วันนี้คุณยายพาแม่หมีทำ ส้มบักเขือเหลือง สำหรับชาวอีสาน คงคุ้นเคยกับเมนู ส้มบักเขือขื่นเป็นอย่างดี
บักเขือขื่นจะเหนียวๆหน่อย แต่วันนี้เราใช้มะเขือเหลือง ซึ่งคือ มะเขือเปราะที่แก่คาต้นนั้นเอง ทำออกมาแล้ว อร่อยกว่า เนื้อเยอะกว่า กรอบๆค่ะ
สืบเนื่องมาจาก ป้าก้อยเพื่อนคุณยาย ทำสวนมะเขืออยู่ ท้ายฤดูกาลป้าก้อยเก็บมะเขือขายไม่ทัน ปล่อยเหลืองคาต้น
คุณยายเห็นแล้วนึกเสียดาย ขับรถไป2 ชั่วโมง ไปช่วยป้าก้อยเก็บมะเขือ ที่สวนป้าก้อย ปลูกผักหลายอย่างในเรือนกระจก
ตอนแรกบอกจะพาคริสตัลไปเก็บทะเขือด้วย แต่เด็กเข้าไม่ได้เพราะ คุณยายบอก ข้างในร้อนมาก แทบจะเป็นลมเปิดระบายอากาศไม่ได้เดี๋ยวแมลงจะเข้า
เดินออกมาตัวเปียกเลย แถมพวกใบมะเขือถ้าโดนแล้วก็คัน ไม่เหมาะกับเด็กๆ
ป้าก้อยให้มาในราคาถูกๆ กิโลละ1 ยูโรเท่านั้น วันนั้นหอบมาทั้งมะเขือเหลือง ใบแมงลัก หมดไป200 ยูโร กินกันข้ามปีเลย 555
กลับมาบ้านกับกองมะเขือเยอะมาก เลยคิดว่าคงเอามาทำส้มผัก เป็นการถนอมอาหารของชาวอีสาน ตอนทำไปก็นึกว่าตัวเองเป็นแดจังกึมนะคะ กิมจิมะเขือเหลือง วิธีการทำไม่ยุ่งยาก แต่การทำต้องใช้เวลาและพลังงานหน่อย เพราะมะเขือมันมีขั้นตอนกว่าส้มผักชนิดอื่น
ขั้นแรก ต้องล้างะเขือก่อน ผึ่งให้แห้ง ตัดขั้วออก ผ่าครึ่ง ควักใส่ในที่เป็นเม็ดออก แต่อย่าคว้านจนไม่เหลือเนื้อนะ มะเขือไม่รู้กี่สิบโล นั่งทำกันจนปวดหลังเลย ควักแล้วเอาแช่น้ำเกลือไว้ก่อนค่ะ
ขั้นตอนที่ยากที่สุดจบไป ก็มาขั้นตอนที่ยากรองลงมา เราใช้กะหล่ำปลี ต้นหอม ต้นกระเทียม ทั้งหมดทำความสะอาดแล้วตากแดดไว้ คุณยายบอก ตากแดดไว้เวลาเอาไปคั้นมันจะได้คั้นง่ายๆ เอาผักทุกอย่างใส่รวมกัน ใส่เกลือ น้ำตาล(นิดหน่อย) และข้าวเหนียวนึ่งแช่น้ำ ค่อยๆนวด คั้น ขยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน จนผักนิ่ม ขั้นตอนนี้ก่อนทำล้างมือให้สะอาดนะคะ ใครมีแผลควรเลี่ยง แสบมือด้วย ไม่สะอาดต่อคนกินด้วย
ขยำจนผักนิ่มแล้ว เอาน้ำซาวข้าวมาเทใส่ ไม่ต้องมาก เทใส่หม้อ แล้วเอาถุงน้ำดันไว้ ปิดฝา หมักทิ้งไว้ 1 วันก็เริ่มได้ที่ ซัก2 วันก็กำลังดีค่ะ เปรี้ยวนิดๆ เค็มหน่อยๆ ผักกรอบๆ อร่อยมาก
ของทุกอย่างนั้นมีค่า แม้แต่มะเขือสีเหลืองๆที่สุกคาต้น เอามาทำเป็นเมนูอร่อยๆ ชวนให้คิดถึงบ้านเกิดกินได้ ทำเสร็จคุณยายยังแบ่งขายได้อีกด้วยน้าา
วันหยุดสุดหรรษา - คั้นส้มผักไว้กิน กับเมนู ส้มบักเขือเหลือง
บักเขือขื่นจะเหนียวๆหน่อย แต่วันนี้เราใช้มะเขือเหลือง ซึ่งคือ มะเขือเปราะที่แก่คาต้นนั้นเอง ทำออกมาแล้ว อร่อยกว่า เนื้อเยอะกว่า กรอบๆค่ะ
สืบเนื่องมาจาก ป้าก้อยเพื่อนคุณยาย ทำสวนมะเขืออยู่ ท้ายฤดูกาลป้าก้อยเก็บมะเขือขายไม่ทัน ปล่อยเหลืองคาต้น
คุณยายเห็นแล้วนึกเสียดาย ขับรถไป2 ชั่วโมง ไปช่วยป้าก้อยเก็บมะเขือ ที่สวนป้าก้อย ปลูกผักหลายอย่างในเรือนกระจก
ตอนแรกบอกจะพาคริสตัลไปเก็บทะเขือด้วย แต่เด็กเข้าไม่ได้เพราะ คุณยายบอก ข้างในร้อนมาก แทบจะเป็นลมเปิดระบายอากาศไม่ได้เดี๋ยวแมลงจะเข้า
เดินออกมาตัวเปียกเลย แถมพวกใบมะเขือถ้าโดนแล้วก็คัน ไม่เหมาะกับเด็กๆ
ป้าก้อยให้มาในราคาถูกๆ กิโลละ1 ยูโรเท่านั้น วันนั้นหอบมาทั้งมะเขือเหลือง ใบแมงลัก หมดไป200 ยูโร กินกันข้ามปีเลย 555
กลับมาบ้านกับกองมะเขือเยอะมาก เลยคิดว่าคงเอามาทำส้มผัก เป็นการถนอมอาหารของชาวอีสาน ตอนทำไปก็นึกว่าตัวเองเป็นแดจังกึมนะคะ กิมจิมะเขือเหลือง วิธีการทำไม่ยุ่งยาก แต่การทำต้องใช้เวลาและพลังงานหน่อย เพราะมะเขือมันมีขั้นตอนกว่าส้มผักชนิดอื่น
ขั้นแรก ต้องล้างะเขือก่อน ผึ่งให้แห้ง ตัดขั้วออก ผ่าครึ่ง ควักใส่ในที่เป็นเม็ดออก แต่อย่าคว้านจนไม่เหลือเนื้อนะ มะเขือไม่รู้กี่สิบโล นั่งทำกันจนปวดหลังเลย ควักแล้วเอาแช่น้ำเกลือไว้ก่อนค่ะ
ขั้นตอนที่ยากที่สุดจบไป ก็มาขั้นตอนที่ยากรองลงมา เราใช้กะหล่ำปลี ต้นหอม ต้นกระเทียม ทั้งหมดทำความสะอาดแล้วตากแดดไว้ คุณยายบอก ตากแดดไว้เวลาเอาไปคั้นมันจะได้คั้นง่ายๆ เอาผักทุกอย่างใส่รวมกัน ใส่เกลือ น้ำตาล(นิดหน่อย) และข้าวเหนียวนึ่งแช่น้ำ ค่อยๆนวด คั้น ขยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน จนผักนิ่ม ขั้นตอนนี้ก่อนทำล้างมือให้สะอาดนะคะ ใครมีแผลควรเลี่ยง แสบมือด้วย ไม่สะอาดต่อคนกินด้วย
ขยำจนผักนิ่มแล้ว เอาน้ำซาวข้าวมาเทใส่ ไม่ต้องมาก เทใส่หม้อ แล้วเอาถุงน้ำดันไว้ ปิดฝา หมักทิ้งไว้ 1 วันก็เริ่มได้ที่ ซัก2 วันก็กำลังดีค่ะ เปรี้ยวนิดๆ เค็มหน่อยๆ ผักกรอบๆ อร่อยมาก
ของทุกอย่างนั้นมีค่า แม้แต่มะเขือสีเหลืองๆที่สุกคาต้น เอามาทำเป็นเมนูอร่อยๆ ชวนให้คิดถึงบ้านเกิดกินได้ ทำเสร็จคุณยายยังแบ่งขายได้อีกด้วยน้าา