สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ขอตอบเป็นภาพกว้างๆนะคะ
ทุกการกระทำของคุณ เกี่ยวข้องกับสุข_ทุกข์ที่คุณเผชิญอยู่ แน่นอนค่ะ
ความไม่ซื่อสัตย์ (คบซ้อน ... )
ความมีทิฐิ (ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ไม่ง้อ)
มันบ่งบอกถึงความไม่ตรงไปตรงมาของจิตใจ
การถือเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ถือความถูกใจมากกว่าความถูกต้อง
นิสัยเหล่านี้ หากใครบ่มเพาะไว้ในใจ แล้วไม่รีบมีสติยั้งคิด คอยรู้เท่าทัน
มันจะเจริญงอกงาม
จนกระทั่งอำนาจฝ่ายดีต้านทานได้น้อยลง...น้อยลง ทุกที
ยิ่งมันยึดครอง พื้นที่ในหัวใจได้เท่าไหร่ ความทุกข์ / ความทุรนทุรายภายในจะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
ข้อดีคือ
มีความสนใจใฝ่รู้ในเรื่องของกรรมและการให้ผลของกรรมนั้น
จะทำให้พบเจอวิธีแก้ที่ตรงจุด และการมีศรัทธา จะทำให้ สามารถเปลี่ยนชะตากรรมตนเองได้
วิธีเปลี่ยน แบบหนามยอก เอาหนามบ่ง
_สมาทานความซื่อสัตย์ไว้เป็นธงชัยของชีวิต
จากนี้ต่อไป .. คุณจะซื่อสัตย์กับตนเอง กับคนรอบข้าง จะเป็นชายที่มีสัจจะ และมีเกียรติด้วยศีล
_ หมั่น พิจารณา หาข้อบกพร่องของตนเพื่อแก้ไข
ทำทีละเรื่อง .. กล้าเปิดใจ กล้ายอมรับความจริง ผิดแล้วกล้ายืดอกรับอย่างลูกผู้ชาย
เรื่องใดที่ทำผิดไปแล้วเมื่อวันวาน .. เมื่อคุณเผชิญมันด้วยสติในวันนี้ ... คุณจะได้ปัญญานำทางในวันพรุ่ง
ลองพิสูจน์ด้วยตนเองนะคะ ..
ว่าทำแบบนี้แล้ว คุณจะมีความสุขมากกว่าเดิมขนาดไหน ?
ทุกการกระทำของคุณ เกี่ยวข้องกับสุข_ทุกข์ที่คุณเผชิญอยู่ แน่นอนค่ะ
ความไม่ซื่อสัตย์ (คบซ้อน ... )
ความมีทิฐิ (ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ไม่ง้อ)
มันบ่งบอกถึงความไม่ตรงไปตรงมาของจิตใจ
การถือเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ถือความถูกใจมากกว่าความถูกต้อง
นิสัยเหล่านี้ หากใครบ่มเพาะไว้ในใจ แล้วไม่รีบมีสติยั้งคิด คอยรู้เท่าทัน
มันจะเจริญงอกงาม
จนกระทั่งอำนาจฝ่ายดีต้านทานได้น้อยลง...น้อยลง ทุกที
ยิ่งมันยึดครอง พื้นที่ในหัวใจได้เท่าไหร่ ความทุกข์ / ความทุรนทุรายภายในจะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
ข้อดีคือ
มีความสนใจใฝ่รู้ในเรื่องของกรรมและการให้ผลของกรรมนั้น
จะทำให้พบเจอวิธีแก้ที่ตรงจุด และการมีศรัทธา จะทำให้ สามารถเปลี่ยนชะตากรรมตนเองได้
วิธีเปลี่ยน แบบหนามยอก เอาหนามบ่ง
_สมาทานความซื่อสัตย์ไว้เป็นธงชัยของชีวิต
จากนี้ต่อไป .. คุณจะซื่อสัตย์กับตนเอง กับคนรอบข้าง จะเป็นชายที่มีสัจจะ และมีเกียรติด้วยศีล
_ หมั่น พิจารณา หาข้อบกพร่องของตนเพื่อแก้ไข
ทำทีละเรื่อง .. กล้าเปิดใจ กล้ายอมรับความจริง ผิดแล้วกล้ายืดอกรับอย่างลูกผู้ชาย
เรื่องใดที่ทำผิดไปแล้วเมื่อวันวาน .. เมื่อคุณเผชิญมันด้วยสติในวันนี้ ... คุณจะได้ปัญญานำทางในวันพรุ่ง
ลองพิสูจน์ด้วยตนเองนะคะ ..
ว่าทำแบบนี้แล้ว คุณจะมีความสุขมากกว่าเดิมขนาดไหน ?
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ปัญหาชีวิต
ปัญหาความรัก
เลิกกับแฟน (ที่มีอะไรกัน) vs. (ไม่มีอะไรกัน) แบบไหนบาปกว่ากันครับ
ผมนับถือศาสนาพุทธครับ แต่ว่าตั้งแต่ ป.ตรี เรียนที่ต่างประเทศ
ตอนคบแฟนที่เป็นคนต่างชาติ ไม่ได้มีอะไรล่วงเกินกัน เลิกกันด้วยดี
(มี ONS บ้าง) แต่นั่นคือผมไม่ได้คบ พอผมกลับมาไทย ชีวิตผมก็ปกติดี
จนผมมาคบแฟนที่เมืองไทย เธอเป็นคนดี ดูแลสารทุกข์สุขดิบผมอย่างดี
แต่พอดีช่วงนั้นผมยัง ไม่มีวุฒิภาวะเท่าไหร่ ยังไม่คิดจะมีครอบครัว ยังคบเผื่อเลือก
ผมก็เลยคบซ้อน ผ่านไป 1 ปี ผมมีอะไรกับแฟน แต่ไม่ได้มีอะไรกับ คนอื่นที่คบซ้อน
เพราะผมถือว่าผมให้เกียรติ คนที่ผมมีอะไรด้วยก่อนเสมอ ไม่ว่าจะมาก่อนหรือหลัง
(ยกเว้น ONS) ซึ่งผมก็มีอะไรกับแฟนนานเกิน 2 ปี และผมไม่ได้ไปแรด ONS อีกเลย
วันนึงผมทะเลาะกันแฟน และผมไม่ได้ง้อเธอ ทั้งๆที่ผมสมควรง้อ เพราะผมเป็นคนผิด
แต่ว่าไม่รู้อะไรดลใจ ให้ทำตัวงี่เง่าแบบนั้น เราจบกันด้วยการต่างคนต่างห่างกันไป จนเธอย้ายไปภูเก็ต
(ไปดูแลกิจการของที่บ้าน) หลังจากนั้นผมก็ลองคบคนอื่น คนละไม่เกิน 3 เดือน แต่ชีวิตผมกลับแย่ลง
เครียดมากขึ้น มาตลอด 2-3 ปี ผมมองไม่เห็นว่า ผมทำผิดอะไรในเรื่องอื่น ยกเว้นเรื่องเลิกกับแฟนของผม
รบกวนถามคนที่ เข้าใจเรื่องนี้หน่อยครับ ว่ามันเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน
เพราะเท่าที่เคยดูละคร ย้อนยุคแทบทุกเรื่อง ส่วนมากผู้ชายไปได้ผู้หญิงที่ไหน ถ้าเลี้ยงไหว
ก็จะแต่งเข้าบ้านหมด แต่ถ้าไม่ได้มีอะไร ถึงจะคบกันไปก็ไม่มีความจำเป็นต้องแต่ง ผมรู้สึกเหมือน
ผมเป็นพวกผู้ชายกุ๊ยๆ ที่ไม่รับผิดในสิ่งที่ผมผิด และ ไม่รับผิดชอบแฟนของผมวันนั้น
จะแนะนำมาก็ได้ครับว่าต้องไปอ่าน หนังสือพระพุทธศาสนา ที่ไหนบทไหน เดี๋ยวผมไปหาเอง
ขอบคุณครับ