ซื้อบ้าน กู้ร่วม สามี ภรรยา หย่าขาดจากสามี เขาเอารถไป โดยสลักหลังใบหย่า ยกบ้านให้เรา เราจะขายบ้าน สามีต้องมาเซ็นโอนมั้ย

ร่วมกู้ซื้อบ้านกับพ่อของลูกตั้งแต่ยังไม่จดทะเบียนสมรส ผ่อนบ้านมาสิบปีเลยจดทะเบียนกัน แต่อยู่กันไม่ได้เลยพากันไปหย่า ตอนนี้ดิฉันอยู่ต่างประเทศ ทำงานจนสามารถผ่อนบ้านจนหมดด้วยตัวเองโดยพ่อของลูกไม่ได้ช่วย

พ่อกับแยกทางกัน จดทะเบียนหย่าเรียบร้อยแล้ว ....สลักหลังไว้ข้อนึงว่า บ้าน(ติดภาระจำนอง)ยกให้บุตรคนโต...ซึ่งพ่อกับแม่กู้ร่วมกัน ผ่อนคนละครึ่ง อยากสอบถามว่า ถ้าบุตรคนโตนำเงินไปปิดบัญชีเงินที่กู้มาซื้อบ้า

ขอถามเรื่องหนี้สิน ถ้าสามี ไปกู้เงินกับ ธนาคาร แล้วทางธนาคารต้องให้ภรรยาเซ็นยินยอม (เนื่องจากจดทะเบียน) ถ้าภรรยาเซ็นยินยอมไปแล้ว เกิดสมมุติว่าได้หย่าขาดจากกัน หนี้สินที่สามีกู้นั้น ภรรยาต้องร่วมรับผิด

หย่ากับสามีผ่านมาสามปี  สามีจะจดทะเบียนสมรสกับภรรยาใหม่ปลายปีนี้           แต่งงานกับสามีเราได้จดทะเบียนสมรสกันตั้งแต่ปี 2539  ต่อมาปลายปี 2548เราทั้ง 2 คน ซื้อ

เราอยากรบกวนสอบถาม เนื่องจากเราได้อย่าขาดจากสามีมามากกว่า 10 ปีแล้ว ในสลักหลังกล่าวว่า บ้านที่เป็นทรัพย์สินสามีจะผ่อนจนหมด เมื่อหมดแล้วจะยกบ้านให้ลูกสองคนเป็นเจ้าของและครอบครอง...ตอนนี้เรากับลูกอยู่ที

การกู้โอดีจากธนาคารกรุงศรี ถ้าผู้กู้เป็นสามีและค้ำประกันโดยบ้านที่อาศัยอยู่ โดยชื่อทะเบียนบ้าน โฉนดเป็นสามี แต่คนเซ็นสลักหลังเป็นภรรยา แล้วภรรยาไม่ยินยอมให้สามีกู้ ทางโอดีของกรุงศรี มีสิทธิ ไม่สนใจสิท

รบกวนสอยถามเพื่อนๆค่ะ เรากำลังจะหย่ากับสามี แต่เรากู้ซื้อบ้านด้วยกัน สามีเราผ่อนต่อไม่ไหว จึงยอมไปหย่าละจะไม่เรียกร้องอะไร แต่เรื่องของเรื่องคือ เราตกงานมาห้าเดือน แล้วแต่เราพอมีเงินส่งต่อ ซึ่งก็ส่งมา

ขออนุญาติลบเนื้อหา ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ

รบกวนผู้รู้ด้านกฏหมายค่ะ เรากำลังจะโดนสามีฟ้องหย่าทะเลาะกันมีทำร้ายร่างกายกัน แต่สามี มีบาดแผลนิดหน่อย เราไม่มีบาดแผล ทางฝ่ายนั้นไปแจ้งความแล้ว และล็อกบ้านเปลี่ยนกุญแจบ้านใหม่หมดทั้งหลัง ตอนที่เราออกไ

สามี ภรรยา คู่หนึ่ง หลังจากสมรส สามีได้ไปกู้เงินสด สถาบันการเงินธนาคาร แห่งหนึ่ง ในปี36 ได้ผ่อนชำระเงินกู้ไปบางส่วน แต่ไม่ได้ชำระจนครบทั้งหมดตรงตามที่ธนาคารได้กำหนดไว้ ต่อมา ในปี 42 ภรรยา ได้หย่าขาด