หนักใจมาก

สวัสดีค่ะ
ขอแนะนำตัวอย่างคราวๆ ว่า เราเองเป็น ทอม อายุ 38 ปี ที่มีภาระและหน้าที่ ต้องรับผิดชอบคือ หลานสาว 2 คน และแม่ 1 คน
หลานคนโตอายุ 21 ปี เมื่อ 4 ปีที่แล้วเค้าเกิดอุบัติเหตุ รถชนจนทำให้ปัจจุบัน น้องพิการ ไม่สามารถ เรียนหนังสือต่อได้ แต่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง หลานคนเล็ก อายุ 17 ปี เค้าเรียนช้ากว่าเพื่อนๆ ประมาณ 2 ปี ตอนนี้เรียนอยู่ ชั้น ม.4 ส่วนคุณแม่ อายุ 66 ปี ซึ่งมีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดัน และตรวจพบเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้วว่าเป็น หินปูนเกาะลิ้นหัวใจ ซึ่งตอนนี้ รอรับการรักษา คุณหมอ แจ้งว่า ไม่ควรให้คุณแม่ไม่สบายใจ หรือมีเรื่องเครียดใดๆ และต้องเฝ้าระวัง น้ำสามารถท่วมปอดได้ตลอดเวลา
และเราเอง เป็นพนักงานออฟฟิศ และมีรับงานนอกบ้าง เป็นบ้างครั้ง เพราะค่าใช้จ่ายที่บ้านค่อนข้างเยอะมาก
แต่เหตุมันเกิดคือ หลานคนเล็ก เราจับได้ว่า เค้าโดดเรียน การเรียนตก และไปมีเพศ สัมพันธ์ กับ แฟนผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกัน และตอนนี้ เรื่องนี้ทำให้เราไม่สบายใจ เพราะน้องไม่ได้มีการป้องกัน และกินยาคุมฉุกเฉิน หลังจากมีเพศสัมพันธ์ กัน ไม่แน่ใจว่า จะท้องรึป่าว เรื่องนี้ เราไม่ได้บอกคุณแม่ให้ได้รับรู้ เพราะกลัวว่า คุณแม่จะตกใจและ ทรุดลงไปอีก บอกตรงๆว่าเราหนักใจมาก หากอีกสัก 2 อาทิตย์ ผลปรากฏว่า หลานเราท้อง เราไม่รู้จะบอก กับคุณแม่ว่า อย่างไรดี
เราเอง ต้องดูแล คุณแม่ คอยเฝ้าระวัง และต้องดูแลหลานคนโต ที่พิการ ต้องดูแลหลานคนเล็ก คอยระแวง และจัดการปัญหาของหลานคนเล็ก ในเรื่องการเรียน ลืมบอกอีกเรื่องว่า พ่อ กับแม่ของเด็กทั้ง 2 คนนี้ เค้าไม่ได้รับผิดชอบ ใดๆ เพราะหนีไปทั้งคู่แล้ว จนตอนนี้ทำให้ การทำงานของเรา มีปัญหาขึ้นมาเพราะ ปัญหาพวกนี้เราไม่ได้บอกที่ ทำงานเลยว่าตอนนี้ครอบครัวเรามีปัญหาอะไร บ้าง
เราอยากออกจากงานมาก เพราะตอนนี้ พอมีปัญหาทางบ้านทำให้การทำงานของเราไม่ทันใจ ของคนในที่ทำงานเดียวกัน
ซึ่งในที่ทำงาน ที่เราทำงานอยู่ จะมีเพื่อนที่ชวนเรามาทำงานที่นี่ เค้าไม่ค่อยพอใจ อยู่ตอนนี้เพราะเราทำงานช้ากว่าปกติ
คำถามคือ
1.  เราจะทำอย่างไรกับหลานสาวคนเล็กดี ให้เค้ากลับมาเป็นเด็กน่ารักและ ตั้งใจเรียนเหมือนเดิม
2. เราควรลาออกจากที่ทำงานประจำ (ซึ่งที่นี่ เรายังไม่ได้บรรจุอย่างจริงจังเป็นสัญญา ประมาณ1 ปี จะหมดสัญญาประมาณเดือนธันวาคม)
3. ในสะภาวะตอนนี้เราเครียดมาก แทบไม่ค่อยได้นอนเลย อยากหาวิธีพักผ่อน ที่ทำให้จิตใจเราสบายมากกว่านี้
4. สำหรับเพื่อนที่ทำงาน ที่ชวนเรามาทำงานที่นี่ เมื่อก่อนเราพอทราบว่า เค้ามีการกินเล็กกินน้อย แต่พอตอนนี้เราได้เข้าไปทำงานกับเค้าแบบจริงจัง และได้เห็นว่า เค้าเอาเงินส่วนต่างเข้ากระเป๋าตัวเอง เยอะมาก บางโปรเจ็ค เป็นแสนๆ ซึ่งอันนี้เราไม่สบายใจเลย เพราะมีบางส่วนใช้ชื่อเราในการรับเงิน เราควรบอกกับหัวหน้างาน หรือหัวหน้าบัญชีดีไหม ถ้าบอกเรากับเพื่อนจะหักกันไหม
ขอคำตอบ และคำปรึกษาดีๆหน่อยคะ เรากลุ้มใจมากและเครียดมากไม่รู้จะหันไปทางไหนดี
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ขออนุญาติตำหนิพ่อแม่เด็กนะคะ
ว่ามีปัญญาทำกันละไม่มีปัญญารับผิดชอบในสิ่งที่ทำ
เราว่านะคะคุณทนทำงานไปให้หมดสัญญาจ้างดีกว่านะคะ
และได้จ่ายประกันสังคมทุกเดิอนรึเปล่า
ถ้าจ่ายลงทะเบียนผู้ว่างงานด้วยนะคะจะได้รับเงินนชดเชยจากแฝประกันสังคม
มีเงินเก็บบ้างมั้ยลองลงทุนทำอะไรซักอย่างนึงดูค่ะ
สู้ๆนะคนขยันไม่อดตายนะ

อ้อส่วนเรื่องที่ถามว่าควรบอกหัวหน้างานมั้ยเราว่าควรกระซิบบอกแบบ2ต่อ2นะคะและให้เขาตรวจสอบบัญชีกันเอาเองค่ะว่าเงินมันโอนไปที่ใคร

อ้อถามหน่อยค่ะว่าหลานคนโตได้ลงทะเบียนคนพิการป่ะคะ
ไปลงนะคะเพราะได้เบี้ยยังชีพเดือนละ800เลยนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่