
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน เห็นคนอื่นอวดทริคแต่งหน้ากันเยอะแล้ว! เราไม่ได้มีสกิลแต่งหน้าขนาดนั้นเลยร่วมแบ่งปันด้วยไม่ค่อยจะได้ 55555 แต่จะบอกให้ว่า เรามีเพื่อนเป็นช่างแต่งหน้าแหละ! คือมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับเมคอัพ อะไรพวกนี้ก็จะปรึกษาเพื่อนคนนี้ตลอด จนเหมือนเพื่อนรำคาญ เลยชวนมาอัพสกิลแต่งหน้าด้วยการ “ชวนไปดูจ็อบแต่งหน้าของนางค่ะ”
เราก็ตอบตกลง แล้วเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นงานแต่งหน้าเจ้าสาว โอโหหหหหหห งานเช้าตรู่ก็มา!!!! แต่ไหนๆ ก็รับปากเพื่อนมาแล้วเลยยอมสละเวลาตื่นสายสักวันไปอัพสกิลแต่งหน้าซะหน่อย
มา ! เริ่มกันเลย ! ถึงสถานที่ประมาณตีสองนิดๆ จ้า ง่วงๆ กันไป แต่ใจสู้มากเวอร์นะคะ
และนี่ก็คืออออออออ เจ้าของ 2 ตำแหน่งของวันนี้ เป็นทั้งเจ้าสาว และนางแบบของเราไปพร้อมๆ กัน ^^
เพื่อนอธิบายคร่าวๆ ว่า สภาพผิวหน้าเจ้าสาวคือแห้ง มีกระบ้างประปราย ตาสองชั้นชัดมาก แต่ดูปรือไปนิด เฉพาะฉะนั้นต้องใช้ "ขนตาปลอม” ช่วยกู้ดวงตา
ปะ ไปดูเพื่อนแต่งหน้ากัน ลุยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!
*** ข้อแนะนำแรก เมื่อเป็นเจ้าสาว***

สายโทรศัพท์จะเข้ามาเยอะมากกกกกกกก มากถึงมากที่สุด เพราะใครๆ ก็ต่างอยากโทรมาเเสดงความยินดี รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียด กำหนดงานต่างๆ แต่ถ้าเจ้าสาวมัวแต่รับโทรศัพท์ทุกสายคงแต่งหน้าแต่งตัวไม่เสร็จสักที เพื่อนเราเลยแนะนำว่าให้รับเฉพาะสายสำคัญๆ หรือหาผู้ช่วยคนสนิทมาช่วยรับสายจะดีกว่า
ผู้ช่วยทีมแต่งหน้าเริ่มเซ็ตผมให้เจ้าสาวทิ้งไว้แล้วววว
และเมื่อเตรียมผมเรียบร้อย ช่างแต่งหน้าจะเริ่มลงสกินแคร์เพื่อบำรุงใบหน้าให้เจ้าสาว คนนี้แหละค่ะเพื่อนเราเอง ^^
ชอบความละเอียดของนาง คือมีความเตรียมแผ่นมาส์กหน้ามาให้เจ้าสาวเลย หน้าจะได้ฟูๆ เด้งๆ
แต่ด้วยความที่เจ้าสาวมาสายไปหน่อยเลยอดจ้ะ! จำเป็นต้องข้ามขั้นตอนมาส์กหน้าไป อะ ไม่เป็นไร ได้ลงสกินแคร์ก็โอเคอยู่ ต่อด้วยลิปบาล์ม เพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก ทาลิปสติกจะได้สวยๆ แล้วก็นวดหน้าต่ออีกนิด เพื่อนแนะนำมาบอกครีมนวดหน้าของ
CLE DE Peau เริ่ดมาก!

เสร็จสิ้นขั้นตอนบำรุงไปแล้ว ต่อมาก็จะเป็นขั้นการลงเมคอัพแล้วค่ะ
เปิดฟลอร์ด้วย Corrector เพราะเจ้าสาวมีปัญหาผิวหน้าเรื่องรอยกระ รอยแดง
ต่อด้วย
คอนซีลเลอร์ เพราะเจ้าสาวนอนน้อยยย สงสัยจะเตรียมการเยอะ+ตื่นเต้น
แล้วค่อย
ลงรองพื้นค่ะ ในส่วนของ
รองพื้นจะใช้ของ Giorgio Armani Luminous Luminous Silk ผสมเข้ากับ
รองพื้นของ Estée Lauder เพื่อปรับแต่งสีรองพื้นให้ดูเป็นธรรมชาติ และติดทนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นงาน Outdoor ค่ะ เจ้าสาวมีอากาศร้อนๆ และเหงื่อที่ต้องเผชิญ ^^
งานผิวผ่านไป ต่อมาก็งานโครงหน้า!
ลงคอนทัวร์ให้แล้วค่ะ โดยเลือกใช้เป็น
ครีมเจลของ Illamasqua แล้วตบด้วย
แป้งฝุ่นของ Chanel
มีการเลือกใช้คอนทัวร์แบบฝุ่นก็เพราะเหตุผลเรื่องความชัด และความทนติดหน้า จบคอนทัวร์ก็จะ
เหลาดั้ง เก็บปีกจมูก แล้วถึงจะ
เริ่มลงอายชาโดว์แบบครีม ทับด้วยแป้งฝุ่นอีกที เพราะจะเป็นการเบนให้ลุคออกมาละมุน ฟุ้งๆ
เขียนคิ้ว ด้วย
ดินสอเขียนคิ้วของน้องฉัตร สีสวยละมุนเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา
ดัดขนตา ปัดมาสคาร่า เขียน
อายไลน์เนอร์แบบเจลของ Illamasqua เพราะจะให้สัมผัสที่ติดทน อย่างที่บอกไปข้างต้น คือเรื่องติดทนเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ สำหรับงาน Outdoor ไม่งั้นเจ้าสาวหน้าซีดก่อนจบงานแน่ๆ ค่ะ

ต่อจากขั้นตอน
ดัดขนตา ก็จะ
ติดขนตาให้เจ้าสาวทั้งบน และล่างเลย เพราะเจ้าสาวตาปรือไปหน่อย ใช้ขนตาปลอมจะช่วยได้เยอะเลย ระหว่างการติดจะได้ยินคุณเพื่อนถามเจ้าสาวตลอดว่าหนักไปไหม? คันหรือเปล่า? หรือเจ็บตรงไหนไหม? เพราะขนตาปลอมนี่ถ้าติดไม่ดี ติดไม่โปร เจ้าสาวต้องน่าสงสารมากแน่ๆ ออกงานทั้งวันยังจะต้องมารู้สึกระคายเคืองตา หนักตาอีก แต่เจ้าสาวก็บอกสบาย ชิลล์ๆ เลยค่ะ เก่งมากจ้าคุณเพื่อนนนน

อะ สลับไปส่วนทำผมบ้าง

ก่อนจะได้ทรงผมนี่ต้องคุยกันล่วงหน้าก่อนยาวๆ เลยนะคะ เพราะทีมเพื่อนจะต้องข้อมูลล่วงหน้าค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น
ชุดในวันนั้นสีอะไร เจ้าสาวอยากได้ผมสไตล์ไหนเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งอยากให้หน้าออกมาโทนไหน ทุกปัจจัยเป็นตัวกำหนดทรงผมทั้งสิ้นค่ะ ก่อนวันงานเจ้าสาวจะมีการส่งรูปภาพชุดที่จะใส่ในวันงานมาหาช่าง แล้วช่างก็จะออกแบบทรงผมส่งกลับไป ซึ่งจะเหมาะสมกับชุดที่ของเจ้าสาวมากที่สุด
เจ้าสาวเกือบจะได้ใส่ชุดแล้ววว แต่!!! ต้องเป็นหลังจากที่
ช่างเก็บรายละเอียดทรงผมให้เรียบร้อยก่อน
ติดเครื่องประดับผมให้เรียบร้อย แอบได้ยินเพื่อนกระซิบบอกเจ้าสาวด้วยค่ะ ว่าให้ก้มหน้าลงเยอะๆ เวลาพระพรมน้ำมนต์ ทรงผมจะได้ไม่เสียหาย จะได้ไม่พัง คงความปังตลอดวันจ้า
พาเจ้าสาวใส่ชุดได้! ดูจากสายตาเราว่าสวยแล้วนะคะ แต่พวกทีมช่างแต่งหน้าเค้ายังเก็บรายละเอียดเรื่อยๆ จนกว่าจะลงตัวมากที่สุด ไม่เป๊ะ ไม่เลิก! จริงๆ ค่ะทีมนี้ เจ้าสาวกังวลส่วนไหนพูดดดดดด!
หลัง แขน นิ้วมือ มีรอยตำหนิอะไร จัดการให้หมด!

มาดูทรงผมเจ้าสาวชัดๆ กันดีกว่า ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกก! ชอบความดอกพุดสดที่ทีมเค้าเตรียมมา เพราะนอกจาก
ดอกพุดสดจะทนต่อสภาพอากาศได้มากแล้ว ยังเข้ากันได้ดีกับ
ชุดแต่งงานสีเงินด้วยค่ะ แมทช์แบบสุดมาก
และนี่ก็คือออออ!!!! Finished Look ของใบหน้าเจ้าสาว และของทีมเพื่อนในวันนี้ค่ะ



ในส่วนของเมคอัพ จะเน้นไปในโทนพีชอมส้ม เพื่อทำให้ราศีเจ้าสาวเปล่งประกาย ผ่านการทำผิวให้เปล่งปลั่ง การใช้ขนตาเข้ามาช่วยนี่ช่วยได้เยอะมากเลย เพราะเจ้าสาวถึงจะนอนน้อย ตาก็ไม่ปรือแล้วค่ะ
ลืมอีกนิดนึงค่ะ งานปาก ลิปสติกที่ใช้จะเป็นตัวของ
MAC สี Smoked almond ลงก่อนนะคะ แล้วค่อยจัดการลง
ลิปกลอสของ Marc Jacobs สี Pretty Thing เพิ่มความแววหวาวให้ปาก ได้โทนสีชมพูสวย ดูสุขภาพดี เฮลตี้เกิร์ลมาก
แต่งเสร็จแล้วน่าดูอ่อนกว่าอายุเยอะเลย ออร่ามาก เป็นวันของสาวเจ้าเค้าจริงๆ
บอกได้เลยว่า ปัง ปัง ปังมาก! ความเป๊ะนี้ เจ้าสาวนี่ส่องกระจกแล้วทำท่าชอบอกชอบใจใหญ่ ทีมงานก็ปลื้มใจค่ะ
เทียบ Before & After ให้เห็นกันชัดๆ ไปเล้ย!!!!!

เค้าว่ากันว่า ออร่าเจ้าสาวจะเปล่งประกายสุดๆ ในวันแต่งงาน นั่นเป็นเรื่องจริงแค่ครึ่งเดียวนะคะ เมื่อกำลังจะถึงวันสำคัญ ใครๆ ก็อดที่จะมีใบหน้าที่อิ่มเอมไปด้วยความสุขไม่ได้ ราศีเจ้าสาวแท้จริงแล้ว คือใบหน้าช่วงที่กำลังมีความสุขนั่นแหละค่ะ แต่อีกครึ่งหนึ่งของเหตุผลที่จะทำให้วันนั้นเจ้าสาวราศีจับ ก็คือขั้นตอนของการแต่งหน้า แต่งให้ปัง ยังไงก็ออร่าก็พุ่ง แต่งแล้วโป๊ะ ยังไงก็อึมครึมเหมือน make up fail ตามดราม่าต่างๆ ยังไงวันสำคัญทั้งที คัดเลือกช่างแต่งหน้าดีๆ อย่างระมัดระวังกันด้วยนะคะ
สำหรับกระทู้นี้ ขอลาไปก่อนด้วยบรรยากาศงานแต่งสุดชื่นมื่นนนน! ใครมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับขั้นตอนไหน ถ้าเจ้าของกระทู้ให้ข้อมูลไม่ชัดเจน คอมเม้นต์ถามกันได้เลยนะคะ เพราะเวลาบีบมาก อาจจะเก็บข้อมูลมาไม่ครบ เดี๋ยวมาตอบให้ทุกคนเลยค่ะ สำหรับตอนนี้เจอกันกระทู้หน้าค่ะ สวัสดีค่าทุกคน <3

ขอแชร์แปป! แอบตามไปดูเพื่อนแต่งหน้าให้เจ้าสาวในวันพิเศษ ได้ทริคมาเพียบ !
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน เห็นคนอื่นอวดทริคแต่งหน้ากันเยอะแล้ว! เราไม่ได้มีสกิลแต่งหน้าขนาดนั้นเลยร่วมแบ่งปันด้วยไม่ค่อยจะได้ 55555 แต่จะบอกให้ว่า เรามีเพื่อนเป็นช่างแต่งหน้าแหละ! คือมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับเมคอัพ อะไรพวกนี้ก็จะปรึกษาเพื่อนคนนี้ตลอด จนเหมือนเพื่อนรำคาญ เลยชวนมาอัพสกิลแต่งหน้าด้วยการ “ชวนไปดูจ็อบแต่งหน้าของนางค่ะ”
เราก็ตอบตกลง แล้วเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นงานแต่งหน้าเจ้าสาว โอโหหหหหหห งานเช้าตรู่ก็มา!!!! แต่ไหนๆ ก็รับปากเพื่อนมาแล้วเลยยอมสละเวลาตื่นสายสักวันไปอัพสกิลแต่งหน้าซะหน่อย
มา ! เริ่มกันเลย ! ถึงสถานที่ประมาณตีสองนิดๆ จ้า ง่วงๆ กันไป แต่ใจสู้มากเวอร์นะคะ
และนี่ก็คืออออออออ เจ้าของ 2 ตำแหน่งของวันนี้ เป็นทั้งเจ้าสาว และนางแบบของเราไปพร้อมๆ กัน ^^
เพื่อนอธิบายคร่าวๆ ว่า สภาพผิวหน้าเจ้าสาวคือแห้ง มีกระบ้างประปราย ตาสองชั้นชัดมาก แต่ดูปรือไปนิด เฉพาะฉะนั้นต้องใช้ "ขนตาปลอม” ช่วยกู้ดวงตา
ปะ ไปดูเพื่อนแต่งหน้ากัน ลุยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!
*** ข้อแนะนำแรก เมื่อเป็นเจ้าสาว***
สายโทรศัพท์จะเข้ามาเยอะมากกกกกกกก มากถึงมากที่สุด เพราะใครๆ ก็ต่างอยากโทรมาเเสดงความยินดี รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียด กำหนดงานต่างๆ แต่ถ้าเจ้าสาวมัวแต่รับโทรศัพท์ทุกสายคงแต่งหน้าแต่งตัวไม่เสร็จสักที เพื่อนเราเลยแนะนำว่าให้รับเฉพาะสายสำคัญๆ หรือหาผู้ช่วยคนสนิทมาช่วยรับสายจะดีกว่า
และเมื่อเตรียมผมเรียบร้อย ช่างแต่งหน้าจะเริ่มลงสกินแคร์เพื่อบำรุงใบหน้าให้เจ้าสาว คนนี้แหละค่ะเพื่อนเราเอง ^^
ชอบความละเอียดของนาง คือมีความเตรียมแผ่นมาส์กหน้ามาให้เจ้าสาวเลย หน้าจะได้ฟูๆ เด้งๆ
แต่ด้วยความที่เจ้าสาวมาสายไปหน่อยเลยอดจ้ะ! จำเป็นต้องข้ามขั้นตอนมาส์กหน้าไป อะ ไม่เป็นไร ได้ลงสกินแคร์ก็โอเคอยู่ ต่อด้วยลิปบาล์ม เพิ่มความชุ่มชื่นให้ริมฝีปาก ทาลิปสติกจะได้สวยๆ แล้วก็นวดหน้าต่ออีกนิด เพื่อนแนะนำมาบอกครีมนวดหน้าของ CLE DE Peau เริ่ดมาก!
เสร็จสิ้นขั้นตอนบำรุงไปแล้ว ต่อมาก็จะเป็นขั้นการลงเมคอัพแล้วค่ะ
เปิดฟลอร์ด้วย Corrector เพราะเจ้าสาวมีปัญหาผิวหน้าเรื่องรอยกระ รอยแดง
ต่อด้วยคอนซีลเลอร์ เพราะเจ้าสาวนอนน้อยยย สงสัยจะเตรียมการเยอะ+ตื่นเต้น
แล้วค่อยลงรองพื้นค่ะ ในส่วนของรองพื้นจะใช้ของ Giorgio Armani Luminous Luminous Silk ผสมเข้ากับรองพื้นของ Estée Lauder เพื่อปรับแต่งสีรองพื้นให้ดูเป็นธรรมชาติ และติดทนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นงาน Outdoor ค่ะ เจ้าสาวมีอากาศร้อนๆ และเหงื่อที่ต้องเผชิญ ^^
งานผิวผ่านไป ต่อมาก็งานโครงหน้า!
ลงคอนทัวร์ให้แล้วค่ะ โดยเลือกใช้เป็นครีมเจลของ Illamasqua แล้วตบด้วยแป้งฝุ่นของ Chanel
มีการเลือกใช้คอนทัวร์แบบฝุ่นก็เพราะเหตุผลเรื่องความชัด และความทนติดหน้า จบคอนทัวร์ก็จะเหลาดั้ง เก็บปีกจมูก แล้วถึงจะเริ่มลงอายชาโดว์แบบครีม ทับด้วยแป้งฝุ่นอีกที เพราะจะเป็นการเบนให้ลุคออกมาละมุน ฟุ้งๆ
เขียนคิ้ว ด้วยดินสอเขียนคิ้วของน้องฉัตร สีสวยละมุนเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา
ดัดขนตา ปัดมาสคาร่า เขียนอายไลน์เนอร์แบบเจลของ Illamasqua เพราะจะให้สัมผัสที่ติดทน อย่างที่บอกไปข้างต้น คือเรื่องติดทนเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ สำหรับงาน Outdoor ไม่งั้นเจ้าสาวหน้าซีดก่อนจบงานแน่ๆ ค่ะ
ต่อจากขั้นตอนดัดขนตา ก็จะติดขนตาให้เจ้าสาวทั้งบน และล่างเลย เพราะเจ้าสาวตาปรือไปหน่อย ใช้ขนตาปลอมจะช่วยได้เยอะเลย ระหว่างการติดจะได้ยินคุณเพื่อนถามเจ้าสาวตลอดว่าหนักไปไหม? คันหรือเปล่า? หรือเจ็บตรงไหนไหม? เพราะขนตาปลอมนี่ถ้าติดไม่ดี ติดไม่โปร เจ้าสาวต้องน่าสงสารมากแน่ๆ ออกงานทั้งวันยังจะต้องมารู้สึกระคายเคืองตา หนักตาอีก แต่เจ้าสาวก็บอกสบาย ชิลล์ๆ เลยค่ะ เก่งมากจ้าคุณเพื่อนนนน
อะ สลับไปส่วนทำผมบ้าง
ก่อนจะได้ทรงผมนี่ต้องคุยกันล่วงหน้าก่อนยาวๆ เลยนะคะ เพราะทีมเพื่อนจะต้องข้อมูลล่วงหน้าค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นชุดในวันนั้นสีอะไร เจ้าสาวอยากได้ผมสไตล์ไหนเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งอยากให้หน้าออกมาโทนไหน ทุกปัจจัยเป็นตัวกำหนดทรงผมทั้งสิ้นค่ะ ก่อนวันงานเจ้าสาวจะมีการส่งรูปภาพชุดที่จะใส่ในวันงานมาหาช่าง แล้วช่างก็จะออกแบบทรงผมส่งกลับไป ซึ่งจะเหมาะสมกับชุดที่ของเจ้าสาวมากที่สุด
เจ้าสาวเกือบจะได้ใส่ชุดแล้ววว แต่!!! ต้องเป็นหลังจากที่ช่างเก็บรายละเอียดทรงผมให้เรียบร้อยก่อน ติดเครื่องประดับผมให้เรียบร้อย แอบได้ยินเพื่อนกระซิบบอกเจ้าสาวด้วยค่ะ ว่าให้ก้มหน้าลงเยอะๆ เวลาพระพรมน้ำมนต์ ทรงผมจะได้ไม่เสียหาย จะได้ไม่พัง คงความปังตลอดวันจ้า
พาเจ้าสาวใส่ชุดได้! ดูจากสายตาเราว่าสวยแล้วนะคะ แต่พวกทีมช่างแต่งหน้าเค้ายังเก็บรายละเอียดเรื่อยๆ จนกว่าจะลงตัวมากที่สุด ไม่เป๊ะ ไม่เลิก! จริงๆ ค่ะทีมนี้ เจ้าสาวกังวลส่วนไหนพูดดดดดด! หลัง แขน นิ้วมือ มีรอยตำหนิอะไร จัดการให้หมด!
มาดูทรงผมเจ้าสาวชัดๆ กันดีกว่า ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกก! ชอบความดอกพุดสดที่ทีมเค้าเตรียมมา เพราะนอกจากดอกพุดสดจะทนต่อสภาพอากาศได้มากแล้ว ยังเข้ากันได้ดีกับชุดแต่งงานสีเงินด้วยค่ะ แมทช์แบบสุดมาก
และนี่ก็คือออออ!!!! Finished Look ของใบหน้าเจ้าสาว และของทีมเพื่อนในวันนี้ค่ะ
ในส่วนของเมคอัพ จะเน้นไปในโทนพีชอมส้ม เพื่อทำให้ราศีเจ้าสาวเปล่งประกาย ผ่านการทำผิวให้เปล่งปลั่ง การใช้ขนตาเข้ามาช่วยนี่ช่วยได้เยอะมากเลย เพราะเจ้าสาวถึงจะนอนน้อย ตาก็ไม่ปรือแล้วค่ะ
ลืมอีกนิดนึงค่ะ งานปาก ลิปสติกที่ใช้จะเป็นตัวของ MAC สี Smoked almond ลงก่อนนะคะ แล้วค่อยจัดการลงลิปกลอสของ Marc Jacobs สี Pretty Thing เพิ่มความแววหวาวให้ปาก ได้โทนสีชมพูสวย ดูสุขภาพดี เฮลตี้เกิร์ลมาก
แต่งเสร็จแล้วน่าดูอ่อนกว่าอายุเยอะเลย ออร่ามาก เป็นวันของสาวเจ้าเค้าจริงๆ
บอกได้เลยว่า ปัง ปัง ปังมาก! ความเป๊ะนี้ เจ้าสาวนี่ส่องกระจกแล้วทำท่าชอบอกชอบใจใหญ่ ทีมงานก็ปลื้มใจค่ะ
เทียบ Before & After ให้เห็นกันชัดๆ ไปเล้ย!!!!!
เค้าว่ากันว่า ออร่าเจ้าสาวจะเปล่งประกายสุดๆ ในวันแต่งงาน นั่นเป็นเรื่องจริงแค่ครึ่งเดียวนะคะ เมื่อกำลังจะถึงวันสำคัญ ใครๆ ก็อดที่จะมีใบหน้าที่อิ่มเอมไปด้วยความสุขไม่ได้ ราศีเจ้าสาวแท้จริงแล้ว คือใบหน้าช่วงที่กำลังมีความสุขนั่นแหละค่ะ แต่อีกครึ่งหนึ่งของเหตุผลที่จะทำให้วันนั้นเจ้าสาวราศีจับ ก็คือขั้นตอนของการแต่งหน้า แต่งให้ปัง ยังไงก็ออร่าก็พุ่ง แต่งแล้วโป๊ะ ยังไงก็อึมครึมเหมือน make up fail ตามดราม่าต่างๆ ยังไงวันสำคัญทั้งที คัดเลือกช่างแต่งหน้าดีๆ อย่างระมัดระวังกันด้วยนะคะ
สำหรับกระทู้นี้ ขอลาไปก่อนด้วยบรรยากาศงานแต่งสุดชื่นมื่นนนน! ใครมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับขั้นตอนไหน ถ้าเจ้าของกระทู้ให้ข้อมูลไม่ชัดเจน คอมเม้นต์ถามกันได้เลยนะคะ เพราะเวลาบีบมาก อาจจะเก็บข้อมูลมาไม่ครบ เดี๋ยวมาตอบให้ทุกคนเลยค่ะ สำหรับตอนนี้เจอกันกระทู้หน้าค่ะ สวัสดีค่าทุกคน <3