ช่วงวันหยุดยาวคนส่วนใหญ่จากต่างจังหวัดจะกลับบ้าน รวมทั้งผมด้วย
ส่วนคนที่เป็นชาวกรุงเต๊ปแท้ๆ ถ้าไม่ออกต่างจังหวัดก็เดินห้าง เดินบ่อยๆก็เบื่อสำคัญเสียเงิน
ชาวสินธรที่เป็นชาวกรุงแท้ๆ อยากมีบ้านนอกเป็นของตัวเองเพื่อไปใช้วิถีพอเพียง ปลูกพืช ปลูกดอกไม้
ในวันหยุด หรือใช้ชีวิตหลังเกษียน พี่แจ้ในฐานะคนบ้านนอก ที่หลังเกษียนแล้วไม่อยู่กรุงเทพแน่นอน มีข้อแนะนำดังนี้
1.รัศมีห่างจากบ้านกรุงเทพ ประมาณ 100 กม หรือสูงสุดไม่เกิน 200 กม เพราะรักแท้แพ้ระยะทาง
ไกลมากๆ เดินทางยาวนาน สุดท้ายก็เบื่อ
2.พื้นที่ 1-2 ไร่ สำหรับเกษตรพอใจ (ไม่เน้นรายได้ มีรายได้จากการลงทุนหรือบำนาญ)
ถ้ามากกว่านี้จะยากต่อการจัดการมาก เดี๋ยวนี้แรงงานในท้องถิ่นหายากมาก 1 ไร่ 400 ตารางวา
หรือ 1,600 ตารางเมตร พอแน่นอนครับ
3.เอกสารสิทธิ์ควรเป็น นส 3 ก หรือ โฉนดที่ดินแพงหน่อยระยะยาวคุ้ม ซื้อง่ายขายคล่อง
อย่าเห็นแก่ของถูกเช่น สปก ปัญหาจะตามมาให้ปวดหัว
4.ราคาที่แล้วแต่ทำเล ก็ตก 100,000-500,000 บาท/ไร่ ลองหาเยอะๆ อย่ารีบซื้อขี่ไปดูเรื่อยๆ
ถือโอกาสไปเที่ยวด้วย ก็จะได้ที่ดินทั้งทำเลและราคา ต่อรองและอาจจะเจอที่คนร้อนเงิน
5.อย่าซื้อผ่านนายหน้า สนใจจุดไหนก็ลองไปสอบถามคนในพื้นที่ จะได้ข้อมูลเช่น สถาพอากาศ น้ำ ราคาจะถูกกว่า
6.ที่ต้องมีไฟฟ้า และเจาะน้ำได้ (สำคัญถ้าจะปลูกพืช) มีอินเตอร์เนตเดี๋ยวนี้ต่างจังหวัดมี 3BB ของ Jas
เผื่อจะเปลี่ยนที่ เทรดหุ้น ส่วนเนตมือถือก็มีเกือบทุกที่แต่ก็นะราคามันสูงถ้าออนไลด์ทั้งวัน
7.สำหรับผู้ที่เกษียนหรือมีโรคประจำตัว ควรอยู่ห่างจากตัวจังหวัดไม่เกิน 30 กม เผื่อฉุกเฉินจะได้ถึงที่หมายเร็ว
8.เพื่อนบ้านสำคัญที่สุดเพราะเราไม่ได้อยู่ตลอด รั้วที่ดีไม่ใช่รั้วลวดหนามหรือกำแพงสูง
เพื่อนบ้านรอบๆจะเป็นรั้วที่ดี ซื้อของไปฝาก เขาก็จะช่วยคุณดูแลบ้านโดยไม่ต้องจ้าง ผมใช้วิธีนี้
ของฝากบ้านละ 100 บาท ดีกว่าถูกมือดี ขนของ งัดประตูหน้าต่าง หัวกอ๊ก มอเตอร์สูบน้ำ
9.อย่าปล่อยให้พื้นที่ว่าง เพราะหญ้า ต้นกระถิน จะขึ้นคลุมเหมือนป่าอเมซอน ตวรปลูก
กล้วย ไม้ผล หรือต้นสัก ทิ้งไว้คลุมพื้นที่
แนะนำต้นสักถ้าไม่รู้จะปลูกอะไร เพราะทนไฟโตเร็ว 3 ปี แรกจะคลุมพื้นที่ ราคาสูงเมื่ออายุ 30 ปี (เป็นบำนาญ)
ตอนนี้ต้นสักอายุ 15 ปีก็ราคาต้นละ 1,000 บาท ขึ้นไป

10.ไปดูที่บ่อยๆ ถ้าคิดว่าชอบแล้วอยากอยู่ แล้วค่อยซื้อที่ดิน ปลูกบ้านหลังเล็กๆ
หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ หรือ ซื้อตู้คอนเทเนอร์ที่เขาทำเป็นบ้านไปวาง งบ 3-5 แสน
>>>>การเลือกทำเลแบบง่ายๆ ไม่เป็นที่ตาบอด ไม่อยู่ทางโค้ง ไม่มีร่องน้ำผ่านที่ ไม่เป็นบึงน้ำเก่า
ห่างจากป่าช้า ไม่ไกลจากชุมชน ไม่อยู่ระหว่างช่องเขานัำป่าไหลผ่าน ที่ดินไม่ควรลาดเทมากๆ หรือที่ต่ำกว่าถนนมากๆ ต้องถมเยอะ
ปลูกพืชง่ายๆก่อนต้นฝน เช่น กล้วยน้ำว้า เป็นพืชนำ ก่อนจะหาต้นไม้อื่นๆที่ชอบ ทะยอยปลูก
ไม่ต้องหักโหม เว้นที่ไว้ ส่วนที่ว่างๆก็ปลูกสัก เหมือนด้านบน หรือ จะปลูกไม้อื่นๆ เช่น ประดู่ ยางนา อันนี้ไปขอที่
สถาณีเพาะกล้าไม้มีทุกจังหวัด เอาบัตรประชาชนไปยื่น เขาจะให้ฟรี 100 ต้น ก็เพียงพอ
พอไปอยู่ก็ปลูกผักกินเอง ปลูกผลไม้ประจำถิ่น ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะปลูกอะไร
ไปทำจริงๆ ก็อยากปลูกนั่นปลูกนี่ จะเพลินเลยครับ แล้วมีความภูมิใจ เอาผลผลิตปลอดสารกลับมาแจกญาติๆในกรุงอีกครับ
ข้อดี คุณจะแข็งแรงเพราะ ขุดดิน ดายหญ้า ขุดหลุมปลูก ตัดแต่งกิ่ง เก็บผลผลิต ประหยัดค่าใช้จ่าย
เป็นเซฟเฮ้าตอนคุณเบื่อกรุงเทพ พาลูกๆ หลานๆ มาหาประสบการณ์ชีวิตได้มากกว่าเดินห้าง
พาน้องหมาแมวมาวิ่งออกกำลังกายในสวน ประหยัดกว่าไปนอนโรงแรม
ข้อเสีย บางคนอาจเบื่อง่ายอยากเปลี่ยน หรือไม่ชอบปลูกพืช หรือติดชีวิตในเมืองที่สะดวกสบาย
ลองฝืนดูมันจะได้บรรยากาศอีกแบบเชื่อผม บางคนอินจนอยากเอาเมืองกรุงไปคืน
เช่น ปลูกผัก 7 อย่างในพื้นที่ 2 ตารางเมตร

เป็นไอเดียคนที่เบื่อกรุงเทพ วันหยุดไม่มีอะไรทำลองคิดดูแล้วกันครับ
@@@@@@ อย่าเชื่อผมเพราะผมมี บ้านนอกเป็นของตัวเอง@@@@@@
สาระวันหยุด ### ชาวสินธร ควรมีบ้านนอกเป็นของตัวเอง ###
ส่วนคนที่เป็นชาวกรุงเต๊ปแท้ๆ ถ้าไม่ออกต่างจังหวัดก็เดินห้าง เดินบ่อยๆก็เบื่อสำคัญเสียเงิน
ชาวสินธรที่เป็นชาวกรุงแท้ๆ อยากมีบ้านนอกเป็นของตัวเองเพื่อไปใช้วิถีพอเพียง ปลูกพืช ปลูกดอกไม้
ในวันหยุด หรือใช้ชีวิตหลังเกษียน พี่แจ้ในฐานะคนบ้านนอก ที่หลังเกษียนแล้วไม่อยู่กรุงเทพแน่นอน มีข้อแนะนำดังนี้
1.รัศมีห่างจากบ้านกรุงเทพ ประมาณ 100 กม หรือสูงสุดไม่เกิน 200 กม เพราะรักแท้แพ้ระยะทาง
ไกลมากๆ เดินทางยาวนาน สุดท้ายก็เบื่อ
2.พื้นที่ 1-2 ไร่ สำหรับเกษตรพอใจ (ไม่เน้นรายได้ มีรายได้จากการลงทุนหรือบำนาญ)
ถ้ามากกว่านี้จะยากต่อการจัดการมาก เดี๋ยวนี้แรงงานในท้องถิ่นหายากมาก 1 ไร่ 400 ตารางวา
หรือ 1,600 ตารางเมตร พอแน่นอนครับ
3.เอกสารสิทธิ์ควรเป็น นส 3 ก หรือ โฉนดที่ดินแพงหน่อยระยะยาวคุ้ม ซื้อง่ายขายคล่อง
อย่าเห็นแก่ของถูกเช่น สปก ปัญหาจะตามมาให้ปวดหัว
4.ราคาที่แล้วแต่ทำเล ก็ตก 100,000-500,000 บาท/ไร่ ลองหาเยอะๆ อย่ารีบซื้อขี่ไปดูเรื่อยๆ
ถือโอกาสไปเที่ยวด้วย ก็จะได้ที่ดินทั้งทำเลและราคา ต่อรองและอาจจะเจอที่คนร้อนเงิน
5.อย่าซื้อผ่านนายหน้า สนใจจุดไหนก็ลองไปสอบถามคนในพื้นที่ จะได้ข้อมูลเช่น สถาพอากาศ น้ำ ราคาจะถูกกว่า
6.ที่ต้องมีไฟฟ้า และเจาะน้ำได้ (สำคัญถ้าจะปลูกพืช) มีอินเตอร์เนตเดี๋ยวนี้ต่างจังหวัดมี 3BB ของ Jas
เผื่อจะเปลี่ยนที่ เทรดหุ้น ส่วนเนตมือถือก็มีเกือบทุกที่แต่ก็นะราคามันสูงถ้าออนไลด์ทั้งวัน
7.สำหรับผู้ที่เกษียนหรือมีโรคประจำตัว ควรอยู่ห่างจากตัวจังหวัดไม่เกิน 30 กม เผื่อฉุกเฉินจะได้ถึงที่หมายเร็ว
8.เพื่อนบ้านสำคัญที่สุดเพราะเราไม่ได้อยู่ตลอด รั้วที่ดีไม่ใช่รั้วลวดหนามหรือกำแพงสูง
เพื่อนบ้านรอบๆจะเป็นรั้วที่ดี ซื้อของไปฝาก เขาก็จะช่วยคุณดูแลบ้านโดยไม่ต้องจ้าง ผมใช้วิธีนี้
ของฝากบ้านละ 100 บาท ดีกว่าถูกมือดี ขนของ งัดประตูหน้าต่าง หัวกอ๊ก มอเตอร์สูบน้ำ
9.อย่าปล่อยให้พื้นที่ว่าง เพราะหญ้า ต้นกระถิน จะขึ้นคลุมเหมือนป่าอเมซอน ตวรปลูก
กล้วย ไม้ผล หรือต้นสัก ทิ้งไว้คลุมพื้นที่
แนะนำต้นสักถ้าไม่รู้จะปลูกอะไร เพราะทนไฟโตเร็ว 3 ปี แรกจะคลุมพื้นที่ ราคาสูงเมื่ออายุ 30 ปี (เป็นบำนาญ)
ตอนนี้ต้นสักอายุ 15 ปีก็ราคาต้นละ 1,000 บาท ขึ้นไป
10.ไปดูที่บ่อยๆ ถ้าคิดว่าชอบแล้วอยากอยู่ แล้วค่อยซื้อที่ดิน ปลูกบ้านหลังเล็กๆ
หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ หรือ ซื้อตู้คอนเทเนอร์ที่เขาทำเป็นบ้านไปวาง งบ 3-5 แสน
>>>>การเลือกทำเลแบบง่ายๆ ไม่เป็นที่ตาบอด ไม่อยู่ทางโค้ง ไม่มีร่องน้ำผ่านที่ ไม่เป็นบึงน้ำเก่า
ห่างจากป่าช้า ไม่ไกลจากชุมชน ไม่อยู่ระหว่างช่องเขานัำป่าไหลผ่าน ที่ดินไม่ควรลาดเทมากๆ หรือที่ต่ำกว่าถนนมากๆ ต้องถมเยอะ
ปลูกพืชง่ายๆก่อนต้นฝน เช่น กล้วยน้ำว้า เป็นพืชนำ ก่อนจะหาต้นไม้อื่นๆที่ชอบ ทะยอยปลูก
ไม่ต้องหักโหม เว้นที่ไว้ ส่วนที่ว่างๆก็ปลูกสัก เหมือนด้านบน หรือ จะปลูกไม้อื่นๆ เช่น ประดู่ ยางนา อันนี้ไปขอที่
สถาณีเพาะกล้าไม้มีทุกจังหวัด เอาบัตรประชาชนไปยื่น เขาจะให้ฟรี 100 ต้น ก็เพียงพอ
พอไปอยู่ก็ปลูกผักกินเอง ปลูกผลไม้ประจำถิ่น ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะปลูกอะไร
ไปทำจริงๆ ก็อยากปลูกนั่นปลูกนี่ จะเพลินเลยครับ แล้วมีความภูมิใจ เอาผลผลิตปลอดสารกลับมาแจกญาติๆในกรุงอีกครับ
ข้อดี คุณจะแข็งแรงเพราะ ขุดดิน ดายหญ้า ขุดหลุมปลูก ตัดแต่งกิ่ง เก็บผลผลิต ประหยัดค่าใช้จ่าย
เป็นเซฟเฮ้าตอนคุณเบื่อกรุงเทพ พาลูกๆ หลานๆ มาหาประสบการณ์ชีวิตได้มากกว่าเดินห้าง
พาน้องหมาแมวมาวิ่งออกกำลังกายในสวน ประหยัดกว่าไปนอนโรงแรม
ข้อเสีย บางคนอาจเบื่อง่ายอยากเปลี่ยน หรือไม่ชอบปลูกพืช หรือติดชีวิตในเมืองที่สะดวกสบาย
ลองฝืนดูมันจะได้บรรยากาศอีกแบบเชื่อผม บางคนอินจนอยากเอาเมืองกรุงไปคืน
เช่น ปลูกผัก 7 อย่างในพื้นที่ 2 ตารางเมตร
เป็นไอเดียคนที่เบื่อกรุงเทพ วันหยุดไม่มีอะไรทำลองคิดดูแล้วกันครับ
@@@@@@ อย่าเชื่อผมเพราะผมมี บ้านนอกเป็นของตัวเอง@@@@@@