



บางครั้งความจริงเป็นสิ่งที่เลวร้าย ทำให้เกิดความสะเทือนใจกับความจริงนั้น
และทำใจยอมรับฟังซ้ำๆไม่ได้ แสลงใจเกินจะทนฟัง
หรือบางทีอาจเจ็บปวด เจ็บจี๊ด กับความจริงที่ทราบกันไปทั่ว
ความจริงมีทั้งด้านบวกและด้านลบ จึงมีผลต่อคนที่เกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำไมความจริงจึงมีพลานุภาพเช่นนี้
ความจริงคือเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ เหตุการณ์สร้างโดยธรรมชาติหรือฝีมือมนุษย์
เมื่อความจริงเปิดเผยเหตุการณ์ หรือสถานการณ์นั้นๆออกมา มันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างแจ่มชัด หมดความสงสัย
นี่คือสิ่งที่เราได้จากความจริง
คนรับรู้ความจริงอาจแสลใจ สะเทือนใจ สะใจ สมใจ แล้วแต่ว่าใครเป็นคนสร้างเหตุการณ์นั้นๆ
ผู้สร้างเรื่องราวความจริงที่เป็นด้านลบ มักไม่ชอบความจริงที่ตัวเองสร้าง และมักต้องการลบภาพความจริงนั้นออกไป
และแน่นอนความจริงด้านบวก ย่อมมีคนพอใจ มีภาพลักษณ์ที่ดี
เรื่องราวของความจริง ได้สะท้อนการกระทำของคนให้ปรากฎ จดจำ ไปนานแสนนาน
เช่น ในเรื่องการเมืองต้องยอมรับว่าระบอบประชาธิปไตยของไทย
คือการใช้อำนาจและพฤติกรรมทางการเมืองที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องของ “อำนาจนายทุน” มากกว่า
คือนายทุนมีอำนาจครอบงำครบวงจรในสภา แต่ฝ่ายสนับสนุนมักไม่ยอมรับความจริง
หรือความจริงที่ว่า..ผลงานของรัฐบาลเผด็จการทหาร เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศทั่วโลก
กลายเป็นฝ่ายต่อต้านทีไม่สามารถรับความจริงได้
หรือแม้แต่ความจริงที่ปรากฎในห้องนี้ กลายเป็นของต้องห้ามสำหรับทุกคนที่อยากทราบไปเสียแล้ว
ความจริงจึงเป็นสิ่งแสลงใจยิ่งนัก สำหรับคนที่ไม่อาจรับควาาจริงได้
มารู้จักความจริงกันค่ะ....


ความจริงคืออะไร..?
ความจริงมี 3 ระดับ
๑. ข้อเท็จจริง (Fact) คือ ความจริงโดยประจักษ์เกิดจากประสาทสัมผัสทั้ง 5
๒. ความจริง (Truth) คือ ความจริงที่เป็นสากลสอดคล้องกับธรรมชาติ แก่ เจ็บ ตาย
๓. ความเป็นจริง (Reality) คือความจริงสูงสุดหรือความจริงสมบูรณ์ เป็นความจริงด้านศาสนา เช่น พระเจ้า นิพพาน พระพรหม
http://kit-meaninoflife.blogspot.com/2008/07/blog-post_09.html

ไม่ลืมนำวิธีต้มมาม่าให้อร่อยมาฝากค่ะ








🎻~มาลาริน~ความจริงแสลงใจ
บางครั้งความจริงเป็นสิ่งที่เลวร้าย ทำให้เกิดความสะเทือนใจกับความจริงนั้น
และทำใจยอมรับฟังซ้ำๆไม่ได้ แสลงใจเกินจะทนฟัง
หรือบางทีอาจเจ็บปวด เจ็บจี๊ด กับความจริงที่ทราบกันไปทั่ว
ความจริงมีทั้งด้านบวกและด้านลบ จึงมีผลต่อคนที่เกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำไมความจริงจึงมีพลานุภาพเช่นนี้
ความจริงคือเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ เหตุการณ์สร้างโดยธรรมชาติหรือฝีมือมนุษย์
เมื่อความจริงเปิดเผยเหตุการณ์ หรือสถานการณ์นั้นๆออกมา มันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างแจ่มชัด หมดความสงสัย
นี่คือสิ่งที่เราได้จากความจริง
คนรับรู้ความจริงอาจแสลใจ สะเทือนใจ สะใจ สมใจ แล้วแต่ว่าใครเป็นคนสร้างเหตุการณ์นั้นๆ
ผู้สร้างเรื่องราวความจริงที่เป็นด้านลบ มักไม่ชอบความจริงที่ตัวเองสร้าง และมักต้องการลบภาพความจริงนั้นออกไป
และแน่นอนความจริงด้านบวก ย่อมมีคนพอใจ มีภาพลักษณ์ที่ดี
เรื่องราวของความจริง ได้สะท้อนการกระทำของคนให้ปรากฎ จดจำ ไปนานแสนนาน
เช่น ในเรื่องการเมืองต้องยอมรับว่าระบอบประชาธิปไตยของไทย
คือการใช้อำนาจและพฤติกรรมทางการเมืองที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องของ “อำนาจนายทุน” มากกว่า
คือนายทุนมีอำนาจครอบงำครบวงจรในสภา แต่ฝ่ายสนับสนุนมักไม่ยอมรับความจริง
หรือความจริงที่ว่า..ผลงานของรัฐบาลเผด็จการทหาร เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศทั่วโลก
กลายเป็นฝ่ายต่อต้านทีไม่สามารถรับความจริงได้
หรือแม้แต่ความจริงที่ปรากฎในห้องนี้ กลายเป็นของต้องห้ามสำหรับทุกคนที่อยากทราบไปเสียแล้ว
ความจริงจึงเป็นสิ่งแสลงใจยิ่งนัก สำหรับคนที่ไม่อาจรับควาาจริงได้
มารู้จักความจริงกันค่ะ....
ความจริงคืออะไร..?
ความจริงมี 3 ระดับ
๑. ข้อเท็จจริง (Fact) คือ ความจริงโดยประจักษ์เกิดจากประสาทสัมผัสทั้ง 5
๒. ความจริง (Truth) คือ ความจริงที่เป็นสากลสอดคล้องกับธรรมชาติ แก่ เจ็บ ตาย
๓. ความเป็นจริง (Reality) คือความจริงสูงสุดหรือความจริงสมบูรณ์ เป็นความจริงด้านศาสนา เช่น พระเจ้า นิพพาน พระพรหม
http://kit-meaninoflife.blogspot.com/2008/07/blog-post_09.html
ไม่ลืมนำวิธีต้มมาม่าให้อร่อยมาฝากค่ะ