จากรูปนะครับ มีคนสรุปให้ว่าต้นทุนขายเฉลี่ยของหมอสุวินนั้นอยู่ที่ราวๆ 7.34 บาท/หุ้น ถ้าผมเป็นหมอ ผมก็ยังไม่ซื้อกลับเพราะราคาที่ขายกับราคาหุ้นปัจจุบันต่างกันไปมาก ดังนั้นถ้าหมอคิดจะทำ "SAP" คิดว่าราคาควรจะต้องต่ำกว่าทุนแกพอสมควร น่าจะสัก 5 บาทจะเริ่มคุ้มกับการซื้อคืนเมื่อคิดจากส่วนต่าง ตอนนี้หมอก็เลยใช้เงินบริษัทซื้อคืนไปก่อน
อีกประเด็นนึงที่ว่าขายให้ใคร จากภาพมีการเปลี่ยนสัดส่วนการถือหุ้นของหมอสุวินและภรรยาลดลง 140 ล้านหุ้น ทางคุณหมอให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการขายให้กองทุนทั้งในและต่างประเทศรวมถึงรายย่อยบางส่วน และจากรูปอีกเช่นกันจะพบว่ามีกองทุนบางกองเข้ามาใหม่ และบางกองขายออกไป ท่านลองไปคำนวณดูเอาครับว่ากองทุนไหนเพิ่มขึ้นมาเท่าไรบ้าง จึงจะรู้พอคาดการได้บ้างว่ามีกองทุนอะไรที่รับซื้อ big lot ล่าสุดนี้
ความเห็นผม ราคาล่าสุดที่หมอขายไปคือ 18.8 ผมก็ถือว่าแพงกว่ามูลค่าจริงๆ ของบิวตี้ไปเยอะมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าเจ้าของจะขาย เพราะราคาตอนนั้นเกินกว่าคุณภาพของธุรกิจ เหมือนที่หลายคนชอบบอกว่า ถ้าดีจริงเจ้าของจะขายเหรอ ใช่ครับธุรกิจมันไม่ได้ดีขนาดนั้นที่ตลาดจะไปให้ราคาเป็น 7-8 หมื่นล้านบาท
ส่วนราคาปัจจุบัน ความเห็นผมคิดว่าราคานี้ต่ำกว่าคุณภาพและมูลค่าธุรกิจพอสมควรทีเดียว คิดจาก P/E ตลาดที่ 17 เท่า แต่บิวตี้มีพีอีแค่ 16 เท่า และปันผลที่มากกว่า 5%หรือดูจากคู่แข่งอย่างคาร์มาร์ท ที่พีอี 16 เท่าๆกัน รวมถึงหุ้นหลายๆตัวในตลาดที่เทรดพีอีเกินกว่า 30 เท่า ผมนับจำนวนได้เกินกว่า 100 ตัวนะครับ หุ้นบางตัวลองไปดูครับว่ามันควรจะเล่นกันที่p/e ขนาดนั้นมั้ย
เครดิตรูปภาพ คุณ neuhiran จากเวปไทยวีไอ
BEAUTY ว่าด้วยเรื่องการขายหุ้นของหมอสุวิน และขายให้ใคร
อีกประเด็นนึงที่ว่าขายให้ใคร จากภาพมีการเปลี่ยนสัดส่วนการถือหุ้นของหมอสุวินและภรรยาลดลง 140 ล้านหุ้น ทางคุณหมอให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการขายให้กองทุนทั้งในและต่างประเทศรวมถึงรายย่อยบางส่วน และจากรูปอีกเช่นกันจะพบว่ามีกองทุนบางกองเข้ามาใหม่ และบางกองขายออกไป ท่านลองไปคำนวณดูเอาครับว่ากองทุนไหนเพิ่มขึ้นมาเท่าไรบ้าง จึงจะรู้พอคาดการได้บ้างว่ามีกองทุนอะไรที่รับซื้อ big lot ล่าสุดนี้
ความเห็นผม ราคาล่าสุดที่หมอขายไปคือ 18.8 ผมก็ถือว่าแพงกว่ามูลค่าจริงๆ ของบิวตี้ไปเยอะมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าเจ้าของจะขาย เพราะราคาตอนนั้นเกินกว่าคุณภาพของธุรกิจ เหมือนที่หลายคนชอบบอกว่า ถ้าดีจริงเจ้าของจะขายเหรอ ใช่ครับธุรกิจมันไม่ได้ดีขนาดนั้นที่ตลาดจะไปให้ราคาเป็น 7-8 หมื่นล้านบาท
ส่วนราคาปัจจุบัน ความเห็นผมคิดว่าราคานี้ต่ำกว่าคุณภาพและมูลค่าธุรกิจพอสมควรทีเดียว คิดจาก P/E ตลาดที่ 17 เท่า แต่บิวตี้มีพีอีแค่ 16 เท่า และปันผลที่มากกว่า 5%หรือดูจากคู่แข่งอย่างคาร์มาร์ท ที่พีอี 16 เท่าๆกัน รวมถึงหุ้นหลายๆตัวในตลาดที่เทรดพีอีเกินกว่า 30 เท่า ผมนับจำนวนได้เกินกว่า 100 ตัวนะครับ หุ้นบางตัวลองไปดูครับว่ามันควรจะเล่นกันที่p/e ขนาดนั้นมั้ย
เครดิตรูปภาพ คุณ neuhiran จากเวปไทยวีไอ