การศึกษาไทย 4.0 อยู่ตรงไหน? ศ.ดร.สุรพล วิรุฬรักษ์... 1/8/2561 สรายุทธ กันหลง

การศึกษาไทย 4.0 อยู่ตรงไหน? ศ.ดร.สุรพล วิรุฬรักษ์...  1/8/2561 สรายุทธ กันหลง
https://pantip.com/topic/37917574
Cr: Tuang Untachai

ผมนำข้อเขียนยาก FB มาเสนอ .. สะอึกกับคำว่า "มีผู้ใหญ่เด็กมากมายง่วนอยู่กับการเอากระดาษมาชั่งกิโลโดยไม่มีเวลาเงยหน้าดูอะไรและคิดอะไรนอกจากทำให้มันเสร็จๆไป"  .. นักการศึกษาไทยที่มีอำนาจสั่งการมองว่าการศึกษาไทยล้มเหลว ก็เร่งสร้างกฎระเบียบตัวชี้วัดประกันคุณภาพมากมาย ครูอาจารย์ไม่มีเวลาตั้งใจสอนเพราะยู่งกับการทำเอกสารหรือทำผลงานวิชาการเพื่อเอาคะแนน  ทั้งๆที่ส่วนใหญ่สังคมไม่สามารถเข้าถึงผลงานวิชาการเหล่านั้นที่ตอบแทนด้วยเงินค่าคุณวุฒิที่มาจากภาษีของคนในชาติ กลายเป็นเอกสารชั่งกิโลบนหิ้ง
===

ศ.ดร.สุรพล วิรุฬรักษ์ เขียนปัญหาที่อาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยเผชิญอยู่ได้ตรงมาก "ผมเริ่มเรียนหนังสือมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลเมื่ออายุได้ห้าขวบจนจบปริญญาเอกเมื่ออายุสามสิบหกปี ได้สอนหนังสือตั้งแต่อายุยี่สิบปีจนถึงอายุเจ็ดสิบห้าปีก็ยังไม่สามารถหยุดสอนได้

ผมผ่านเครื่องเขียนตั้งแต่ดินสอหินกับกระดานชนวน ดินสอกับกระดาษที่ลบใช้ใหม่ ไปจนถึงโรเนียว ปิ้งแผ่นใส คอมพิวเต้อร์ อินเตอร์เนต มาจนถึงบิ๊กดาต้า

เรียนและในห้องเรียนซอมซ่อจนถึงห้องติดแอร์อุปกรณ์ครบ มีครูตั้งแต่จบมัธยมหกกับช้อกหนึ่งแท่ง จนถึงซูเปอร์ศาสตราจารย์ดร.พร้อมไอแพดและJ10

แต่ผมไม่ค่อยเห็นองค์ความรู้ใหม่ๆที่คนไทยคิดขึ้นใช้เอง แม้มีคนคิดได้หลายอย่างแต่ก็ไม่มีใครค่อยนำไปพัฒนาใช้ แม้มีคนคิดนอกกรอบได้น่าสนใจมากแต่ก็ขาดแรงเงินแรงใจแรงเมตตา

และบัดนี้การจัดการศึกษาของไทยกำลังถูกกระหน่ำด้วยกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในทุกทิศทางจนตั้งตัวแทบไม่ติด ฝ่ายหนึ่งก็เห็นว่าต้องปรับปรุงคุณภาพ จึงระดมออกเกณฑ์ต่างๆมาจนปรับตัวไม่ทันเพราะมันต้องใช้เวลากับงานเอกสารจนแทบไม่มีเวลาสอน ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เห็นว่าบัณฑิตผลิตไม่ตรงตรงผลิตเองใช้เองมากขึ้นๆ อีกพวกหนึ่งซึ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆคือพ่อแม่จัดการเรียนที่บ้านเรียกว่า home school เยาวชนก็เริ่มเสื่อมศรัทธากับมหาวิทยาลัย จึงไม่มาเรียน เรียนเองจากกูเกิ้ลจากแหล่งเรียนรู้ที่ตนสนใจ อยากออกแบบกราฟฟิก อยากทำอาหาร ไม่ต้องมาทนเรียนวิชาบังคับทั่วไป ๓๐ หน่วยกิตเช่นวิทย์กับชีวิต เขาพร้อมทำงานหาเงินไปเลือกเรียนตามใจไปพร้อมสตาร์ตอัพไป

อาจารย์ก็ต้องทำวิจัย ต้องตีพิมพ์ผลงาน ต้องบริการสังคม ต้องพัฒนานักศึกษา ต้องสอบภาษาอังกฤษให้ได้ระดับสูงๆ ต้องตีพิมพ์ผลงานระดับนานาชาติ ต้องประกันคุณภาพ ฯลฯ ผมอายุ ๗๕ ปีต้องกลับเข้ามาช่วยสอนเป็นลูกจ้างรายปี ต้องช่วยงานต่างๆเพราะอาจารย์น้อย ต้องทำวิจัยมิฉะนั้นคุณสมบัติไม่ครบ ต้องทำแต้มให้มีดรรชนีวัดคุณค่าเยอะๆ ฯลฯ

การทำผลงานทางวิขาการเพื่อขอเลื่อนขั้นก็ต้องมีปริมาณมากขึ้นคุณภาพก็ต้องสูงขึ้น หาคนอ่านตรงสาขาก็ยากขึ้น โปรโมทให้ทำผลงานแบบบูรณาการ แต่เมื่อนำมาขอกำหนดตำแหน่งวิชาการ ก็ไม่มีใครอ่านได้เพราะผู้ทรงคุณวุฒิล้วนมีความรู้เฉพาะทางอ่านงานบูรณาการไม่ค่อยถนัดงานขอนั้นก็กองไว้ก่อน
เรื่องสุดท้ายที่ขอพูดถึงคือเงินเดือนvsเนื้องาน พบว่าเงินเดือนน้อยงานเยอะระเบียบแยะ ทำได้สักพักก็ลาออก

มหาวิทยาลัยชั้นดีแห่งหนึ่งเคยมีนักศึกษาแย่งกันเข้าเรียนเต็ม ๘๐๐๐ ที่นั่งเมื่อ ๕ ปีก่อน บัดนี้เรียกสอบ ๓ รอบได้เพียง ๓๗๐๐ ที่นั่ง มีหลักสูตรซึ่งเคยเป็นที่นิยมรวม ๑๐๐ หลักสูตร แต่เนื่องจาก กฎระเบียบใหม่ ทำให้มีอาจารย์ ไม่มีคุณสมบัติครบถ้วนประการหนึ่ง และไม่มีนักศึกษาเข้ามาเรียนพอเพียงแก่การบริหารจัดการงบประมาณอีกประการหนึ่ง
จึงจำต้องปิดลง ๔๓ หลักสูตร
ผลกระทบอย่างรุนแรงเกิดขึ้นจริงแล้วดังตัวอย่างซึ่งแทนได้ทั้งประเทศ

ผมเดินมาถึงจุดนี้แล้ว
ผมไปต่อไม่ถูก
ผมรู้สึกเหมือนคนแก่เดินอยู่ในตรอกแคบๆ มีผู้ใหญ่เด็กมากมายง่วนอยู่กับการเอากระดาษมาชั่งกิโลโดยไม่มีเวลาเงยหน้าดูอะไรและคิดอะไรนอกจากทำให้มันเสร็จๆไป

สุดท้าย
ผมเห็นข่าวโรงเรียนที่ต่างชาติมาเปิด มันร่ำรวยหรูหราเลอเลิศเกินบรรยาย และผมก็ไปเยี่ยมโรงเรียน ตชด.ป่าละอูที่เด็กๆขาดแคลนทุกอย่าง

ทั้งหมดที่ปรารภมานี้

การศึกษาไทย ๔.๐ อยู่ตรงไหน"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่