สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
คำว่าประเทศเล็กๆ ก็ไม่ใช่และไม่เชิงครับ
ในแง่กายภาพ พื้นที่ 5แสนตร.กม. ก็ค่อนข้างใหญ่
ในแง่ประชากร 66ล้านคน ก็ถือว่าเยอะ
ส่วนจะพูดถึงบทบาทอำนาจในเวทีโลก
ในความรู้สึกของคนไทย ก็คงชัดเจนว่าเราเป็นประเทศเล็กๆ ไม่ได้มีปากมีเสียงอะไรมาก
ในทางวิชาการ จัดให้ไทยเป็นประเทศอำนาจปานกลาง (Middle power) มีประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศที่ยังจัดว่าเป็น Middle power ก็มีอยู่หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สเปน เกาหลีใต้
แต่ในการมองว่าประเทศใดจะมีอำนาจมากน้อยแค่ไหน ก็อาจมองได้หลายมุม
อย่างอินโดนีเซีย ที่ควรจะเป็นพี่ใหญ่ในอาเซียน เพราะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีทรัพยากรธรรมชาติมาก มีประชากรมาก แต่บทบาทนี้ก็ไปตกอยู่กับสิงคโปร์ประเทศเล็กๆที่เป็นเมืองท่าและศูนย์กลางการค้าในโลกตะวันออกแห่งหนึ่ง ฉะนั้นอย่าไปมองว่าประเทศใหญ่ๆต้องเป็นมหาอำนาจเสมอไป
และถ้าลองพิจารณาอำนาจของไทย ก็คงต้องบอกว่า เราเองก็มีอำนาจในมืออยู่พอตัว
ไม่ใช่ว่าเราเป็นศูนย์กลางอาเซียน หากแต่มาจากธรรมเนียมการฑูตของไทย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศต่างๆ
และความไม่ถือดี ไม่หยิ่งทะนง มีส่วนให้ไทยสั่งสมอำนาจมานาน
เช่น ในอดีตสมัย ร.5 พระองค์ท่านยอมเป็นไฝ่ลู่ลม ไม่ถือพระเกียรติเป็นใหญ่แต่ถือชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ ทรงยอมรับฝรั่งเข้ามาในราชสำนัก ยกเลิกการหมอบกราบเพื่อให้พวกฝรั่งพอใจเวลาเข้าเฝ้า ปรับพระองค์ให้ทันสมัย ทั้งการประดิษฐ์เครื่องราชฯแบบฝรั่ง ฉลองพระองค์ที่รับมาจากฝรั่ง เครื่องใช้ต่างๆ(แต่โดยเนื้อแท้แล้วพระองค์ค่อนข้างที่จะอนุรักษ์นิยม) การที่พระองค์สละพระเกียรติบางอย่างไป แต่ก็ได้การยอมรับจากฝรั่งกลับมา ทำให้สยามมีตัวตนในโลกในตอนนั้นไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนที่ถือแต่จารีตธรรมเนียมของตน ฝรั่งก็เกรงพระบารมี ต่างจากเจ้าของประเทศอื่นๆในอาเซียน ที่ฝรั่งมองเป็นตัวตลก
หรืออย่างในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ถ้ำหลวง ซึ่งถ้าตามอ่านข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ก็มีนักวิเคราะห์หลายคน วิเคราะห์ไว้ได้น่าสนใจมาก
โดยยกประเด็นว่า ทำไมประเทศไทยจึงแทบไม่มีปัญหาความขัดแย้งทางเชื้อชาติ ศาสนา กลับกันยังสามารถกลืนคนชาติอื่นให้มาเป็นคนไทยได้
คำตอบ ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในถ้ำหลวง ประเทศไทย ไม่สนหน้าตา ไม่หยิ่ง พอมีเหตุปุ๊บ เราก็รับความช่วยเหลือปั๊บ อะไรที่เราไม่ถนัด เราก็ฟังคำแนะนำจากต่างชาติ แถมเรายังดูแลผู้ร่วมปฎิบัติงานเป็นอย่างดี สะท้อนว่าคนไทย ไม่ถือตน ไม่คิดว่าตัวเองเก่ง พร้อมรับสิ่งใหม่เสมอ
แถมมีการไปเปรียบกับเหตุการณ์เครื่องบินตกในญี่ปุ่นเมื่อหลายสิบปีก่อน กับเหตุการณ์เรือล่มในเกาหลี ที่สองประเทศนี้ปฎิเสธความช่วยเหลือจากต่างชาติ ออกแถลงการณ์ประมาณว่าจัดการเองได้ คนอื่นไม่ต้องยุ่ง จนนำมาสู่ความสูญเสียมากมายในภายหลัง
รวมถึงอำนาจที่มาจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น จีน
ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่สามารถต่อรองกับจีนได้เสมอ
อย่างเช่น โครงการรถไฟควมเร็วสูง เราก็สามารถต่อรองจนได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำประมาณ1เปอร์เซ็นต์กว่าๆ ซึ่งก็ทำให้จีนหัวเสียพอตัวเพราะจีนก็ไม่เคยปล่อยกู้ดอกต่ำขนาดนั้น แถมไทยยังเสนอให้จีนเขามาร่วมทุนอีกต่างหาก ซึ่งจีนก็ตอบกลับมาตรงๆว่า ถ้าจะให้ร่วมทุนไทยก็ต้องยอมแบบลาว แต่ฝ่ายไทยก็ไม่รับข้อเสนอ พร้อมกับยื่นข้อเสนอใหม่ให้จีน คือ ไทยจะลงทุนเองทั้งหมด แต่จีนจะต้องถ่ายทอดความรู้ให้ไทย ในระดับที่ไทยสามารถบริหารจัดการเองได้ และวิศวกรไทยสามารถออกแบบและคุมการก่อสร้างในช่วง โคราช - หนองคาย ซึ่งจีนปฎิเสธเพราะถือว่าเป็นข้อเสนอที่จีนเสียเปรียบมาก การมานั่งสอนให้ไทยออกแบบและสร้างเองได้ ก็เท่ากับว่าไทยก็จะไม่จ้างจีนแล้ว ขายได้แค่ตัวรถอย่างเดียว
แต่สุดท้ายจีนก็รับข้อเสนอนี้ ส้รางความฮือฮามาก ลองไปหาข่าวภาษาต่างประเทศอ่านเลยครับ ขนาดในจีนยังตีข่าวนี้กันนาน เพระาไม่เคยมีประเทศกำลังพัฒนาประเทศไหนที่ต่อรองกับจีนที่ถือว่าเป็นจอมเคี่ยวได้ขนาดนี้
ในแง่กายภาพ พื้นที่ 5แสนตร.กม. ก็ค่อนข้างใหญ่
ในแง่ประชากร 66ล้านคน ก็ถือว่าเยอะ
ส่วนจะพูดถึงบทบาทอำนาจในเวทีโลก
ในความรู้สึกของคนไทย ก็คงชัดเจนว่าเราเป็นประเทศเล็กๆ ไม่ได้มีปากมีเสียงอะไรมาก
ในทางวิชาการ จัดให้ไทยเป็นประเทศอำนาจปานกลาง (Middle power) มีประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศที่ยังจัดว่าเป็น Middle power ก็มีอยู่หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สเปน เกาหลีใต้
แต่ในการมองว่าประเทศใดจะมีอำนาจมากน้อยแค่ไหน ก็อาจมองได้หลายมุม
อย่างอินโดนีเซีย ที่ควรจะเป็นพี่ใหญ่ในอาเซียน เพราะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีทรัพยากรธรรมชาติมาก มีประชากรมาก แต่บทบาทนี้ก็ไปตกอยู่กับสิงคโปร์ประเทศเล็กๆที่เป็นเมืองท่าและศูนย์กลางการค้าในโลกตะวันออกแห่งหนึ่ง ฉะนั้นอย่าไปมองว่าประเทศใหญ่ๆต้องเป็นมหาอำนาจเสมอไป
และถ้าลองพิจารณาอำนาจของไทย ก็คงต้องบอกว่า เราเองก็มีอำนาจในมืออยู่พอตัว
ไม่ใช่ว่าเราเป็นศูนย์กลางอาเซียน หากแต่มาจากธรรมเนียมการฑูตของไทย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศต่างๆ
และความไม่ถือดี ไม่หยิ่งทะนง มีส่วนให้ไทยสั่งสมอำนาจมานาน
เช่น ในอดีตสมัย ร.5 พระองค์ท่านยอมเป็นไฝ่ลู่ลม ไม่ถือพระเกียรติเป็นใหญ่แต่ถือชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ ทรงยอมรับฝรั่งเข้ามาในราชสำนัก ยกเลิกการหมอบกราบเพื่อให้พวกฝรั่งพอใจเวลาเข้าเฝ้า ปรับพระองค์ให้ทันสมัย ทั้งการประดิษฐ์เครื่องราชฯแบบฝรั่ง ฉลองพระองค์ที่รับมาจากฝรั่ง เครื่องใช้ต่างๆ(แต่โดยเนื้อแท้แล้วพระองค์ค่อนข้างที่จะอนุรักษ์นิยม) การที่พระองค์สละพระเกียรติบางอย่างไป แต่ก็ได้การยอมรับจากฝรั่งกลับมา ทำให้สยามมีตัวตนในโลกในตอนนั้นไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนที่ถือแต่จารีตธรรมเนียมของตน ฝรั่งก็เกรงพระบารมี ต่างจากเจ้าของประเทศอื่นๆในอาเซียน ที่ฝรั่งมองเป็นตัวตลก
หรืออย่างในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ถ้ำหลวง ซึ่งถ้าตามอ่านข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ก็มีนักวิเคราะห์หลายคน วิเคราะห์ไว้ได้น่าสนใจมาก
โดยยกประเด็นว่า ทำไมประเทศไทยจึงแทบไม่มีปัญหาความขัดแย้งทางเชื้อชาติ ศาสนา กลับกันยังสามารถกลืนคนชาติอื่นให้มาเป็นคนไทยได้
คำตอบ ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในถ้ำหลวง ประเทศไทย ไม่สนหน้าตา ไม่หยิ่ง พอมีเหตุปุ๊บ เราก็รับความช่วยเหลือปั๊บ อะไรที่เราไม่ถนัด เราก็ฟังคำแนะนำจากต่างชาติ แถมเรายังดูแลผู้ร่วมปฎิบัติงานเป็นอย่างดี สะท้อนว่าคนไทย ไม่ถือตน ไม่คิดว่าตัวเองเก่ง พร้อมรับสิ่งใหม่เสมอ
แถมมีการไปเปรียบกับเหตุการณ์เครื่องบินตกในญี่ปุ่นเมื่อหลายสิบปีก่อน กับเหตุการณ์เรือล่มในเกาหลี ที่สองประเทศนี้ปฎิเสธความช่วยเหลือจากต่างชาติ ออกแถลงการณ์ประมาณว่าจัดการเองได้ คนอื่นไม่ต้องยุ่ง จนนำมาสู่ความสูญเสียมากมายในภายหลัง
รวมถึงอำนาจที่มาจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น จีน
ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่สามารถต่อรองกับจีนได้เสมอ
อย่างเช่น โครงการรถไฟควมเร็วสูง เราก็สามารถต่อรองจนได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำประมาณ1เปอร์เซ็นต์กว่าๆ ซึ่งก็ทำให้จีนหัวเสียพอตัวเพราะจีนก็ไม่เคยปล่อยกู้ดอกต่ำขนาดนั้น แถมไทยยังเสนอให้จีนเขามาร่วมทุนอีกต่างหาก ซึ่งจีนก็ตอบกลับมาตรงๆว่า ถ้าจะให้ร่วมทุนไทยก็ต้องยอมแบบลาว แต่ฝ่ายไทยก็ไม่รับข้อเสนอ พร้อมกับยื่นข้อเสนอใหม่ให้จีน คือ ไทยจะลงทุนเองทั้งหมด แต่จีนจะต้องถ่ายทอดความรู้ให้ไทย ในระดับที่ไทยสามารถบริหารจัดการเองได้ และวิศวกรไทยสามารถออกแบบและคุมการก่อสร้างในช่วง โคราช - หนองคาย ซึ่งจีนปฎิเสธเพราะถือว่าเป็นข้อเสนอที่จีนเสียเปรียบมาก การมานั่งสอนให้ไทยออกแบบและสร้างเองได้ ก็เท่ากับว่าไทยก็จะไม่จ้างจีนแล้ว ขายได้แค่ตัวรถอย่างเดียว
แต่สุดท้ายจีนก็รับข้อเสนอนี้ ส้รางความฮือฮามาก ลองไปหาข่าวภาษาต่างประเทศอ่านเลยครับ ขนาดในจีนยังตีข่าวนี้กันนาน เพระาไม่เคยมีประเทศกำลังพัฒนาประเทศไหนที่ต่อรองกับจีนที่ถือว่าเป็นจอมเคี่ยวได้ขนาดนี้
แสดงความคิดเห็น
ไทยถือเป็นประเทศเล็กๆในสายตาชาวโลกจริงหรือครับ?