เพื่อนสมัย ม.ศ.3 นัดกันพาคุณครูเที่ยวเพชรบุรี
โดยได้รับการขอ ให้เป็นผู้จัดรายการท่องเที่ยวและจองร้านอาหาร ระหว่างวันที่ 14-15 กค.
พักบ้านเพื่อนริมหาดปึกเตียน เตรียมอาหารบางส่วนและเครื่องดื่มไปกันเอง
วันเสาร์ที่ 14-7-18 นัดกันที่หน้าร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาสนามกีฬาแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1
หนึ่งในเพื่อนที่ไปด้วย เป็นเจ้าของบริษัทรถทัวร์ ให้รถมาใช้ จ่ายแค่เบี้ยเลี้ยงคนขับและค่าน้ำมัน
7.30 น.ออกเดินทาง เก็บเงินคนละ 1,500 บาท 25 คน
9.15 น.ถึงร้านข้าวแกงแม่ล้วน ก่อนถึงเขาย้อย
ต่างคนต่างสั่ง ต่างคนต่างจ่าย
เวลาเดินทาง จะกินอาหารเช้ามาก
เริ่มด้วย ปลาสามรส หมูทอดกระเทียมและไข่ดาวราดข้าว 50 บาท
ต่อด้วยยำปลากระป๋องและผัดบร็อกโคลี่ 40 บาท
กับข้าวติดหวานเล็กน้อย
10.10 น.ถึงแยกเข้าตัวเมืองเพชรบรี เลี้ยวขวาไปสถานีรถรางไฟฟ้า
เดือนที่แล้วมาปิดซ่อม ให้ทุกคนเข้าห้องน้ำก่อนขึ้นเขาวัง
ใช้บัตรประชาชนแสดงความเป็น สว. ลดค่าเข้าชมเขาวัง 20 บาท เหลือคนละ 50 บาท
ป้ายแรกเมื่อถึงสถานีรถรางไฟฟ้าบนเขาวัง คือ ป้ายระวังลิง
เลี้ยวซ้ายพาทุกคนไปชมพระที่นั่งสันถาคารสถาน
มีมุขยื่นออกไปสำหรับเป็นที่ประทับทอดพระเนตรนาฏศิลป์ ในสมัยรัชกาลที่ 4
หลังสมัยรัชกาลที่ 4 ใช้เป็นสถานที่รับรองพระราชอคันตุกะ และที่ประทับของเจ้านายฝ่ายในตามลำดับ
ด้านหน้า คือ โรงมหรสพ หรือโรงโขน
ถ่ายรูปหมู่ที่ศาลาข้างพระที่นั่ง มีละอองฝนลงมาเล็กน้อย
เดินไปพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนครคีรีที่อยู่ใกล้กัน
สามคนหัวเข่าไม่ดี ขอนั่งรอที่ประชาสัมพันธ์
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่หน้าพิพิธภันฑ์ฯ
จากนั้นเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ภายในห้ามถ่ายรูป
ลงจากพิพิธภัณฑ์เลี้ยวขวาไปชมพระที่นั่งเวชยันตร์วิเชียรปราสาท
ทิวทัศน์เมืองเพชรบุรี จากด้านหลังพระที่นั่งเวชยันตร์วิเชียรปราสาท
เดินไปทางแยกไปวัดพระแก้วน้อย
ถึงสามแยกเดินตรงไปทางหอชัชวาลเวียงชัย
เดินขึ้นไปที่ชั้นสองของหอดูดาว
ปล่อยให้ถ่ายรูปกันด้วยความระมัดระวังเพราะรั้วระเบียงเตี้ย
ทุกคนที่เคยมาเข้าวัง ไม่เคยมีใครเดินไปถึงวัดพระแก้วน้อย
เพราะเมื่อมองจากหอชัชวาลฯ ดูไกลและเหมือนต้องเดินข้ามเขาไปอีกยอด
แต่วันนี้จะพาทุกคนเดินไปชม
ลงจากหอดูดาวแวะเข้าห้องน้ำ จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปวัดพระแก้วน้อย
ผ่านสามแยกร้านขายน้ำ ซึ่งขากลับเลี้ยวขวาไปขึ้นรถรางไฟฟ้าลงเขา
อากาศไม่ร้อนและไม่มีฝน
12.05 น.ถึงทางขึ้นพระพุทธมหาเจดีย์จอมเพชร
เป็นเจดีย์ที่รัชการที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาบนพระเจดีย์องค์เดิม
เดินลงเนินไปวัดพระแก้วน้อย
ผ่านหอจตุเวทปริตพัจน์
ขึ้นบันไดไปที่วัด
ประวัติวัด
ถึงลานด้านบนเลี้ยวขวาเดินขึ้นไปพระอุโบสถ
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว
เดิมประดิษฐานพระแก้วผลึก แต่ได้นำกลับไปกรุงเทพแล้ว (วิกิ)
เดินอ้อมไปหลังพระอุโบสถ
เพื่อชมพระพุทธเสลเจดีย์
พระพุทธเสลเจดีย์ ลักษณะเป็นเจดีย์ศิลา สีเทาอมเขียวทรงกลม
ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 3 เมตร เจดีย์สูง 9 เมตร
ซึ่งการสลักหินประกอบประกอบเป็นองค์เจดีย์นั้น ได้ทำสำเร็จที่เกาะสีชัง
เสร็จแล้วจึงถอดเป็นชิ้น แล้วนำมาประกอบอีกครั้งบนยอดเขาวังแห่งนี้
พร้อมกับมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน (วิกิ)
มองย้อนไปทางพระนครคีรี มองดูเหมือนไกลและเดินยาก
ผ่านไปกว่า 50 ปี ถึงได้รู้ว่าไม่ไกล และเดินมาไม่ยากอย่างที่คิด
พระอุโบสถมีขนาดเล็ก ผนังประกอบด้วยหินอ่อน หลังคากระเบื้องสี
กรอบหน้าบันประกอบด้วยปูนปั้นฝีมือของช่างเมืองเพชรบุรี ใบระกาหางหงส์เป็นรูปนาค
และมีจุดเด่นอยู่ที่ตรงหน้าบัน ที่ประดับพระราชลัญลักษณ์พระมหาพิชัยมงกุฎ
ซึ่งเป็นงานปูนปั้นอันงดงามมีชื่อเสียงชิ้นหนึ่งของเมืองเพชรบุรี (วิกิ)
แวะตีระฆังก่อนลงจากพระอุโบสถ
ตรงข้ามกับพระอุโบสถ คือ พระปรางค์แดง ลักษณะของพระปรางค์แดง (ชาวบ้านมักเรียกกันว่า เจดีย์แดง)
สร้างเป็นพระปรางค์จตุรมุขทาสีแดงทั้งองค์ มีแท่นสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปภายในองค์พระปรางค์
คือ พระไพรีพินาศ (จำลอง) ส่วนศาลานั้น ได้สร้างเป็นศาลาหลัก 3 หลัง ตั้งอยู่ด้านหน้าตรงข้ามหอระฆัง (วิกิ)
ทิวทัศน์ตัวเมืองเพชรบุรี เมื่อมองจากศาลารายด้านขวา
มองเห็นวัดมหาธาตุวรวิหาร ที่ถนนดำเนินเกษม
ด้ายซ้าย คือ วัดพลับพลาชัย และพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่
12.55 น.เริ่มเดินลงไปสถานีรถรางไฟฟ้า โดยไม่จำเป็นต้องเดินย้อนทางเดิม
ทางเดินไปบรรจบกับทางขึ้นพิพิธภัณฑ์พระนครคีรี
ขาขึ้นมาไม่พบลิงต้อนรับ ขากลับลิงมากมายมาส่ง
13.00 น.ลงจากเขาวัง ทำเวลาได้ตามที่วางแผนไว้ คือ สามชั่วโมง
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ พาครูเที่ยวเพชรบุรี 1 : เขาวัง พวงเพชร ปึกเตียน
โดยได้รับการขอ ให้เป็นผู้จัดรายการท่องเที่ยวและจองร้านอาหาร ระหว่างวันที่ 14-15 กค.
พักบ้านเพื่อนริมหาดปึกเตียน เตรียมอาหารบางส่วนและเครื่องดื่มไปกันเอง
วันเสาร์ที่ 14-7-18 นัดกันที่หน้าร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาสนามกีฬาแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1
หนึ่งในเพื่อนที่ไปด้วย เป็นเจ้าของบริษัทรถทัวร์ ให้รถมาใช้ จ่ายแค่เบี้ยเลี้ยงคนขับและค่าน้ำมัน
7.30 น.ออกเดินทาง เก็บเงินคนละ 1,500 บาท 25 คน
9.15 น.ถึงร้านข้าวแกงแม่ล้วน ก่อนถึงเขาย้อย
ต่างคนต่างสั่ง ต่างคนต่างจ่าย
เวลาเดินทาง จะกินอาหารเช้ามาก
เริ่มด้วย ปลาสามรส หมูทอดกระเทียมและไข่ดาวราดข้าว 50 บาท
ต่อด้วยยำปลากระป๋องและผัดบร็อกโคลี่ 40 บาท
กับข้าวติดหวานเล็กน้อย
10.10 น.ถึงแยกเข้าตัวเมืองเพชรบรี เลี้ยวขวาไปสถานีรถรางไฟฟ้า
เดือนที่แล้วมาปิดซ่อม ให้ทุกคนเข้าห้องน้ำก่อนขึ้นเขาวัง
ใช้บัตรประชาชนแสดงความเป็น สว. ลดค่าเข้าชมเขาวัง 20 บาท เหลือคนละ 50 บาท
ป้ายแรกเมื่อถึงสถานีรถรางไฟฟ้าบนเขาวัง คือ ป้ายระวังลิง
เลี้ยวซ้ายพาทุกคนไปชมพระที่นั่งสันถาคารสถาน
มีมุขยื่นออกไปสำหรับเป็นที่ประทับทอดพระเนตรนาฏศิลป์ ในสมัยรัชกาลที่ 4
หลังสมัยรัชกาลที่ 4 ใช้เป็นสถานที่รับรองพระราชอคันตุกะ และที่ประทับของเจ้านายฝ่ายในตามลำดับ
ด้านหน้า คือ โรงมหรสพ หรือโรงโขน
ถ่ายรูปหมู่ที่ศาลาข้างพระที่นั่ง มีละอองฝนลงมาเล็กน้อย
เดินไปพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนครคีรีที่อยู่ใกล้กัน
สามคนหัวเข่าไม่ดี ขอนั่งรอที่ประชาสัมพันธ์
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกที่หน้าพิพิธภันฑ์ฯ
จากนั้นเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ภายในห้ามถ่ายรูป
ลงจากพิพิธภัณฑ์เลี้ยวขวาไปชมพระที่นั่งเวชยันตร์วิเชียรปราสาท
ทิวทัศน์เมืองเพชรบุรี จากด้านหลังพระที่นั่งเวชยันตร์วิเชียรปราสาท
เดินไปทางแยกไปวัดพระแก้วน้อย
ถึงสามแยกเดินตรงไปทางหอชัชวาลเวียงชัย
เดินขึ้นไปที่ชั้นสองของหอดูดาว
ปล่อยให้ถ่ายรูปกันด้วยความระมัดระวังเพราะรั้วระเบียงเตี้ย
ทุกคนที่เคยมาเข้าวัง ไม่เคยมีใครเดินไปถึงวัดพระแก้วน้อย
เพราะเมื่อมองจากหอชัชวาลฯ ดูไกลและเหมือนต้องเดินข้ามเขาไปอีกยอด
แต่วันนี้จะพาทุกคนเดินไปชม
ลงจากหอดูดาวแวะเข้าห้องน้ำ จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปวัดพระแก้วน้อย
ผ่านสามแยกร้านขายน้ำ ซึ่งขากลับเลี้ยวขวาไปขึ้นรถรางไฟฟ้าลงเขา
อากาศไม่ร้อนและไม่มีฝน
12.05 น.ถึงทางขึ้นพระพุทธมหาเจดีย์จอมเพชร
เป็นเจดีย์ที่รัชการที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาบนพระเจดีย์องค์เดิม
เดินลงเนินไปวัดพระแก้วน้อย
ผ่านหอจตุเวทปริตพัจน์
ขึ้นบันไดไปที่วัด
ประวัติวัด
ถึงลานด้านบนเลี้ยวขวาเดินขึ้นไปพระอุโบสถ
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว
เดิมประดิษฐานพระแก้วผลึก แต่ได้นำกลับไปกรุงเทพแล้ว (วิกิ)
เดินอ้อมไปหลังพระอุโบสถ
เพื่อชมพระพุทธเสลเจดีย์
พระพุทธเสลเจดีย์ ลักษณะเป็นเจดีย์ศิลา สีเทาอมเขียวทรงกลม
ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 3 เมตร เจดีย์สูง 9 เมตร
ซึ่งการสลักหินประกอบประกอบเป็นองค์เจดีย์นั้น ได้ทำสำเร็จที่เกาะสีชัง
เสร็จแล้วจึงถอดเป็นชิ้น แล้วนำมาประกอบอีกครั้งบนยอดเขาวังแห่งนี้
พร้อมกับมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน (วิกิ)
มองย้อนไปทางพระนครคีรี มองดูเหมือนไกลและเดินยาก
ผ่านไปกว่า 50 ปี ถึงได้รู้ว่าไม่ไกล และเดินมาไม่ยากอย่างที่คิด
พระอุโบสถมีขนาดเล็ก ผนังประกอบด้วยหินอ่อน หลังคากระเบื้องสี
กรอบหน้าบันประกอบด้วยปูนปั้นฝีมือของช่างเมืองเพชรบุรี ใบระกาหางหงส์เป็นรูปนาค
และมีจุดเด่นอยู่ที่ตรงหน้าบัน ที่ประดับพระราชลัญลักษณ์พระมหาพิชัยมงกุฎ
ซึ่งเป็นงานปูนปั้นอันงดงามมีชื่อเสียงชิ้นหนึ่งของเมืองเพชรบุรี (วิกิ)
แวะตีระฆังก่อนลงจากพระอุโบสถ
ตรงข้ามกับพระอุโบสถ คือ พระปรางค์แดง ลักษณะของพระปรางค์แดง (ชาวบ้านมักเรียกกันว่า เจดีย์แดง)
สร้างเป็นพระปรางค์จตุรมุขทาสีแดงทั้งองค์ มีแท่นสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปภายในองค์พระปรางค์
คือ พระไพรีพินาศ (จำลอง) ส่วนศาลานั้น ได้สร้างเป็นศาลาหลัก 3 หลัง ตั้งอยู่ด้านหน้าตรงข้ามหอระฆัง (วิกิ)
ทิวทัศน์ตัวเมืองเพชรบุรี เมื่อมองจากศาลารายด้านขวา
มองเห็นวัดมหาธาตุวรวิหาร ที่ถนนดำเนินเกษม
ด้ายซ้าย คือ วัดพลับพลาชัย และพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่
12.55 น.เริ่มเดินลงไปสถานีรถรางไฟฟ้า โดยไม่จำเป็นต้องเดินย้อนทางเดิม
ทางเดินไปบรรจบกับทางขึ้นพิพิธภัณฑ์พระนครคีรี
ขาขึ้นมาไม่พบลิงต้อนรับ ขากลับลิงมากมายมาส่ง
13.00 น.ลงจากเขาวัง ทำเวลาได้ตามที่วางแผนไว้ คือ สามชั่วโมง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้