ใครดู Sense8 จบทั้ง 2 season แล้วบ้าง มาคุยกันค่ะ

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้จะมาชวนคุยกึ่งรีวิวเรื่อง SENSE8 ต้องออกตัวก่อนว่า ปัทม์ดูจบทั้ง 2 ss แล้ว และชอบมว้ากกกกก
และการรีวิวในกระทู้นี้มาเพื่ออวยโดยเฉพาะ ใครที่ยังไม่เคยดู และลังเลว่าจะดูดีมั้ย อยากให้ลองอ่าน ส่วนใครที่ดูแล้ว
อยากชวนมาคุยกัน เรื่องดีเทลต่างๆในซีรี่ ส่วนตัวปัทม์เพิ่งดูไปรอบเดียว อาจมีดีเทลบางอย่างที่ missed ไป อยากให้คนที่ดูแล้วมาแลกเปลี่ยนกันค่ะ

ในส่วนของการรีวิว มีภาษา 18+ เพื่ออรรถรส โปรดใช้ิจารณญาณในการอ่าน


Sense8 ( 2015 - 2018 )

สนุกยิ้ม สนุกสุดๆ สนุกจังโว้ยยยยยย เป็นซีรี่ส์ที่โคตรๆๆๆๆดีงาม ภายใต้ความสนุกสัสๆของบทและฉากแอคชั่นที่มันส์ ยิ้มๆ มีความ PC แฝงอยู่ ทุกตัวละคร ทุกเส้นเรื่องรองที่ดำเนินไปพร้อมเส้นเรื่องหลักคือโคตรดีงามยิ้ม รวมทุกความโพรเกรสซีฟ ที่สำคัญถ่ายภาพสวย ยิ้มๆ bg music เพราะ ยิ้มๆ เกิดมาไม่เคยดูซีรี่ส์เรื่องไหนที่มี sex scene สวยงามเท่าเรื่องนี้มาก่อนเลย ให้ตายเถอะ
.
Sense8 คือ เรื่องราวของคน 8 คน จากทั่วโลกที่ไม่รู้จักกันมาก่อน จาก อเมริกา อังกฤษ เม็กซิโก เยอรมัน เคนย่า อินเดีย เกาหลีใต้ ต่างคนต่างใช้ชีวิตและเผชิญปัญหาของตัวเอง จนวันนึงทั้ง 8 ถูกปลุกความสามารถในการใช้จิต และทำให้คน 8 คน สามารถสื่อสารกันได้แบบเห็นกันทั้งภาพและเสียงเหมือน Skype ที่ไม่ต้องใช้ Device ใดๆรองรับ แถมยังรับรู้อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของกันและกัน และที่เทพกว่านั้นคือ ทั้ง 8 คนต่างสามารถแชร์สกิล ที่ตัวเองมี เพื่อช่วยเหลือกันและกันในสถานการณ์คับขันต่างๆ อารมณ์แบบวิญญาณเข้าสิง คนหนึ่งสามารถ surrogate อีกคนได้ เส้นเรื่องหลักคือ หลังจากที่ทั้ง 8 คน รู้ตัวว่าได้กลายเป็น Sensate ก็ถูกตามล่าจากองค์กร BPO หน่วยงานลับที่คอยตามกวาดล้างผู้ใช้จิต โดยปมหลักนี้ดำเนินไปพร้อมกับ conflicts ในชีวิตของแต่ละคนที่เป็นเส้นเรื่องรอง ได้อย่างสวยงามและสมดุลย์ พร้อมๆกับถ่ายทอดแนวคิด ปรัชญา และตั้งคำถามกับอคติของมนุษย์ในยุคนี้ได้อย่างแนบเนียน ทั้งยังนำเสนอโพรเกรสซีฟไอเดียแทบทุกอย่างเท่าที่จะมีในตอนนี้ได้อย่างไม่เคอะเขิน ซึ่งหลายๆไอเดียแน่นอนว่าชาวไทยแลนด์แดนดัดจริตจะต้องร้องยี้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา ความแตกต่างทางฐานะเศรษฐกิจ feminism vs patriarchy ความหลากหลายทางเพศ ( รักทีมเขียนบทมาก ทั้ง 2 season จะมีep. ที่มีงาน pride เป็นฉากหลังสำคัญ ยังไม่นับว่ามีตัวละครหลักที่เป็น LGBTQ อีกสองคน ) Sex Toys ( เพิ่งดราม่าไปร้อนๆในบ้านเราเนาะ แต่ในซีรี่เรื่องนี้ มีให้เห็นแบบถอดดิลโด้ออกมา ละวางให้ดูแบบเปียกๆชัดๆ แบบ นี่ ! กูเพิ่งเยสกันด้วยไอ้สิ่งนี้และมันฟินมาก โนแคร์ โนสน ) และ polygamy การใช้ชีวิตครอบครัวแบบหลายผัวหลายเมีย
.
( ต่อไปนี้จะสปอยล์แล้วนะ )
.
เอาล่ะ จะค่อยๆเขียนว่าชอบอะไรบ้าง อันดับแรกที่ชอบมากๆคือ บทมันไม่ทำให้ความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา ฐานะ และเพศวิถี เป็นปัญหาที่ตัวละครต้องมาเปิดใจรับให้เราดูอ่ะ คือ ตัวซีรี่เลือกไม่พูดถึงเลย เหมือนจะสื่อสารให้เรารู้ว่า ความแตกต่างของทุกคนบนโลกนี้คือเรื่องปกติ และกูไม่มาเสียเวลา educate พวกในเรื่องโง่ๆพรรค์นี้ในศตวรรษนี้หรอก บทเสนอข้ามช็อตไปเลย โดยให้อิ 8 คนนี้ ทั้งตำรวจคนขาว ผู้หญิงยุโรป คนอัฟริกันขับรถเมล์ เกย์ลาติน ผู้หญิงอินเดีย ผู้หญิงเกาหลี กะเทยแปลงเพศที่เป็นเลสเบี้ยน มาเฟียเบอร์ลิน ยิ้มทำความรู้จักและเริ่มช่วยเหลือกันและกันทันทีที่จิตเชื่อมถึงกัน ด้วยความรักและปรารถนาดีอย่างที่มนุษย์ทุกคนควรมีให้คนอื่น
.
ตัวละครทั้ง 8 ตัว บอกเลยว่าดูแล้ว จะรักทุกตัว ขอเล่าคาแรคเตอร์พร้อมสปอยล์เนื้อเรื่องไปด้วย ไล่จากซ้ายไปขวาที่ละตัวตามโปสเตอร์ละกัน


วิลล์ ตำรวจจากChicago  วิลล์เป็นคนแรกในกลุ่มหลังจากจิตเชื่อมต่อกับอีก 7 คนที่เหลือ ที่รู้ข้อมูลว่าสิ่งที่ตัวเองและคนในกลุ่มเป็น คือ มนุษย์สายพันธ์ โฮโมเซนโซเรียม ที่มีมาก่อน โฮโมเซเปียนส์จะขยายเผ่าพันธุ์จนครองโลกมาถึงทุกวันนี้ ทั้ง 8 คนที่เชื่อมถึงกันในกลุ่มจะเรียกว่า Cluster การที่จะเป็นคนใน Cluster เดียวกันได้คือจะต้องเป็นคนที่เกิดวัน เวลาเดียวกันเสมอ คือ หายใจครั้งแรกหลังคลอดพร้อมกัน ( บทไม่ได้เจาะจงว่า cluster นึงต้องมีแค่ 8 คนเท่านั้นหรือไม่ ตามความเข้าใจของเราคือ อาจมีได้มากกว่า แต่ แองเจลิก้า ที่เป็นผู้ให้กำเนิดทางจิตกับ 8 คนนี้ หาเจอแค่ 8 คนนี้ ) คนใน Cluster สามารถไปมาหาสู่กันได้ไม่ว่าจะไกลกันแค่ไหน หรือ ต่อให้ไม่เคยพบตัวจริงกันมาก่อนเลยก็ตาม ส่วนผู้ใช้จิตจาก Cluster อื่น ต้องเคยเจอตัวเป็นๆเห็นหน้ากันมาก่อนเท่านั้น ถึงจะ Visit กันทางจิตได้ ปมของวิลล์ไม่มีอะไรมาก หลักๆคือมีหน้าที่เป็นพระเอก เป็นตัวที่ทำหน้าที่แก้ปัญหาของกลุ่มจากการตามล่าของ BPO


ไรลีย์ ดีเจ EDM หญิงชาวไอซ์แลนด์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษ อีนี่เป็นนางเอก รักกับวิลล์ เป็นรักแรกพบตั้งแต่ครั้งแรกที่จิตเชื่อมถึงกัน หน้าที่ของนางคือ หลังจากหนีปัญหาที่มีกับแกงค์ค้ายาในลอนดอน บินกลับไปบ้านที่ไอซ์แลนด์ ซึ่งบังเอิญยิ้มเป็นประเทศที่มีศูนย์วิจัยของ BPO อยู่ ซึ่งอิแล็บนี้ มีไว้เพื่อทรมานและผ่าสมอง โฮโมเซนซอเรียม เพื่อให้เป็นเอ๋อและตกอยู่ภายใต้ความควบคุมของ BPO และแน่นอน นางโดนจับจ้าา แล้ววิลล์ก็ต้องมาช่วยนางที่ไอซ์แลนด์ คือ อิองค์กร BPO เนี่ย ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลทั่วโลกและมีเครือข่ายเส้นสาย และหนึ่งในวิธีที่ BPO จะเข้าถึง Sensates ได้ คือ เครือข่ายโรงพยาบาล มีกฏที่ผู้ใช้จิตทั่วไปจะรู้กันก็คือ ป่วยแค่ไหน ก็ห้ามไปโรงพยาบาล เพราะอาจตื่นมาอีกทีพร้อมเจ้าหน้าที่ BPO รอผ่ากะโหลกอยู่นั่นเอง


แคปฟิอัส ชายหนุ่มชาวแอฟริกัน ผู้ซึ่งอาศัยในสลัมกลางกรุงไนโรบีกับแม่ที่มีเชื้อ HIV หาเลี้ยงชีพด้วยการขับรถมินิบัส ที่พ่นแอร์บัดเป็นลาย Van Damn ตามชองคล้อดแวนแดม นักแสดงที่เขาชื่นชอบ เป็นที่รู้ดีว่าเส้นทางบนถนนในกรุงไนโรบีที่ยากจน นั้นชุกชุมไปด้วยแกงค์นักเลงที่คอยดักปล้นทรัพย์สิน แต่แคปฟีอัสที่ต้องการสะสมเงินให้ได้มากเพื่อเอาไว้ซื้อยาต้านไวรัสของแท้ที่หาได้ยากในไนโรบีและมีราคาแพงให้แม่ ก็ทำผิดกฏที่ไม่ควรทำโดยการจอดรับผู้โดยสารในย่านอันตราย และทำให้ผู้โดยสารและแคปฟีอัสถูกปล้น แกงค์นักเลงเอายาต้านไวรัสของแม่ไป และจุดนี้เองคือจุดเปลี่ยนของชีวิตแคปฟีอัส เมื่อแคปฟีอัสตัวคนเดียวตัดสินใจขับรถเมล์ไล่ตามรถนักเลง เพื่อไปกระทืบทวงยาคืน จนทำให้เค้าเป็นที่โด่งดังในชื่อ แวนแดม เจ้าของรถบัสที่ปลอดภัยที่สุดในกรุงไนโรบี ถ้ามาตินลูเธอคิงจูเนียร์ คือ อเมริกันดรีม แคปฟิอัสก็คือแอฟริกันดรีม เพราะจากจุดนี้ ชีวิตแคปฟีอัส พลิกผันและเติบโตไปเป็น ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นตัวแทนของคนยากจนในชุมชนของเขาในที่สุด


ลิโต้ พระเอกละครและภาพยนตร์เบอร์หนึ่งของวงการบันเทิง Mexico ปมของลิโต้ คือ ต้องปกปิดความเป็นเกย์ของตัวเองเพื่อรักษาอาชีพการงาน ในขณะที่ลิโต้ซ่อน เฮอร์นานโด้ คู่รักที่เป็นอาจารย์มหาลัยภาควิชาศิลปะไว้ที่บ้าน ลิโต้ต้องคอยจีบดาราหญิง เอาไว้เป็นคู่ควงออกเดทไปงานเปิดตัวหนังไปเรื่อยๆ จนความมาแตกกับ ดาเนียลล่า ( เรารักอินี่มว้ากกกกก ) ดาราหญิงคนล่าสุดที่ลิโต้ควงไปงานเปิดตัวหนัง ดาเนียลล่า ชวนลิโต้ขึ้นคอนโด แต่ลิโต้ ไม่ชอบจิ๋มอ่ะเนาะ เลยกลับบ้าน อิดาเนียลล่าอารมณ์ค้าง บุกมาหาลิโต้ถึงบ้านกลางดึก กะว่ากุต้องได้โดนเยสแน่ๆ แต่เข้าบ้านมา ผ่าง !!! ความจริงเปิดเผย แต่แทนที่ดาเนียลล่า จะโกรธ นางกลับชอบโว้ยยย และยื่นข้อเสนอ ยอมเป็น cover girlfriend ให้ลิโต้ แล้วนางก็เข้ามาใช้ชีวิตสามคนผัวเมียที่บ้าน โดยชีวิต sex ของเราสาม ดาเนียลล่าขอแค่นั่งดูผู้ชายสองคนเยสกัน กุติ้วหลีเองได้ จบ แฮปปี้ จริงๆตัวละครดาเนียลล่านี่มีปมเรื่อง Patriarchy และ Domestic Violence ด้วย ไปดูเอง แค่นี้ก็เล่าถึงนางมากกว่าลิโต้แล้ว


ซัน ขอกรี๊ดดังๆ 1 รอบให้คาแรคเตอร์นี้ แบบ แม่เจ้าโว้ยยยย อิ ยิ้มยยย Badassสุดๆ รักสุดๆ ซันเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทการเงินการลงทุนยักษ์ใหญ่ของเกาหลี แต่ชีวิตลับของซันคือเป็นคนชอบต่อสู้ เวลาเครียด นางจะถอดส้นสูง แล้วขึ้นเวทีมวยขึ้นไปต่อยผู้ชายให้สลบใน Fight Club ใต้ดิน และซันนี่แหล่ะ ที่คอยวาร์ปไปช่วยแคปฟีอัสกระทืบนักเลงแบบ 1 ต่อ 10 ในเคนย่า และ วาร์ปไปสิงวิลล์ที่หนีการตามล่าจาก BPO ปมของซัน คือ เป็นลูกสาวในครอบครัวที่ไม่เห็นหัวลูกสาว ตามสังคมวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ในเกาหลี แม่ซันป่วยตายไปตั้งแต่ซันเป็นเด็ก ตั้งแต่นั้น ซันก็โตมากับพ่อที่มองเห็นและให้ความสำคัญแต่กับลูกชาย หมายมั่นปั้นมือให้ลูกชายสืบทอดบริษัทต่อ แม้กระทั่งลูกชายจะทำผิดกฏหมายก็ตาม เมื่อทางการสืบสวนคดีเอาเรื่องบริษัท เพราะ จุงกิ น้องชายของซัน ยักยอกเงินจากบัญชีของลูกค้าไป พ่อก็ขอให้ซันติดคุกแทนน้อง เรื่องราวของซันยิ้มคือดีย์มาก แต่ละฉากคือโคตรสะเทือนอารมณ์ แค่เอาหมาไปฝากไว้กับอาจารย์ก่อนจะยอมไปติดคุก เป็นฉากจูงหมาเดินเงียบๆ ก็ทำเอาน้ำตาคลอได้ละอ่ะ จนนางเข้าคุกไป เจอเพื่อนร่วมคุกที่คอยช่วยเหลือ จนแหกคุกออกมา ฉากแอคชั่นที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ บอกเลยว่าไม่ใช่ตอนจบ แต่เราขอยกให้เป็นฉากของซัน ที่ขี่มอไซค์ ไล่ฆ่าจุงกิ กลางกรุงโซล ยิ้มมันส์มาก เท่มาก สมการรอคอยมาก เพราะนี่คือคิวบู๊ที่เป็นของนางเองจริงๆ หลังจากที่เราต้องดูนางวาร์ปไปต่อยคนในร่างเพื่อนมาทั้งซีซั่น เท่ ยิ้ม


โนมิ นี่ก็อีกตัวที่รักมากๆ รักยิ้ม โนมิ ผู้หญิงข้ามเพศที่เป็นเลสเบี้ยนและใช้ชีวิตรักกับ อมานิตต้า โนมิเป็นคนแรกในกลุ่มเลย ที่เฉียด BPO ที่สุด คือเกือบโดนผ่าสมอง ในตอนที่ทุกคนยังไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็น sensate ไปแล้วด้วยซ้ำ หลังจากที่เธอเป็นลมไปในงาน Pride ฉากที่โนมิฟื้นขึ้นมาอีกทีในโรงบาล ยิ้ม Intense มากๆ อมานิตต้าไม่อยู่ตรงนั้น มีแต่น้องสาว และ แม่ที่ keep calling โนมิ ด้วยชื่อ ไมเคิลๆๆๆๆ ประโยคที่โคตร statement เลยคือ " I'm not your Micheal, I'm Nomi " บาย เดอะ เวย์ แม้จะถูกขังในโรงพยาบาล และ เตรียมตัวถูกผ่าสมองเพราะแพทย์จาก BPO เข้าถึงตัวเธอทันที ที่โนมิเข้าโรงพยาบาล วิลล์ที่เพิ่งรู้ความจริงเกี่ยวกับการเป็นผู้ใช้จิต ก็มาช่วยโนมิ ได้ทันเวลา และตอนที่หนีออกจากโรงบาลครั้งแรกมาได้นี่เอง ที่คนดูจะได้รู้ว่า โนมิ ไม่ใช่สาวข้ามเพศธรรมดาๆ แต่เป็น แฮกเกอร์ตัวกลั่นของวงการ ที่เคยติดแบลคลิสท์ของ FBI โนมิ หวนคืนวงการแฮกเกอร์อีกครั้ง และ คอยเป็นทีม Back Up Support วิลล์ในการต่อสู้กับ BPO รวมถึงช่วยซันแหกคุก และ ไล่ฆ่าจุงกิด้วย สำหรับเรื่องของ โนมิ ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ อมานิตต้า เลสเบี้ยน ผู้มีแม่ 1 คน และ พ่อ 3 คน เป็นครอบครัว polygamy ที่โคตรจะรักและช่วยกันเลี้ยงดูลูกสาวและลูกสะใภ้ ตลอดทั้ง 2 ซีซั่น เราจะได้สัมผัสความรักของ โนมิ และ อมานิตต้า ที่ Intense และ Truly มากๆ ในสัดส่วนที่มากกว่าคู่วิลล์และไรย์ลี ด้วยซ้ำไป สำหรับโนมิ บทเด่นขนาดสอยตอนจบของซีรี่ไปครองอ่ะจ่ะ แต่จบยังไง ไปดูเอง


วูฟแกง นักเลงแห่งกรุงเบอร์ลิน นักปลดตู้เซฟมือหนึ่งของวงการจารกรรม ปมของวูฟกัง จะเป็นเรื่อง Domestic Violence ในวัยเด็ก ที่โตมากับการเห็นพ่อทุบตีแม่ จนวูฟกังเก็บกดและฆ่าพ่อทิ้งทันทีที่เริ่มเข้าสู่ช่วงสัยรุ่น วูฟกังจะเป็นคนที่คอยไปช่วยเพื่อนๆ เวลาต้องใช้ปืนสลับกับซันที่ถนัดการต่อสู้มือเปล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่