ขอเกร่นให้ฟังก่อนนะครับ ผมทำงานวันจันทร์-ศุกร์ หยุดเสาร์ อาทิตย์
ผมชอบออกกำลังกาย เริ่มต้นจากชอบปั่นจักรยาน เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว 2 ปีที่แล้ว ก็เริ่มวิ่ง และ เมื่อปีที่แล้ว ก็เริ่มเข้ามาเล่นไตรกีฬาครับ
ผมมีลงรายการวิ่งทุกเดือนครับ สลับกับไตรกีฬาบ้าง รายการว่ายน้ำบ้าง เฉลี่ยแล้วก็ ลงรายการเดือนละครั้ง สองครั้ง มากสุดเคย 4 อาทิตย์ ติดก็เคยมีมาแล้ว
แน่นอนครับว่า การเล่นไตรกีฬา หากคุณไม่แกร่ง แข็งแรงพอ คุณจะจบเข้าเส้นชัยไม่ได้ง่าย ๆ ต้องอาศัยการฝึกซ้อม พอสมควร
แต่ถึงแม้ว่าผมจะต้องฝึกซ้อมการออกกำลังกาย ไม่ใช่ว่าผมจะหมกมุ่นกันการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวนะครับ
ผมทำงานในระดับ Section Manager แต่ผมมีความรับผิดชอบเพียงพอ ที่จะบริหารจัดการเรื่องงานและการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผมไม่เคยเอาเวลางานไปออกกำลังกาย มิหน้ำซ้ำ เลิกงานค่ำดึกดื่นเพียงใหน บางทีก็ไม่ยอมพลาดตารางซ้อม เพื่อรักษาสมดุลงานกับออกกำลังกายให้ได้
หากใครที่อยู่ในวงการวิ่ง หรือ ไตร ก็จะรู้ดีอยู่แล้วครับว่า รายการงานแข่งต่าง ๆ จะจัดกันวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งผมก็ไม่เคยเบียนเบียนเวลางานสักนาทีเดียว
และ......ก็เป็นที่รู้กัน ของนักวิ่งนักไตรอีกนั่นแหละครับ เมื่องานวิ่งจบ งานไตรกีฬาจบ ก็จะตามมาด้วยการหารูปสวย ในเพจเฟสบุ๊ก มาลงในสื่อกัน
มันเหมือนกับความสุขอีกอย่างที่เรา เหนื่อยจากการฝึกซ้อมมายาวนาน และมาจัดเต็มกันในงานแข่ง สุดท้ายเมื่อ เราได้เข้าเส้นชัย ได้ New PB ได้ลงระยะที่สูงขึ้น ได้พัฒนาเวลาให้ดีขึ้น ได้เหรียญ Finisher ในแต่ละครั้งมันคือความสุข ที่เราจะสื่อออกไปให้โลกทราบ
แต่.......วันนี้ เวลา 10 โมง ก็มีสายเข้าจากเจ้านาย ประโยคแรกเลยที่เจ้านายพูดคือ "เมิงเลิกโพสงานไตรกีฬาอะไรของเมิงได้มั้ยวะ"
ผมนี่ห๊า ตกใจมาก และ รับฟังแก ว่าแก จะสื่ออะไร ผมจับใจความและสรุปให้ฟังนะครับ คือ
- เลิกโพสเรื่องการไปออกงานไตรกีฬาและงานวิ่ง เพราะคนอื่นจะดูว่า เราไม่ทำงาน เพราะมัวแต่ไปลงงานแข่ง
- ยอดขายไม่เข้าเป้า แต่มัวไปออกกังกาย ( ความจิง ปีนี้ตั้งเป้าสูงขึ้น 130% ทำให้ไม่เข้าเป้า แต่ยอดขายดีกว่าปีที่ผ่านมาครับ)
ผมนี่หมดคำจะพูดเลยครับ ผมจึงอยากถาม เพื่อนใน pantip หน่อยครับว่า
1.การทำแบบนี้ มันละเมิดสิทธิ ความเป็นส่วนตัวเกินไปหรือเปล่า ที่ใหนเค้าทำกัน
2.เจ้านายผมหัวโบราณไปหรือเปล่าครับ หน่วยงาน หรือ องค์กร ใหนๆ เค้าก็ รณรงค์ ให้ออกกำลังกายกันไม่ใช่เหรอ (ใครเป็นนักกีฬาโรงเรียนยังเป็นฮีโร่เลย)
3.เจ้านายผมก็ออกกำลังกายครับ เป็นนักฟุตบอล แต่ผมเป็นนักไตร มันจะมีเรื่องการขี้อิจฉา มาเกี่ยวข้องหรือเปล่าครับ ว่าผมจะแกร่งกว่า
สุดท้ายนะครับ ผมนี่ผิดหวัง กะเจ้านายผมมาก ๆ เลยครับ และหมดศรัทธา อย่างรุนแรง ไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้
และทุกวันนี้ก็ยังหาสาเหตุ ที่แกห้ามโพส ยังไม่ได้เลย
วันนี้ เจ้านาย โทรมา สั่งห้ามโพสเฟสบุ๊ก เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ไปออกงานวิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา ทุกกรณี
ผมชอบออกกำลังกาย เริ่มต้นจากชอบปั่นจักรยาน เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว 2 ปีที่แล้ว ก็เริ่มวิ่ง และ เมื่อปีที่แล้ว ก็เริ่มเข้ามาเล่นไตรกีฬาครับ
ผมมีลงรายการวิ่งทุกเดือนครับ สลับกับไตรกีฬาบ้าง รายการว่ายน้ำบ้าง เฉลี่ยแล้วก็ ลงรายการเดือนละครั้ง สองครั้ง มากสุดเคย 4 อาทิตย์ ติดก็เคยมีมาแล้ว
แน่นอนครับว่า การเล่นไตรกีฬา หากคุณไม่แกร่ง แข็งแรงพอ คุณจะจบเข้าเส้นชัยไม่ได้ง่าย ๆ ต้องอาศัยการฝึกซ้อม พอสมควร
แต่ถึงแม้ว่าผมจะต้องฝึกซ้อมการออกกำลังกาย ไม่ใช่ว่าผมจะหมกมุ่นกันการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวนะครับ
ผมทำงานในระดับ Section Manager แต่ผมมีความรับผิดชอบเพียงพอ ที่จะบริหารจัดการเรื่องงานและการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผมไม่เคยเอาเวลางานไปออกกำลังกาย มิหน้ำซ้ำ เลิกงานค่ำดึกดื่นเพียงใหน บางทีก็ไม่ยอมพลาดตารางซ้อม เพื่อรักษาสมดุลงานกับออกกำลังกายให้ได้
หากใครที่อยู่ในวงการวิ่ง หรือ ไตร ก็จะรู้ดีอยู่แล้วครับว่า รายการงานแข่งต่าง ๆ จะจัดกันวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งผมก็ไม่เคยเบียนเบียนเวลางานสักนาทีเดียว
และ......ก็เป็นที่รู้กัน ของนักวิ่งนักไตรอีกนั่นแหละครับ เมื่องานวิ่งจบ งานไตรกีฬาจบ ก็จะตามมาด้วยการหารูปสวย ในเพจเฟสบุ๊ก มาลงในสื่อกัน
มันเหมือนกับความสุขอีกอย่างที่เรา เหนื่อยจากการฝึกซ้อมมายาวนาน และมาจัดเต็มกันในงานแข่ง สุดท้ายเมื่อ เราได้เข้าเส้นชัย ได้ New PB ได้ลงระยะที่สูงขึ้น ได้พัฒนาเวลาให้ดีขึ้น ได้เหรียญ Finisher ในแต่ละครั้งมันคือความสุข ที่เราจะสื่อออกไปให้โลกทราบ
แต่.......วันนี้ เวลา 10 โมง ก็มีสายเข้าจากเจ้านาย ประโยคแรกเลยที่เจ้านายพูดคือ "เมิงเลิกโพสงานไตรกีฬาอะไรของเมิงได้มั้ยวะ"
ผมนี่ห๊า ตกใจมาก และ รับฟังแก ว่าแก จะสื่ออะไร ผมจับใจความและสรุปให้ฟังนะครับ คือ
- เลิกโพสเรื่องการไปออกงานไตรกีฬาและงานวิ่ง เพราะคนอื่นจะดูว่า เราไม่ทำงาน เพราะมัวแต่ไปลงงานแข่ง
- ยอดขายไม่เข้าเป้า แต่มัวไปออกกังกาย ( ความจิง ปีนี้ตั้งเป้าสูงขึ้น 130% ทำให้ไม่เข้าเป้า แต่ยอดขายดีกว่าปีที่ผ่านมาครับ)
ผมนี่หมดคำจะพูดเลยครับ ผมจึงอยากถาม เพื่อนใน pantip หน่อยครับว่า
1.การทำแบบนี้ มันละเมิดสิทธิ ความเป็นส่วนตัวเกินไปหรือเปล่า ที่ใหนเค้าทำกัน
2.เจ้านายผมหัวโบราณไปหรือเปล่าครับ หน่วยงาน หรือ องค์กร ใหนๆ เค้าก็ รณรงค์ ให้ออกกำลังกายกันไม่ใช่เหรอ (ใครเป็นนักกีฬาโรงเรียนยังเป็นฮีโร่เลย)
3.เจ้านายผมก็ออกกำลังกายครับ เป็นนักฟุตบอล แต่ผมเป็นนักไตร มันจะมีเรื่องการขี้อิจฉา มาเกี่ยวข้องหรือเปล่าครับ ว่าผมจะแกร่งกว่า
สุดท้ายนะครับ ผมนี่ผิดหวัง กะเจ้านายผมมาก ๆ เลยครับ และหมดศรัทธา อย่างรุนแรง ไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้
และทุกวันนี้ก็ยังหาสาเหตุ ที่แกห้ามโพส ยังไม่ได้เลย