับเราได้ที่หน้าเพจเลยน้า ยินดีตอบทุกคำถามจ้า
https://www.facebook.com/caratravel/?hc_ref=ARTITIaATB7LbvC-SsFXj0_vwSBPc1xrRgVS7ST2QUinXzYeVJuM1domqEN9uBH-tiI&fref=nf
[CR] เที่ยวเชียงรายหน้าฝน หม่นๆ เขียวๆ CARATRAVEL X CHIANGRAI
ฮัลโหลลลล สวัสดีค่า มีรีวิวที่เที่ยวที่เหมาะจะไปในหน้าในนี้มากๆ มาฝากจ้า
ทริปที่เต็มไปด้วยสายหมอก ภูเขา และศิลปะ
หน้าฝนแบบนี้ใครไม่มีไอเดียว่าจะไปเที่ยวไหน ขึ้นเหนือไปเชียงรายกันเถอะ!
ตั๋วเครื่องบินโปรถูกกว่าเชียงใหม่ คนน้อย สงบกว่าด้วยเด้ออออ
จะมีอะไรให้ทำบ้าง เลื่อนอ่านใต้รูปได้เลยจ้า
(ทริปนี้สารภาพว่าลืมเอาเมมโมรีกล้องไป รูปส่วนใหญ่เลยมาจาก I phone 7 นะคะ)
จะมีสถานที่ไหนน่าไป มีอะไรน่าทำบ้าง เลื่อนอ่านด้านล่างได้เลยจ้า
1. ไร่ชาฉุยฟง
สถานที่แรกที่เราเลือกไปเมื่อถึงเชียงรายคือ ไร่ชาฉุยฟง จริงๆแล้วเชียงรายยังมีไร่ชาอีกหลายแห่ง แต่ว่าไร่อื่นๆจะอยู่ไกลจากตัวเมืองออกไปอีก (เราพักในตัวเมืองเชียงรายทุกคืน) ไร่ชาฉุยฟงใช้เวลาจากตัวเมืองออกไปประมาณ 1 ชั่วโมง วันที่ไปเป็นวันหยุดคนเลยเยอะมากกกกก
แต่ด้วยตัวไร่ที่มีความใหญ่มากๆ มีมุมถ่ายรูปเยอะ คนเยอะแค่ไหนเลยไม่ต้องแย่งวิวกันเลยจ้า สามารถเลือกถ่ายรูปตรงจุดที่ไม่มีคนได้
เราใช้เวลาในไร่ชาไม่นานนัก เพราะนอกจากตรงจุดที่เราอยู่และถ่ายรูปมาแล้ว ตรงอื่นก็เต็มไปด้วยมวลมหาประชาชนที่หลั่งไหลกันมาเที่ยวในวันหยุดยาว
เอาเป็นว่าใครไปไม่ตรงวันหยุดคงได้เดินเล่นชิวๆ อยู่ในไร่ได้เป็นชั่วโมงๆเลยแหละ เพราะนอกจากวิวสวยๆแล้ว อากาศยังดีมากๆอีกด้วย
ต้องใช้ความสามารถในการหามุมถ่ายรูปนิดนึง เพราะอย่างที่บอกว่ามวลมหาประชาชนที่ไปเจอในวันหยุดนั้นมหาศาลมากกกก เจอมุมที่ไม่ติดคนปุป ต้องรีบถ่ายกันรัวๆ
ออนนีกับร่มของเธอ ในวันที่ฝนไม่ตก กางทำไมงง5555
มองยอดชาจนตาลายแล้วก็ไปค่ะ มูฟไปที่อื่น ไม่มีอะไรทำแล้ว555555
2. ดอยช้างมูบ
จากไร่ชาฉุยฟง เราขึ้นไปต่อที่ดอยช้างมูบ (จริงๆก่อนหน้านั้นไปดอยตุง แต่สำหรับเราเฉยๆมากๆ คนเยอะมากด้วย เลยกลับออกมาไว) ดอยช้างมูบอยู่ไม่ไดลจากดอยตุงมากนัก
ขึ้นไปบนดอยจะมีจุดชมวิวที่เป็นชายแดนประเทศ มีทหารเฝ้า แต่สามารถออกไปชมวิว ถ่ายรูปได้
เราไปหน้าฝน มองออกไปเลยเต็มไปด้วยหมอก สวยแปลกตาไปอีกแบบ
แอบคิดเหมือนกันว่าถ้าไม่มีหมอก เห็นวิวข้างล่างเต็มๆ คงจะสวยน่าดู
ข้างบนลมแรงมากๆ และหมอกลงด้วย กับเสื้อผ้าฤดูร้อนของชาวเรา คิดเอาว่าหนาวขนาดไหน ใครจะไปแนะนำเตรียมเสื้อหนาวเผื่อๆเด้อ
3. ภูชี้ฟ้า (เวอร์ชั่นหมอกลง)
ภาพในหัวที่คิดไว้ตอนตกลงกันกับเพื่อนว่าจะขึ้นภูชี้ฟ้าคือวิวภูเขาสวยๆ ตัดภาพมาที่ความจริง เหมือนถ่ายรูปกับฉากขาว!
ต้องบอมรับว่าใจนึงก็ผิดหวังกับภูชี้ฟ้า แต่ว่าอีกใจนึงก็ไม่เสียใจเลยที่มา เพราะเราได้สัมผัสอากาศหนาวแบบปากสั่นในเดือนกรกฎาคม!
ทางเดินขึ้นภูชี้ฟ้า 720 เมตร ทางชันๆ ดินแฉะๆแบบฝนเพิ่งตก!
เดินลุยหมอกหัวเปียก ขึ้นไปถึงข้างบนสุด เพื่อไม่เห็นอะไรเลยนอกจากหมอก!
แต่ระหว่างทางมันสนุกมากๆ ได้หัวเราเพื่อนที่ลื่นล้ม ได้พูดคุยกับน้องๆคนพื้นที่ ได้เรียนรู้ธรรมชาติใหม่ๆที่ไม่เคยรู้จัก แค่นี้ก็คงคุ้มแล้วสำหรับภูชี้ฟ้าที่ไม่เห็นอะไรเลยของเรา
โฉมหน้าไกด์นำทางของเรา น้องๆน่ารักมาก เจออะไรข้างทางก็บอกเราตลอด สอนให้รู้จักหนอนลูกแก้ว และวิธีประดิษฐ์ของเล่นจากกิ่งไม้ น้องนำทางเองก็ลื่นล้มเองบ้าง น่ารักดี ใครไปอย่าลืมอุดหนุนน้องๆนะคะ น้องน่ารัก ทำงานหารายได้แต่เด็ก
ทางขึ้นแรกๆจะมีราวให้เกาะแบบนี้ แต่แค่แปปเดียวราวนั้นก็หายไป ต้องพึ่งกำลังยึดเกาะของขาตัวเองล้วนๆ
ระหว่างทางก็จะหมอกลงหนาๆ ลงแบบหัวเปียกไปหมดแล้วจ้าพี่จ๋า
ตอนเราไปไม่มีใครเลยนอกจากกรุปเรา ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หมอกลงจนหัวเปียก พื้นลื่นขนาดนี้ คนดีๆเค้าก็คงไม่มากัน
ขึ้นไปถึงไม่เจออะไรเลย เหมือนอยู่บนยอดเขาที่รอบตัวเป็นฉากสีขาวๆ เดินทางมาไกลเพื่ออะไรแบบนี้เหรอ55555
แต่ถ้าใครชอบบรรยากาศหมอกๆ เหงาๆ ยืนทำเอ็มวีร้ายๆก็แนะนำเลยจ้า หมอกเยอะสะใจแน่นอน แต่สำหรับเราคือไว้เจอกันใหม่หน้าหนาวนะภูชี้ฟ้า หน้าหนาวเมื่อไหร่ฉันจะกลับมาแก้มือ!
4. วัดร่องขุ่น (White temple)
วัดร่องขุ่นคือวัดเดียวในประเทศไทยที่เราอยากไป!
ต้องออกตัวก่อนเลยว่าเราเป็นคนไม่เที่ยววัด แต่สำหรับที่นี่คือไม่เที่ยวไม่ได้ เพราะมันสวยมากกกก
ตัววัดสีขาว หรือที่ฝรั่งเรียกว่า White temple สร้างขึ้นอย่างปราณีต สวยทุกมุมจริงๆ
ทัวร์จีนก็เยอะจริงอะไรจริง เลือกวัน เลือกเวลาดีๆเด้อ
วัดอยู่ห่างจากตัวเมืองไปแค่20 นาทีเท่านั้น วันที่เราไปฟ้าครึ้มๆ เลยไม่ร้อนมาก แต่แอบคิดว่าถ้าเป็นวันฝนไม่ตกนี้คงต้องมาแค่ช่วงเช้า ไม่งั้นตัวไหม้แน่นอน
ชื่อภาพว่าพี่เห็นหนูไหม ใครหาน้องหล้าเจอบ้าง5555
วัดใหญ่มากๆ และมีมุมสวยๆ ให้ดู ให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ เช่นกัน ไม่รู้จะบรรยายอะไร สวยมากจริงๆ ให้ภาพเล่าเรื่องแล้วกัน
5. บ้านดำ
อีกหนึ่งสถานที่แลนด์มาร์คของเชียงราย
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี นั่นเองค่า
อยู่ห่างจากวัดร่องขุ่นประมาณ10 นาทีเท่านั้น
สารภาพตรงนี้ว่าเราไม่ได้เข้าไปด้านใน
เพราะวันที่ไปคนเยอะมากกกก มากแบบจะล้น และเสียค่าเข้าคนละ 80 บาท
เลยได้แต่ยืนมองอยู่ด้านนอก เดินเล่นข้างนอกเอา
ใครไปไม่เจอมวลมหาประชาชนแนะนำให้เข้าข้างในนะคะ
มีการแสดงและอื่นๆอีกมากมาย หารีวิวอ่านก่อนได้จ้า
6. ขัวศิลปะ
เชียงรายเป็นเมืองแห่งศิลปะ!
มีหอศิลป์เยอะมากๆ สามารถเสริจหาและเลือกลมได้ตามอัธยาศัย
ส่วนเราได้มีโอกาศไปแวะที่ขัวศิลปะ เพราะอยู่ใกล้ๆกับบ้านดำ ด้านในมีจัดแสดงศิลปะต่างๆ
ไปเดินเพลินๆ ได้อยู่เด้อ
7. หมู่บ้านกระเหรี่งบ้านป่าอ้อ
เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากตัวเมือง
ด้านในจะมีชุมชนกระเหรี่ยงเล็กๆ ถึง5เผ่าเลยทีเดียว!
เสียค่าเข้าชม 200 บาท ส่วนตัวนี่ว่าแอบแพง เพราะสอบถามชาวกระเหรี่ยงข้างในได้ความว่า เงินไม่ได้ถึงเค้า แต่จะให้เป็นข้าวสารแทน ด้านในเลยต้องขายของกันแบบฮาร์ดเซลล์มากๆ
แนะนำสำหรับคนมีเวลาเหลือๆ เที่ยวที่อื่นในเมืองเสร็จลองแวะไปดูได้จ้า
แต่ก็ถือว่าเป็นอีกที่ที่เที่ยวเพลินๆ เดินชิวๆ เรียนรู้วัฒนธรรม เพิ่มความรู้ใส่สมองอันน้อยนิดของเราบ้าง ฆ่าเวลาได้แบบไม่เสียดายเวลาอ่ะ สรุปคือไม่รู้จะไปไหนก็ลองไปดูก็ได้ สนุกไปอีกแบบเด้อ
8. ข้างทาง
วิวข้างทางระหว่างขึ้นดอย ไร่ชา ขึนภูต่างๆ เห็นตรงไหนสวยและจอดรถได้จงแวะ!
เพราะระหว่างทางมีวิวสวยๆ พีคๆ อยู่เยอะมากกก
อันนี้ทางลงจากภูชี้ฟ้า
เราเหมา 2แถวเที่ยวนะคะ คุณลุงใจดีมากๆ เจอที่สวยๆก็จอดให้ด้วย ใครสนใจคอนแทคคุณลุงหลังไหมค์มาได้เลยจ้า
การเดินทางทุกวันของทริปนี้ เราใช้วิธีเหมารถสองแถวเอา หารกันแล้วราคาไม่แพง นั่งรับลมชิวๆ ถูกกว่าเช่ารถขับหรือเหมารถยนต์ด้วยเด้อ
ส่วนที่พักเราพัก Sound Sleep Hostel
เป็น Hostel เตียงรวม ตัวห้องก็ปกติ Hostel เตียงสองชั้นปกติทั้วไป แต่ด้านล่างเกร๋มากๆ เป็นร้านกาแฟ ใครเที่ยวเชียงรายแวะมานั่งได้นะคะ ชื่อร้าน Sound brown cafe อยู่ซอย สันป่าหนาด ต้นๆซอยเลยจ้า
ใครสนใจก็ตามไปพักได้นะคะ เกร๋ด้วย แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าไปอีก
นอกจากภาพจาก I phone ของเราแล้ว เรายังมีวิดีโอมาฝากด้วย เป็น Vlog สนุกๆ ตลอดระยะเวลา 4 วันที่เชียงรายของเรากับเพื่อนๆ
ใครที่สนใจอยากไปเที่ยวก็ลองเข้าไปดูได้นะคะ
ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม หรืออยากพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องท่องเที่ยว เข้ามาพูดคุยกับเราได้ที่หน้าเพจเลยน้า ยินดีตอบทุกคำถามจ้า
https://www.facebook.com/caratravel/?hc_ref=ARTITIaATB7LbvC-SsFXj0_vwSBPc1xrRgVS7ST2QUinXzYeVJuM1domqEN9uBH-tiI&fref=nf
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้