人生如下棋,多思则能胜。
เหยิน เซิง หยู เซี่ยะ ฉี, ตัว ซือ เจ๋อ เหนิง เซิ้ง
ชีวิตเสมือนเกมหมากรุก ผู้วางแผนล่วงหน้าย่อมชนะ
In life, as in chess, forethought wins.
ประมาณ284ปีก่อนคริสตกาล รัฐฉินผนึกกำลังกับอีกหกรัฐ นำทัพเข้าโจมตีรัฐฉี แม่ทัพของรัฐเยียนนาม เยว่อี้
เข้ายึดครองหัวเมือง70กว่าแห่งของรัฐฉีเอาไว้ได้แล้วยังคงเหลือแค่เมืองจวี่เฉิงกับเมืองจี๋มั่วเท่านั้นที่ยังอยู่ภาย
ใต้การควบคุมของรัฐฉี ต่อมาแม่ทัพผู้ครองเมืองจี๋มั่ว ได้เสียชีวิตจากการสู้รบ จึงได้มีการผลักดันให้ขุนนางเถียนตัน
ขึ้นเป็นแม่ทัพเพื่อปกครองเมืองจี๋มั่วต่อไป
ขณะนั้นเยียนฮุ่ยหวังเพิ่งขึ้นครองรัฐเยียนและไม่ไว้วางใจแม่ทัพเยว่อี้ เถียนตันจึงส่ง จารชนไปที่รัฐเยียนและปล่อยข่าวลือว่า
“
แม่ทัพเยว่อี้ใช้การโจมตีรัฐฉีเป็นข้ออ้าง แต่ความจริงแล้วอยากจะรวบรวมทหารที่เหลืออยู่ของรัฐฉีเพื่อก่อการกบฏและตั้งตนเป็นเจ้าผู้ครองรัฐฉี”
เยียนฮุ่ยหวังคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจึงได้แต่งตั้งให้ฉีเจี๋ย ผู้ไม่ค่อยมีความสามารถเป็นแม่ทัพแทน เถียนตันยังส่งคน
ไปปล่อยข่าวลือใกล้ๆฐานที่พักของทหารรัฐเยียน
“
ถ้าทหารรัฐเยียนตัดจมูกของเชลยรัฐฉี ทหารรัฐฉียังกล้าที่จะต่อสู้อีกไหม สุสานของบรรพบุรุษพวกเราก็อยู่นอกเมือง
ถ้าทหารรัฐเยียนขุดสุสานเหล่านี้ ถือเป็นการเยียดหยามบรรพบุรุษของพวกเรา ทหารในเมืองก็จะเสียขวัญกำลังใจและ
ไม่สามารถปกป้องเมืองจี๋มั่วได้อีกต่อไป ”
แม่ทัพฉีเจี๋ยเมื่อได้ยินเข้าจึงสั่งให้ตัดจมูกเชลยทหารรัฐฉีทิ้ง และสั่งทหารไปขุดสุสานบรรพบุรุษทหารฉีที่นอกเมือง
การกระทำของฉีเจี๋ยทำให้ทหารรัฐฉีเป็นเดือดเป็นแค้นยิ่งนัก ทหารฉีทุกคนจึงขอออกรบด้วยความฮึกเหิมและเต็มใจ
เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กองกำลังขึ้นไปได้ในทันที
เถียนตันได้สั่งให้ทหารเก่ารักษาการณ์อยู่ในกำแพงเมืองและส่งทูตไปหาทหารเยียนแสร้งว่ายอมจำนนเมื่อทหารเยียน
ล้อมเมืองจี๋มั่วได้สามปีแล้ว ขวัญและกำลังใจของทหารก็เริ่มอ่อนแอลง เมื่อเห็นว่าทหารฉีจะยอมจำนนต่างก็รู้สึกผ่อนคลาย
เถียนตันได้คัดเลือกกระทิงมาหนึ่งพันตัว ใช้ผ้าผืนใหญ่ที่เป็นสีเขียวแดงสดผูกไว้ที่ตัวกระทิง โดยผูกมีดแหลมคมสองด้าน
ไว้ที่เขากระทิง และผูกต้นอ้อที่แช่น้ำมันไว้ที่หางกระทิง พอตกกลางคืน เถียนตันจึงสั่งให้ทหารเจาะช่องกำแพงไว้สิบกว่า
ช่องและไล่กระทิงออกไปนอกเมือง
ทหารฉีจุดไฟตรงต้นอ้อบริเวณหางกระทิง กระทิงที่ตื่นตกใจจึงวิ่งหนีไปยังค่ายของทหารเยียนอย่างบ้าคลั่ง ทหารฉีจำนวน
ห้าพันนายที่ตามหลังฝูงกระทิงมาพากันบุกเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทหารเยียนเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดที่ผูกมีดแหลมคมบุก
โจมตีเข้ามาอย่างกะทันหันก็ตกอยู่ในสภาพโกลาหล
เรื่องราวของเถียนตันกอบกู้รัฐฉีเป็นตัวอย่างของศึกสงครามยุคจานกั๋วที่กำลังจำนวนน้อยสามารถรบชนะกำลังจำนวนมาก
หรือการเอาชนะกำลังที่แข็งแกร่งด้วยกำลังที่อ่อนแอกว่า
ฉีเจี๋ย เอ๋ย ฉีเจี๋ย เจ้าต้องรู้หนักแน่นให้มากกว่านี้อย่าหูเบาไม่เช่นนั้นจะเสียการใหญ่...
替人祝福, 自己得福; 咒骂别人, 自己受罪。
祝福出于口说者先得, 泼污物泼者先得,因污物出自手。
[คำอวยพร/พูดดี ผู้พูดรับก่อน เพราะคำอวยพร/พูดดีออกจากปากเขา, สาดโคลน ผู้สาดได้รับก่อน เพราะสิ่งโสโครกออกจากปากเขา]
เครดิต -
https://pantip.com/topic/35580118/comment10
https://writer.dek-d.com/jin-356a/writer/viewlongc.php?id=549409&chapter=23
กลยุทธ์กระทิงไฟ ผู้มีสติปัญญาใช้มันจึงสำแดงผล
ประมาณ284ปีก่อนคริสตกาล รัฐฉินผนึกกำลังกับอีกหกรัฐ นำทัพเข้าโจมตีรัฐฉี แม่ทัพของรัฐเยียนนาม เยว่อี้
เข้ายึดครองหัวเมือง70กว่าแห่งของรัฐฉีเอาไว้ได้แล้วยังคงเหลือแค่เมืองจวี่เฉิงกับเมืองจี๋มั่วเท่านั้นที่ยังอยู่ภาย
ใต้การควบคุมของรัฐฉี ต่อมาแม่ทัพผู้ครองเมืองจี๋มั่ว ได้เสียชีวิตจากการสู้รบ จึงได้มีการผลักดันให้ขุนนางเถียนตัน
ขึ้นเป็นแม่ทัพเพื่อปกครองเมืองจี๋มั่วต่อไป
ขณะนั้นเยียนฮุ่ยหวังเพิ่งขึ้นครองรัฐเยียนและไม่ไว้วางใจแม่ทัพเยว่อี้ เถียนตันจึงส่ง จารชนไปที่รัฐเยียนและปล่อยข่าวลือว่า
“แม่ทัพเยว่อี้ใช้การโจมตีรัฐฉีเป็นข้ออ้าง แต่ความจริงแล้วอยากจะรวบรวมทหารที่เหลืออยู่ของรัฐฉีเพื่อก่อการกบฏและตั้งตนเป็นเจ้าผู้ครองรัฐฉี”
เยียนฮุ่ยหวังคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจึงได้แต่งตั้งให้ฉีเจี๋ย ผู้ไม่ค่อยมีความสามารถเป็นแม่ทัพแทน เถียนตันยังส่งคน
ไปปล่อยข่าวลือใกล้ๆฐานที่พักของทหารรัฐเยียน
“ถ้าทหารรัฐเยียนตัดจมูกของเชลยรัฐฉี ทหารรัฐฉียังกล้าที่จะต่อสู้อีกไหม สุสานของบรรพบุรุษพวกเราก็อยู่นอกเมือง
ถ้าทหารรัฐเยียนขุดสุสานเหล่านี้ ถือเป็นการเยียดหยามบรรพบุรุษของพวกเรา ทหารในเมืองก็จะเสียขวัญกำลังใจและ
ไม่สามารถปกป้องเมืองจี๋มั่วได้อีกต่อไป ”
แม่ทัพฉีเจี๋ยเมื่อได้ยินเข้าจึงสั่งให้ตัดจมูกเชลยทหารรัฐฉีทิ้ง และสั่งทหารไปขุดสุสานบรรพบุรุษทหารฉีที่นอกเมือง
การกระทำของฉีเจี๋ยทำให้ทหารรัฐฉีเป็นเดือดเป็นแค้นยิ่งนัก ทหารฉีทุกคนจึงขอออกรบด้วยความฮึกเหิมและเต็มใจ
เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กองกำลังขึ้นไปได้ในทันที
เถียนตันได้สั่งให้ทหารเก่ารักษาการณ์อยู่ในกำแพงเมืองและส่งทูตไปหาทหารเยียนแสร้งว่ายอมจำนนเมื่อทหารเยียน
ล้อมเมืองจี๋มั่วได้สามปีแล้ว ขวัญและกำลังใจของทหารก็เริ่มอ่อนแอลง เมื่อเห็นว่าทหารฉีจะยอมจำนนต่างก็รู้สึกผ่อนคลาย
เถียนตันได้คัดเลือกกระทิงมาหนึ่งพันตัว ใช้ผ้าผืนใหญ่ที่เป็นสีเขียวแดงสดผูกไว้ที่ตัวกระทิง โดยผูกมีดแหลมคมสองด้าน
ไว้ที่เขากระทิง และผูกต้นอ้อที่แช่น้ำมันไว้ที่หางกระทิง พอตกกลางคืน เถียนตันจึงสั่งให้ทหารเจาะช่องกำแพงไว้สิบกว่า
ช่องและไล่กระทิงออกไปนอกเมือง
ทหารฉีจุดไฟตรงต้นอ้อบริเวณหางกระทิง กระทิงที่ตื่นตกใจจึงวิ่งหนีไปยังค่ายของทหารเยียนอย่างบ้าคลั่ง ทหารฉีจำนวน
ห้าพันนายที่ตามหลังฝูงกระทิงมาพากันบุกเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทหารเยียนเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดที่ผูกมีดแหลมคมบุก
โจมตีเข้ามาอย่างกะทันหันก็ตกอยู่ในสภาพโกลาหล
เรื่องราวของเถียนตันกอบกู้รัฐฉีเป็นตัวอย่างของศึกสงครามยุคจานกั๋วที่กำลังจำนวนน้อยสามารถรบชนะกำลังจำนวนมาก
หรือการเอาชนะกำลังที่แข็งแกร่งด้วยกำลังที่อ่อนแอกว่า
ฉีเจี๋ย เอ๋ย ฉีเจี๋ย เจ้าต้องรู้หนักแน่นให้มากกว่านี้อย่าหูเบาไม่เช่นนั้นจะเสียการใหญ่...
替人祝福, 自己得福; 咒骂别人, 自己受罪。
祝福出于口说者先得, 泼污物泼者先得,因污物出自手。
[คำอวยพร/พูดดี ผู้พูดรับก่อน เพราะคำอวยพร/พูดดีออกจากปากเขา, สาดโคลน ผู้สาดได้รับก่อน เพราะสิ่งโสโครกออกจากปากเขา]
เครดิต - https://pantip.com/topic/35580118/comment10
https://writer.dek-d.com/jin-356a/writer/viewlongc.php?id=549409&chapter=23