กาลครั้งนึงของความรัก
ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราคิดว่าเราคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดคนนึง ได้เป็นเจ้าหญิงตัวอ้วนๆของผู้ชายที่เขาบอกว่าเราคือหัวใจของเขา เรา 2 คน ผ่านเรื่องทุกข์ เรื่องสุขมาด้วยกัน กว่าจะผ่านด่านครอบครัวที่เข้มงวดเรื่องการเรียน จะมีคู่ ต้องเรียนนะลูก เราช่วยกันเรื่องเรียนจนผ่านช่วงมัธยมปลาย เข้าสู่ช่วงมหาลัยซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมากๆว่าเราจะผ่านปัญหาต่างๆไปได้ไหม....จนจบมหาลัยทั้งคู่ อดบ้าง มีบ้าง แต่เราก็ยังช่วยประคองกันเรื่อยมา จนเข้าสู่วัยทำงาน โชคดียังเข้าข้างเราที่ทำให้เราได้ทำงานที่เดียวกัน เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่เราก็เป็นกำลังใจให้กันและกัน จนถึงขั้นหมั้นหมายเลือกแล้วแหละว่านี่คือคู่ชีวิต หลายต่อหลายคนชื่นชมคู่ของเราว่าเหมาะสม อิจฉาที่ผู้ชายให้เกียรติเรา ทำให้เราเป็นเจ้าหญิงของเขา เป็นสุภาพบุรุษที่มีน้ำใจคอยช่วยเหลือทุกคน จนทุกๆคนเมตตาและรักใคร่ อ่านมาแล้วดูน่าจะ Happy ending ใช่ไหมคะ แต่และแล้ว...
ต้นปี 2561 เริ่มมีบางอย่างเปลี่ยนไป ฝ่ายชายเริ่มสนิทสนม ให้ความช่วยเหลือผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่า "พี่สะใภ้" จนเกินเลย เราไม่รู้ว่ามันถึงขั้นไหน แต่เราก็ยังดันทุรังบอกกับตัวเอง "ไม่เป็นไรนะ" เรารักเขา เราทนได้สิ เราเข้าใจ เพราะเราเองที่ผิด ที่ละเลยหน้าที่ของผู้หญิง พอมีบางอย่างให้เปรียบเทียบ เขาก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีกว่า เรื่องเริ่มใหญ่โต ผู้ใหญ่มองว่ามันผิดพลาดได้ เราคือผู้หญิงที่พังที่สุด คิดสั้น ต่างๆนานา เราประคองตัวเองลุกขึ้นมาท่ามกลางคนที่ห่วงใยและสงสาร จนมาถึงตอนนี้ทุกอย่างเหมือนจะชัดเจนขึ้น เราคุยกันมากขึ้น มีกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น เราได้ทำหน้าที่ลูกผู้หญิงมากขึ้น เขาเองก็ปรับตัว แต่เราคนที่พังที่สุด อยู่บนความหวาดระแวงเพราะความไว้ใจที่เคยมี มันสลายไปกับวันนั้นที่เขามาสารภาพ เราคิดเพียงว่า "เดี๋ยวมันก็ผ่านไป" เราใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น รักตัวเองมากขึ้น แต่ในห้วงเวลาสั้นๆมันก็ทำให้เรากลับมาวนที่เดิม เช็ค จับผิด แล้วเราก็เจอ....เขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น(อาจไม่เชิงชู้สาวแต่เราไม่เคยมีความสุขเลย) เขาคุยกับแฟนเก่า เขายังคุยกับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งเขาบอกว่ามันไม่มีอะไรแล้ว แต่ก็ยังคงมีปรึกษากัน เราแค่กลัวว่าวันนึงมันจะกลับไปเป็นแบบเดิม
สุดท้าย...และ...ท้ายสุด
มันจบลงแล้วค่ะทุกคน
ไม่มีคำใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการให้อภัย
ไม่มีรักใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าครอบครัว
ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง
เราจะผ่านมันไปให้ได้
กาลครั้งนึง...ความรัก
ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราคิดว่าเราคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดคนนึง ได้เป็นเจ้าหญิงตัวอ้วนๆของผู้ชายที่เขาบอกว่าเราคือหัวใจของเขา เรา 2 คน ผ่านเรื่องทุกข์ เรื่องสุขมาด้วยกัน กว่าจะผ่านด่านครอบครัวที่เข้มงวดเรื่องการเรียน จะมีคู่ ต้องเรียนนะลูก เราช่วยกันเรื่องเรียนจนผ่านช่วงมัธยมปลาย เข้าสู่ช่วงมหาลัยซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมากๆว่าเราจะผ่านปัญหาต่างๆไปได้ไหม....จนจบมหาลัยทั้งคู่ อดบ้าง มีบ้าง แต่เราก็ยังช่วยประคองกันเรื่อยมา จนเข้าสู่วัยทำงาน โชคดียังเข้าข้างเราที่ทำให้เราได้ทำงานที่เดียวกัน เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่เราก็เป็นกำลังใจให้กันและกัน จนถึงขั้นหมั้นหมายเลือกแล้วแหละว่านี่คือคู่ชีวิต หลายต่อหลายคนชื่นชมคู่ของเราว่าเหมาะสม อิจฉาที่ผู้ชายให้เกียรติเรา ทำให้เราเป็นเจ้าหญิงของเขา เป็นสุภาพบุรุษที่มีน้ำใจคอยช่วยเหลือทุกคน จนทุกๆคนเมตตาและรักใคร่ อ่านมาแล้วดูน่าจะ Happy ending ใช่ไหมคะ แต่และแล้ว...
ต้นปี 2561 เริ่มมีบางอย่างเปลี่ยนไป ฝ่ายชายเริ่มสนิทสนม ให้ความช่วยเหลือผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่า "พี่สะใภ้" จนเกินเลย เราไม่รู้ว่ามันถึงขั้นไหน แต่เราก็ยังดันทุรังบอกกับตัวเอง "ไม่เป็นไรนะ" เรารักเขา เราทนได้สิ เราเข้าใจ เพราะเราเองที่ผิด ที่ละเลยหน้าที่ของผู้หญิง พอมีบางอย่างให้เปรียบเทียบ เขาก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีกว่า เรื่องเริ่มใหญ่โต ผู้ใหญ่มองว่ามันผิดพลาดได้ เราคือผู้หญิงที่พังที่สุด คิดสั้น ต่างๆนานา เราประคองตัวเองลุกขึ้นมาท่ามกลางคนที่ห่วงใยและสงสาร จนมาถึงตอนนี้ทุกอย่างเหมือนจะชัดเจนขึ้น เราคุยกันมากขึ้น มีกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น เราได้ทำหน้าที่ลูกผู้หญิงมากขึ้น เขาเองก็ปรับตัว แต่เราคนที่พังที่สุด อยู่บนความหวาดระแวงเพราะความไว้ใจที่เคยมี มันสลายไปกับวันนั้นที่เขามาสารภาพ เราคิดเพียงว่า "เดี๋ยวมันก็ผ่านไป" เราใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น รักตัวเองมากขึ้น แต่ในห้วงเวลาสั้นๆมันก็ทำให้เรากลับมาวนที่เดิม เช็ค จับผิด แล้วเราก็เจอ....เขาคุยกับผู้หญิงคนอื่น(อาจไม่เชิงชู้สาวแต่เราไม่เคยมีความสุขเลย) เขาคุยกับแฟนเก่า เขายังคุยกับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งเขาบอกว่ามันไม่มีอะไรแล้ว แต่ก็ยังคงมีปรึกษากัน เราแค่กลัวว่าวันนึงมันจะกลับไปเป็นแบบเดิม
สุดท้าย...และ...ท้ายสุด
มันจบลงแล้วค่ะทุกคน
ไม่มีคำใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการให้อภัย
ไม่มีรักใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าครอบครัว
ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง
เราจะผ่านมันไปให้ได้