สวัสดีครับชาวพันทิพทุกท่าน เท้าความก่อนว่าตอนนี้ผมขับรถ BMW Series5 E60 ซึ่งเป็นรถมรดกตกทอดจากพี่ชาย อายุประมาณ 8-10 ปีได้แล้ว ซึ่งตอนนี้น้องงอแงมากครับ มีปัญหาเกือบรายเดือนเลยก็ว่าได้ ตอนนี้ซ่อมไปแล้วเกือบแสน น้ำตาจะไหลแล้วครับTT จนวันหนึ่งผมเลยตัดสินใจว่า เอาวะ ได้เวลาออกรถใหม่แล้วแหละ เพราะตอนนี้ผมก็ไม่ได้มีภาระอะไร และแบรนด์รถที่ผมสนใจมากที่สุดตอนนี้คือ Volvo ครับ

Volvo คือรถที่ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มีระบบปลอดภัยที่เข้มมาก ผมก็นึกสงสัยว่ารถที่เค้าว่ากันว่าขับปลอดภัยนี้มันจะราคาสักเท่าไหร่กันเชียว ไม่รอช้า รีบบึ่งตรงไปที่ศูนย์ Volvo แถวบ้านทันที ที่ Volva ลาดพร้าวครับ
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่คนที่รู้เรื่องรถมากมายอะไรนัก เดินเข้าไปในโชว์รูมมีความงงๆ เราจะมุ่งตรงรถรุ่นไหนดีนะ ก็มีเซลล์เดินเข้ามาชาร์จเลย ผมก็บอกสิ่งที่ผมต้องการไปว่า ผมอยากได้รถที่ขับในกรุงเทพ กระทัดรัต ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป สไตล์โฉบเฉียวหน่อยๆ เท่ๆ มี 5 ประตู ไว้เก็บของข้างหลังได้(เป็นความชอบส่วนตัวของผมด้วย 55) สรุปแล้วพี่เซลล์ก็เลยเสนอ Volvo V40 มาให้ หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
เห็นครั้งแรกแล้วผมชอบเลยนะ เพราะภาพจำของผมเมื่อก่อนคือ Volvo เป็นรถสไตล์ครอบครัว ใหญ่ๆ ไม่ได้มีดีไซน์ที่เอาใจวัยรุ่นสักเท่าไหร่ แต่คันนี้คือสวยเลยนะครับขนาดกลางๆไม่ใหญ่ ไม่เล็กจนเกินไป ข้างในก็สวยใช้ได้เลย ตัวเครื่องขับเครื่องด้วยน้ำมันเบนซินเท่านั้น ไม่มีดีเซลให้เลือก

ดีไซน์ภายในดูเรียบๆเท่ๆสปอร์ตๆเหมาะกับเราจริงๆ 555 ออพชั่นก็จะมีตั้งแต่ปุ่ม Push to start, จอ Entertainment , ที่เปิดปิดแอร์, แผงควบคุมทั้งฝั่ง Entertainmentและแอร์บนพวงมาลัย, มีช่องเสียบกุญแจรถเผื่อแบตเตอรี่ในรีโมทหมดก็เสียบในช่องแล้วกดสตาร์ทได้เหมือนกันครับ
หลังจากที่ดูรถในโชว์รูมพอหอมปากหอมคอแล้ว ผมก็อยากสัมผัสรถจริงนิดหนึ่งว่าเจ้า V40 ตัวนี้เอาไปขับจริงจะเป็นยังไง เลยให้พี่เซลล์เค้าพาไปดูรถตัว Test ข้างนอก ไปดูพร้อมกันเลยครับ

พอสตาร์ทรถปุ๊บก็เจอเข้ากับหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ก่อนเลย ซึ่งสามรถปรับสี ปรับแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราได้ว่าจะแบบ สปอร์ต หรือจะเอาแบบเรียบๆ ตามความชอบได้เลยฮ่ะ

ในส่วนของเกียร์ก็มี P จอด, N เกียร์ว่าง, D ขับเคลื่อน และ S แบบสปอร์ตไว้ขับแซงครับ


ด้วยความที่ Volvo เค้าเน้นความปลอดภัยมากๆ อันนี้พี่เซลล์บอกว่าเป็นระบบความปลอดภัยหนึ่งของ Volvo คือเวลาที่เราจะขับเปลี่ยนเลนส์หรือขับแซง จะมีมุมๆหนึ่งที่เรามองไม่เห็น เจ้า V40 จะช่วยเรามองว่าในมุมอับที่เรามองไม่เห็นมีรถมาไหม เรียกว่า BLIS ซึ่งจะเตือนเราว่าอาจจะไม่ปลอดภัยนะถ้าเรามีการเปลี่ยนเลนส์หรือแซง

ตัวรีโมทรถยนต์มีฟังชั่นหนึ่งที่ผมชอบมาก คือ ถ้าเรากดปุ่มตัว I ตัวรถจะสื่อสารกับรีโมทว่าสถานะของรถเราตอนนี้เป็นอย่างไร เช่น ถ้ากดแล้วตัวไฟไปแสดงอยู่ตรงที่ล๊อครถ แปลว่าเราล๊อครถแล้ว ผมว่าฟังชั่นนี้เหมาะกับผู้หญิงมากนะครับที่อาจจะเป็นโรคขี้ลืมว่าล๊อครถไปยัง ไม่ต้องเดินกลับมาที่รถเพื่อเช็คอีกต่อไป 555

ตัวรถเป็นระบบเซนเซอร์รอบคัน กะระยะเดินหน้าถอยหลังตอนถอยจอดได้สบายๆ เหมือนรถที่ผมขับอยู่ตอนนี้เลย ผมชอบมากกว่ากล้องมองหลังนะครับ เหมือนให้รถเป็นตัวมองเลยว่าระยะจอดเหมาะมั้ย ถอยได้อีกหรือเปล่า

มาดูในส่วนของการฟังเพลงต่างๆกันดีกว่า บอกเลยว่าฟังชั่นนี้ผมเน้นมาก การที่ขับรถบวกกับฟังเพลงเพราะๆมันเป็นอะไรที่ดีสุดๆไปเลยครับ เริ่มที่ต่อโทรศัพท์กับรถด้วยระบบ Bluetooth ก่อนเลย ต่อไม่ยากเลยครับ แค่เปิด Bluetooth และกดปุ่มค้นหาในรถ แค่นี้ก็Connect ได้แล้ว



เพลงที่ใช้ทดสอบคือเพลงของ Honne บอกได้เลยว่าเสียงดี ใสมากครับ แล้วเค้าสามารถปรับ EQ แบบละเอียดได้ด้วยนะครับ ใครชอบ Bass หนักๆ หรือเสียงเครียๆ ก็จัดกันไปได้เลยครับ

อันนี้เป็นระบบเท่ๆที่เค้าอยากนำเสนอ คือ เมื่อเรากดปุ่มนี้ มันจะเป็นการจอดรถอัตโนมัติให้เลยครับ ไม่ต้องบังคับพวงมาลัยเอง มีหน้าที่แค่เปลี่ยนเกียร์กับเหยียบเบรกเท่านั้นเองครับ

ตรงประตูเป็นระบบสัมผัสทั้งหมดนะครบ จะไม่มีปุ่มดำๆให้กดเหมือนรถญี่ปุ่นทั่วไปครับ ถ้าเรามีกุญแจไว้กับตัว แค่สอดมือเข้าไปตรงที่จับ รถก็จะปลดล๊อคให้เราทันทีครับ
เรามาดูกันที่ราคากันดีกว่าครับ ว่าทั้งหมดทั้งมวนนี้ เราจะต้องกำเงินมาเท่าไหร่
สำหรับผมโอเคเลยนะครับกับราคานี้ ผ่อนยาวๆไม่รีบ 555
ตัวรถมี 3 สีให้เลือกเลยครับ คือสี ขาว ดำ เทา ส่วนตัวผมชอบสีเทาครับ สวยดี 55

เป็นยังไงกันบ้างการรีวิวรถแบบงงๆของผม ตอนนี้ก็กำลังตัดสินใจอยู่ครับว่าจะเอาดีหรือไม่เอาดี ถ้าเพื่อนๆมีรถตัวไหนอยากแนะนำผมก็มาคอมเมนท์ข้างล่างได้เลยนะครับ อยากมีรถหลายๆยี่ห้อมาคอมเพร์เหมือนกัน สำหรับวันนี้ไปก่อนแล้วครับผมม
รีวิว เมื่อผมคันไม้คันมืออยากเปลี่ยนรถใหม่
Volvo คือรถที่ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มีระบบปลอดภัยที่เข้มมาก ผมก็นึกสงสัยว่ารถที่เค้าว่ากันว่าขับปลอดภัยนี้มันจะราคาสักเท่าไหร่กันเชียว ไม่รอช้า รีบบึ่งตรงไปที่ศูนย์ Volvo แถวบ้านทันที ที่ Volva ลาดพร้าวครับ
ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่คนที่รู้เรื่องรถมากมายอะไรนัก เดินเข้าไปในโชว์รูมมีความงงๆ เราจะมุ่งตรงรถรุ่นไหนดีนะ ก็มีเซลล์เดินเข้ามาชาร์จเลย ผมก็บอกสิ่งที่ผมต้องการไปว่า ผมอยากได้รถที่ขับในกรุงเทพ กระทัดรัต ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป สไตล์โฉบเฉียวหน่อยๆ เท่ๆ มี 5 ประตู ไว้เก็บของข้างหลังได้(เป็นความชอบส่วนตัวของผมด้วย 55) สรุปแล้วพี่เซลล์ก็เลยเสนอ Volvo V40 มาให้ หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
เห็นครั้งแรกแล้วผมชอบเลยนะ เพราะภาพจำของผมเมื่อก่อนคือ Volvo เป็นรถสไตล์ครอบครัว ใหญ่ๆ ไม่ได้มีดีไซน์ที่เอาใจวัยรุ่นสักเท่าไหร่ แต่คันนี้คือสวยเลยนะครับขนาดกลางๆไม่ใหญ่ ไม่เล็กจนเกินไป ข้างในก็สวยใช้ได้เลย ตัวเครื่องขับเครื่องด้วยน้ำมันเบนซินเท่านั้น ไม่มีดีเซลให้เลือก
ดีไซน์ภายในดูเรียบๆเท่ๆสปอร์ตๆเหมาะกับเราจริงๆ 555 ออพชั่นก็จะมีตั้งแต่ปุ่ม Push to start, จอ Entertainment , ที่เปิดปิดแอร์, แผงควบคุมทั้งฝั่ง Entertainmentและแอร์บนพวงมาลัย, มีช่องเสียบกุญแจรถเผื่อแบตเตอรี่ในรีโมทหมดก็เสียบในช่องแล้วกดสตาร์ทได้เหมือนกันครับ
หลังจากที่ดูรถในโชว์รูมพอหอมปากหอมคอแล้ว ผมก็อยากสัมผัสรถจริงนิดหนึ่งว่าเจ้า V40 ตัวนี้เอาไปขับจริงจะเป็นยังไง เลยให้พี่เซลล์เค้าพาไปดูรถตัว Test ข้างนอก ไปดูพร้อมกันเลยครับ
พอสตาร์ทรถปุ๊บก็เจอเข้ากับหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ก่อนเลย ซึ่งสามรถปรับสี ปรับแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราได้ว่าจะแบบ สปอร์ต หรือจะเอาแบบเรียบๆ ตามความชอบได้เลยฮ่ะ
ในส่วนของเกียร์ก็มี P จอด, N เกียร์ว่าง, D ขับเคลื่อน และ S แบบสปอร์ตไว้ขับแซงครับ
ด้วยความที่ Volvo เค้าเน้นความปลอดภัยมากๆ อันนี้พี่เซลล์บอกว่าเป็นระบบความปลอดภัยหนึ่งของ Volvo คือเวลาที่เราจะขับเปลี่ยนเลนส์หรือขับแซง จะมีมุมๆหนึ่งที่เรามองไม่เห็น เจ้า V40 จะช่วยเรามองว่าในมุมอับที่เรามองไม่เห็นมีรถมาไหม เรียกว่า BLIS ซึ่งจะเตือนเราว่าอาจจะไม่ปลอดภัยนะถ้าเรามีการเปลี่ยนเลนส์หรือแซง
ตัวรีโมทรถยนต์มีฟังชั่นหนึ่งที่ผมชอบมาก คือ ถ้าเรากดปุ่มตัว I ตัวรถจะสื่อสารกับรีโมทว่าสถานะของรถเราตอนนี้เป็นอย่างไร เช่น ถ้ากดแล้วตัวไฟไปแสดงอยู่ตรงที่ล๊อครถ แปลว่าเราล๊อครถแล้ว ผมว่าฟังชั่นนี้เหมาะกับผู้หญิงมากนะครับที่อาจจะเป็นโรคขี้ลืมว่าล๊อครถไปยัง ไม่ต้องเดินกลับมาที่รถเพื่อเช็คอีกต่อไป 555
ตัวรถเป็นระบบเซนเซอร์รอบคัน กะระยะเดินหน้าถอยหลังตอนถอยจอดได้สบายๆ เหมือนรถที่ผมขับอยู่ตอนนี้เลย ผมชอบมากกว่ากล้องมองหลังนะครับ เหมือนให้รถเป็นตัวมองเลยว่าระยะจอดเหมาะมั้ย ถอยได้อีกหรือเปล่า
มาดูในส่วนของการฟังเพลงต่างๆกันดีกว่า บอกเลยว่าฟังชั่นนี้ผมเน้นมาก การที่ขับรถบวกกับฟังเพลงเพราะๆมันเป็นอะไรที่ดีสุดๆไปเลยครับ เริ่มที่ต่อโทรศัพท์กับรถด้วยระบบ Bluetooth ก่อนเลย ต่อไม่ยากเลยครับ แค่เปิด Bluetooth และกดปุ่มค้นหาในรถ แค่นี้ก็Connect ได้แล้ว
เพลงที่ใช้ทดสอบคือเพลงของ Honne บอกได้เลยว่าเสียงดี ใสมากครับ แล้วเค้าสามารถปรับ EQ แบบละเอียดได้ด้วยนะครับ ใครชอบ Bass หนักๆ หรือเสียงเครียๆ ก็จัดกันไปได้เลยครับ
อันนี้เป็นระบบเท่ๆที่เค้าอยากนำเสนอ คือ เมื่อเรากดปุ่มนี้ มันจะเป็นการจอดรถอัตโนมัติให้เลยครับ ไม่ต้องบังคับพวงมาลัยเอง มีหน้าที่แค่เปลี่ยนเกียร์กับเหยียบเบรกเท่านั้นเองครับ
ตรงประตูเป็นระบบสัมผัสทั้งหมดนะครบ จะไม่มีปุ่มดำๆให้กดเหมือนรถญี่ปุ่นทั่วไปครับ ถ้าเรามีกุญแจไว้กับตัว แค่สอดมือเข้าไปตรงที่จับ รถก็จะปลดล๊อคให้เราทันทีครับ
เรามาดูกันที่ราคากันดีกว่าครับ ว่าทั้งหมดทั้งมวนนี้ เราจะต้องกำเงินมาเท่าไหร่
สำหรับผมโอเคเลยนะครับกับราคานี้ ผ่อนยาวๆไม่รีบ 555
ตัวรถมี 3 สีให้เลือกเลยครับ คือสี ขาว ดำ เทา ส่วนตัวผมชอบสีเทาครับ สวยดี 55
เป็นยังไงกันบ้างการรีวิวรถแบบงงๆของผม ตอนนี้ก็กำลังตัดสินใจอยู่ครับว่าจะเอาดีหรือไม่เอาดี ถ้าเพื่อนๆมีรถตัวไหนอยากแนะนำผมก็มาคอมเมนท์ข้างล่างได้เลยนะครับ อยากมีรถหลายๆยี่ห้อมาคอมเพร์เหมือนกัน สำหรับวันนี้ไปก่อนแล้วครับผมม