เห็นข่าวเรื่องปัญหาไฟฟ้าภาคใต้มาสักพักใหญ่ ส่วนตัวคิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว เพราะภาคใต้ถือเป็นภาคที่สร้างรายได้มหาศาลให้ประเทศ ถ้าไฟดับแบบที่เคยเกิดเมื่อ 2 ปีก่อนอีก น่าจะกระทบเยอะและกฟผ.ก็เคยออกมาบอกว่าปี 63 ไฟจะไม่พอใช้อีก นี่น่าจะเป็นประเด็นระดับประเทศที่ต้องร่วมใจกันแก้ไขแล้วนะครับ
วันนี้เจอเพจลงทุนแมน ก็เอาเรื่องนี้มาพูดถึงด้วย เลยเอามาฝากให้อ่านกันครับ น่าสนใจทีเดียว
ภาคใต้กำลังเผชิญวิกฤตไฟฟ้า / โดย ลงทุนแมน
ไฟฟ้ามีความจำเป็นกับเราขนาดไหน เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่สิ่งจำเป็นนี้กำลังขาดแคลน จนอาจกลายเป็นวิกฤตไฟฟ้าในภาคใต้ เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เมื่อหลายๆเดือนที่ผ่านมานี้ ถ้าใครมีโอกาสได้ติดตามข่าวน่าจะพอเคยได้ยินเรื่อง ภาคใต้ขาดแคลนไฟฟ้า ทำไมถึงบอกว่าภาคใต้ไม่มีไฟฟ้าเพียงพอ? ถ้าเรามาลองคิดกันแบบง่ายๆว่า จำนวนไฟฟ้าที่ผลิตได้ควรจะมากกว่าจำนวนที่ใช้ ก็น่าจะพอบอกได้ว่าเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ ถ้าเรามาดูสถิติการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้ 10 ปีย้อนหลัง พบว่ามีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 2,624 เมกะวัตต์ (MW) และ มีสถิติการใช้ไฟฟ้าเติบโตเฉลี่ยปีละ 3.4% ซึ่งตอนนี้สัดส่วนการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้มาจากเรื่องท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 36% เพราะว่า ภาคใต้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของต่างชาติทั่วโลก
เรื่องนี้จึงอาจจะทำให้เรามองได้ว่า การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตก็น่าจะมาจากส่วนนี้เป็นลำดับแรกนั่นเอง ทีนี้เรามาดูส่วนของการผลิตกันบ้าง กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของภาคใต้ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 3,006 เมกะวัตต์ ซึ่งแบ่งเป็นโรงไฟฟ้าหลัก คือ โรงไฟฟ้าจะนะ และโรงไฟฟ้าขนอม กำลังผลิตหลักรวม 2,406 เมกะวัตต์ การรับไฟฟ้าที่ส่งจากภาคกลาง 460 เมกะวัตต์ การผลิตไฟฟ้าเสริมจากเขื่อน 108 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าชีวมวล 29 เมกะวัตต์ พลังงานลม 3 เมกะวัตต์ ดูเผินๆเหมือนว่าตอนนี้ภาคใต้น่าจะมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ แต่นั่นเป็นกรณีที่โรงไฟฟ้าทุกโรงสามารถผลิตได้เต็มกำลังและการรับส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไม่ได้เกิดปัญหา ซึ่งความจริงแล้วโรงไฟฟ้าต่างๆอาจจะไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังอยู่ตลอดเวลา
ที่น่าสนใจคือ ถ้าเราไม่รับไฟฟ้าที่ส่งมาจากภาคกลาง ไฟฟ้าก็จะไม่เพียงพอต่อความต้องการทันที แปลว่าสายนำส่งไฟฟ้าจากภาคกลางจะเกิดการชำรุดไม่ได้เลย เพราะถ้าเกิดการชำรุดไฟฟ้าก็จะดับเกือบทั้งภูมิภาคทันที ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เหตุการณ์ไฟฟ้าดับในภาคใต้ปี พ.ศ. 2556 สาเหตุเนื่องจากสายส่งกระแสไฟฟ้าจอมบึง - บางสะพาน ถูกฟ้าผ่า ที่ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ส่งผลให้เกิดการลัดวงจร ทำให้เกิดไฟฟ้าดับทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงมา นอกจากนั้นเพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ตามมาตรฐานที่การไฟฟ้ากำหนด ภาคใต้ควรจะมีไฟฟ้าสำรองเท่ากับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งก็คืออีกประมาณ 700 เมกะวัตต์ ทั้งหมดนี้จึงน่าจะพอทำให้เราสรุปได้ว่า ภาคใต้ยังขาดแคลนไฟฟ้าอยู่นั่นเอง แล้วเราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง?
จริงๆแล้วทางออกของเรื่องนี้มีอยู่มากมาย แต่ด้วยลักษณะของภูมิศาสตร์ที่ไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่นัก เรื่องนี้จึงกลายเป็นปัญหาที่ท้าทายทันที ถ้ายังจำกันได้สมัยที่เราเรียนภูมิศาสตร์ตอนมัธยม ภาคใต้จะถูกขนาบด้วยทะเลทั้ง 2 ข้างและมีพื้นที่เป็นทิวเขาจำนวนมาก ส่งผลให้ภาคใต้มีเพียง 2 ฤดูเท่านั้น ซึ่งก็คือฤดูร้อนและฤดูฝน พอเป็นแบบนี้ ความเข้มแสงที่น้อยในภาคใต้อาจจะไม่เพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ส่วนพลังงานทางเลือกอื่นๆก็พอที่จะสร้างได้แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการและมีราคาสูง ทางรัฐบาลจึงได้เสนอทางออกแรกนั่นก็คือ การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ เรื่องนี้ถูกประท้วงอย่างหนักจนทำให้พับโครงการนี้ไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ทางการไฟฟ้าจึงเสนออีกทางเลือกหนึ่งคือ การปั่นไฟใช้เองด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็ก
สำหรับภาคใต้ที่มีโรงงานเกี่ยวกับไม้อยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโรงอบไม้ยางหรือโรงบ่มปาล์ม ดูเหมือนทางเลือกนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ เพราะการปั่นไฟใช้เอง เป็นการลดภาระการดึงไฟฟ้าจากส่วนกลางมาใช้ เมื่อภาคอุตสาหกรรมไม่ดึงไฟฟ้าไปใช้ ก็มีกำลังไฟเหลือสำหรับภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งในอนาคตเราอาจจะเห็นโรงไฟฟ้าชีวมวล มีบทบาทในการผลิตไฟฟ้าภาคใต้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้มากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาในขณะนี้ ทางรัฐบาลได้มีการเพิ่มขนาดสายส่งไฟฟ้าซึ่งทำให้สามารถส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไปได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางรัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ปัญหาอยู่ แต่ต้องยอมรับว่าภาคใต้กำลังเผชิญวิกฤตไฟฟ้า ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในขณะนี้ การผลิตไฟฟ้าจะพึ่งพาภาครัฐบาลอย่างเดียวก็อาจจะไม่ทัน แต่ถ้ามีการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนปัญหานี้น่าจะถูกคลี่คลายลงได้ ส่วนในทางอ้อมเรื่องนี้ถ้าเราอยู่ภาคใต้ เราสามารถช่วยได้เช่นกัน นั่นก็คือ การช่วยกันประหยัดไฟฟ้าภายในบ้านของตัวเอง จากปัญหาที่ดูน่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเราช่วยกันก็อาจจะทำให้ปัญหานั้นดูเล็กลงไปได้..
ที่มา
-
https://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=1843:2017213-art02&catid=49&Itemid=251
-
http://energy.go.th/2015/wp-content/uploads/2018/01/EP_Special_South.pdf
-
https://th.wikipedia.org/wiki/เหตุการณ์ไฟฟ้าในภาคใต้_(ประเทศไทย)_พ.ศ._2556
วิกฤตไฟฟ้าภาคใต้ ปัญหาใหญ่ของประเทศ
วันนี้เจอเพจลงทุนแมน ก็เอาเรื่องนี้มาพูดถึงด้วย เลยเอามาฝากให้อ่านกันครับ น่าสนใจทีเดียว
ภาคใต้กำลังเผชิญวิกฤตไฟฟ้า / โดย ลงทุนแมน
ไฟฟ้ามีความจำเป็นกับเราขนาดไหน เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่สิ่งจำเป็นนี้กำลังขาดแคลน จนอาจกลายเป็นวิกฤตไฟฟ้าในภาคใต้ เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เมื่อหลายๆเดือนที่ผ่านมานี้ ถ้าใครมีโอกาสได้ติดตามข่าวน่าจะพอเคยได้ยินเรื่อง ภาคใต้ขาดแคลนไฟฟ้า ทำไมถึงบอกว่าภาคใต้ไม่มีไฟฟ้าเพียงพอ? ถ้าเรามาลองคิดกันแบบง่ายๆว่า จำนวนไฟฟ้าที่ผลิตได้ควรจะมากกว่าจำนวนที่ใช้ ก็น่าจะพอบอกได้ว่าเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ ถ้าเรามาดูสถิติการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้ 10 ปีย้อนหลัง พบว่ามีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 2,624 เมกะวัตต์ (MW) และ มีสถิติการใช้ไฟฟ้าเติบโตเฉลี่ยปีละ 3.4% ซึ่งตอนนี้สัดส่วนการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้มาจากเรื่องท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 36% เพราะว่า ภาคใต้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของต่างชาติทั่วโลก
เรื่องนี้จึงอาจจะทำให้เรามองได้ว่า การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตก็น่าจะมาจากส่วนนี้เป็นลำดับแรกนั่นเอง ทีนี้เรามาดูส่วนของการผลิตกันบ้าง กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของภาคใต้ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 3,006 เมกะวัตต์ ซึ่งแบ่งเป็นโรงไฟฟ้าหลัก คือ โรงไฟฟ้าจะนะ และโรงไฟฟ้าขนอม กำลังผลิตหลักรวม 2,406 เมกะวัตต์ การรับไฟฟ้าที่ส่งจากภาคกลาง 460 เมกะวัตต์ การผลิตไฟฟ้าเสริมจากเขื่อน 108 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าชีวมวล 29 เมกะวัตต์ พลังงานลม 3 เมกะวัตต์ ดูเผินๆเหมือนว่าตอนนี้ภาคใต้น่าจะมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ แต่นั่นเป็นกรณีที่โรงไฟฟ้าทุกโรงสามารถผลิตได้เต็มกำลังและการรับส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไม่ได้เกิดปัญหา ซึ่งความจริงแล้วโรงไฟฟ้าต่างๆอาจจะไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังอยู่ตลอดเวลา
ที่น่าสนใจคือ ถ้าเราไม่รับไฟฟ้าที่ส่งมาจากภาคกลาง ไฟฟ้าก็จะไม่เพียงพอต่อความต้องการทันที แปลว่าสายนำส่งไฟฟ้าจากภาคกลางจะเกิดการชำรุดไม่ได้เลย เพราะถ้าเกิดการชำรุดไฟฟ้าก็จะดับเกือบทั้งภูมิภาคทันที ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เหตุการณ์ไฟฟ้าดับในภาคใต้ปี พ.ศ. 2556 สาเหตุเนื่องจากสายส่งกระแสไฟฟ้าจอมบึง - บางสะพาน ถูกฟ้าผ่า ที่ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ส่งผลให้เกิดการลัดวงจร ทำให้เกิดไฟฟ้าดับทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงมา นอกจากนั้นเพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ตามมาตรฐานที่การไฟฟ้ากำหนด ภาคใต้ควรจะมีไฟฟ้าสำรองเท่ากับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งก็คืออีกประมาณ 700 เมกะวัตต์ ทั้งหมดนี้จึงน่าจะพอทำให้เราสรุปได้ว่า ภาคใต้ยังขาดแคลนไฟฟ้าอยู่นั่นเอง แล้วเราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง?
จริงๆแล้วทางออกของเรื่องนี้มีอยู่มากมาย แต่ด้วยลักษณะของภูมิศาสตร์ที่ไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่นัก เรื่องนี้จึงกลายเป็นปัญหาที่ท้าทายทันที ถ้ายังจำกันได้สมัยที่เราเรียนภูมิศาสตร์ตอนมัธยม ภาคใต้จะถูกขนาบด้วยทะเลทั้ง 2 ข้างและมีพื้นที่เป็นทิวเขาจำนวนมาก ส่งผลให้ภาคใต้มีเพียง 2 ฤดูเท่านั้น ซึ่งก็คือฤดูร้อนและฤดูฝน พอเป็นแบบนี้ ความเข้มแสงที่น้อยในภาคใต้อาจจะไม่เพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ส่วนพลังงานทางเลือกอื่นๆก็พอที่จะสร้างได้แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการและมีราคาสูง ทางรัฐบาลจึงได้เสนอทางออกแรกนั่นก็คือ การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ เรื่องนี้ถูกประท้วงอย่างหนักจนทำให้พับโครงการนี้ไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ทางการไฟฟ้าจึงเสนออีกทางเลือกหนึ่งคือ การปั่นไฟใช้เองด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็ก
สำหรับภาคใต้ที่มีโรงงานเกี่ยวกับไม้อยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโรงอบไม้ยางหรือโรงบ่มปาล์ม ดูเหมือนทางเลือกนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ เพราะการปั่นไฟใช้เอง เป็นการลดภาระการดึงไฟฟ้าจากส่วนกลางมาใช้ เมื่อภาคอุตสาหกรรมไม่ดึงไฟฟ้าไปใช้ ก็มีกำลังไฟเหลือสำหรับภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งในอนาคตเราอาจจะเห็นโรงไฟฟ้าชีวมวล มีบทบาทในการผลิตไฟฟ้าภาคใต้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้มากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาในขณะนี้ ทางรัฐบาลได้มีการเพิ่มขนาดสายส่งไฟฟ้าซึ่งทำให้สามารถส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไปได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางรัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ปัญหาอยู่ แต่ต้องยอมรับว่าภาคใต้กำลังเผชิญวิกฤตไฟฟ้า ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในขณะนี้ การผลิตไฟฟ้าจะพึ่งพาภาครัฐบาลอย่างเดียวก็อาจจะไม่ทัน แต่ถ้ามีการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนปัญหานี้น่าจะถูกคลี่คลายลงได้ ส่วนในทางอ้อมเรื่องนี้ถ้าเราอยู่ภาคใต้ เราสามารถช่วยได้เช่นกัน นั่นก็คือ การช่วยกันประหยัดไฟฟ้าภายในบ้านของตัวเอง จากปัญหาที่ดูน่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเราช่วยกันก็อาจจะทำให้ปัญหานั้นดูเล็กลงไปได้..
ที่มา
- https://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=1843:2017213-art02&catid=49&Itemid=251
- http://energy.go.th/2015/wp-content/uploads/2018/01/EP_Special_South.pdf
- https://th.wikipedia.org/wiki/เหตุการณ์ไฟฟ้าในภาคใต้_(ประเทศไทย)_พ.ศ._2556