มันหน่วงจนต้องมาระบายเลยเชียว 😁
จริงๆชอบโมเม้นท์น่ารักๆของพระนางที่สุดนะ ดูธรรมชาติและน่ารักมากๆ ฟินมากตั้งแต่ช่วงกลางๆเรื่องจนถึง epi.11 และแล้วก็หักมุมมาดราม่าใน epi.12 มีทั้งความหน่วงและความอึน (จากบท จากผู้กำกับ จากนักแสดงที่ถ่ายทอดได้ดีมากกก เช่นแต้ว เจมส์ ที่แสดงออกต่อกัน แม้บางครั้งจะยิ้ม แต่แววตามันมีความเจ็บปวดแฝงอยู่ จนหน่วงตามกันเป็นแถบๆ) บอกเลยว่าปรับอารมณ์แทบไม่ทัน
แต่ในความหน่วง ความอึนๆ ของตอนนี้มีข้อดีอยู่นะ เพราะเป็นช่วงที่คนดูตัวละครจะได้เรียนรู้ เติบโตไปพร้อมๆกับตัวละครอย่างเข้มข้น
ในความอึน ความหน่วงในตอนนี้นั้น มันสะท้อนอะไรหลายๆอย่างให้คนดูได้คิดตามผ่านคำพูด การกระทำของตัวละคร การเข้าใจผิดกัน ปิดปังกัน ใช้อารมณ์ ประชดประชันกันไป ไม่เปิดใจคุยกัน มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น จนคิดว่าเฮ้ย ทำไมไม่ทำอย่างงั้นอย่างงี้ (ที่รู้เพราะตอนนี้เราเป็นคนดู หน่ะสิเนอะ หุหุ ซึ่งถ้าเราเป็นผู้เล่นเอง อาจจะมองไม่ออก มันจะมีอัตตา อคติ และอารมณ์มาบดบังก็เป็นได้) ซึ่งเป็นข้อดีของการที่เราเป็นคนดู เรียนรู้จากสิ่งที่ตัวละครคิด กระทำ และผลของการกระทำ ซึ่งเราว่ามันเอามาปรับใช้ได้ในชีวิตจริง (อย่างน้อยเมื่อถึงเวลาที่เราต้องเป็นผู้เล่นเอง อาจจะนึกถึงและฉุกคิดได้ก็เป็นได้)
ละครกำลังบอกเราว่า คนเราแต่ละคนมีปมของตัวเอง มีประสบการณ์ชีวิตที่ต่างกัน มีความคิดและการตัดสินใจกับปัญหาต่างกัน แต่ที่แน่ๆไม่ว่าจะคิดต่างกันอย่างไร หากเป็นไปได้ก็ควรเปิดใจคุยกัน อย่าเอาความคิดความรู้สึกเราไปตัดสินใจแทนอีกฝ่าย และที่สำคัญเวลาทุกนาทีในชีวิตนั้นมีค่าเกินกว่าที่จะเสียไปกับการโกรธกัน ทั้งที่ยังมีความรักและความหวังดีให้กัน (กรณียายนางเอกและแม่พระเอกก็เช่นกัน) มิเช่นนั้นอาจจะเข้าใจผิดกัน และกว่าจะกลับมาดีกันได้คงเสียน้ำตาไปหลายถังอยู่ หรืออาจจะไม่มีโอกาสนั้นเลยก็เป็นได้
ชอบฉากนี้อีกฉาก ที่นางเอกพูดกับยายเรื่องที่จะหย่าและยกลูกให้พระเอกเพื่อจะได้ไม่มีบ่วงอย่างที่ยายเคยบอก ในวันที่ยายคิดได้และลดทิฏฐิที่มีต่อแม่พระเอกลงแล้ว และมันคือการสะท้อนความคิดที่ยายเพาะบ่มให้หลานมาตลอด จนยายรู้สึกผิดและขอโทษหลานที่สอนหลานแบบผิดๆมาตลอด มันแอบจุกอยู่นะ
สรุปนอกจากความฟิน ความดราม่า ก็มีสาระอัดแน่นอยู่นะเรื่องนี้ เกมเสน่หา 😊👍✌💕
(ปล.ทุกวันนี้เราก็จริงจังกับแยกแยกขยะมากขึ้นด้วยนะ รักษ์โลกขึ้นมาทันที ก็คุณนัยสอนดี 😁)
เกมเสน่หา ในความหน่วงของตอนนี้ คนดูก็ได้เรียนรู้ เติบโตไปพร้อมๆกับตัวละคร
จริงๆชอบโมเม้นท์น่ารักๆของพระนางที่สุดนะ ดูธรรมชาติและน่ารักมากๆ ฟินมากตั้งแต่ช่วงกลางๆเรื่องจนถึง epi.11 และแล้วก็หักมุมมาดราม่าใน epi.12 มีทั้งความหน่วงและความอึน (จากบท จากผู้กำกับ จากนักแสดงที่ถ่ายทอดได้ดีมากกก เช่นแต้ว เจมส์ ที่แสดงออกต่อกัน แม้บางครั้งจะยิ้ม แต่แววตามันมีความเจ็บปวดแฝงอยู่ จนหน่วงตามกันเป็นแถบๆ) บอกเลยว่าปรับอารมณ์แทบไม่ทัน
แต่ในความหน่วง ความอึนๆ ของตอนนี้มีข้อดีอยู่นะ เพราะเป็นช่วงที่คนดูตัวละครจะได้เรียนรู้ เติบโตไปพร้อมๆกับตัวละครอย่างเข้มข้น
ในความอึน ความหน่วงในตอนนี้นั้น มันสะท้อนอะไรหลายๆอย่างให้คนดูได้คิดตามผ่านคำพูด การกระทำของตัวละคร การเข้าใจผิดกัน ปิดปังกัน ใช้อารมณ์ ประชดประชันกันไป ไม่เปิดใจคุยกัน มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น จนคิดว่าเฮ้ย ทำไมไม่ทำอย่างงั้นอย่างงี้ (ที่รู้เพราะตอนนี้เราเป็นคนดู หน่ะสิเนอะ หุหุ ซึ่งถ้าเราเป็นผู้เล่นเอง อาจจะมองไม่ออก มันจะมีอัตตา อคติ และอารมณ์มาบดบังก็เป็นได้) ซึ่งเป็นข้อดีของการที่เราเป็นคนดู เรียนรู้จากสิ่งที่ตัวละครคิด กระทำ และผลของการกระทำ ซึ่งเราว่ามันเอามาปรับใช้ได้ในชีวิตจริง (อย่างน้อยเมื่อถึงเวลาที่เราต้องเป็นผู้เล่นเอง อาจจะนึกถึงและฉุกคิดได้ก็เป็นได้)
ละครกำลังบอกเราว่า คนเราแต่ละคนมีปมของตัวเอง มีประสบการณ์ชีวิตที่ต่างกัน มีความคิดและการตัดสินใจกับปัญหาต่างกัน แต่ที่แน่ๆไม่ว่าจะคิดต่างกันอย่างไร หากเป็นไปได้ก็ควรเปิดใจคุยกัน อย่าเอาความคิดความรู้สึกเราไปตัดสินใจแทนอีกฝ่าย และที่สำคัญเวลาทุกนาทีในชีวิตนั้นมีค่าเกินกว่าที่จะเสียไปกับการโกรธกัน ทั้งที่ยังมีความรักและความหวังดีให้กัน (กรณียายนางเอกและแม่พระเอกก็เช่นกัน) มิเช่นนั้นอาจจะเข้าใจผิดกัน และกว่าจะกลับมาดีกันได้คงเสียน้ำตาไปหลายถังอยู่ หรืออาจจะไม่มีโอกาสนั้นเลยก็เป็นได้
ชอบฉากนี้อีกฉาก ที่นางเอกพูดกับยายเรื่องที่จะหย่าและยกลูกให้พระเอกเพื่อจะได้ไม่มีบ่วงอย่างที่ยายเคยบอก ในวันที่ยายคิดได้และลดทิฏฐิที่มีต่อแม่พระเอกลงแล้ว และมันคือการสะท้อนความคิดที่ยายเพาะบ่มให้หลานมาตลอด จนยายรู้สึกผิดและขอโทษหลานที่สอนหลานแบบผิดๆมาตลอด มันแอบจุกอยู่นะ
สรุปนอกจากความฟิน ความดราม่า ก็มีสาระอัดแน่นอยู่นะเรื่องนี้ เกมเสน่หา 😊👍✌💕
(ปล.ทุกวันนี้เราก็จริงจังกับแยกแยกขยะมากขึ้นด้วยนะ รักษ์โลกขึ้นมาทันที ก็คุณนัยสอนดี 😁)