สวัสดิ์ดีค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าเราเป็นแม่ค้าคนนึงที่อยากกู้เงินเพื่อซื้อบ้านในราคา 2.89 ล้านบาท แต่เป็นการซื้อบ้านหลังที่สอง (หลังแรกเราซื้อเงินสด) ได้ทำการยื่นเรื่องกู้ไปสองธนาคารก่อน คือ ธนาคาร CIMB กับ ธนาคาร ออมสินซึ่งธนาคารออมสิน เซลล์โครงการหมู่บ้านได้ยื่นเรื่องโดยตรงให้กับ ทางสำนักงานใหญ่เลยซึ่งเราหวังไว้กับธนาคารออสินมากๆ เพราะเป็นธนาคารที่ดอกเบี้ยไม่แพงมาก และให้สินเชื่อกับพ่อค้าแม่ค้าง่าย ธนาคารCIMB ได้โทรมาสอบถามข้อมูล และผ่านอย่างง่ายดาย
อ้อ!!!!ลืมบอกไป เราขายปลีกและส่งเกี่ยวกับอาหารแช่แข็งและหมูกะทะ รายได้รวมๆประมาณ 60,000 บาท ขึ้นไปแล้วแต่ยอดขาย แต่เราขายส่งแบบให้เครดิตลูกค้าก่อน และขายปลีกแบบชั่งกิโลขายในตลาดนัด กลางวันก็เตรียมของตอนเย็นก็ออกไปขายของที่ตลาด
มีภาระคือลูกสองคน และพึ่งหย่าร้างจากสามี เงินเก็บจึงถูกแบ่งออกไปเหลือแสนกว่าๆ เพราะเราได้ทรัพย์สินเป็นบ้าน โดยที่สามีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกทั้งหมด เรามีภาระแค่ค่างวดรถ10,310และประกันที่ตัดทางบัตรเครดิตเดือนละ739บาทต่อเดือน โดยวงเงินที่ตัดผ่านบัตรเราจะไปจ่ายทุกเดือน ฉนั้นสรุปภาระค่าใช้จ่ายเราแต่ละเดือนคือ 10,310+739=11,049 ค่าน้ำค่าไฟ และค่าตลาดแล้ว รวมๆ 20,000 บาท
มาต่อค่ะ ธ.CIMBได้แจ้งยอดที่เรากู้ได้ในวงเงินที่เรายื่นเรื่องกู้ไปคือ 2.89ล้าน
เรารับบทราบและอยากรอ ธนาคารที่เราชอบอยู่ในใจ คือธนาคาร ออมสิน เราก็รอทางธนาคารโทรมา สัก3อาทิตย์ได้ ธนาคารก็โทรมาหาเรา ช่วงที่เรากำลังขายของพอดี
เราดีใจมากที่พนักงานแจ้งว่าโทรมาจากธนาคารออมสิน
ทางพนักงานก็ได้สอบถามข้อมูลกับเรา ทวนชื่อนามสกุล ถามว่าเราทำอาชีพอะไร?
เราก็ตอบไปว่า "ทำอาชีพขายอาหารแช่แข็ง ทั้งปลีกและส่งค่ะ"
เขาก็ถามเราว่า "เธอขายทั้งสองแบบเลยหรอ? แล้ว เธอมีลูกจ้างไหม"
เราก็ตอบไปว่า"ไม่มีค่ะ เพราะจะส่งของช่วงวันที่หยุดขายปลีก คือวันพุธกับวันพฤหัสบดี"
พนักงานก็ถามเราต่อว่า"เทอมีสินทรัพย์อะไรมั้ย?"
เราจึงตอบว่า"มีบ้านพร้อมที่ดิน1หลังและประกันค่ะส่วนบ้านปลอดภาระแล้วค่ะ"
พนักงานเลยถามเราอีกว่า"ชั้นถามเธอจริงๆ เธอซื้อบ้านเพื่อไปให้คนเช่าหรอ?"
เราเลยตอบกลับไปว่า "ไม่ใช่ค่ะบ้านที่อยู่ปัจุบันอยู่ที่ชลบุรี ซึ่งตอนนี้หนูขายของที่ตลาดใน จ.ฉะเชิงเทรา เลยอยากได้บ้านเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไป-กลับ ไกลๆ
พนักงานเลยถามต่อว่า "ทำเธอทำบัญชีเองเหรอ ?" "ถามจริงเธอเรียนจบชั้นไหน ทำไมถึงทำบัญชียังกับเด็กประถมเลย?"

หัวเราะ)
เราเลยตอบว่า"ม.6ค่ะ หนูเขียนประจำวันของหนูแบบนี้จริงๆ และหนูทำงานสองอย่างคนเดียวหนูไม่มีเวลาค่ะ หนูเขียนตามความเข้าใจของหนูค่ะ เขียนแค่พอรู้ว่าอาทิตย์นึงได้กำไรเท่าไหร่ค่ะ"
พนักงานเลยถามต่อไปว่า"ใช่หรอ?" เธอเขียนทุกวันจริงหรอ?"
เราเลยตอบเขาไปว่า"เขียนบัญชีเองทุกวันจริงๆ"
เขาเลยถามว่า "เธอมีภาระอะไรบ้าง???"
เราเลยตอบเขาว่า "มีรถกับประกันค่ะ"
พนักงานเลยบอกว่า "คุณมีหนี้บัตรเครดิตด้วยนะ คุณมีภาระค่าใช้จ่ายเรื่องลูกกับรถและบัตรเครดิต เดี๋ยวยังไงธนาคารจะติดต่อกลับไปนะ"
แล้วพนักงานก็วางสาย ไม่ถามเราสักคำว่า ลูกตกลงกับสามีว่ายังไง บัตรเครดิตคุณติดยอดเท่าไหร่? ใช้ซื้ออะไร? วางสายแบบปล่อยให้เรายืนงงคนเดียว
พออีกสองวันต่อมาเซลล์หมู่บ้านที่เราซื้อได้แจ้งเราว่า ธนาคารไม่อนุมัติวงเงินให้นะ เดี๋ยวทางเซลล์จะสอบถามให้เราอีกทีว่าเราไม่ผ่านการอนุมติเพราะอะไร งงในงงค่ะ
-อยากทราบว่าปกติทางธาคารออมสินพูดคุยสอบถามข้อมูลกับลูกค้าแบบนี้มั้ยคะ?
-แล้วเกณฑ์การอนุมัติต้องเงินเยอะกว่านี้หรอคะ?
ปล.เพราะคนรู้จักที่เป็นแม่ค้าด้วยกัน มีเงินหมุนน้อยกว่าเรา มีเงินเก็บสองหมื่นกว่าๆ ทางธนาคารยังอนุมัติเงินเกินตั้งสองแสนกว่า (ประมาณ2ล้านต้นๆค่ะ) คือที่ออกมาตั้งกระทู้ไม่ได้อะไรนะคะ แค่เสียความรู้สึกที่เจอคำพูดแบบไม่ให้เกียรติกันและข้องใจมากๆกับเกณฑ์การอนุมัติ
ขอบคุณสำหรับคนที่อุตส่าห์อ่านทั้งๆที่กระทู้ยาวและงงมากๆนะคะ เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี55555
ทำเรื่องกู้บ้านแล้วเคยเจอพนักงานธนาคารใช้คำพูดไม่ดีหรือดูถูกบ้างมั้ยคะ
อ้อ!!!!ลืมบอกไป เราขายปลีกและส่งเกี่ยวกับอาหารแช่แข็งและหมูกะทะ รายได้รวมๆประมาณ 60,000 บาท ขึ้นไปแล้วแต่ยอดขาย แต่เราขายส่งแบบให้เครดิตลูกค้าก่อน และขายปลีกแบบชั่งกิโลขายในตลาดนัด กลางวันก็เตรียมของตอนเย็นก็ออกไปขายของที่ตลาด
มีภาระคือลูกสองคน และพึ่งหย่าร้างจากสามี เงินเก็บจึงถูกแบ่งออกไปเหลือแสนกว่าๆ เพราะเราได้ทรัพย์สินเป็นบ้าน โดยที่สามีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกทั้งหมด เรามีภาระแค่ค่างวดรถ10,310และประกันที่ตัดทางบัตรเครดิตเดือนละ739บาทต่อเดือน โดยวงเงินที่ตัดผ่านบัตรเราจะไปจ่ายทุกเดือน ฉนั้นสรุปภาระค่าใช้จ่ายเราแต่ละเดือนคือ 10,310+739=11,049 ค่าน้ำค่าไฟ และค่าตลาดแล้ว รวมๆ 20,000 บาท
มาต่อค่ะ ธ.CIMBได้แจ้งยอดที่เรากู้ได้ในวงเงินที่เรายื่นเรื่องกู้ไปคือ 2.89ล้าน
เรารับบทราบและอยากรอ ธนาคารที่เราชอบอยู่ในใจ คือธนาคาร ออมสิน เราก็รอทางธนาคารโทรมา สัก3อาทิตย์ได้ ธนาคารก็โทรมาหาเรา ช่วงที่เรากำลังขายของพอดี
เราดีใจมากที่พนักงานแจ้งว่าโทรมาจากธนาคารออมสิน
ทางพนักงานก็ได้สอบถามข้อมูลกับเรา ทวนชื่อนามสกุล ถามว่าเราทำอาชีพอะไร?
เราก็ตอบไปว่า "ทำอาชีพขายอาหารแช่แข็ง ทั้งปลีกและส่งค่ะ"
เขาก็ถามเราว่า "เธอขายทั้งสองแบบเลยหรอ? แล้ว เธอมีลูกจ้างไหม"
เราก็ตอบไปว่า"ไม่มีค่ะ เพราะจะส่งของช่วงวันที่หยุดขายปลีก คือวันพุธกับวันพฤหัสบดี"
พนักงานก็ถามเราต่อว่า"เทอมีสินทรัพย์อะไรมั้ย?"
เราจึงตอบว่า"มีบ้านพร้อมที่ดิน1หลังและประกันค่ะส่วนบ้านปลอดภาระแล้วค่ะ"
พนักงานเลยถามเราอีกว่า"ชั้นถามเธอจริงๆ เธอซื้อบ้านเพื่อไปให้คนเช่าหรอ?"
เราเลยตอบกลับไปว่า "ไม่ใช่ค่ะบ้านที่อยู่ปัจุบันอยู่ที่ชลบุรี ซึ่งตอนนี้หนูขายของที่ตลาดใน จ.ฉะเชิงเทรา เลยอยากได้บ้านเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไป-กลับ ไกลๆ
พนักงานเลยถามต่อว่า "ทำเธอทำบัญชีเองเหรอ ?" "ถามจริงเธอเรียนจบชั้นไหน ทำไมถึงทำบัญชียังกับเด็กประถมเลย?"
เราเลยตอบว่า"ม.6ค่ะ หนูเขียนประจำวันของหนูแบบนี้จริงๆ และหนูทำงานสองอย่างคนเดียวหนูไม่มีเวลาค่ะ หนูเขียนตามความเข้าใจของหนูค่ะ เขียนแค่พอรู้ว่าอาทิตย์นึงได้กำไรเท่าไหร่ค่ะ"
พนักงานเลยถามต่อไปว่า"ใช่หรอ?" เธอเขียนทุกวันจริงหรอ?"
เราเลยตอบเขาไปว่า"เขียนบัญชีเองทุกวันจริงๆ"
เขาเลยถามว่า "เธอมีภาระอะไรบ้าง???"
เราเลยตอบเขาว่า "มีรถกับประกันค่ะ"
พนักงานเลยบอกว่า "คุณมีหนี้บัตรเครดิตด้วยนะ คุณมีภาระค่าใช้จ่ายเรื่องลูกกับรถและบัตรเครดิต เดี๋ยวยังไงธนาคารจะติดต่อกลับไปนะ"
แล้วพนักงานก็วางสาย ไม่ถามเราสักคำว่า ลูกตกลงกับสามีว่ายังไง บัตรเครดิตคุณติดยอดเท่าไหร่? ใช้ซื้ออะไร? วางสายแบบปล่อยให้เรายืนงงคนเดียว
พออีกสองวันต่อมาเซลล์หมู่บ้านที่เราซื้อได้แจ้งเราว่า ธนาคารไม่อนุมัติวงเงินให้นะ เดี๋ยวทางเซลล์จะสอบถามให้เราอีกทีว่าเราไม่ผ่านการอนุมติเพราะอะไร งงในงงค่ะ
-อยากทราบว่าปกติทางธาคารออมสินพูดคุยสอบถามข้อมูลกับลูกค้าแบบนี้มั้ยคะ?
-แล้วเกณฑ์การอนุมัติต้องเงินเยอะกว่านี้หรอคะ?
ปล.เพราะคนรู้จักที่เป็นแม่ค้าด้วยกัน มีเงินหมุนน้อยกว่าเรา มีเงินเก็บสองหมื่นกว่าๆ ทางธนาคารยังอนุมัติเงินเกินตั้งสองแสนกว่า (ประมาณ2ล้านต้นๆค่ะ) คือที่ออกมาตั้งกระทู้ไม่ได้อะไรนะคะ แค่เสียความรู้สึกที่เจอคำพูดแบบไม่ให้เกียรติกันและข้องใจมากๆกับเกณฑ์การอนุมัติ
ขอบคุณสำหรับคนที่อุตส่าห์อ่านทั้งๆที่กระทู้ยาวและงงมากๆนะคะ เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี55555