คบกับแฟนมา3ปี แม่แฟนเร่งแต่งงาน แต่แฟนผมเข้ากับครอบครัวไม่ได้

ตอนนี้ผมและแฟนอายุ 25 เราทั้งคู่มีงานทำ ผมรับราชการ ส่วนแฟนทำฟรีแลนซ์ (รับงานขายของขายสินค้าทุกอย่าง , PRเชียร์เบียร์ , เคยทำนั้งดริ้งสองครั้ง แต่ผมขอให้เลิก)
          ผมและแฟนไม่กินเบียเหล้าหรือดูดบุหรี่ แต่แฟนกินบ้างตอนทำงาน
          ผมและแฟนไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกันให้เกียรติและไว้ใจกัน
          นิสัยของแฟนที่ผมยังรับไม่ได้ถ้าเธอทำ และผมจะไม่คุยพยายามเงียบจะได้ไม่ทะเลาะ คือเธอขี้โมโห ชอบด่าว่าผม ขึ้นกูตลอด ผมไม่รู้จะแก้ยังไง มันหลายครั้งมาก ถ้าผมพูดผมกับแฟนจะทะลเาะกันหนัก ส่วนมากผมเลยจะเป็นฝ่ายเงียบ แต่ผมเคยบอกเลิกไปสองครั้ง เพราะเธอด่าผมแบบตะคอกต่อหน้าครอบครัวของเธอเอง ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำผมเลยเลิก แต่เราก็ยังกลับมาคบกันเลิกกันไม่ถึงอาทิตย์ พอขอให้เธอเลิกทำนิสัยแบบนี้เธอก็พูดคำเดิมๆว่าเปลี่ยนยากมันเป็นสันดานของเธอ เธอพูดเองนะ ผมไม่เคยพูดคำหยาบกับเธอเลย
           ผมเข้าใจนะว่ามำไมเธอนสัยแบบนี้เพราะครอบครัวของเธอมัคนนิสัยแบบนี้สองคนคือ ตา และแม่ของเธอ ส่วนพ่อของเธอก็เคยได้ยินมาว่าเป็นคนเงียบๆแบบผม แต่พ่อของเธอและแม่ของเธอเลิกกันไปตั้งแต่เธอยังเด็กแล้ว
          ส่วนงานที่เธอทำ ผมไม่อยากให้ทำเนื่องจาก กลับก็ดึก ใกล้เบียเหล้า ผมกลัวว่าจะอันตรายเป็นห่วงเพราะผมไม่ได้ไปรับส่งเนื่องจากงานที่ผมทำช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่ใช่เพราะว่าไม่ไว้ใจ แต่เพราะเป็นห่วงเลยอยากให้เลิกทำ แต่ทุกครั้งที่คุยเรื่องานของเธอเธอไม่เคยยอมเปลี่ยนและไม่ให้ยุ่ง เธอยืนยันว่าจะทำ
          เมื่อวันก่อนแม่แฟนถามผมว่าเมื่อไหร่จะแต่งงานกันไปซะที ผมก็รักแฟนอยากแต่งเพราะเหมือนแม่เขาจะเชิงไล่เขามากกว่าจากลักษณะการพูด และครอบครัวเขาไม่ได้รํ่ารวย
          ผมเลยกลับมาบ้านมาปรึกษาพ่อและแม่ ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นยังไงในสายตาพ่อและแม่ ครอบครังผมมาจาก ตจว.ครับ
                    แม่ผมพูดว่า แม่ก็รักแฟนผม แต่แม่ไม่เคยเห็น เขาจะดูแลเทคแคร์อะไรลูกเลย
                    พ่อผมพูดว่า อยู่ดีๆทำไมเร่งแต่งละ พ่อผมไม่ชอบงานที่เธอทำเลยแอนตี้งานที่เธอทำมาก ก่อนพ่อตอบผมก็รู้ เพราะพ่อจะถามคำตอบคำกับแฟนผม แต่พ่อกับแม่ผมก็คุยกับแฟนผมนะ แต่แฟนผมไม่ค่อยพูดคุยกับที่บ้านผม ซึ่งต่างจากผมที่พูดคุยกับที่บ้านเขาบ่อย
          ผมเลยยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะแต่งงานหรือเลิกกันไปเลย เพราะผมพยายามขอให้เธอปรับแล้วแต่ยังปรับไม่ได้ แล้วไม่นานมานี้เธอยืนยันว่าจะไม่มาบ้านผมอีก(เธอจะทำแบบว่าให้พ่อแม่ผมคิดว่าผมเลิกกับเธอไปแล้ว)
          เครียดครับ ผมไม่ชอบการเริ่มต้นใหม่
**เนื้อหาอาจจะไม่ครบ แต่ก็อยากให้แสดงความคิดเห็นช่วยผมหาทางออกทีครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เราว่า คำตอบของพ่อ และ แม่ ของคุณน่ะ ศักดิ์สิทธิ์แล้วล่ะ น่าเชื่อถือที่สุด
เพราะท่านตอบ ในฐานะ พยานผู้เห็นเหตุการณ์ และ ปรารถนาดีกับคุณมากที่สุด ...

ทีนี้ ... สมมติว่า เราเป็นเพื่อนคุณ  เราจะบอกคุณว่า

อายุเพียง  25 ถ้ายังไม่เจอ “นางแก้ว” ผู้จะมาเป็นคู่บารมี ส่งเสริมให้ชีวิตคุณมีความสุข และมีความหมาย
คุณก็ไม่จำเป็นต้องเร่งร้อนหรอกค่ะ

สังคมของคุณ ต้องการเห็นคุณ มี ศรีภริยา ที่ดี  เวลาเป็นใหญ่เป็นโต จะดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
พ่อแม่ของคุณ ก็ต้องการศรีสะใภ้  เวลามีหลาน จะได้มั่นใจ ว่าจะมีอนาคตที่ดี จากการถูกอบรมมาอย่างดี

คุณล่ะคะ ไม่อยากได้ ภรรยา ที่มี สิริ หรอกหรือ ?

สำหรับเรานะ ...
เรื่องคู่ชีวิต เราจะไม่เลือกคนใจร้อน และ พูดจาหยาบคายโดยเด็ดขาด
(ที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่เราคบด้วย ในทุกสถานะ พูดขึ้นสรรพนามหยาบคาย กับเราแม้แต่คนเดียว)

เรามีความรู้สึกว่า ... การอยู่ร่วมบ้านกับ คนใจเย็น  บ้านจะร่มเย็น

เมื่อบ้าน คือที่พักเหนื่อย.. คลายร้อนใจ จากงานที่เผชิญมาทั้งวันได้จริง
คุณจะมีพลัง กลับไปสร้างสรรค์ผลงาน ให้โดดเด่นและมีคุณค่าต่อส่วนรวมได้

ขอให้เจอ คนที่รักและ คู่ควรกันกับคุณนะคะ

inlove
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่