เมื่อคนเป็นพ่อและแม่รู้ว่าลูกเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา

เรื่องมี่ผมจะเล่า มันคือเรื่องจริงที่ผมกับแฟนต้องเจอและต้องทำใจยอมรับมัน เรามีลูกด้วยกันสองคน คนแรกแข็งแรงดีอายุเกือบสี่ขวบแล้ว ส่วนคนที่สองน้องเพิ่งคลอดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา น้ำหนักแรกคลอด 3290 กรัม ผลตรวจเบื่องต้นก่อนออกโรงพยาบาล น้องแข็งแรงดี หัวใจดี ปอดดี ทุกอย่างปกติ เมื่อกลับมาอยู่บ้านน้องก็ปกติดี กินเก่ง นอนเก่ง ไม่งอแง แต่อยู่ที่บ้านได้ประมาณสองอาทิตย์ น้องเริ่มมีอาการ ไอแห้งๆ เหงื่อออกเวลากินนม เราพาน้องไปหาหมอ หมอบอกเป็นปกติของเด็กที่ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ เช็คหัวใจกับปอดก็ปกติดี กลับบ้านได้ เมื่อกลับบ้านมาน้องก็มีอาการดีขึ้นไอบ้างนิดหน่อย เราก็คิดว่าไม่มีอะไรคงเป็นอย่างที่หมอบอก ก็ดูแลน้องตามปกติ ผ่านไปอีกสองอาทิตย์น้องก็เริ่มไอแห้งๆอีก เราก็พาน้องไปหาหมอ ก็ได้คำตอบเดิมอีก คือน้องยังปรับตัวไม่ได้ ปอดดี หัวใจดี กลับบ้านได้ จนมาวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมาน้องไออย่างหนักและงอแงไม่ยอมนอน เราจึงพาน้องไปหาหมอ ไปถึงหมอบอกว่าทำไมน้องหายใจหอบแบบนั้น ทำการตรวจเช็คพบว่า น้องมีค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ ความดันโลหิตตก และ มีภาวะหัวใจโต ปอดติดเชื้อ ต้องส่งเข้าโรงพยาบาลประจำจังหวัดด่วน เมื่อส่งเข้ามาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดหมอได้ตรวจเช็คอย่างระเอียดและแจ้งกับเราว่าน้องเป็นโรคหัวใจวายเฉียบพลันชนิดรุนแรงและซับซ้อน หรือ shone's complex คือ หัวใจฝั่งซ้ายไม่สมบูรณ์ มีเส้นเลือดหัวใจตีบ3จุดและเกิน1จุด คุณหมอบอกว่าพ่อและแม่ไม่ทราบย่อมไม่แปลก เพราะโรคจำพวกนี้ต้องได้รับการแอคโค่หัวใจถึงจะทราบ โรคจำพวกนี้ไม่ได้เกิดจากพันธุกรรมแต่เกิดจากตัวเด็กเองที่ไม่สามารถพัฒนาอวัยวให้สมบูรณ์ได้ และ น้องต้องผ่าตัดด่วน น้องรับการผ่าตัดแก้ไขไป1จุดในวันที่ 31 กรกฎาคม การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี เราสองคนคิดว่าน้องคงต้องดีขึ้นและมีทางรักษาให้หาย แต่มาวันนี้หมอได้แจ้งกับเราว่าโรคที่น้องเป็นอยู่หนักมาก และ ทางการแพทย์ยังไม่เคยมีใครสามารถผ่าตัดขยายห้องหัวใจได้มาก่อน ด้วนตัวโรคที่น้องเป็นรุนแรงมากไม่รู้ว่าน้องจะอยู่กับเราได้อีกนานแค่ไหนตอนนี้ก็คือดูอาการกันวันต่อวัน ผมกับแฟนยังทำใจไม่ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่คิดว่ามันคงมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับเรา แต่ความจริงก็คือความจริง ชีวิตยังต้องเดินต่อ ผมเลยอยากฝากถึงทุกคนที่มีลูก โปรดสังเกตุอาการของลูกของท่านว่ามีอาการดังต่อไปนี้หรือไม่
1.เวลากินนมเหงื่อออกเยอะ
2.ชอบนอนหัวสูง
3.ไม่ชอบให้อุ้มพาดบ่า
4.ลูกมีอาการไอแห้งๆโดยไม่มีสาเหตุ
หากมีอารการข้างต้นควรพาน้องไปตรวจเช็คหัวใจด้วยการ แอคโค่หัวใจ เพื่อตรวจดูโครงสร้างหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ หากพบสิ่งผิดปกติจะได้แก้ไขได้ทัน อีกอย่างฝากถึงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ พยายามอย่าเป็นหวัดเพราะจะส่งผลต่อลูกในครรภ์ให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ สุดท้ายนี้ก็ขอกำลังใจให้น้องสู้ต่อ น้องชื่อ เด็กหญิง ธนัญญา เพ็ชรนิล อายุ 1เดือน 29 วัน  เราก็ได้แต่หวังว่าจะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับเรา และ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ