คนไทยอาจจะเรียกได้ว่า มีนิสัยที่แปลกประหลาดกว่าคนในทวีปเอเชียในส่วนอื่นๆ เพราะว่า
ยามศึก หรือยามเกิดภัยพิบัติใดใด คนไทยเรามักจะรบ/ช่วยเหลือกันอย่างเต็มกำลัง จะเห็นได้จากภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าติดที่ถ้ำหลวงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากว่า คนไทยไม่เคยทิ้งกัน
แต่พอยามสงบคนไทยก็มักจะรบกับคนในชาติกันเองทันที เหมือนกับกลุ่มสหภาพรถไฟฯ ที่เคยเขียนไว้ที่กระทู้
https://pantip.com/topic/37895073
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เมื่อฟอร์บส์ประกาศ 5 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทยประจำปี 2018
อันดับที่ 1 พี่น้องเจียรวนนท์
อันดับที่ 2 ตระกูลจิราธิวัฒน์
อันดับที่ 3 ตระกูลอยู่วิทยา
อันดับที่ 4 คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี
อันดับที่ 5 คุณวิชัย ศรีวัฒนาประภา
ก็จะเกิดกระแสจากสังคม และกลุ่มคนบางคนที่รู้สึกว่า "สนามหญ้าหน้าบ้านของคนอื่นเขียวกว่าสนามหญ้าหน้าบ้านตนทันที" โดยการยกคำเปรียบเทียบ หรือวลีขาประจำ เช่น "รวยกระจุก จนกระจาย" หรือ "ความเหลื่อมล้ำ" หรือ "คนรวย" หรือ "คนจน" ขึ้นมา
ก็ไม่ต่างอะไรกับการแบ่งแยกผิวสี หรือการแบ่งชนชั้น วรรณะ เพื่อให้เกิดการเรียกร้อง โดยที่ไม่มีการลงมือทำให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นเลย
หรือเป็นเพราะว่า ตามธรรมชาติของมนุษย์มักจะมองเห็นแต่ข้อเสียของคนอื่น โดยมองไม่เห็นข้อดีของคนอื่นเลยก็ได้ หากคนเราทำใจให้เป็นกลาง ...เดินถอยหลังสัก 1 ก้าว... เพื่อมองภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น อาจจะได้เห็นมุมมองที่กว้างกว่า ไกลกว่า ก็แค่นั้นเอง
แต่กลับมองไม่เห็นว่า การที่ตระกูล หรือคนเหล่านี้ร่ำรวย เพราะสาเหตุใดกันแน่ หากดูชื่อตระกูล และการดำเนินธุรกิจ ก็จะพบว่าธุรกิจต่างๆ ที่ติดอันดับมหาเศรษฐีจะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นมูลค่าโดยรวมของธุรกิจ ที่มีผู้ถือหุ้นแบ่งมูลค่าธุรกิจออกไปเป็นส่วนๆ
ดังนั้น การที่จะมาใช้คำเปรียบเปรยเหล่านี้ ก็แทบจะไม่ต่างจากการเหยียดผิว และสร้างกลุ่มก้อนของความคิดที่ขัดแย้งขึ้นในสังคมไทย เช่นเดียวกัน
ขอไว้อาลัยให้กับตัวเอง ที่เขียนเผยความจริงเรื่องสหภาพฯพูดไม่หมดในกระทู้ก่อนหน้านี้ แต่โดนแอดมินพันทิปไม่ให้แสดง ถึงแม้ว่าจะแก้ไขแท็กก็แล้ว ก็ยังไม่ยอมให้แสดง เราก็เลยจะขอพูดถึงกลุ่มสหภาพฯ กลุ่มนี้ ที่มีอำนาจ ที่สามารถปลูกผังความคิด และความเชื่อของคนไทยบางกลุ่มเป็นครั้งสุดท้าย
หวังว่าจะไม่โดนแบนอีกนะ
รวยกระจุก จนกระจาย ก็แค่วาทะกรรมสร้างความขัดแย้งทางสังคมเท่านั้นเอง
แต่พอยามสงบคนไทยก็มักจะรบกับคนในชาติกันเองทันที เหมือนกับกลุ่มสหภาพรถไฟฯ ที่เคยเขียนไว้ที่กระทู้ https://pantip.com/topic/37895073
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็จะเกิดกระแสจากสังคม และกลุ่มคนบางคนที่รู้สึกว่า "สนามหญ้าหน้าบ้านของคนอื่นเขียวกว่าสนามหญ้าหน้าบ้านตนทันที" โดยการยกคำเปรียบเทียบ หรือวลีขาประจำ เช่น "รวยกระจุก จนกระจาย" หรือ "ความเหลื่อมล้ำ" หรือ "คนรวย" หรือ "คนจน" ขึ้นมา
ก็ไม่ต่างอะไรกับการแบ่งแยกผิวสี หรือการแบ่งชนชั้น วรรณะ เพื่อให้เกิดการเรียกร้อง โดยที่ไม่มีการลงมือทำให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นเลย
หรือเป็นเพราะว่า ตามธรรมชาติของมนุษย์มักจะมองเห็นแต่ข้อเสียของคนอื่น โดยมองไม่เห็นข้อดีของคนอื่นเลยก็ได้ หากคนเราทำใจให้เป็นกลาง ...เดินถอยหลังสัก 1 ก้าว... เพื่อมองภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น อาจจะได้เห็นมุมมองที่กว้างกว่า ไกลกว่า ก็แค่นั้นเอง
แต่กลับมองไม่เห็นว่า การที่ตระกูล หรือคนเหล่านี้ร่ำรวย เพราะสาเหตุใดกันแน่ หากดูชื่อตระกูล และการดำเนินธุรกิจ ก็จะพบว่าธุรกิจต่างๆ ที่ติดอันดับมหาเศรษฐีจะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นมูลค่าโดยรวมของธุรกิจ ที่มีผู้ถือหุ้นแบ่งมูลค่าธุรกิจออกไปเป็นส่วนๆ
ดังนั้น การที่จะมาใช้คำเปรียบเปรยเหล่านี้ ก็แทบจะไม่ต่างจากการเหยียดผิว และสร้างกลุ่มก้อนของความคิดที่ขัดแย้งขึ้นในสังคมไทย เช่นเดียวกัน
ขอไว้อาลัยให้กับตัวเอง ที่เขียนเผยความจริงเรื่องสหภาพฯพูดไม่หมดในกระทู้ก่อนหน้านี้ แต่โดนแอดมินพันทิปไม่ให้แสดง ถึงแม้ว่าจะแก้ไขแท็กก็แล้ว ก็ยังไม่ยอมให้แสดง เราก็เลยจะขอพูดถึงกลุ่มสหภาพฯ กลุ่มนี้ ที่มีอำนาจ ที่สามารถปลูกผังความคิด และความเชื่อของคนไทยบางกลุ่มเป็นครั้งสุดท้าย
หวังว่าจะไม่โดนแบนอีกนะ