** กระทู้นี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการตามหากระเป๋า... ที่เราลืมไว้ที่ไหนสักแห่งขณะเดินทางในรถไฟในยุโรป **
หมายเหตุ
1. ทริคเล็กๆน้อยๆที่ให้ไปอาจจะไม่ยิ่งใหญ่ แต่ จขกท ก็หวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่น... แค่สักคนก็ยังดี
2. ประเด็นหลักก็จะมีแค่
4 3 ข้อที่ทำตัวหนาไว้ข้างใต้ค่ะ... นอกนั้นเมาส์ 55555555555555555555555555 คืออยากเล่าให้เพื่อนฟังแต่ไม่รู้จะเล่ายังไงให้ครบทุกคน ก็เลยขออนุญาตเขียนแทนแล้วกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สรุปคือ 1. ตั้งสติ 2. ติดต่อ สำนักงานกระเป๋าหาย หรือ ทุกช่องทางที่สามารถ 3 เตือนตัวเอง... คราวหลังสติต้องมีกว่านี้
ปุจฉา: ในขณะที่เดินทางอยู่นั่น....เห้ยยย ลืมกระเป๋าไว้ไหนก็ไม่รู้ ทำไงดี?
ขอเริ่มต้นตั้งแต่การตัดสินใจไปเที่ยว Bolzano ที่อิตาลี เนื่องจากมีพี่คนรู้จักอยู่ที่นั้น... พอดีพี่เค้าจะกลับไทยแล้วเค้าบอกว่าคงได้ซื้อกระเป๋าเพิ่ม 0/นี่เลยเสนอกระเป๋าลากให้เค้าไปใบนึง เพราะว่าจะฝากของกลับไทยด้วย <<<<<< มันเริ่มต้นจากตรงนี้ข่าาาาท่านผู้โฉมมม เพราะปกติแบ็คแพ็คตล๊อดดด
วันศุกร์ 20 กค 2018 นั่งรถไฟ ซัลบวก-โบซ่าโน่ และต้องแวะเปลี่ยนรถไฟที่ Rosenheim โดยมีเวลาเปลี่ยนประมาณ 10 นาที กว่าจะถึง 16.14 (ปกติก็ต้องเช็คว่า เวลา และเลขของรถไฟว่าตรงกันไหม พอขึ้นไปรอตรงแพลทฟอร์มเวลามันใช่แต่ว่าเลขรถไฟมันดันไม่ใช่... จขกทเลยเข้าไปถามชะนีข้างๆ นางก็ตอบอย่างมั่นใจว่าจขกทรอถูกคันแล้ว จขกทถามย้ำไปอีกนะว่าจะไปโบซ่าโน่ ซึ่งไม่น่าเป็นสถานีสุดท้ายของสาย นางก็ทำหน้ามั่นใจขั้นสุด... หน้านางแบบมั่นใจมากจน จขกท ไม่กล้าไปถามอินโฟเมชั่นเลยคร่าา )
จังหวะที่ก้าวขึ้นรถไฟนั้นมันมีความรู้สึกว่าไม่ใช่ละ...มันไม่ใช่ ÖBB หรือ DB แต่มันเป็น Meridian train ... นี่เลยลองหารถไฟที่เป็น ÖBB หรือ DB ที่เวลาออกใกล้กัน... อิ๊บอ๊ายยยละ อยู่อีกแพลตฟอร์มนึง... ลองเช็คเส้นทางในรถไฟที่เราขึ้นมีเส้นทางบอกด้วยซึ่งเป็นตัวการันตีได้ว่า 0/นี่ขึ้นผิดคัน จขกทก็เลขลงในสถานีก่อนหน้านั้นทันที (ห่างจากสถานีต้นทางประมาณ 11 นาที) และยังไงก็คือตกรถไฟไปแล้วจริงๆ
ก็เลยเข้าไปหาคนขายตั๋วเพื่อดูตั๋วใหม่ คนขายตั๋วก็บอกว่า วันนี้ไปไม่ได้แล้วแหระโบซ่าโน่รถหมดแล้ว... จขกทก็เลยหาหนทางไปเอง โดยขึ้นรถบัสต่อรถไฟอะไรก็ว่ากันไป แต่ต้องกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานีหลัก ซึ่งก็ต้องรอรถไฟขากลับไปที่เดิมอีกครึ่งชั่วโมง เลยเข้าไปร้านเบเกอรี่เพราะหิว ตอนออกมาก็รู้สึกว่า... เอ๊ะเราลืมอะไรไปรึป่าว
พอกลับมาที่สถานีหลัก ก็เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ขายตั๋วเค้าก็ให้เส้นทางที่มาพร้อมกับรถบัสโดยที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่มมม (อันนี้ไม่รู้จริงๆว่าทำได้ ตอนแรกกะไปซื้อตั๋วใหม่อยู่แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่คนก่อนหน้าบอกว่าตั๋วที่เรามีเป็นตั๋วขาเดียวยังไงยูก็ต้องซื้อใหม่ อีกอย่างที่ไม่ได้ซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตเพราะว่าไม่มีเน็ต 555555 แล้ว ÖBB ไม่ยอมรับตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ในกรณีข้ามประเทศ แต่ DB รับ)
ได้ตั๋วแล้ว... เดินเข้าแม็คโดนัลในสถานีว่าจะไปนั่งเล่นเพราะไม่รู้จะกินอะไร (ไม่ชอบขนมปัง) พอจะไปรอรถไฟรอบ 18.14 ... เฮลโล่ว์กระเป๋าไม่อยู่แล้วจร้าา ไม่รู้ว่าลืมไว้ไหนด้วยประเด็น
1. ตั้งสติ
เข้าไปหาสำนักงานตามหากระเป๋าบอกเล่าเรื่องราวให้เค้าตามหา แต่บังเอิญมันเป็นวันศุกร์เค้าเลยบอกให้มาที่นี่อีกทีวันจันทร์
- ให้เจ้าหน้าที่โทรเช็คสถานีที่เราลงไป Bad Endorf ให้เค้าตามหาทั้งในสถานีและร้านเบเกอรี่
- ขอเบอร์โทรที่สามารถติดต่อถามเรื่องกระเป๋าได้
- ถามว่ามีให้กรอกแบบฟอร์มอะไรไหม... แต่เค้าบอกไม่มี
- เข้าไปคุยกะเจ้าหน้าที่ขายตั๋วอีกครั้งเรื่องตั๋วที่เราไม่ได้ใช้ ให้เค้าลงลายชื่อเพื่อที่จะได้ใช้งานอีกครั้งในพรุ่งนี้
- กลับไปสถานีเดิมที่คิดว่ากระเป่าหาย... ไปตามหาที่ร้านเบเกอรี่ เค้าบอกว่าไม่เจอให้มาถามใหม่วันเสาร์ตามเวลาที่ร้านเปิด
ถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ละว่าจะนอนที่ไหน เพราะว่าไม่ได้เช่าโรงแรมมา เน็ตก็ไม่มี... แต่ต้องตัดสินใจภายในสองนาทีว่าจะขึ้นรถไฟกลับออสเตรียหรือว่าไปนอนเล่นในโรงแรมที่โรเซนแฮม เนื่องจากว่าถ้าไม่ขึ้นรถไฟรอบนี้ก็ต้องรออย่างน้อยอีกครึ่งชั่วโมง 0/นี่ก็กระโดดขึ้นรถไฟไปเลยจร้าา แล้วค่อยไปคิดเอาดาบหน้า
- โทรหาเพื่อนว่าไปนอนที่บ้านแม่เค้าได้ไหม... แต่บังเอิญโทรไม่ติด
- ขออินเตอร์เน็ตน้องคนข้างๆมาใช้... แต่บังเอิญสัญญาณไม่ดี
- คุยกะน้องข้างๆบอกเค้าว่าขอแชร์เน็ตหน่อยได้ไหม สุดท้ายก็ยังกล้าถามน้องเค้าว่าไปนอนด้วยได้ไหม... แต่บังเอิญน้องบอกว่า เห้ยยย คุณพี่คร่ะพอดีว่าหนูไม่เจอแฟนมาสองเดือนแล้วอะคะ (ตรงจุดนี้เราก็เข้าใจ)
- เลยคิดว่า โอเคร๊กลับไปนอนโรงแรมที่ซัลบวกก็ได้แว๊
2. ติดต่อ สำนักงานกระเป๋าหาย หรือทุกช่องทางที่สามารถ
หาช่องทางการติดต่อได้ที่หน้าเว็บของเค้าเลยค่า
- ติดต่อ ÖBB
- ติดต่อ DB
- ติดต่อ lost and found office ของทางซัลบวกและมิวนิค เพราะว่าเป็นเส้นทางของรถไฟสายที่เราต้องสงสัยว่าน่าจะหาย
- ติดต่อ Hotline ของ Meridian เพราะว่าทำงาน 24 ชั่วโมง วันละ2เวลา เช้า-เย็น
- ติดต่อตำรวจในเขตพื้นที่ ขอดูวีดีโอ... แต่พอดีว่ามันมีกฏของที่นี่แบบว่าห้ามบันทึกวีดีโอใดๆ ถ้าอยากจะขอดูกล้องวงจรปิดก็ต้องขอดูได้แบบไลฟ์แต่ต้องมีหนังสือนำมาก่อน
ข้อมูลที่ควรบอก
-เลขของรถไฟที่เราขึ้น //หาในเน็ตได้
-เวลาที่เราขึ้น
-สีกระเป๋า
-ประเภทและขนาดของกระเป๋า
-ยี่ห้อกระเป๋า
-ของในกระเป๋า
3. เตือนตัวเอง... คราวหลังสติต้องมีกว่านี้
หลังจากทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ก็ตระหนักได้ว่าคงได้แค่รอวันจันทร์ค่อยกลับไปที่ โรเซนแฮม อีกทีเพราะว่าเสาร์อาทิตย์คงยากจริงๆ แต่สุดท้ายวันจันทร์เช้า โทรไปก็ไม่มี... เลยตัดสินใจกลับไปออสเตรียโดยใช้เส้นทางผ่านโรเซนแฮม ... รถไฟก็เลทมาถึงโรเซนแฮม 17.54 เกือบไม่ทันสำนักงานกระเป๋าหาย โดนเหวี่ยงเล็กน้อยจากเจ๊เจ้าหน้าที่เพราะจะหมดเวลาทำงานแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่สุดท้ายก็ได้กระเป๋าคืนค่าาา โล่งงง
สรุปบทเรียน
1. ถ้าไม่รู้เส้นทางการเดินทางให้ถาม information desk
2. การขึ้นรถไฟควรดู เวลาออก เลขรถไฟ สถานีปลายทาง ---ซึ่งบางทีเวลามันจะเวลาเดียวกันเป๊ะ และบางทีมันจะไม่โชว์ในมอนิเตอร์หลักของแพลตฟอร์ม
3. ต้องเช็คเงื่อนไขการใช้ตั๋วโดยสาร เพราะถ้า ใช้แบบอิเล็คทรอนิกส์ได้ก็ดีไป ถ้าบางสายก็จะไม่รับตั๋วอิเล็กทรอนิกส์
4. ข้อมูลที่ให้เป็นข้อมูลในเดือนกรกฏาคม 2561 ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากนี้อาจจะไม่ใช่วิธีเดิมแล้ว
ปล. ปกติอินเตอร์เน็ตเชงเก้นใช้โรมมิ่งกันได้อยู่แล้วค่ะ แต่ 0/นี่ไม่มีอินเตอร์เน็ต เน้นแต่ไวไฟฟรีอย่างเดียววว 5555555555555 #ด่าได้แต่อย่าแรง #ไม่มีเน็ตไม่ได้แปลว่าเที่ยวไม่ได้
ปล2. ที่ต้องตามหาขนาดนี้เพราะว่า โน๊ตบุ๊คของมหาลัยอยู่ในนั้นจร้าาาาา หึหึ
edit: จาก4 เป็น 3 ในหมายเหตุข้อที่2
แชร์ประสบการณ์: ตามหากระเป๋าในต่างแดน+++ (2018)
หมายเหตุ
1. ทริคเล็กๆน้อยๆที่ให้ไปอาจจะไม่ยิ่งใหญ่ แต่ จขกท ก็หวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่น... แค่สักคนก็ยังดี
2. ประเด็นหลักก็จะมีแค่
43 ข้อที่ทำตัวหนาไว้ข้างใต้ค่ะ... นอกนั้นเมาส์ 55555555555555555555555555 คืออยากเล่าให้เพื่อนฟังแต่ไม่รู้จะเล่ายังไงให้ครบทุกคน ก็เลยขออนุญาตเขียนแทนแล้วกัน[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอเริ่มต้นตั้งแต่การตัดสินใจไปเที่ยว Bolzano ที่อิตาลี เนื่องจากมีพี่คนรู้จักอยู่ที่นั้น... พอดีพี่เค้าจะกลับไทยแล้วเค้าบอกว่าคงได้ซื้อกระเป๋าเพิ่ม 0/นี่เลยเสนอกระเป๋าลากให้เค้าไปใบนึง เพราะว่าจะฝากของกลับไทยด้วย <<<<<< มันเริ่มต้นจากตรงนี้ข่าาาาท่านผู้โฉมมม เพราะปกติแบ็คแพ็คตล๊อดดด
วันศุกร์ 20 กค 2018 นั่งรถไฟ ซัลบวก-โบซ่าโน่ และต้องแวะเปลี่ยนรถไฟที่ Rosenheim โดยมีเวลาเปลี่ยนประมาณ 10 นาที กว่าจะถึง 16.14 (ปกติก็ต้องเช็คว่า เวลา และเลขของรถไฟว่าตรงกันไหม พอขึ้นไปรอตรงแพลทฟอร์มเวลามันใช่แต่ว่าเลขรถไฟมันดันไม่ใช่... จขกทเลยเข้าไปถามชะนีข้างๆ นางก็ตอบอย่างมั่นใจว่าจขกทรอถูกคันแล้ว จขกทถามย้ำไปอีกนะว่าจะไปโบซ่าโน่ ซึ่งไม่น่าเป็นสถานีสุดท้ายของสาย นางก็ทำหน้ามั่นใจขั้นสุด... หน้านางแบบมั่นใจมากจน จขกท ไม่กล้าไปถามอินโฟเมชั่นเลยคร่าา )
จังหวะที่ก้าวขึ้นรถไฟนั้นมันมีความรู้สึกว่าไม่ใช่ละ...มันไม่ใช่ ÖBB หรือ DB แต่มันเป็น Meridian train ... นี่เลยลองหารถไฟที่เป็น ÖBB หรือ DB ที่เวลาออกใกล้กัน... อิ๊บอ๊ายยยละ อยู่อีกแพลตฟอร์มนึง... ลองเช็คเส้นทางในรถไฟที่เราขึ้นมีเส้นทางบอกด้วยซึ่งเป็นตัวการันตีได้ว่า 0/นี่ขึ้นผิดคัน จขกทก็เลขลงในสถานีก่อนหน้านั้นทันที (ห่างจากสถานีต้นทางประมาณ 11 นาที) และยังไงก็คือตกรถไฟไปแล้วจริงๆ
ก็เลยเข้าไปหาคนขายตั๋วเพื่อดูตั๋วใหม่ คนขายตั๋วก็บอกว่า วันนี้ไปไม่ได้แล้วแหระโบซ่าโน่รถหมดแล้ว... จขกทก็เลยหาหนทางไปเอง โดยขึ้นรถบัสต่อรถไฟอะไรก็ว่ากันไป แต่ต้องกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานีหลัก ซึ่งก็ต้องรอรถไฟขากลับไปที่เดิมอีกครึ่งชั่วโมง เลยเข้าไปร้านเบเกอรี่เพราะหิว ตอนออกมาก็รู้สึกว่า... เอ๊ะเราลืมอะไรไปรึป่าว
พอกลับมาที่สถานีหลัก ก็เข้าไปหาเจ้าหน้าที่ขายตั๋วเค้าก็ให้เส้นทางที่มาพร้อมกับรถบัสโดยที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่มมม (อันนี้ไม่รู้จริงๆว่าทำได้ ตอนแรกกะไปซื้อตั๋วใหม่อยู่แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่คนก่อนหน้าบอกว่าตั๋วที่เรามีเป็นตั๋วขาเดียวยังไงยูก็ต้องซื้อใหม่ อีกอย่างที่ไม่ได้ซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตเพราะว่าไม่มีเน็ต 555555 แล้ว ÖBB ไม่ยอมรับตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ในกรณีข้ามประเทศ แต่ DB รับ)
ได้ตั๋วแล้ว... เดินเข้าแม็คโดนัลในสถานีว่าจะไปนั่งเล่นเพราะไม่รู้จะกินอะไร (ไม่ชอบขนมปัง) พอจะไปรอรถไฟรอบ 18.14 ... เฮลโล่ว์กระเป๋าไม่อยู่แล้วจร้าา ไม่รู้ว่าลืมไว้ไหนด้วยประเด็น
1. ตั้งสติ
เข้าไปหาสำนักงานตามหากระเป๋าบอกเล่าเรื่องราวให้เค้าตามหา แต่บังเอิญมันเป็นวันศุกร์เค้าเลยบอกให้มาที่นี่อีกทีวันจันทร์
- ให้เจ้าหน้าที่โทรเช็คสถานีที่เราลงไป Bad Endorf ให้เค้าตามหาทั้งในสถานีและร้านเบเกอรี่
- ขอเบอร์โทรที่สามารถติดต่อถามเรื่องกระเป๋าได้
- ถามว่ามีให้กรอกแบบฟอร์มอะไรไหม... แต่เค้าบอกไม่มี
- เข้าไปคุยกะเจ้าหน้าที่ขายตั๋วอีกครั้งเรื่องตั๋วที่เราไม่ได้ใช้ ให้เค้าลงลายชื่อเพื่อที่จะได้ใช้งานอีกครั้งในพรุ่งนี้
- กลับไปสถานีเดิมที่คิดว่ากระเป่าหาย... ไปตามหาที่ร้านเบเกอรี่ เค้าบอกว่าไม่เจอให้มาถามใหม่วันเสาร์ตามเวลาที่ร้านเปิด
ถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ละว่าจะนอนที่ไหน เพราะว่าไม่ได้เช่าโรงแรมมา เน็ตก็ไม่มี... แต่ต้องตัดสินใจภายในสองนาทีว่าจะขึ้นรถไฟกลับออสเตรียหรือว่าไปนอนเล่นในโรงแรมที่โรเซนแฮม เนื่องจากว่าถ้าไม่ขึ้นรถไฟรอบนี้ก็ต้องรออย่างน้อยอีกครึ่งชั่วโมง 0/นี่ก็กระโดดขึ้นรถไฟไปเลยจร้าา แล้วค่อยไปคิดเอาดาบหน้า
- โทรหาเพื่อนว่าไปนอนที่บ้านแม่เค้าได้ไหม... แต่บังเอิญโทรไม่ติด
- ขออินเตอร์เน็ตน้องคนข้างๆมาใช้... แต่บังเอิญสัญญาณไม่ดี
- คุยกะน้องข้างๆบอกเค้าว่าขอแชร์เน็ตหน่อยได้ไหม สุดท้ายก็ยังกล้าถามน้องเค้าว่าไปนอนด้วยได้ไหม... แต่บังเอิญน้องบอกว่า เห้ยยย คุณพี่คร่ะพอดีว่าหนูไม่เจอแฟนมาสองเดือนแล้วอะคะ (ตรงจุดนี้เราก็เข้าใจ)
- เลยคิดว่า โอเคร๊กลับไปนอนโรงแรมที่ซัลบวกก็ได้แว๊
2. ติดต่อ สำนักงานกระเป๋าหาย หรือทุกช่องทางที่สามารถ
หาช่องทางการติดต่อได้ที่หน้าเว็บของเค้าเลยค่า
- ติดต่อ ÖBB
- ติดต่อ DB
- ติดต่อ lost and found office ของทางซัลบวกและมิวนิค เพราะว่าเป็นเส้นทางของรถไฟสายที่เราต้องสงสัยว่าน่าจะหาย
- ติดต่อ Hotline ของ Meridian เพราะว่าทำงาน 24 ชั่วโมง วันละ2เวลา เช้า-เย็น
- ติดต่อตำรวจในเขตพื้นที่ ขอดูวีดีโอ... แต่พอดีว่ามันมีกฏของที่นี่แบบว่าห้ามบันทึกวีดีโอใดๆ ถ้าอยากจะขอดูกล้องวงจรปิดก็ต้องขอดูได้แบบไลฟ์แต่ต้องมีหนังสือนำมาก่อน
ข้อมูลที่ควรบอก
-เลขของรถไฟที่เราขึ้น //หาในเน็ตได้
-เวลาที่เราขึ้น
-สีกระเป๋า
-ประเภทและขนาดของกระเป๋า
-ยี่ห้อกระเป๋า
-ของในกระเป๋า
3. เตือนตัวเอง... คราวหลังสติต้องมีกว่านี้
หลังจากทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ก็ตระหนักได้ว่าคงได้แค่รอวันจันทร์ค่อยกลับไปที่ โรเซนแฮม อีกทีเพราะว่าเสาร์อาทิตย์คงยากจริงๆ แต่สุดท้ายวันจันทร์เช้า โทรไปก็ไม่มี... เลยตัดสินใจกลับไปออสเตรียโดยใช้เส้นทางผ่านโรเซนแฮม ... รถไฟก็เลทมาถึงโรเซนแฮม 17.54 เกือบไม่ทันสำนักงานกระเป๋าหาย โดนเหวี่ยงเล็กน้อยจากเจ๊เจ้าหน้าที่เพราะจะหมดเวลาทำงานแล้ว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. ถ้าไม่รู้เส้นทางการเดินทางให้ถาม information desk
2. การขึ้นรถไฟควรดู เวลาออก เลขรถไฟ สถานีปลายทาง ---ซึ่งบางทีเวลามันจะเวลาเดียวกันเป๊ะ และบางทีมันจะไม่โชว์ในมอนิเตอร์หลักของแพลตฟอร์ม
3. ต้องเช็คเงื่อนไขการใช้ตั๋วโดยสาร เพราะถ้า ใช้แบบอิเล็คทรอนิกส์ได้ก็ดีไป ถ้าบางสายก็จะไม่รับตั๋วอิเล็กทรอนิกส์
4. ข้อมูลที่ให้เป็นข้อมูลในเดือนกรกฏาคม 2561 ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากนี้อาจจะไม่ใช่วิธีเดิมแล้ว
ปล. ปกติอินเตอร์เน็ตเชงเก้นใช้โรมมิ่งกันได้อยู่แล้วค่ะ แต่ 0/นี่ไม่มีอินเตอร์เน็ต เน้นแต่ไวไฟฟรีอย่างเดียววว 5555555555555 #ด่าได้แต่อย่าแรง #ไม่มีเน็ตไม่ได้แปลว่าเที่ยวไม่ได้
ปล2. ที่ต้องตามหาขนาดนี้เพราะว่า โน๊ตบุ๊คของมหาลัยอยู่ในนั้นจร้าาาาา หึหึ
edit: จาก4 เป็น 3 ในหมายเหตุข้อที่2