เมื่อทางข้างหน้ามันตัน

ตอนแรกตัดสินใจอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีไหม
เพราะมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะ sensitive
และมันเป็นเรื่องภายในครอบครัว
แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจตั้งกระทู้เรื่องนี้ เพราะอยากได้ความเห็น
และเผื่อมันจะเป็นเรื่องสอนใจใครได้บ้าง

ตอนนี้เราอายุ 19 ปี แต่เรามีเรื่องที่ต้องคิดในสมองมากมาย
เริ่มจากพ่อกับแม่ แยกทางกันตั้งแต่อยู่อนุบาล ตอนนั้นเราจำทุกความรู้สึกได้ดี เราไม่เคยโกรธท่านทั้งสอง เราเข้าใจ เรายังรักทั้งพ่อและแม่ ถึงแม้ท่านจะเป็นแบบไหน เราคิดเสมอว่าท่านคือคนให้กำเนิด เราอยู่กับพ่อหลังจากที่ท่านแยกทางกัน ไปหาแม่ที่ต่างจังหวัดทุกปิดเทอม จนกระทั้งเรียนจบป.6 ด้วยความคิดถึงแม่ เลยขอย้ายไปอยู่กับแม่ที่ตจว. ไปเรียนม.1 ที่นั่น แม่เราอยู่กับแฟนใหม่ ร่วมสร้างธุรกิจด้วยกันเล็กๆ แม่ต้องเริ่มต้นใหม่ แม่มีเงินเก็บน้อย เราเข้าใจดีและไม่เคยขออะไรแม่เลย เราเป็นเด็กกรุงเทพที่เข้าไปเรียนในตจว. ก็ธรรมดา จะฮอตเป็นพิเศษ55555 ก็มีทั้งคนชอบ คนหมันไส้ แม่เลยจัดการปัญหานี้ด้วยการไม่ให้ใช้โทรศัพท์ เอาไปแอบ ถอดซิมทิ้ง เราค่อนข้างจะไม่เข้าใจในสิ่งที่แม่ทำ เราอึดอัดอยู่พอสมควรช่วงนั้น แต่ก็แค่เรื่องเล็กน้อย เอาจริงๆช่วงนั้นค่อนข้างจะลำบาก ทั้งโจรเข้าบ้าน (2ครั้ง) และการเริ่มต้นใหม่ของแม่กับผู้ชายคนนี้...
ทุกอย่างเหมือนจะลงตัว เราเรียนดี กิจกรรมดี แต่แล้วเรื่องนี้ก็เกิดขึ้น แฟนใหม่ของแม่ ลวนลามเรา ในขณะที่แม่เรานอนอยู่ข้างๆ!! ใช่ค่ะ เรานอนตรงกลาง เขานอนฝั่งซ้าย แม่เรานอนข้างขวา เราหลับอยู่รู้สึกตัวเพราเจ็บตรงนั้น เราลืมตามมา เขาพยายามจะยัดน้องของเขาเข้ามา ใช้แขนกดตัวเราไว้ เราถีบเขาออก และวิ่งไปห้องน้ำ เราไม่ได้ตะโกนอะไรเลย เราก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่กล้าบอกแม่ มันกลัว มันทำตัวไม่ถูกจริงๆ
คืนนั้นผ่านไปเราอดทน อยู่แบบนั้น แบบที่ต้องเจอหน้าผู้ชายคนนี้ทุกวัน คนที่เป็นแฟนของแม่ คนที่แม่เชื่อว่าเขาดี... จนจบม.1 เรากลับมาหาพ่อที่กทม. เล่าเรื่องนี้ให้ที่บ้านฟัง ขอย้ายกลับมาเรียนที่กทม. เหมือนเดิม ทุกคนก็อนุญาติ และแม่เราเพิ่งจะทราบเรื่องนี้วันนั้น เราไม่รู้ว่าทำไมนะ ทำไมเราถึงไม่พูดอะไรเลย เราคิดผิดเองคิดว่าถึงจะพูดตอนไหนแม่ก็ต้องเข้าใจ แต่เราคิดผิด พอแม่รู้ แม่ก็ไปคุยกับแฟนเขา และมาพูดกับเราว่า เขาไม่ได้ตั้งใจ เขา'บอกว่า'ละเมอ
เขาร้องไห้ด้วยนะ บอกว่า "ขอโทษที่ทำให้ลูกคุณเกลียดผม แต่ผมไม่ได้ตั้งใจผมละเมอ" แม่เราเชื่อผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่เรา ยิ้ม
แต่เชื่อไหมว่าเราไม่โกรธแม่เลย ถึงแม้ว่าแม่คบกับผู้ชายคนนั้นต่อ เรายังคิดถึง โทรหาทุกวัน เพราะตอนเด็กๆเราไม่ค่อยจะได้อยู่กับแม่ ถ้าเป็นตอนเด็กๆ แม่จะมาหาบ้าง มาเปิดโรงแรมนอน 3-4 คืน พาเราไปกินของอร่อยๆ ซื้อของที่เราอยากได้ให้ ทุกิย่างที่แม่ให้ในตอนนั้น เราไม่เคยให้ใครจับเลย แม้แต่ผ้าเช็ดตัวที่เราใช้ตอนไปหาแม่ เราไม่ซัก ไม่ให้ใครจับ ขนมที่แม่ซื้อให้ ก็สั่งทุกคนว่าห้ามกิน เราหวงทุกๆอย่างที่แม่มอบให้
และพอหลังจากที่กลับมาเรียนที่กทม. มันก็ยังมีปัญหาอีกหลายๆอย่าง เยอะมาก เล่าไปคงไม่หมด จนในที่สุด ปีที่แล้ว เราเริ่มเป็นโรคซึมเศร้า ด้วยความน้อยใจของเราเอง เราชอบทะเลาะกับแม่ในไลน์ จนคืนนึง เราโกรธ ด้วยความที่มันเป็นปัญหาคาใจ เลยตัดสินใจพิมพ์ลงในแชท ว่าเราไม่เคยเกลียดแม่ ที่แม่เชื่อผู้ชายคนอื่น แต่ไม่เชื่อลูกของแม่ แต่แม่ดันตอบกลับมาว่า อยากจะเกลียดก็เกลียดเลย เพราะแม่ไม่ใช่แม่เลวๆแบบในข่าว
ก็นะ... เราค่อนข้างอึ้ง อึ้งไปสักพัก นี่แม่คิดแบบนี้จริงๆหรอ? แม่คนเดิมหายไปไหน? ตัดสินใจถามแม่ว่า ทำไม? ทำไมแม่ถึงยังคบกับเขา คนที่พยายามจะข่มขืนลูกแม่ ทำไมแม่เชื่อเขา ไม่เชื่อลูกของแม่
แม่ให้คำตอบเรามาแบบจุกๆว่า "เพราะ เขาเลี้ยงแม่ได้ เขาดูแลแม่ได้" ค่ะ แค่นี้ เรายอมแพ้ แม่บอกให้ตัดกันไปเลยก็ได้ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก เราไม่ไปไหน เก็บตัว ทุกวันก็จะปกติ แต่พอก่อนนอนก็จะนอนคิดถึงแต่คำพูดของแม่ หาคำตอบว่าเพราะอะไร และพยายามฆ่าตัวตายมา 2 ครั้ง
จนในที่สุด ปีนี้ คนที่บ้านทักบ่อยมากว่าผอม ผอมมาก เราเลยตัดสินใจไปตรวจเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา เราตรวจเจอมะเร็งเม็ดเลือดขาว เราก็ไม่แปลกใจหรอกนะเอาจริงๆ เพราะเรื่องนี้เราเป็นตั้งแต่เด็ก พวกเม็ดเลือดขาวมากกว่าเม็ดเลือดแดง เป็นโรคซีดตั้งแต่เด็กๆ อีกอย่างที่ช็อคกว่าเจอมะเร็ง คือลองโทรหาแม่ แต่ไม่ได้บอกว่าตรวจเจอ แค่แกล้งถามเรื่องพวกประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ก็สเต็ปเดิม แม่ตอบแค่ ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้ เราก็ถามต่อว่าถ้าเราไปนอนรพ.นานๆ จะทำไงดี แม่พูดสั้นๆ "รอให้ถึงเวลานั้นก่อน" ค่ะ จบ
เราตัดสินใจแล้วว่าจะไม่รักษา ไม่อยากนอนรพ.คนเดียว และถ้าถึงขั้นนี้ แม่เรายังคงเป็นแบบนี้ เราก็ยอม เราโอเคนะ ถ้าจะตายวันไหนไม่รู้ ตอนนี้เราก็อยู่ได้ แค่ผอมติดกระดูก ข้าวก็ทานได้ค่ะ นิดๆหน่อยๆ แต่เหนื่อยง่ายมาก มาก มาก แรงที่มือที่ขาเริ่มจะไม่ค่อยมี แต่เราโอเค เราอยู้ได้ ก็ดูยูทูป หาไรขำๆ เรายังหัวเราะได้อยู่ แปลว่าเราโอเค
เรื่องมีแค่นี้ ที่จริงเหมือนเป็นกระทู้ระบายมากกว่าเนอะ5555
ผิดพลาดตรงไหนอย่าถือสากันนะคะ ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าที่เข้ามาอ่านนะ💓
ปล.เรายืนยันตัวตยไม่ได คงต้องตั้งกระทู้คำถามแทน ขอโทษด้วยนะคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เข้ามาส่งกำลังใจให้ จขกท ค่ะ ^^

น้องกลบเกลื่อนด้วยเสียงหัวเราะในช่วงสุดท้าย ทั้งที่เรื่องหมด มันแสนเศร้า ด้วยวัยแค่นี้ เจอเรื่องหนักมากนะคะ ตอนนี้ยังเรียนอยู่หรือเปล่า และทุกวันนี้ พ่อและคนที่บ้านนี้ รู้เรื่องไหมคะ ว่าน้องป่วยด้วยโรคซึมเศร้า และยังมีมะเร็งเม็ดเลือดขาวด้วย มะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะไหน และคุณหมอเริ่มรักษาหรือยังคะ

ถึงที่สุดแล้ว เราแต่ละคนมีวิบากแตกต่างกัน ไม่เว้นแม่แต่แม่ แม่ก็เป็นปุถุชน รัก โลภ โกรธ หลง เห็นผิด คิดผิด และทำไม่ถูก เป็นไปได้ทั้งสิ้น ดีใจนะคะ อย่างน้อย จขกท ก็เข้าใจและคล้าย ๆ กับจะทำใจได้บ้างแล้วในเรื่องแม่และสิ่งที่แม่เป็น อย่าน้อยใจ โกรธ เกลียด กล่าวโทษ และที่สำคัญกว่านั้น อย่าพยายามหาคำตอบเลยนะคะ ว่าทำไมแม่เชื่อและทำอย่างที่ทำอยู่เป็นอยู่ เรื่องใจคนนั้น อย่าไปรู้เขาเลย เราจะสบายใจที่สุด เพราะไม่มีวัน ไม่มีทางที่จะรู้และเข้าใจใครได้ นี้เป็นเรื่องแน่

เมื่อทำได้ การอยู่กับปัจจุบันน่าจะง่ายขึ้น ลำพังอยู่และพยายามรักษาสุขภาพกาย และสุขภาพจิตแข็งแรง ไม่ทรุดหนักไปกว่านี้ก็ยุ่งแล้ว อย่าเอาเรื่องอดีตและอนาคตมาแบกนะคะ

รักษากายให้แข็งแรง และจิตใจให้สดชื่น ร่าเริง เอาใจช่วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่