[SR] 3rd time in Japan เที่ยวญี่ปุ่นครั้งที่ 3 ใน Tokyo-Nikko-Fuji-DisneySea



สวัสดีครับ ... กลับมาพบกันอีกครั้งกับการรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นฉบับที่ 2 แต่เป็นการมาญี่ปุ่นครั้งที่ 3 ของผม
ผมเคยตั้งกระทู้รีวิวเที่ยว Osaka-Kyoto ไปแล้วในปี 2559 หากท่านผู้อ่านสนใจก็คลิ๊กตามลิ้งค์นี้เล้ยย
https://pantip.com/topic/35610254

เอาล่ะครับ ... ผมจะสรุปการไปเที่ยวญี่ปุ่น 6 วันเต็มครั้งนี้ให้เห็นภาพรวมกันก่อน ดังนี้
Day 0 : เดินทางจาก Bangkok ถึง Tokyo
Day 1 : Nikko
Day 2 : Kawaguchiko (Fuji mountain)
Day 3 : Tokyo DisneySea
Day 4 : Tokyo (Tsukiji, Ginza, Tokyo Tower, Odaiba)
Day 5 : Kawagoe, Tokyo (Harajuku, Shibuya)
Day 6 : Tokyo (Asakusa, Ueno, Akihabara)
Day 7 : เดินทางจาก Tokyo ถึง Bangkok

... ช่วงที่เรามาเที่ยวเป็นช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ที่ญี่ปุ่นจะอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งอากาศจะไม่ถึงกับหนาว กลางวันมีแดดออก หากใส่เสื้อแขนยาวก็อาจทำให้เหงื่อออกได้ ส่วนหัวค่ำ-กลางคืนมีลมพัดเย็นๆ ใส่เพียงเสื้อคลุมหรือแจ๊กเก็ตก็พออบอุ่นครับ
... ในการรีวิว ผมขอรีวิวแบบสั้นๆ เน้นจุดหลักๆ เท่านั้นนะครับ หากจะให้รีวิวแบบละเอียดนั้นคงน่าเบื่อแน่นอน
__________________________________________________________________________________________


Day 1 : Nikko

ขอย้อนกลับไปเมื่อคืน เราเดินทางจากสนามบิน Narita ด้วยรถไฟ Keisei Skyliner มาลงที่ Nippori ซึ่งเป็นย่านหนึ่งในโตเกียว ที่พักที่เราจองไว้เป็นแบบแคปซูล ซึ่งผมเองก็เพิ่งมีโอกาสได้นอนแคปซูลเป็นครั้งแรกด้วยครับ

เช้าวันที่ 1 ของการเที่ยวญี่ปุ่น เราตื่นแต่เช้าเพราะต้องรีบเดินทางไป Nikko ทำให้รู้ว่าเวลาตี 4 ครึ่งที่ญี่ปุ่นนั้นสว่างพอๆกับ 7 โมงเช้าบ้านเรา ก็เลยเก็บรูปมาฝากครับ (ในรูปเป็นเวลาประมาณ 04.30 น.)

ก่อนออกจากที่พักเราได้ทักทายกับเจ้าถิ่น มันคือ "นกฮูก" นั่นเองครับ ตามชื่อของโรงแรม (Owl Hotel) เจ้าตัวนี้มันมีชื่อว่า "โมริ (Mori)"

เราเดินทางไป Nikko ด้วยบัตร Nikko All Area pass ซึ่งสามารถขึ้นรถไฟ Tobu ไป-กลับ Nikko ได้ 1 รอบ และใช้ขึ้นรถบัสเพื่อเที่ยวชมในเมือง Nikko ได้ทุกสายและไม่จำกัดจำนวนรอบ จริงๆแล้วบัตรนี้สามารถใช้ได้ 4 วัน 3 คืน แต่เราไปแบบเช้าเย็นกลับครับ ก็เลยแอบเสียดายเล็กๆ

รถไฟใช้เวลาเดินทางจากสถานี Asakusa ในโตเกียว ถึงสถานี Nikko ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ซึ่งระหว่างทางผมได้เก็บภาพบรรยากาศบ้านนอกของญี่ปุ่นมาฝากด้วยครับ

.... เผลอแป๊บเดียวก็ถึงสถานีรถไฟ Nikko

เราเดินทางต่อด้วยรถบัส เพื่อไปเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จุดแรกที่ไปก็คือกระเช้าข้ามเขานั่นเองครับ
ก่อนอื่นเราต้องซื้อตั๋วเพื่อขึ้นกระเช้าแบบไป-กลับ ราคา 730 yen ครับ (สามารถซื้อขาไปขาเดียวก็ได้ แต่ฝั่งนั้นไม่มีทางลงนะครับ ฮ่าๆๆ)

กระเช้านี้มีชื่อว่า "Akechidaira Ropeway" จริงๆก็ไม่ได้น่ากลัวสักเท่าไร ผมว่าตอนที่อยู่บนรถบัสระหว่างทางที่จะมาถึงกระเช้านั้นน่ากลัวกว่าเย๊อะ (เสียงสูง) ลองดูเส้นทางใน Google Map แล้วจะเข้าใจเองครับ ....

เราขึ้นกระเช้ามาถึงยอดเขา ซึ่งจะได้เห็นทั้งทะเลสาบ Chuzenji และน้ำตก Kegon ถือว่าเป็นวิวที่งดงามมากๆ

เราชื่นชมความงดงามของธรรมชาติที่สรรค์สร้างไว้จนเต็มอิ่มแล้วก็นั่งกระเช้ากลับและเดินทางต่อไปที่ทะเลสาบ Chuzenji ซึ่งบริเวณนี้จะมีร้านค้าร้านอาหารมากมายให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันด้วยครับ

ด้านหน้าทะเลสาบนั้นจะมีเสา Torii ยักษ์ ตั้งตระหง่านคอยต้อนรับผู้มาเยือนอยู่ด้วย

จากบริเวณหน้าทะเลสาบนั้นสามารถเดินไปยังน้ำตก เพื่อเห็นน้ำตกได้ใกล้กว่าตอนที่มองจากยอดเขาที่นั่งกระเช้าขึ้นไป และใครไปถึงน้ำตกก็อย่าลืมกินปลาย่างสดๆ ซึ่งจับมาจากน้ำตกด้วยนะครับ ... บอกได้เลยว่าอร่อยม๊วกกก สดจริงไรจริง

หลังจากที่เราได้เที่ยวชมธรรมชาติแล้ว จุดต่อไปที่เราจะไปก็คือโซนมรดกโลก (World Heritage site) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีทั้งวัดและศาลเจ้ามากมาย อ้อผมลืมบอกไป ..... เมือง Nikko นั้นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกด้วยครับ

ในโซนมรดกโลกนั้นเราสามารถเดินทะลุถึงกันได้ทั้งหมดในแต่ละวัด ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เดินจนครบ เนื่องจากมีเวลาไม่มากพอ และเริ่มจะเมื่อยขาแล้วด้วยครับ ฮ่าๆๆ (เดี๋ยว!!! นี่เพิ่งวันแรกเองนะ) ก็เลยเก็บภาพได้บ้างแต่คงไม่ครบ ส่วนบรรยากาศในโซนมรดกโลกนี้ก็เงียบสงบ ร่มรื่น ในบางที่ก็ดูขลังๆน่ากลัวด้วยครับ

เราเที่ยวชมโซนมรดกโลกอยู่สักพัก ก็เดินมาถึงจุดหมายสุดท้ายที่เราตั้งใจจะไป ซึ่งหากไม่ได้มาที่จุดนี้ถือว่ามาไม่ถึง Nikko เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ "สะพาน Shinkyo" หรือสะพานแดงนั่นเองครับ ซึ่งหลายท่านอาจเคยเห็นสะพานแห่งนี้ตามภาพโปสเตอร์หรือเว็บไซต์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้วบ้าง

และนี่คือ 1 วันใน Nikko สำหรับผมถือว่าได้เที่ยวหลายที่ถึงแม้จะมีเวลาน้อย  เราเดินทางออกจาก Nikko ประมาณเกือบ 5 โมงเย็น ถึง Tokyo หัวค่ำ ซึ่งทั้งผมและผู้ร่วมทริปต่างก็มีอาการเมื่อยขาเช่นเดียวกันทั้งๆที่ก่อนมาญี่ปุ่นก็ได้ออกกำลังกายเตรียมความพร้อมของร่างกายไว้พอสมควรนะครับ  
.... แล้วพบกับการเดินทางในวันที่ 2 ใน comment ถัดไปได้เลยคร้าบบบบ
_______________________________________________________________________________________________
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่น
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่