สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เราว่าที่แม่แฟนต่อต้านเพราะ พวกคุณไปหาฤกษ์กันเองแล้วมาบอก ก็เป็นการข้ามหัวเขาเหมือนที่เขาบอกล่ะ เหมือนมัดมือชกจะต้องให้แต่งตามที่พวกคุณคิด คนในอีกวัยหนึ่งเขาคิดแบบนี้จริงๆ
ไม่ใช่แค่แม่แฟนคุณหรอก ถ้าลูกชายเราทำแบบนี้เราก็คงคิดเหมือนกัน ทั้งๆที่เราก็ให้อิสระลูกนะ แต่การจะทำอะไรก็ต้องมีการให้เกียรติกัน คุยกันก่อน ถามความเห็นสักนิดว่าทำแบบนี้ดีมั๊ย ถ้าแม่ไม่ว่างพวกคุณไปหาฤกษ์กันเองก็ได้นะ เป็นเราก็จะบอกว่าไปจัดการกันเองเลย ไม่ต้องให้ไปเจรจาสู่ขอก็ได้มั๊ง ทำกันเองได้แล้วนี่ เราไม่ใช่หุ่นกระบอกนะ มีหน้าที่ต้องทำตามคำสั่งลูกกับว่าที่ลูกสะใภ้ ให้ไปสู่ขอ ไปยืนฉีกยิ้มรับแขกตอนงานแต่ง
ตอนนี้เกิดเรื่องแล้วก็รออีกซักปีค่อยเริ่มใหม่ แล้วการพูดคุยเรื่องแต่งงานคุณก็ไม่ต้องไปเสนอหน้าพูดกับแม่เขา ให้แฟนคุณเป็นคนไปพูดตกลงเองแล้วก็ทำตามขั้นตอน
-ให้แฟนไปคุยกับแม่เขาว่าอยากแต่งงานแล้ว ไปอ้อนๆหน่อย ถ้าเห็นด้วยแม่เขาจะไปดูฤกษ์เอง บางคนจะไปสู่ขอยังต้องดูวันเลย
-ส่วนด้านคุณก็ไปถามแม่คุณเรื่องสินสอดว่ายังไง เสร็จแล้วคุณก็ไปบอกแฟน ให้แฟนเขาคุยกับแม่ให้เรียบร้อยก่อนว่าแค่ไหนเหมาะสม แล้วมาบอกคุณ เหมือนตกลงกันล่วงหน้า ไม่ใช่ไปต่อรองกันตอนสู่ขอเหมือนซื้อสินค้า ตอนนั้นแค่ทำตามประเพณีจะได้เกิดความรู้สึกดีๆกันทั้งสองฝ่าย
-พยายามอย่าเอาข้อมูลทางลบของพ่อแม่ของอีกฝ่ายไปให้พ่อแม่ของตัวเองรับรู้ ไม่งั้นพอมีอคติกัน ทำอะไรก็ไม่ราบรื่น
เราอ่านแล้วเหมือนคุณอยากแต่งงานมาก จัดการทุกอย่างเอง แม่แฟนเขาอาจจะไม่อยากได้ลูกสะใภ้ที่มาควบคุมลูกเขาก็ได้ ส่วนเรื่องที่ยังไม่แต่งตอนนี้ก้ไปบอกแม่คุณว่าทางพ่อแม่แฟนอยากให้รอเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ทั้งคู่ค่อยแต่ง ประดิษฐ์คำพูดหน่อยอย่าให้เกิดอคติกันเชียว ไม่งั้นพัง
ไม่ใช่แค่แม่แฟนคุณหรอก ถ้าลูกชายเราทำแบบนี้เราก็คงคิดเหมือนกัน ทั้งๆที่เราก็ให้อิสระลูกนะ แต่การจะทำอะไรก็ต้องมีการให้เกียรติกัน คุยกันก่อน ถามความเห็นสักนิดว่าทำแบบนี้ดีมั๊ย ถ้าแม่ไม่ว่างพวกคุณไปหาฤกษ์กันเองก็ได้นะ เป็นเราก็จะบอกว่าไปจัดการกันเองเลย ไม่ต้องให้ไปเจรจาสู่ขอก็ได้มั๊ง ทำกันเองได้แล้วนี่ เราไม่ใช่หุ่นกระบอกนะ มีหน้าที่ต้องทำตามคำสั่งลูกกับว่าที่ลูกสะใภ้ ให้ไปสู่ขอ ไปยืนฉีกยิ้มรับแขกตอนงานแต่ง
ตอนนี้เกิดเรื่องแล้วก็รออีกซักปีค่อยเริ่มใหม่ แล้วการพูดคุยเรื่องแต่งงานคุณก็ไม่ต้องไปเสนอหน้าพูดกับแม่เขา ให้แฟนคุณเป็นคนไปพูดตกลงเองแล้วก็ทำตามขั้นตอน
-ให้แฟนไปคุยกับแม่เขาว่าอยากแต่งงานแล้ว ไปอ้อนๆหน่อย ถ้าเห็นด้วยแม่เขาจะไปดูฤกษ์เอง บางคนจะไปสู่ขอยังต้องดูวันเลย
-ส่วนด้านคุณก็ไปถามแม่คุณเรื่องสินสอดว่ายังไง เสร็จแล้วคุณก็ไปบอกแฟน ให้แฟนเขาคุยกับแม่ให้เรียบร้อยก่อนว่าแค่ไหนเหมาะสม แล้วมาบอกคุณ เหมือนตกลงกันล่วงหน้า ไม่ใช่ไปต่อรองกันตอนสู่ขอเหมือนซื้อสินค้า ตอนนั้นแค่ทำตามประเพณีจะได้เกิดความรู้สึกดีๆกันทั้งสองฝ่าย
-พยายามอย่าเอาข้อมูลทางลบของพ่อแม่ของอีกฝ่ายไปให้พ่อแม่ของตัวเองรับรู้ ไม่งั้นพอมีอคติกัน ทำอะไรก็ไม่ราบรื่น
เราอ่านแล้วเหมือนคุณอยากแต่งงานมาก จัดการทุกอย่างเอง แม่แฟนเขาอาจจะไม่อยากได้ลูกสะใภ้ที่มาควบคุมลูกเขาก็ได้ ส่วนเรื่องที่ยังไม่แต่งตอนนี้ก้ไปบอกแม่คุณว่าทางพ่อแม่แฟนอยากให้รอเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ทั้งคู่ค่อยแต่ง ประดิษฐ์คำพูดหน่อยอย่าให้เกิดอคติกันเชียว ไม่งั้นพัง
ความคิดเห็นที่ 36
คุณอายุ 26 แฟนอายุ 24 คิดว่า โตเป็นผู้ใหญ่พอหรือยังล่ะ
ถ้าเป็นผู้ใหญ่พอแล้ว รู้จักคิดให้ถี่ถ้วน คงไม่เกิดเรื่องวุ่นๆ แบบนี้หรอกนะ
ใช่ ถูกต้อง ไม่ผิดหรอกที่มันเป็นชีวิตของพวกคุณสองคน พ่อแม่มายุ่งอะไรด้วย
แต่พวกเขาก็เป็นส่วนประกอบที่จะทั้งส่งเสริมหรือวุ่นวายในชีวิตสมรสของพวกคุณ
หลายๆ ความเห็นข้างบน เป็นคำแนะนำที่ดี ลองนำปรับใช้กับปัญหาของคุณ
แต่ที่แน่ๆ จขกท ควรลดบทบาทของตัวเองลงบ้างนะ ส่วนแฟนคุณควรเป็นผู้นำมากกว่านี้
ประเด็นนี้ล่ะที่ทางครอบครัวน่าจะเป็นกังวล ว่าที่สะใภ้อายุมากกว่าลูกชาย (ที่เป็นลูกคนเดียวด้วย) แถมยังดูเป็นคนชี้นำทุกอย่างด้วย แล้วต่อไปลูกชายฉันจะเป็นยังไงล่ะ (นี่ลองทายความรู้สึกในใจของว่าที่แม่สามี)
ถ้าเป็นผู้ใหญ่พอแล้ว รู้จักคิดให้ถี่ถ้วน คงไม่เกิดเรื่องวุ่นๆ แบบนี้หรอกนะ
ใช่ ถูกต้อง ไม่ผิดหรอกที่มันเป็นชีวิตของพวกคุณสองคน พ่อแม่มายุ่งอะไรด้วย
แต่พวกเขาก็เป็นส่วนประกอบที่จะทั้งส่งเสริมหรือวุ่นวายในชีวิตสมรสของพวกคุณ
หลายๆ ความเห็นข้างบน เป็นคำแนะนำที่ดี ลองนำปรับใช้กับปัญหาของคุณ
แต่ที่แน่ๆ จขกท ควรลดบทบาทของตัวเองลงบ้างนะ ส่วนแฟนคุณควรเป็นผู้นำมากกว่านี้
ประเด็นนี้ล่ะที่ทางครอบครัวน่าจะเป็นกังวล ว่าที่สะใภ้อายุมากกว่าลูกชาย (ที่เป็นลูกคนเดียวด้วย) แถมยังดูเป็นคนชี้นำทุกอย่างด้วย แล้วต่อไปลูกชายฉันจะเป็นยังไงล่ะ (นี่ลองทายความรู้สึกในใจของว่าที่แม่สามี)
แสดงความคิดเห็น
พ่อแม่แฟนบอกคนจีนถือว่าต้องแต่งงานอายุ 28 นี้คือเรื่องจริงหรือแค่ไม่อยากให้แต่งคะ ช่วยเข้ามาตอบหร่อยค่ะ T T
เราเลยไปดูฤกษ์มา (อาจจะไม่ได้ปรึกษาทั้งสองฝั่ง ยอมรับว่าผิดค่ะ) เราก็ช่วยกันกับแฟนเก็บเงินตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเพื่อจะแต่งต้นปีหน้า
เราบอกแม่เรื่องฤกษ์ที่ไปดูมา เค้าก็ไม่ว่าอะไร ยินดีจะให้แต่งงานถ้าเราอยากแต่งแล้ว ทุกคนในครอบครัวญาติๆเราโอเคทั้งหมดค่ะ
พอถึงตาที่แฟนเราต้องไปบอกพ่อแม่เค้าว่าอยากจะแต่งงานแล้ว พ่อแม่แฟนกลับไม่เห็นด้วย ด่าเราว่าทำอะไรไม่ปรึกษาฝั่งเค้าเลย
ทั้งๆที่แฟนและเรายืนยันว่าเราจะเก็บเงินแต่งเองไม่ได้จะไปพึ่งเค้า พ่อแม่แฟนเลยจะมาคุยกับบ้านเราว่าไม่พร้อมแค่จะไปพูดว่าเอาคนนี้แหละแต่ยังไม่พร้อม (เค้าบอกลูกชายเค้าแบบนั้น) ซึ่งแม่เราก็บอกว่าถ้าจะมาพูดมาสัญญาไม่ต้องมา ให้พร้อมแต่งงานแล้วค่อยมาพูด เพราะไม่ชอบสัญญาเอาไว้
- เรื่องมันเกิดเพราะเราไปบ้านแฟนจะไปคุยดีๆ แต่เค้าบอกส่งเด็กมาทำไมแทนที่จะเอาผู้ใหญ่มาคุย เค้าก็ด่าเราเสียๆหายๆ (อันนี้ยอมรับผิดว่าเราก็เถียงเค้าไปเหมือนกัน) เค้าบอกยังเด็กอยู่ อยากให้โตกว่านี้ คนจีนถือต้องแต่งงาน 28 ปีตอนแรกจะให้แต่ง 30 ปีนี้หยวนๆให้ 28 ละ (ได้ยินแบบนั้นยอมรับเสียใจมากต้องรออีก 4 ปีกว่าแฟน 28 แล้วตอนนั้นเราก็อายุ 30 แล้ว) คุยไปคุยมาเค้าก็บอกถ้าเธอรอได้ฉันจะไปหมั้นไว้ก่อน (เราคิดว่าหมั้นนานไปไหม 4 ปีเลยนะ)
- เค้าบอกว่าผู้ชายเข้าออกบ้านผู้หญิง พ่อแม่ผู้หญิงอยู่มันไม่น่าเกลียด ถ้าพ่อแม่ผู้หญิงไม่อยู่ถึงจะน่าเกลียด นี้พ่อแม่เธอก็รับรู้ จะไปแคร์คำพูดคนอื่นทำไม
- เค้าบอกว่าคนสมัยนี้แต่งงาน 30 เยอะแยะไปไม่ต้องกลัวเด็กดาวน์หรอก เค้าแต่ง 32 ปีมีลูกเห็นไหมไม่เห็นดาวน์เลย ฉันบริสุทธิ์และจัดงานแต่งใหญ่โต
- เข้าใจว่าถ้าจะให้รออีกปีสองปีคงไม่เป็นไร แต่นี้เค้าพูดเหมือนไม่อยากให้แต่ง จะแต่งก็ต้องรอต่อไป เค้าบอกรอได้ก็บอกจะไปผูกข้อไม้ข้อมือ รอไม่ได้ก็แล้วแต่
- เค้าด่าลูกชายเค้าว่าถ้าจะแต่งก็ไปเลย เงินสักบาทก็ไม่ต้องเอาไป เอาไปแต่ตัวถ้ามีเห็นผู้หญิงดีกว่าแม่นัก
เราก็ร้องแฟนก็ร้อง สุดท้ายก็ไปขอโทษเค้าค่ะ เราไม่อยากให้แฟนทะเลาะกับแม่
กลัว
*เราควรจะทำยังไงต่อไปดีค่ะ เรายังไม่ได้บอกพ่อแม่เลยกลัวท่านเสียใจ และจริงไหมที่คนจีนถือว่าต้องแต่งงานอายุ 28 ขึ้นไปคะ
ปล.แฟนเราเป็นลูกชายคนเดียวของเค้าค่ะ