ผมประกอบอาชีพว่าความอย่างเดียวเลี้ยงดูร่างกายนี้โดยไม่ประกอบอาชีพอย่างอื่นเลยมาตั้งแต่อายุ ๒๔ ปีถึง ๕๘ ปี ก็หยุด จนวันนี้ก็หยุดมาประมาณ ๓ ปีแล้ว ใช้เวลาที่เหลือเตรียมตัวเพื่อความตายที่กำลังหายใจรดต้นคออยู่ดีกว่า
ตลอดเวลาประมาณ ๓๐ ปีนั้น สักวูบเดียวของความรู้สึกว่าตัวเองเป็นทนายความไม่เคยมี ซึ่งแน่นอนความรู้สึกว่าใครเป็น ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา ชาวนาหรือกรรมกรก็ไม่มีด้วย มีแค่ผู้มีวิธีหาเลี้ยงร่างกายเป็นอาชีพที่แตกต่างกันเท่านั้น
แต่วันนี้ วันที่ทนายความคนหนึ่งชื่อสุกิจฯ ถูกคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่าตำรวจร่วมกันใช้กำลังบังคับกดร่างกายที่ยืนอยู่ให้ลงนอนราบกับพื้นแทบเท้าของพวกเขาใส่กุญแจมือ ในนามของการปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นทนายที่ไม่เคยเกิด เกิดแล้ว
เกิดพร้อมกับความสลดใจเป็นอย่างยิ่ง
ผมเห็นภาพวัวกระทิงตัวหนึ่งที่มีแต่เนื้อหนังกับกำลังวังชา แต่ไม่มีเขี้ยวเล็บใด ๆ ถูกสิงโตตัวเล็กกว่าแต่เต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บฝูงหนึ่งกำลังรุมขย้ำ ตามลำคอและส่วนต่าง ๆ เต็มไปหมด
วัวกระทิงก็อยู่รวมกันเป็นฝูงและก็อยู่ใกล้ ๆ นั่นเอง แต่ทั้งฝูงของวัวกระทิงนั้นกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไร ยังคงแทะเล็มกินหญ้ากันอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมบางตัวยังแสดงอาการลิงโลดที่ศัตรูตัวหนึ่งในฝูงถูกขจัดอีกต่างหาก
สังคมมนุษย์มันถูกออกแบบมาอย่างนี้ เหมือนป่าดงดิบที่สัตว์มีเขี้ยวเล็บต้องอยู่เหนือสัตว์อื่นทั้งมวลนั่นแหละ มันจึงแก้อะไรไม่ได้ แต่มนุษย์ไม่ใช่วัวกระทิงจริง ๆ ฉะนั้นการรู้ตัว เจียมตัว และการช่วยเหลือเกื้อกูลกันเองในหมู่วัวกระทิงจึงเป็นเรื่องจำเป็นยิ่ง
คงอีกหลายวันที่ความรู้สึกว่าตัวเองแค่วัวกระทิงรอวันถูกขย้ำซึ่งแสนจะอัปยศนี้ (ทุกขเวทนา) ที่เกิดแล้วจะจางหายไปเพราะยอมรับความจริงที่โลกเป็นแล้วอยู่โดยไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยดังเดิม
จึงใช้โอกาสที่มันยังไม่จางหายไปนี้มาแจ้งเตือนภัยแก่ท่านทั้งหลายว่า ตื่นเถิดทนาย
ผู้หลีกเร้น
ตื่นเถิดทนาย
ตลอดเวลาประมาณ ๓๐ ปีนั้น สักวูบเดียวของความรู้สึกว่าตัวเองเป็นทนายความไม่เคยมี ซึ่งแน่นอนความรู้สึกว่าใครเป็น ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา ชาวนาหรือกรรมกรก็ไม่มีด้วย มีแค่ผู้มีวิธีหาเลี้ยงร่างกายเป็นอาชีพที่แตกต่างกันเท่านั้น
แต่วันนี้ วันที่ทนายความคนหนึ่งชื่อสุกิจฯ ถูกคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่าตำรวจร่วมกันใช้กำลังบังคับกดร่างกายที่ยืนอยู่ให้ลงนอนราบกับพื้นแทบเท้าของพวกเขาใส่กุญแจมือ ในนามของการปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นทนายที่ไม่เคยเกิด เกิดแล้ว
เกิดพร้อมกับความสลดใจเป็นอย่างยิ่ง
ผมเห็นภาพวัวกระทิงตัวหนึ่งที่มีแต่เนื้อหนังกับกำลังวังชา แต่ไม่มีเขี้ยวเล็บใด ๆ ถูกสิงโตตัวเล็กกว่าแต่เต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บฝูงหนึ่งกำลังรุมขย้ำ ตามลำคอและส่วนต่าง ๆ เต็มไปหมด
วัวกระทิงก็อยู่รวมกันเป็นฝูงและก็อยู่ใกล้ ๆ นั่นเอง แต่ทั้งฝูงของวัวกระทิงนั้นกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไร ยังคงแทะเล็มกินหญ้ากันอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมบางตัวยังแสดงอาการลิงโลดที่ศัตรูตัวหนึ่งในฝูงถูกขจัดอีกต่างหาก
สังคมมนุษย์มันถูกออกแบบมาอย่างนี้ เหมือนป่าดงดิบที่สัตว์มีเขี้ยวเล็บต้องอยู่เหนือสัตว์อื่นทั้งมวลนั่นแหละ มันจึงแก้อะไรไม่ได้ แต่มนุษย์ไม่ใช่วัวกระทิงจริง ๆ ฉะนั้นการรู้ตัว เจียมตัว และการช่วยเหลือเกื้อกูลกันเองในหมู่วัวกระทิงจึงเป็นเรื่องจำเป็นยิ่ง
คงอีกหลายวันที่ความรู้สึกว่าตัวเองแค่วัวกระทิงรอวันถูกขย้ำซึ่งแสนจะอัปยศนี้ (ทุกขเวทนา) ที่เกิดแล้วจะจางหายไปเพราะยอมรับความจริงที่โลกเป็นแล้วอยู่โดยไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยดังเดิม
จึงใช้โอกาสที่มันยังไม่จางหายไปนี้มาแจ้งเตือนภัยแก่ท่านทั้งหลายว่า ตื่นเถิดทนาย
ผู้หลีกเร้น