[CR] ☼ 54 Hong Kong Hours 54ชั่วโมงในฮ่องกงทำอะไรได้บ้าง (กค.2018) ☼

ยินดีต้อนรับเข้าสู่กระทู้เที่ยวฮ่องกงแบบมีเวลาแค่ 54 ชั่วโมง หรือ 3วัน2คืน ฉบับพาพ่อแม่มาช้อปลดทั้งเกาะกลางปีพร้อมเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในธีมสบายๆไม่เน้นประหยัด เน้นกินตลอดทริป
          หลังจากหนีไปเที่ยวเกาหลีคนเดียวมา 2 ปีซ้อนก็ได้เวลาที่เราจะทำหน้าที่ลูกที่ดีพาพ่อแม่ไปเที่ยวช้อปแถมกินไม่หยุดกันที่ฮ่องกงโดยสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆในทริปนี้หนีไม่พ้นตึก Sky 100 ตึกสูงที่สุดของฮ่องกง และ กระเช้านองปิงแบบใส



ครั้งนี้เป็นรีวิวฮ่องกงครั้งที่ 2 ของเรา โดยผู้อ่านสามารถติดตามเนื้อหาการเที่ยวทริปที่แล้วได้ในกระทู้นี้นะคะ
1. Rainy days in Hong Kong 2016 แนะนำเที่ยวฮ่องกง รีวิวจากประสบการณ์คนไปฮ่องกงบ่อย (July 2-4,2016)- https://pantip.com/topic/35362370
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
1.ตั๋วเครื่องบิน : เราตั้งใจจะลองเดินทางด้วยสายการบินที่ขึ้นเครื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิบ้างเปลี่ยนบรรยากาศ ปกติบินกับหางแดงตลอด จึงมาลงตัวที่สายการบิน HongKong Airline ที่มีเที่ยวบินไป-กลับถี่มาก ส่วนถ้าถามว่าทำไมไม่บินคาเธ่ย์เพราะทริปหน้าก็คาดว่าจะบินด้วยคาเธ่ย์ค่ะ เปลี่ยนสายการบินทุกทริปหาประสบการณ์ความแตกต่าง
HX768 (BKK-HKG) 08.25 – 12.10 --- เน้นไม่ต้องตื่นเช้ามาก ไปถึงก็เวลาอาหารเที่ยงพอดี
HX765 (HKG-BKK) 18.00 – 19.50 --- เน้นกลับถึงไทยไม่ดึกมาก นั่งแอร์พอร์ตลิ้งกลับบ้านได้สบายๆ

2.ที่พัก :
    เราเลือกจองที่พักผ่าน Agoda เพราะราคาที่ถูกกว่าเว็บอื่นๆ และความปลอดภัยในการตัดบัตรเครดิต Agoda จะตัดบัตรเครดิตของเราเอง และที่พักจะไปตัดบัตรเครดิตของอโกด้าอีกที ซึ่งฟังดูยุ่งยาก แต่กลับปลอดภัยกว่าการที่ที่พักตัดบัตรเราเอง โดยที่พักอาจตัดเกิน ตัดผิดตัดถูก เกิดการโกงอีก ลำบากไป
    ย่านโรงแรมที่เรามองว่าโอเคในฮ่องกง คือ ย่านเยามาไตและมงก๊ก เรามองว่ามันครึกครื่นตลอดดี ยิ่งโรงแรมใกล้ถนนหลักนาธานยิ่งดูโอเคกว่าที่อื่น
    
   ☆ Agoda Trick ☆
1.) Agoda จะมีโค้ดส่วนลดพิเศษโดยสังเกตกล่องสีฟ้าในหน้าต่างแรกที่เขียนว่าลดเพิ่มอีก 10% กดเข้าไปดูส่วนลดต่างๆ ซึ่งโค้ดส่วนลดของเมืองต่างๆจะมีอายุประมาณ 7 วัน เราต้องหมั่นเข้ามาดูเรื่อยๆมามีของฮ่องกงรึยัง ซึ่งเราเองก็จองที่พักช่วงที่มีส่วนลดเพิ่มเหมือนกันเพราะมันถูกกว่าเดิมจากที่ถูกอยู่แล้วไปอีกหลายร้อยเชียว
2.) พอเข้าหน้าดูที่พักของเมืองนั้นๆแล้วให้กดไปที่ “ดีลกับอโกด้า” จะโชว์ที่พักที่ทำโปรพิเศษกับอโกด้า โดยราคาจะลดอีกกว่าช่วงปกติ บางครั้งอโกด้าจะใช้การใบ้ว่าเป็นโรงแรมไหนให้เราลองหาเอาเอง เราคาดว่าแบบนั้นคงถูกสุดๆจริงๆ

3.การเดินทางภายในฮ่องกง : หลักๆคือบัตร Octopus บัตรเติมเงินสารพัดประโยชน์ไม่ว่าจะขึ้นรถไฟ รถเมล์ ลงเรือข้ามฟากหรือซื้อของในร้านสะดวกซื้อ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวก็มีบัตรพิเศษ ได้แก่ Airport Express Travel Pass หรือบัตร Airport Express + MTR 3 วัน (72ชม.) ที่ถ้าใครเที่ยวเยอะหน่อยก็สามารถใช้บัตรนี้ได้เลยคุ้มเหมือนกัน

4. ประกันภัยการเดินทาง : เป็นสิ่งยอดฮิตที่คนไทยไม่ค่อยซื้อแถมมองข้ามเป็นเรื่องไร้สาระอีกต่างหาก แต่หารู้ไม่ว่ามันสำคัญมากเพราะถ้าเกิดเราหกล้มหรืออุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยรุนแรงในต่างประเทศ ค่ารักษาต่างๆไม่ได้ถูกเหมือนบ้านเรา หนำซ้ำจ่ายเบี้ยแค่หลักร้อยแต่คุ้มครองหลักแสนหลักล้าน ซื้อความสะดวกและสบายใจกันเถอะค่ะ
    ประกันภัยสามารถซื้อล่วงหน้าได้ก่อนเดินทางอย่างน้อย 2 ชม. แต่แนะนำให้ซื้อก่อนซัก 1-2 สัปดาห์ อย่าประมาทเผื่อลืม โดยเริ่มคุ้มครองในวันเดินทางตามที่ระบุอยู่แล้ว ไม่ใช่ซื้อวันไหนคุ้มครองวันนั้น

5.การแลกเงินดอลล่าห์ฮ่องกง: ประเทศฮ่องกงใช้สกุลเงิน”ดอลล่าห์ฮ่องกง” ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 4-5 บาทต่อ 1 ดอลล่าห์ฮ่องกง แต่อัตราแลกเปลี่ยนนั้นก็จะขึ้นลงไปเรื่อยๆ แล้วแต่สถานที่แลกเงินด้วย
    เราแลกเงินที่ Super Rich สีเขียว สาขาราชดำริ ไม่ว่าไปเที่ยวประเทศไหนก็มาแลกที่นี่เสมอ ราคาเขาดีจริงๆ แนะนำก่อนออกไปแลกเงินศึกษาอัตราแลกเปลี่ยนวันนั้นก่อนไปแลกนะคะ คนละวันคนละอัตรา คนละสาขาก็คนละอัตราเช่นกันค่ะ

6.สภาพอากาศ : ช่วงที่เราไปเป็น Low Season หน้าฝนดีๆนี่เอง ถ้าฝนไม่ตกก็อากาศร้อนไม่ต่างกับไทยเลยค่ะ พกร่มไว้ด้วยก็ดีนะคะ

7.บัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยว : ความที่ทริปเรานั้นคร่อมเสาร์อาทิตย์ย่อมเป็นธรรมดาที่คนจะแห่มาเที่ยวเยอะมาก คิวก็คาดว่าจะเยอะเช่นกัน จึงต้องซื้อตั๋วเข้าสถานที่เที่ยวล่วงหน้าจากไทยโดยเราเลือกซื้อกับ Hong Kong Fanclub ที่มีสาขาที่ Gateway เอกมัยชั้นใต้ดิน เพราะเราชอบซื้อและรับของทันทีเท่านั้นค่ะ

8. รูปภาพในกระทู้ : รูปภาพทั้งหมดในกระทู้ถ่ายจาก Samsung Galaxy A5 (2017) โดยไม่ผ่านฟิลเตอร์ใดๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
*** กระทู้นี้ตั้งใจทำมาเพื่อแชร์ประสบการณ์ให้กับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวประเทศฮ่องกงและนักอ่านพันทิปทั้งหลาย และยังเป็นการขอบคุณกระทู้ท่องเที่ยวและบทความเกี่ยวกับประเทศฮ่องกงอื่นๆที่เป็น Reference ในการเที่ยวของเรา
    ค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาจากเงินของเราทั้งนั้น เลือกเอง จ่ายเอง ไม่ได้มีสปอนเซอร์มาสนับสนุนใดๆทั้งสิ้นที่ทำรีวิวเพราะอยากแบ่งปันให้ทุกๆท่าน
    ดังนั้น รีวิวทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นและประสบการณ์ในระหว่างการเตรียมตัวและการเดินทางของเรา โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพกระทู้นะคะ ***
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปล.ฝากกระทู้รีวิวท่องเที่ยวอื่นๆของเราด้วยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. Freezing Seoul ประสบการณ์ลุยเดี่ยวหนีเตาอบไปเจอตู้เย็น 14-18 FEB 2017 - https://pantip.com/topic/36146379
2. :: Feelin’ SEOUL Energetic :: ลุยโซลคนเดียว กินเที่ยวติ่งช้อปท้าลมหนาวอินเกาหลีใต้ (กุมภาพันธ์ 2018) - https://pantip.com/topic/37429472




ขาออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
    สายการบิน Hong Kong Airlines ให้ผู้โดยสารสามารถเช็คอินออนไลน์ได้ล่วงหน้า 48 ชั่วโมงก่อนบินซึ่งเราควรเช็คอินไปก่อนเพื่อความรวดเร็วและประหยัดเวลา ไม่งั้นต่อแถวยาวสู้กับเหล่าคนจีนนะคะ เคาทเตอร์ของสายการบินจะอยู่ที่ Row K แถว Online Check-In มีเคาทเตอร์เดียวเท่านั้น โดยเคาทเตอร์จะเปิดก่อนเวลาเครื่องออก 3 ชั่วโมง แต่วันนั้นเจ้าหน้าที่แอบมาเลทกันนิดนึง


          เที่ยวบินนี้อยู่ที่ Gate D3 และเครื่องของเราก็มาจอดรออยู่เรียบร้อยแล้ว


    การตกแต่งภายในเครื่องเป็นสีโทนแดง เครื่องใหม่มากๆ ที่นั่ง 2-4-2 คนตัวสูง 175 ซม.อย่างพ่อเรานั่งได้สบายๆ มีจอส่วนตัวทัสสกีน เครื่องออกดีเลย์ประมาณ 30 นาทีซึ่งแจ้งหลังบอร์ดดิ้งผู้โดยสารครบแล้ว ส่วนนี้เราไม่ซีเรียสเพราะมีหนังให้ดูระหว่างรอซึ่งพ่อแม่เราชอบ Inflight Entertainment มากๆ โชคดีที่ไฟลท์นี้ได้เป็นอาหารเช้าประกอบด้วยข้าวแกงเขียวหวานไก่ กับ American Breakfast อร่อยทั้งคู่ พ่อแม่และเราคอนเฟิร์ม



ขาเข้าสนามบินนานาชาติฮ่องกง ประเทศฮ่องกง
          หลังจากลงเครื่องแล้ว ก็ต้องนั่งรถไฟไปตึกหลักเพื่อผ่านตม. รถไฟฟ้าจะมาค่อนข้างถี่ ไม่ต้องกลัวตกรถถ้าขึ้นไม่ทันนะคะ โดยเราก็เดินตามป้าย Immigration เพื่อไปตม.ค่ะ



การเดินทางเข้าเมืองโดยรถไฟ Airport Express
          ก่อนออกมาโซนผู้โดยสารขาเข้า จะมีบูธขายตั๋วเดินทางในฮ่องกงดักอยู่ เราแนะนำให้ซื้อตั้งแต่ในนี้ก่อนออกไปด้านนอกนะคะ เพราะข้างนอกคนค่อนข้างเยอะ เคาทเตอร์น้อยกว่าด้านใน และด้านในมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและแนะนำอยู่เยอะ เขาวางแผนการใช้ให้เราด้วย หา Combination ของบัตรต่างๆที่ถูกที่สุดให้ด้วยค่ะ น่ารักกันมากๆ
          พอออกมายังโซนผู้โดยสารขาเข้า เราเดินตามป้าย To City เพื่อไปยังรถเข้าเมืองโดยขาออกจากสนามบินจะยังไม่มีให้ตื้ดบัตรเข้าสามารถเดินขึ้นรถไฟไปได้เลยโดยภายในขบวนรถจะเป็นที่นั่งแบบ 2-2 มีช่องวางกระเป๋าเดินทางบริเวณประตูรถ ทุกคนสามารถเลือกนั่งได้ตามใจเลยค่ะ ไม่มีfix
          พอลงสถานี Hong Kong (หรือสถานีปลายทางของแต่ละคน)จะมีจุดแตะบัตรออกอยู่ จากนั้นเราก็นั่งรถไฟใต้ดินไปสถานี Mongkok เพื่อไปเช็คอินที่โรงแรมกันเลยค่ะ



ที่พักฮ่องกง
    เรื่องพีคสุดเด็ดก่อนมา คือ เราจองที่พักล่วงหน้านานมาก ประมาณมค. 61 ด้วยความที่ไม่ได้เข้าไปเช็คในหน้าจองใดๆ อยู่ดีๆเราก็ได้เงินคืนมาจากอโกด้าทางบัตรเครดิตก่อนวันเดินทาง 3 สัปดาห์ จึงเข้าไปตรวจสอบปรากฏว่า เราโดนเทจากไม่ Agoda ก็โรงแรมเก่ายกเลิกห้องเราไปแล้วโดยไม่แจ้งเลย เราช็อคมาก แต่ก็รีบเข้าไปจองที่พักที่อื่นอย่างรวดเร็ว ดีที่บางโรงแรมยังไม่เต็ม แถมราคายังถูกกว่าที่เก่าอีก
    ครอบครัวเราพักที่โรงแรง Sunny Day Hotel Mongkok ติดกับโรงแรม Cordis และห้าง Langham Place ใกล้กับสถานี Mongkok ทางออก C4 ห้องกว้างมากๆ เดินไม่ชนกัน กางกระเป๋าเดินทางใบกลาง 2 ใบได้พร้อมกัน  ทำเลที่ตั้งดีมากๆ ร้านอาหารรายล้อม
    ห้องพักเป็นห้อง Family Room สำหรับ 3 คน ขนาด 25 ตารางเมตร กว้างมากสำหรับห้องพักในฮ่องกง กางกระเป๋าเดินทางขนาดกลาง 3 ใบได้สบายๆ ห้องน้ำก็กว้างแถมยังเป็นกำแพงทึบ ที่อื่นเคยเจอเป็นผนังห้องน้ำแบบขุ่น คนในทำอะไรคือรู้หมด ถึงจะเป็นพ่อแม่ลูกกันแต่ก็เขินเหมือนกันนะ ราคารวมอยู่ที่ 6,135 บาท ตกคืนละ 3,067.5 บาท จองล่วงหน้าแค่ 3 สัปดาห์ได้มาเท่านี้ก็ดีมากแล้วค่ะ