คิดยังไง ผมก็ไม่เข้าใจคุณสมคิด ไม่เข้าใจจริง ๆ ครับ ....................................... โดย ตระกองขวัญ

กระทู้คำถาม
ไม่เข้าใจว่า  คุณสมคิด  กำลังทำอะไรอยู่ ?
มึนตึ๊บ



ปีนี้  คุณสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์   ด๊อกเตอร์การตลาดจากนอร์ธเวสเทิร์น สหรัฐ  อายุ 65 ปี
อายุขนาดนี้  ในโลกยุคไซเบอร์  ถือว่ายังหนุ่มครับ  ไม่ใช่ประเภทไม้แก่ดัดยาก

ก้าวย่างทางการเมืองของคุณสมคิดก็แปลกแปร่ง ๆ  ยังไงไม่รู้
เข้าการเมืองตั้งแต่ยุครัฐบาลชวน 1 ในฐานะที่ปรึกษาทักษิณ (รมว.ต่างประเทศ พลังธรรม)

จากนั้นก็เกี่ยวก้อยกับทักษิณมาตลอด

เป็นที่ปรึกษารองนายกฯ (ทักษิณ) ในรัฐบาลบิ๊กจิ๋ว
พอไทยรักไทยชนะเลือกตั้งในปี 2544  ก็ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตลอด  จนถึง 19 ก.ย. 2549

คมช. ปั๊บ  ก็ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยปุ๊บ  เพื่อหวังพ้นการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง  (คงรู้กลิ่นก่อนแน่ ๆ)
แต่ไม่ทันการณ์

2550  โดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี เมื่อมีการยุบไทยรักไทย
2552  ขึ้นศาลในคดีกล้ายาง 90 ล้านต้น  แต่ยกฟ้อง  (จำเลย 44 คน  ยกฟ้องหมด)

ช่วงรัฐบาลขิงแก่  ก็เป็นที่ปรึกษาพักหนึ่ง   โดนกดดันเรื่องสิทธิทางการเมืองเลยลาออก
ถ้าไม่โดนตัดสิทธิ์ 5 ปี  ได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลขิงแก่แน่นวล

จากนั้นก็มีข่าวพัวพัน และเป็นที่ปรึกษากับกลุ่มนักการเมืองหลายกลุ่มอยู่ตลอด

2557  เป็นที่ปรึกษา คสช.
2558  เข้าร่วม ครม. เป็นรองนายกฯ  จนถึงทุกวันนี้  

บุคลิกคุณสมคิด  เป็นบุคลิกคนมีหลักการ มีหลักคิด
แต่ชีวิตทางการเมืองกลับไม่ใช่อย่างนั้น  กลับเป็นบุคลิกไร้หลักการ ขาดหลักคิด
เป็นชีวิตทางการเมืองที่ยิ่งกว่านักการเมืองย้ายพรรคเปลี่ยนขั้ว

ผมถึงบอกว่า  เส้นทางทางการเมืองของคุณสมคิดแปลกแปร่ง

เหมือน ๆ คุณวิษณุ  เครืองาม
คือ เก่ง  แต่ไม่รู้หลักอยู่ตรงไหน   ใครก็ได้   ร่วมหมด  ไม่ว่านักการเมือง ไม่ว่านักการทหาร

ฝ่ายไหนมา  ร่วมฝ่ายนั้น

บุคลิกแบบนี้  ถ้าเป็นนักการเมือง  ไม่แปลก
แต่เมื่อวางภาพบุคลิกที่ไม่ใช่นักการเมือง  แต่เล่นซะยิ่งกว่านักการเมือง  เลยเข้าใจยาก

นี่แหละ  ที่เขาว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า   ลีลาพญามังกรที่เหนือกว่านักการเมือง




ตั้งแต่ปี 2558   ที่คุณสมคิดเข้ามาเป็นรองนายกฯ  รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ
จนถึงวันนี้  อย่าเอ่ยถึงเรื่องทุ่มงบนับล้าน ๆ บาทกระตุ้นเลย  อย่าเอ่ยถึงเรื่องแนวนโยบายประชานิยมเลย
เพราะเอ่ยแล้วยิ่งจะมึนหนัก     มึนหนักว่ากระตุ้นยังไง  ว่ากระตุ้นภาครากหญ้า sme  ชั้นล่างกับชั้นกลาง
แต่ทำไมชั้นบนกลับรวยเอา ๆ  ขณะที่กลางกับล่างจนลง ๆ
(เงิน กับ นโยบาย  ไม่ไปด้วยกันไง   เงินไปล่าง  แต่นโยบายไปบน  นี่คือกลวิธีนักการตลาด)

คุณสมคิดพูดอยู่ตลอด  ว่าเศรษฐกิจกำลังจะดีขึ้น  พูดซะจนคนเลิกฟัง
โดยเฉพาะคำว่า  คนจนจะหมดไปจากประเทศไทย

โดนล้อซะเครียดไปเลย
ว่าคนจนหมดประเทศแน่  เพราะไม่มีกินจนอดตายกันหมด  หรือผูกคอตายกันหมด



ณ วันนี้  ที่ปีกลองการเมืองเรื่องเลือกตั้งเริ่มบรรเลง
คุณสมคิดก็ดำเนินการทางการเมืองไปเรื่อย ๆ  เป็นกุนซือเรื่องดูด เพื่อเป้าหมายเสียงในการโหวตนายกฯ

คือเป้าหมายเรื่องโหวตเลือกนายกฯก่อน  แล้วค่อนตามด้วยเรื่องรัฐบาลเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

แผนแรก  ยังไงก็ไม่ยาก  เพราะมี 250 เสียง ส.ว. เป็นของตายอยู่แล้ว
หาเสียง ส.ส. อีกแค่ 126  เท่านั้นเอง

เรื่องพรรคไหนจะชนะเลือกตั้งได้เสียงเกินครึ่ง  ไม่มีทาง
เรื่องพรรคไหนจะได้ ส.ส. หลักสองร้อย  เพื่อรวมกับพรรคอื่นให้ได้ 376  ชิงโหวตนายกฯไม่มีทาง
เรื่องเพื่อไทย  ปชป.  จะร่วมกันตั้งรัฐบาล  ไม่มีทาง

พี่เขียวปิดทางไว้หมดแล้ว  ยห.
สมคิดไม่ต้องคิดเรื่องนี้ให้เมื่อย   แค่ทำหน้าที่กุนซือเรื่องดูดอย่างเดียว



ผมถึงไม่เข้าใจคุณสมคิด  ว่าคุณสมคิดกำลังทำอะไรอยู่ ?

ไม่อยากบอกนะครับ  ว่าที่ไม่เข้าใจนี่  เพราะคุณสมคิดไม่รู้เชียวหรือว่ากำลังพาการเมืองเต้นมูนวอล์คเกอร์
มูนวอล์คเกอร์ที่เลิกฮิตกันไปแล้ว 20 ปี

การเมืองถอยหลัง  แล้วอะไรจะก้าวหน้า ?

บางทีผมก็คิด ๆ นะ  ว่าคุณสมคิดมีจิตวิญญาณแบบ "ข้าพเจ้ารับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว"

คือข้างล่าง  พวกองค์ประกอบ  ระบอบ  จะเป็นไงก็ช่าง  ยังไงก็ได้
แล้วคุณสมคิดเชื่อว่า  ขอแค่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ  คุมเกมได้  อำนาจที่เหนืออยู่ก็จะสามารถบริหารจัดการได้

จริงหรือ ?       ผมว่า  ไม่จริง




คือ  

เมื่อคุณอยู่ในสังคมประชาธิปไตย   ดำเนินการด้วยระบอบประชาธิปไตย
แต่คุณกลับไม่มีศรัทธาในประชาธิปไตย

มีแต่ความเชื่อว่า  "ความเบ็ดเสร็จ"  คือพลังอำนาจที่จะบันดาลทุกอย่างให้ลุล่วงได้

ก็เลยมึนตึ๊บกับแนวทางที่คุณสมคิดกำลังคิดกำลังทำอยู่




คุณสมคิด ครับ

คนจีนนั้น  คุ้นชินกับระบอบของเขามาหลายสิบปีครับ
เมื่อมีการเปิดประเทศบ้าง  ปรับระบบบ้าง   คนจีนเขาจึงถือว่า นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

ต่างกับไทยนะครับ     จะไปเอาโมเดลเขามาใช้ไม่ได้  ไม่เหมาะ  ไม่ถูก
ผิดทั้งช่วงเวลา  บรรยากาศ  และสถานการณ์

สังคมไทย  ตื่นตัวตั้งแต่ปี 2531  ที่ท่านพลเอกเปรมบอก "ผมพอแล้ว" นะครับ
แม้สามสิบปีที่ผ่านมา  จะล้มลุกคลุกคลานบ้าง  แต่เป็นการล้ม ๆ ลุก ๆ แบบตื่นตัว  ไม่ใช่แบบหลับ ๆ ตื่น ๆ



คน  เมื่อได้เปลี่ยน    ยากครับที่จะกลับไปเป็นแบบเดิม

ระวัง และคิดเรื่องนี้ให้มาก ๆ นะครับคุณสมคิด
ไม่งั้น  จะเป็นคุณนั่นแหละที่ต้องรับผิดชอบอย่างสาหัส  เมื่อบ้านเมืองผิดรูปจนเอากลับคืนไม่ได้



เชื่อสมหล่อเถอะครับคุณสมคิด
OK
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คุณตระกอง ฯ ครับ

ผมนั่งสังเกตดูนะ...จำได้ตั้งแต่ตอนที่ก่อนจะยุบสภา หรืออะไรนี่ ที่ทักษิณเขาพูดในที่ประชุม ครม. ทำนองว่า เรื่องใน ครม. ก็อย่าเอาไปพูดข้างนอก ทีนี้ผมเห็นในมติชน หรือที่ไหน เขาเคยเขียนบอกว่า ก่อนหน้าที่ทักษิณจะพูด มันมีการนัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก็กลุ่มคนพวกนี้แหละ

ทักษิณเขาก็เลยบอกอย่างที่ว่า

มานั่งดู ตลอดช่วงระยะเวลานั้น ทักษิณเขาปรับ ครม.ตลอด มีไม่ปรับก็คือสมคิด กับ สุริยะ สมคิดนี่แค่ย้ายจากคลังไปพาณิชย์ และก็เป็นรองนายก ฯ ตลอด
ยังจำได้ ตอนที่เมียสมคิดคลอดลูก ทักษิณก็ยังแซวว่า ลาไปเฝ้าลูก

ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นการขัดแย้งทางความคิดมากกว่า ทักษิณเขาเล่นเศรษฐกิจสองระบบ คือ dual track แต่ดูเหมือนว่าสมคิดเขาจะเน้นรดน้ำจากยอดไม้ ไม่ได้รดน้ำที่รากโคนต้นไม้ ที่เรียกว่ารากหญ้า

อีกอย่าง งานทั้งหลาย เหมือนทักษิณจะรับเครดิตอยู่คนเดียว พวกที่ทำงานด้วย กลายเป็นไม้ประดับ ตรงนี้ ถ้ามองในแง่ของจิตวิทยา น่าจะเป็นการน้อยใจของพวกที่ทำงานกับทักษิณด้วย

ลักษณะของทักษิณ เขาทำงานแบบ CEO จะแบ่งงานกันทำ แกก็เคยพูดว่า งานผมเยอะ ผมแบ่งให้รองนายก ฯ ช่วยทำ

แต่ทีนี้ บ้านเรามันเป็นแบบระบบราชการ การสั่งการมันแบบสั่งขี้มูก ทักษิณเขาเลยจัดการหลายอย่าง คนก็ไม่พอใจ บางคนก็ไปขอตำแหน่งอะไร พอไม่ให้ ก็โกรธ

อย่างที่ผมเคยสรุปนั่นแหละ ว่า บ้านเราที่มันวุ่นวาย เพราะความอิจฉาริษยาล้วน ๆ ครับ
ความคิดเห็นที่ 5
สมคิด....ชาวบ้านเขาเปลี่ยนชื่อให้นานแล้ว  เป็น สิ้นคิด

ทำโครงการอะไรออกมา...ทุ่มเงินออกมา แต่ถึงประชาชนชาวบ้านน้อยมาก....

หายไปกับคนกลางมากกว่า 50%  เงินร่วมล้านล้านบาทลงมาแต่เศรษฐกิจไม่กระเตื้อง

แต่โครงการรับจำนำข้าวเปลือก 2 ปี  ใช้เงินเพียง 500,000  ล้านบาท  ระบบเงินไหลสะพัดทันที

ชาวบ้านเขาพูดกันกันว่า  เป็นคนเหมือนกัน  แต่สมองและสติปัญญา...คนละชั้นเลย




ความคิดเห็นที่ 3
คนแบบคุณสมคิด  หรือ  ดร.วิษณุ  มองอีกมุม  คือ  เขาเป็นนักวิชาการ
พร้อมที่จะนำหลักวิชา  มาปรับใช้กับนโยบายของพรรคการเมืองไหนก็ได้
เดา .... นะ  เขาน่าจะมองแบบนั้น อมยิ้ม04

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่