เขียนไว้ให้ลูกอ่าน Life is a journey;ในวันที่ฉันกระเตงลูกสองคนเดินทางเกือบ1หมื่นไมล์

กระทู้สนทนา
เส้นทางชีวิตเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณแม่ที่เคยดูแลลูกเสียชีวิตด้วยวัยอันไม่สมควร คนอายุ50ปียังมีอนาคต มีพละกำลังที่สามารถทำประโยชน์ให้กับตนเองและสังคมอีกมาก ซึ่งคุณแม่ก็มีแนวความคิดเช่นนั้น but life was not agreed โรคร้ายได้พรากเขาไปด้วยวัยแค่นี้ น่าเศร้าเหลือเกิน แต่ยังไงชีวิต(ที่เหลืออยู่)ก็ยังต้องดำเนินต่อไป

ผู้หญิงตัวคนเดียว กับลูกวัยประถมสองคน; การเดินทางข้ามทวีปไม่ใช่ปัญหาทางกายภาพเพราะมีกำลังพอที่จะจ่ายค่าตั๋ว first class สายการแห่งชาติที่บินตรงเชื่อมระหว่างสองทวีป เล่นๆนอนๆ ตื่นขึ้นมาก็ถึงแล้ว แต่ทางด้านจิตใจ มันหนักหนาเอาการ

หน้าที่การงานไม่เท่าไหร่แต่ลักษณะนิสัยที่บ้าพลัง บ้างานนี่สิ
นายจ้างเคยโอดให้ได้ยิน; อาทิตย์หนึ่งมี7วัน but that Little Lady works 8 days per!!
ความระห่ำอีกอย่างคือ ทางด้านการงาน เป็นperfectionist คนหนึ่ง งานต้องดี ต้องเนี๊ยบ เท่านั้น
แต่เมื่อลูกย้ายมางานก็ต้องวาง work is my identity แต่ลูกคือชีวิต ปรับตัวปรับใจอยู่พักใหญ่ คนที่รักและทุ่มเทกับงานจะเข้าใจดีว่ามันต้องใช้เวลา การลดego ลดความเป็นตัวตนลง ไม่ง่าย

เตรียมตัว เตรียมใจให้ลูกก่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตเขา
ทางด้านการศึกษา; ปูพื้นฐานด้วยการให้เขาเรียนโรงเรียนสามภาษา(ตอนนี้อย่าถาม ลืมโม๊ดดดดแล่ว) ได้ภาษาจีนมานิดหนึ่ง ภาษาอังกฤษก็พอไม่ลำบากมาก (มาถึงที่นี่ลืมภาษาที่สาม แต่พากันเรียนภาษาที่สี่ แม่เลยบ่นไม่ได้)

ทางด้านจิตใจ; ให้เขารับรู้ทุกอย่าง เราต้องย้ายนะ ต่างประเทศหรือที่ไหนๆในโลกก็ล้วนแต่เป็นการใช้ชีวิต-คำพูดไม่เป็นทางการแบบนี้ แต่ใช้คำที่วัยของเขาจะเข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ต้องแปล ไม่ซับซ้อน ผลออกมาเขาตอบรับดี เข้าใจและเตรียมตัวเตรียมใจตนเองได้ดีทีเดียว ไม่ต้องการให้เป็นการบีบบังคับ ได้เรียนรู้ว่า ถ้าเขายอมรับสิ่งนั้นจะง่ายขึ้น

และเรื่องใหญ่ ทางด้านการเงิน; มีโอกาสได้ไปทำงานอยู่หลายปีก่อนที่จะย้ายลูก ทำให้ทุกอย่างลงตัว มีกินมีใช้แบบชนชั้นกลางค่อนไปทางสูง กิน เล่น เที่ยว ทุกอย่างมีรองรับไว้แล้วพอสมควร

ชีวิต ไม่ว่าจะวางแผนไว้ดีแค่ไหน ถ้ามีอุบัติเหตุชีวิตเกิดขึ้นทุกอย่างกลับตาลปัตรทันที ชีวิตสะดุด แผนการพัง ไม่เป็นไร เราเริ่มกันใหม่ สามชีวิต เป้าหมายเดียวกัน ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนเราจะต้องผ่านมันไปด้วยกันกันให้ได้ และ ได้ดีที่สุดด้วย คำสัญญาที่เราให้กันและกันวันนั้น

อุบัติเหตุชีวิตครั้งที่หนึ่ง เนื่องจากพิษเศรษฐกิจบริษัทต้องปิดตัวลง แม่ที่เป็น sole income provider ตกงานจ้า บริษัทปิดหลังจากลูกย้ายมาไม่ครบปี เอาหล่ะ เจ้าชีวิตเอ๋ย เจ้าจะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม? ได้เลย โลกมีไว้เหยียบไม่ได้มีไว้แบก Try me out, throws it all on me and wait and see if I would ever give up!

ทำยังไงต่อกับชีวิตหล่ะ? Single mom ดาบต้องแกว่งเปลต้องไหว ไม่มีเวลาสำหรับการตีอกชกหัวหรือโศกเศร้าเสียใจ ในสมองคิด ๆ ๆ เขาขีดเส้นทางมาแบบนี้เราจะเดินต่อแบบไหน ดูเหมือนช่องทางถูกปิดทั้งหมด แต่! เดี๋ยวนะ ฉันจำได้ ฉันมีบ้านอยู่ต่างรัฐหลังหนึ่ง และแล้วการเดินทาง cross country ก็เริ่มขึ้น กระเตงกันอีกแล้ว SUV หนึ่งคันบรรทุกสามชีวิต;เด็กหญิงสองคนกับผู้หญิงวัย30กลางๆคนหนึ่ง เป็นช่วงปิดเทอมนานเป็นเดือน ขอใช้โอกาสนี้เยาะเย้ยเจ้าชีวิตด้วยการพาลูกขับรถข้ามประเทศซะเลย

Part ต่อไปเป็นประสบการณ์การการเดินด้วยรถยนต์ตั้งแต่California ถึง Central Pennsylvania ของสามแม่ลูกโดยมีแม่เป็นคนขับรถเองเพียงคนเดียว เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง และ เกือบเกิดอุบัติเหตุเพราะเบรครถเสียตอนขับลงเขาที่ความชันลงระดับ50-60องศา ถ้ามีอุบัติเหตุคงไม่มีโอกาสมาเขียนเรื่องราวนี้

ทั้งหมดทั้งมวล สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยว เป็นพลังผลักดันคือลูก ถ้าไม่มีเขาผู้หญิงคนนี้ก็คงเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่ใช่แม่ที่ผ่านได้ทุกสิ่งทุกอย่างแบบนี้ พ่อแม่ท่านใดที่เหนื่อยหรือท้อ มองหน้าลูกเข้าไว้ค่ะ พลังวิเศษในตัวลูกคือสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่