สวัสดีค่ะ วันนี้ตั้งใจจะมาเล่าถึงประสบการณ์การแก้จมูกและเติมไขมันหน้า ทุกคนอาจจะคิดว่า เฮ้ย บล็อคสาวเกาหลีอีกแล้วแน่ๆ แต่เปล่าเลยนะคะ เราตั้งใจไปทำเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องของใบหน้า เพราะมันมีปัญหาจริงๆ ซึ่งเราไม่ค่อยชอบใจนัก จึงคงรูปหน้าเดิมเราไว้เป็นเอกลักษณ์
ในส่วนตรงนี้คือเล่าล้วนๆเลย เนื้อหาอาจจะไม่คล่อง พิมพ์ผิดถูก เว้นวรรคไม่ดียังไง ขออภัยให้มือใหม่ล่วงหน้าด้วยนะคะ
ต้องเกริ่นก่อนนะคะว่า เคสเราคือเคสแก้ เราขอเล่าถึงสาเหตุที่ต้องแก้ก่อนนะคะ
** หากใครอยากอ่านการแก้ที่เกาหลีเลย รบกวนข้ามไปที่หน้าถัดไปได้เลยนะคะ หรือใครจะอ่านไว้เป็นอุทาหรณ์ก็ได้ค่ะ เราอยากเล่า 555 **
สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจบินไปถึงเกาหลีเพราะว่า เราผ่านการทำจมูกมา 4 ครั้งแล้ว จึงทำให้เกิดปัญหาที่เนื้อจมูก มันบางและมีแววทะลุในอนาคตอันใกล้ ซึ่งมาจากความดื้อของเรา จึงกลายเป็นเคสที่ค่อนข้างยาก
#ทำจมูกครั้งที่1
ครั้งแรกเลย เดิมแล้วฐานจมูกเราเป็นคุณหนูหิ่นเลยนะคะ สันแบนและมีเนื้อแค่ตรงปลาย เริ่มทำเมื่อประมาณ 4 ปีก่อนค่ะ บอกเลยว่าทำครั้งแรกดีมากๆ ทุกอย่างเป็นธรรมชาติและเข้ากับรูปหน้าเรา ไม่มีปัญหาอะไรเลย อยู่กับมันมา 4 ปีกว่า
#ทำจมูกครั้งที่2
เมื่อต้นปีก่อนค่ะ จะมีปัญหายาวๆก็ครั้งนี้เลยนะครับผม! เราตัดสินใจแก้เพราะยุคนี้ต้องยอมรับว่า โซเซียลมาแรงมาก และรีวิวทำจมูก แพร่หลายมากในสื่อโซเซียลต่างๆ บอกตรงๆว่าใจเขวค่ะ แค่อยากจมูกโด่งๆตามยุคสมัยทั้งๆที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร โทษตัวเองล้วนๆ (ขอไม่เอ่ยถึงคลินิคนะคะ) สำหรับเราคิดว่าราคาค่อนข้างแรงอยู่ เพราะเป็นเคสแก้ เราเลยคิดว่าอาจจะดีเพราะราคาก็สูงประมาณนึง ทำครั้งนี้ผ่านไปค่อนข้างเร็ว ประมาณ 30-35 นาที หลังเสร็จส่องกระจกมา อู้วหู้ว โด่งสวยสมใจเค้าเลยหล่ะ กลับมารักษาตัวปกติทุกอย่าง แต่แอบเอะใจตรงที่ แผลเย็บเป็นด้ายแข็งเห็นชัดเจนมาก และจมูกครั้งนี้แผลค่อนข้างหายช้า ต้องรอไปตัดไหมอีก 2 อาทิตย์ ซึ่งทำครั้งแรก เรารอแค่ 1 อาทิตย์ตัดไหม และใช้ชีวิตล้างหน้าได้ตามปกติตั้งแต่ 3-4 วันแรก แผลนี้มองไม่เห็นเลยแม้แต่ปลายด้าย
ผ่านไป 2 อาทิตย์ วันตัดไหมสรุปอยู่ดีๆคนตัดไหมบอกแผลติดเชื้อค่ะ แต่ในวันนี้แผลแห้งและหายแล้ว แต่ว่า.. เนื้อมันปิดไม่สนิทนะ พูดง่ายๆคือเนื้อไม่สมานกัน ใช้ไฟหมอส่องดีๆมันจะมีรูแผลเปิด จะทำให้เชื้อโรคเข้าไปได้ อาจจะเป็นเพราะเราทำความสะอาดแผลไม่ดีด้วย และคุณหมอเดินเข้ามาพูดแค่ว่า ต้องถอดจมูกออก บอกเลย ช็อค 5555 ใจตอนนั้นคือขอทางแก้ทุกอย่าง ขูดแผลแล้วเย็บใหม่ได้มั้ยนะ ? ตอบคือไม่ได้ คุณหมอเลยแนะนำให้ทำใหม่ค่ะ
#แก้ครั้งที่3
แก้วันที่ตัดไหมนั้นแหละค่ะ ใจเราร้อนเอง คุณหมอบอกจมูกเราอาจจะโด่งไป ทำให้แผลปิดไม่สนิท แต่ก็ไม่โทษคุณหมอค่ะ ใจเราอย่างโด่งเอง ไม่พอใจกับสิ่งที่มีก็ต้องรับผลกรรม หมอเหลาสิริโคนให้สั้นลง ( แต่อันใหม่นะคะ ) หลังเสร็จบอกเลยทรงค่อนข้างแข็งและสั้น คล้ายจมูกหมู ไม่สวยแต่เราก็ยอมรับได้ แค่อยากให้มีสันไว้หายใจพอ เพราะจมูกเดิมเราคือแบนไปเลย แบนสุดๆไปเลยเจ้าค่ะ และหลังเสร็จต้องมาฉีดยาแก้อักเสบ (ตรง ตู ด 555) ทุกๆ 3 วัน ไปกลับบางแสนกันเป็นว่าเล่น สรุปค่าเสียหาย ค่าแก้ (แก้รอบใหม่หมอไม่คิดตังนะคะ ยังดีอยู่) บวกค่ายาที่มาฉีดทุกรอบและค่าเดินทางแล้วน้านน ประมาณ 4 หมื่นได้ โทรไปร้องไห้กับแม่ กับทุกคนรอบตัว เล่าถึงความผิดพลาดของตัวเอง แต่แก้อะไรไม่ได้ มันผ่านมาละ 555
หลังทำเสร็จกลับมารักษาตัวดีมากกกก สวดมนตร์ทุกวันขอให้แผลแห้ง เนื้อแผลติดสนิท ฉีดยา ตู ด ทุก 3 วัน แผลไม่หายให้รู้ไปสิ สรุปวันตัดไหมคือ แผลก็ยังไม่ติดเจ้าค่ะ แต่ไม่ได้อักเสบหรืออะไรนะคะ แค่เนื้อมันไม่อยากจะสมานกันอะ กรี้ดดดดดวันนั้น จำได้ ร้องไห้หนักมาก สรุปคือต้องถอดพักจมูกค่ะ 3-6 เดือน ไม่มีทางเลือก หมอจะให้ถอดวันนั้นเลย แต่เราทำใจไม่ได้ เลยขอกลับไปคิดก่อน 1 อาทิตย์ และไปเคลียงานที่ค้าง หมอก็ให้ยาแก้อักเสบมากินกันเชื้อโรคเข้าแผลไว้ แนะนำให้คนที่เป็นแบบเราถอดเลยค่ะ ถอดไวก็หายไว แต่ตอนนั้นเราเครียดมาก อาทิตย์นั้นคือตะเวนหาคุณหมอท่านใหม่มาช่วยชีวิต ทุกคนบอกเสียงเดียวกันว่าต้องพัก เนื้อแผลตอนนี้เราอาจจะแห้งสนิทก็จริง แต่ข้างในมันโดนทำร้ายหนักแล้ว และมันมีช่องว่างให้เชื้อโรคเข้าไป อันตรายในอนาคต เราเลยกลับมาถอดจมูกพักที่คุณท่านเดิม
ช่วงนั้นมีงานที่ต้องทำก็ต้องพัก ร้องไห้กับทุกคนหนักมาก อายด้วย แทบไม่ออกจากบ้านเลย ไปข้างนอกคือใส่แมสปิดปากตลอด จริงๆนะคะ ทำใจหลายเดือนกว่าจะชินกับการไม่มีเทอร์ซ์ส์ 555
#แก้รอบที่4
หลังพักจมูกได้ 4 เดือน ขอรวบรัดเลยนะคะว่า รอบนี้เข็ด ! และไม่อยากได้โด่งเลยยย หรือสวยหรืออะไรแล้ว ขอแค่มีสันจมูกหายใจพอเลยจริงๆ ตลอดเวลาที่พักจมูก ศึกษาหาหมอดีมากจนเจอคุณหมอท่านนี้ เป็นลูกศิษย์ของคุณหมอท่านแรกที่ทำให้เรา คุณหมอทำดีมากค่ะ ทำออกมาก็โอเค ทรงกำลังดี แต่ยอมรับว่าเนื้อจมูกเราสั้นเป็นหมูไปแล้ว เพราะเนื้อเรามันโดนทำร้ายไปหลายรอบ สรุปทำมาประมาณ 3 เดือน เนื้อจมูกตรงสันก็เริ่มบางค่ะ และเราทำแบบปิด เลยไม่รู้ว่าเนื้อข้างในมันเปื่อยหรือหายดีแล้วแค่ไหน รอบแรกมันโด่งจนเนื้อมันแทบไม่เหลือแล้ว จมูกรอบนี้ในทุกๆวันตื่นมา ต้องลูบตรงสันจมูกเบาๆเพราะมันตึงมาก เหมือนจะขาด เอ๊าไหนบอกจะรวบรัด 5555 ชั่งเถอะ ฟังเราอีกนิดนะ
เนื่องจากเราพลาดมาเยอะ และเข้าใจหัวอกของคนที่แก้ซ้ำแล้วซ้ำอีก จึงบอกตามความรู้สึก อะไรที่ดีก็ว่าดี ไม่ดีเราก็จะบอกไม่ดี ใช้ความรู้สึกของผู้อ่านเป็นการตัดสินใจร่วมด้วยนะคะ
ขออนุญาตแทรกรูปภาพของโรงพยาบาลที่เราแก้ครั้งสุดท้ายที่เกาหลีในหน้านี้เลยนะคะ
บอกเล่าประสบการณ์ศัลยกรรมแก้จมูก + เติมไขมันหน้า Korea
ในส่วนตรงนี้คือเล่าล้วนๆเลย เนื้อหาอาจจะไม่คล่อง พิมพ์ผิดถูก เว้นวรรคไม่ดียังไง ขออภัยให้มือใหม่ล่วงหน้าด้วยนะคะ
ต้องเกริ่นก่อนนะคะว่า เคสเราคือเคสแก้ เราขอเล่าถึงสาเหตุที่ต้องแก้ก่อนนะคะ
** หากใครอยากอ่านการแก้ที่เกาหลีเลย รบกวนข้ามไปที่หน้าถัดไปได้เลยนะคะ หรือใครจะอ่านไว้เป็นอุทาหรณ์ก็ได้ค่ะ เราอยากเล่า 555 **
สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจบินไปถึงเกาหลีเพราะว่า เราผ่านการทำจมูกมา 4 ครั้งแล้ว จึงทำให้เกิดปัญหาที่เนื้อจมูก มันบางและมีแววทะลุในอนาคตอันใกล้ ซึ่งมาจากความดื้อของเรา จึงกลายเป็นเคสที่ค่อนข้างยาก
#ทำจมูกครั้งที่1
ครั้งแรกเลย เดิมแล้วฐานจมูกเราเป็นคุณหนูหิ่นเลยนะคะ สันแบนและมีเนื้อแค่ตรงปลาย เริ่มทำเมื่อประมาณ 4 ปีก่อนค่ะ บอกเลยว่าทำครั้งแรกดีมากๆ ทุกอย่างเป็นธรรมชาติและเข้ากับรูปหน้าเรา ไม่มีปัญหาอะไรเลย อยู่กับมันมา 4 ปีกว่า
#ทำจมูกครั้งที่2
เมื่อต้นปีก่อนค่ะ จะมีปัญหายาวๆก็ครั้งนี้เลยนะครับผม! เราตัดสินใจแก้เพราะยุคนี้ต้องยอมรับว่า โซเซียลมาแรงมาก และรีวิวทำจมูก แพร่หลายมากในสื่อโซเซียลต่างๆ บอกตรงๆว่าใจเขวค่ะ แค่อยากจมูกโด่งๆตามยุคสมัยทั้งๆที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร โทษตัวเองล้วนๆ (ขอไม่เอ่ยถึงคลินิคนะคะ) สำหรับเราคิดว่าราคาค่อนข้างแรงอยู่ เพราะเป็นเคสแก้ เราเลยคิดว่าอาจจะดีเพราะราคาก็สูงประมาณนึง ทำครั้งนี้ผ่านไปค่อนข้างเร็ว ประมาณ 30-35 นาที หลังเสร็จส่องกระจกมา อู้วหู้ว โด่งสวยสมใจเค้าเลยหล่ะ กลับมารักษาตัวปกติทุกอย่าง แต่แอบเอะใจตรงที่ แผลเย็บเป็นด้ายแข็งเห็นชัดเจนมาก และจมูกครั้งนี้แผลค่อนข้างหายช้า ต้องรอไปตัดไหมอีก 2 อาทิตย์ ซึ่งทำครั้งแรก เรารอแค่ 1 อาทิตย์ตัดไหม และใช้ชีวิตล้างหน้าได้ตามปกติตั้งแต่ 3-4 วันแรก แผลนี้มองไม่เห็นเลยแม้แต่ปลายด้าย
ผ่านไป 2 อาทิตย์ วันตัดไหมสรุปอยู่ดีๆคนตัดไหมบอกแผลติดเชื้อค่ะ แต่ในวันนี้แผลแห้งและหายแล้ว แต่ว่า.. เนื้อมันปิดไม่สนิทนะ พูดง่ายๆคือเนื้อไม่สมานกัน ใช้ไฟหมอส่องดีๆมันจะมีรูแผลเปิด จะทำให้เชื้อโรคเข้าไปได้ อาจจะเป็นเพราะเราทำความสะอาดแผลไม่ดีด้วย และคุณหมอเดินเข้ามาพูดแค่ว่า ต้องถอดจมูกออก บอกเลย ช็อค 5555 ใจตอนนั้นคือขอทางแก้ทุกอย่าง ขูดแผลแล้วเย็บใหม่ได้มั้ยนะ ? ตอบคือไม่ได้ คุณหมอเลยแนะนำให้ทำใหม่ค่ะ
#แก้ครั้งที่3
แก้วันที่ตัดไหมนั้นแหละค่ะ ใจเราร้อนเอง คุณหมอบอกจมูกเราอาจจะโด่งไป ทำให้แผลปิดไม่สนิท แต่ก็ไม่โทษคุณหมอค่ะ ใจเราอย่างโด่งเอง ไม่พอใจกับสิ่งที่มีก็ต้องรับผลกรรม หมอเหลาสิริโคนให้สั้นลง ( แต่อันใหม่นะคะ ) หลังเสร็จบอกเลยทรงค่อนข้างแข็งและสั้น คล้ายจมูกหมู ไม่สวยแต่เราก็ยอมรับได้ แค่อยากให้มีสันไว้หายใจพอ เพราะจมูกเดิมเราคือแบนไปเลย แบนสุดๆไปเลยเจ้าค่ะ และหลังเสร็จต้องมาฉีดยาแก้อักเสบ (ตรง ตู ด 555) ทุกๆ 3 วัน ไปกลับบางแสนกันเป็นว่าเล่น สรุปค่าเสียหาย ค่าแก้ (แก้รอบใหม่หมอไม่คิดตังนะคะ ยังดีอยู่) บวกค่ายาที่มาฉีดทุกรอบและค่าเดินทางแล้วน้านน ประมาณ 4 หมื่นได้ โทรไปร้องไห้กับแม่ กับทุกคนรอบตัว เล่าถึงความผิดพลาดของตัวเอง แต่แก้อะไรไม่ได้ มันผ่านมาละ 555
หลังทำเสร็จกลับมารักษาตัวดีมากกกก สวดมนตร์ทุกวันขอให้แผลแห้ง เนื้อแผลติดสนิท ฉีดยา ตู ด ทุก 3 วัน แผลไม่หายให้รู้ไปสิ สรุปวันตัดไหมคือ แผลก็ยังไม่ติดเจ้าค่ะ แต่ไม่ได้อักเสบหรืออะไรนะคะ แค่เนื้อมันไม่อยากจะสมานกันอะ กรี้ดดดดดวันนั้น จำได้ ร้องไห้หนักมาก สรุปคือต้องถอดพักจมูกค่ะ 3-6 เดือน ไม่มีทางเลือก หมอจะให้ถอดวันนั้นเลย แต่เราทำใจไม่ได้ เลยขอกลับไปคิดก่อน 1 อาทิตย์ และไปเคลียงานที่ค้าง หมอก็ให้ยาแก้อักเสบมากินกันเชื้อโรคเข้าแผลไว้ แนะนำให้คนที่เป็นแบบเราถอดเลยค่ะ ถอดไวก็หายไว แต่ตอนนั้นเราเครียดมาก อาทิตย์นั้นคือตะเวนหาคุณหมอท่านใหม่มาช่วยชีวิต ทุกคนบอกเสียงเดียวกันว่าต้องพัก เนื้อแผลตอนนี้เราอาจจะแห้งสนิทก็จริง แต่ข้างในมันโดนทำร้ายหนักแล้ว และมันมีช่องว่างให้เชื้อโรคเข้าไป อันตรายในอนาคต เราเลยกลับมาถอดจมูกพักที่คุณท่านเดิม
ช่วงนั้นมีงานที่ต้องทำก็ต้องพัก ร้องไห้กับทุกคนหนักมาก อายด้วย แทบไม่ออกจากบ้านเลย ไปข้างนอกคือใส่แมสปิดปากตลอด จริงๆนะคะ ทำใจหลายเดือนกว่าจะชินกับการไม่มีเทอร์ซ์ส์ 555
#แก้รอบที่4
หลังพักจมูกได้ 4 เดือน ขอรวบรัดเลยนะคะว่า รอบนี้เข็ด ! และไม่อยากได้โด่งเลยยย หรือสวยหรืออะไรแล้ว ขอแค่มีสันจมูกหายใจพอเลยจริงๆ ตลอดเวลาที่พักจมูก ศึกษาหาหมอดีมากจนเจอคุณหมอท่านนี้ เป็นลูกศิษย์ของคุณหมอท่านแรกที่ทำให้เรา คุณหมอทำดีมากค่ะ ทำออกมาก็โอเค ทรงกำลังดี แต่ยอมรับว่าเนื้อจมูกเราสั้นเป็นหมูไปแล้ว เพราะเนื้อเรามันโดนทำร้ายไปหลายรอบ สรุปทำมาประมาณ 3 เดือน เนื้อจมูกตรงสันก็เริ่มบางค่ะ และเราทำแบบปิด เลยไม่รู้ว่าเนื้อข้างในมันเปื่อยหรือหายดีแล้วแค่ไหน รอบแรกมันโด่งจนเนื้อมันแทบไม่เหลือแล้ว จมูกรอบนี้ในทุกๆวันตื่นมา ต้องลูบตรงสันจมูกเบาๆเพราะมันตึงมาก เหมือนจะขาด เอ๊าไหนบอกจะรวบรัด 5555 ชั่งเถอะ ฟังเราอีกนิดนะ
เนื่องจากเราพลาดมาเยอะ และเข้าใจหัวอกของคนที่แก้ซ้ำแล้วซ้ำอีก จึงบอกตามความรู้สึก อะไรที่ดีก็ว่าดี ไม่ดีเราก็จะบอกไม่ดี ใช้ความรู้สึกของผู้อ่านเป็นการตัดสินใจร่วมด้วยนะคะ
ขออนุญาตแทรกรูปภาพของโรงพยาบาลที่เราแก้ครั้งสุดท้ายที่เกาหลีในหน้านี้เลยนะคะ