คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
คือ จขกท. เป็น...คนขาย ใช่ไหมคะ?
แถวที่ทำงานเรามีร้านข้าวแกงอยู่ร้านนึงที่ ...ขายแพงกว่าร้านอื่นๆ ร้านอื่น 30-35 บาท ร้านนี้มาเปิดใหม่หลังคนอื่นขายอยู่ที่ราคา 40 บาท(สำหรับกับข้าว2อย่าง) แต่สามารถครองใจลูกค้าจนขายดีเหมือนแจกฟรีเลย จนร้านข้าวแกงอื่นโดนแย่งลูกค้าประจำไปเกินครึ่ง ทั้งๆที่ร้านนี้เปิดบ้างไม่เปิดบ้าง จะหยุดวันไหนก็ไม่บอก แต่วันไหนที่มาขายลูกค้าไม่เคยลดลงเลย รสชาติก็ไม่ได้อร่อยเว่อร์ก็มาตรฐานปกติของข้าวแกง
...แต่สิ่งที่พิเศษของร้านนี้ คือ"ความใส่ใจ" ข้าว..ก็เป็นข้าวหอมมะลิ , กล่องใส่..ก็เป็นกล่อง PP ฝาแยก , ผัก+น้ำพริก ฟรี , ถ้าน้องคนขายรู้ว่าเอาไปกินกลางวัน ของที่มีน้ำๆ ใส่ถุงร้อนแยกไปให้โดยที่ไม่ต้องร้องขอเลย , ถ้ากินที่ร้าน ของเป็นน้ำก็แยกใส่ถ้วยเล็กให้ ...จนลูกค้าเองต้องห้ามปราม เพราะกลัวร้านจะไม่มีกำไร , อีกเยอะแยะมากมาย ...เรียกว่าถ้าวันไหนร้านเปิดขาย ร้านอื่นนั่งตบยุงมองด้วยความอิจฉา
...คนทุกคนมีลักษณะเฉพาะตัว ลูกค้าที่มาซื้อของกินส่วนใหญ่..(รวมถึงตัวเราเอง) เราจะไม่ซื้อ,ไม่กิน ร้านที่มากะเกณฑ์ว่าเราต้องทำตามใจเค้า(แม่ค้า) ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าเราขอให้ใส่ถุงแยกน้ำให้เรา..แล้วร้านบอกว่า ซื้อแยกไปสิ ณ จุดๆนั้น ก็อาจซื้อแยกหรือบอกว่าราดไปเลย (แบบมึนๆ) แต่ร้านนี้จะไม่ได้เงินจากเราอีก หรือถ้าได้ก็ต้องเป็นตัวเลือกท้ายๆ ..ไม่มีทางเป็นร้านประจำหรือตัวเลือกแรกที่เราจะเลือกกิน
...คนรอบตัวเราส่วนใหญ่ เรื่องมากกับอาหารการกิน ทำให้เราได้เปิดหูเปิดตามาหลายครั้ง ..คนแรก ไม่ชอบกินกับข้าวที่เป็นน้ำแล้วเอามาราดข้าวจนแฉะไปทั้งจาน ดังนั้นเวลาสั่งกับข้าวจำเป็นต้องสั่งแยก หรือไม่ก็สั่งแม่ค้าให้ตักมาแบบแห้งๆเลย ไม่ต้องราดน้ำกับข้าวมาจนชุ่ม ...แต่คนที่สองกลับชอบมาก ถ้ามีต้มจืดแทบจะเอาข้าวในจานเทใส่ชามต้มจืด กินเป็นข้าวต้ม ..คนที่สาม กินข้าวซ้ำกันไม่ได้ อย่างน้อย 2-3 วัน ยกเว้นไข่เจียว ไข่ดาว ที่อาจซ้ำกันได้ แต่กับข้าวตัวหลักต้องเปลี่ยน เช่น กลางวันกินไข่เจียวราดข้าว , เย็นก็อาจเป็นมาม่า แต่กินไข่เป็นเครื่องเคียงได้ ดังนั้นซื้อแกง 1 ถุง กินหลายมื้อ ไม่อยู่ในหัวแน่นอน
การที่แม่ค้าปฏิเสธไม่แยกให้ ...ไม่ใช่ความผิดของแม่ค้า เพียงแต่ก็เหมือนกับปิดโอกาสที่จะครองใจลูกค้าที่อาจเคยเป็นขาประจำ ...ร้านที่ขายอาหาร การแข่งขันสูงมาก ต้องคอยเดาใจลูกค้า ปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ ...เพราะลูกค้า ถ้าไม่ถูกใจเพียงครั้งเดียวก็อาจหายหน้าไปเลย ไม่กลับมาบอกล่าวว่าร้านผิดอะไร ไม่ถูกใจตรงไหน สุดท้ายพอลูกค้าหายไปหมดขายไม่ดี..ก็โทษว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจแย่ ของขึ้นราคา ซะส่วนใหญ่ (แม้แต่ตัวเรา เลิกกินข้าวแกงร้านประจำเพราะน้ำปลาพริกจืด เหมือนน้ำเปล่าใส่พริกลอยไว้เฉยๆ เราก็เลิกกินโดยไม่บอกเค้านะว่าเพราะอะไร ..จริงๆร้านอาจจะหวังดี ไม่อยากให้ลูกค้าเป็นโรคไต แต่มันเป็นความชอบของเรา ในเมื่อรสชาติมันไม่ตรงกับสิ่งที่เราอยากกิน ก็แค่ไม่กินเท่านั้นเอง)
แถวที่ทำงานเรามีร้านข้าวแกงอยู่ร้านนึงที่ ...ขายแพงกว่าร้านอื่นๆ ร้านอื่น 30-35 บาท ร้านนี้มาเปิดใหม่หลังคนอื่นขายอยู่ที่ราคา 40 บาท(สำหรับกับข้าว2อย่าง) แต่สามารถครองใจลูกค้าจนขายดีเหมือนแจกฟรีเลย จนร้านข้าวแกงอื่นโดนแย่งลูกค้าประจำไปเกินครึ่ง ทั้งๆที่ร้านนี้เปิดบ้างไม่เปิดบ้าง จะหยุดวันไหนก็ไม่บอก แต่วันไหนที่มาขายลูกค้าไม่เคยลดลงเลย รสชาติก็ไม่ได้อร่อยเว่อร์ก็มาตรฐานปกติของข้าวแกง
...แต่สิ่งที่พิเศษของร้านนี้ คือ"ความใส่ใจ" ข้าว..ก็เป็นข้าวหอมมะลิ , กล่องใส่..ก็เป็นกล่อง PP ฝาแยก , ผัก+น้ำพริก ฟรี , ถ้าน้องคนขายรู้ว่าเอาไปกินกลางวัน ของที่มีน้ำๆ ใส่ถุงร้อนแยกไปให้โดยที่ไม่ต้องร้องขอเลย , ถ้ากินที่ร้าน ของเป็นน้ำก็แยกใส่ถ้วยเล็กให้ ...จนลูกค้าเองต้องห้ามปราม เพราะกลัวร้านจะไม่มีกำไร , อีกเยอะแยะมากมาย ...เรียกว่าถ้าวันไหนร้านเปิดขาย ร้านอื่นนั่งตบยุงมองด้วยความอิจฉา
...คนทุกคนมีลักษณะเฉพาะตัว ลูกค้าที่มาซื้อของกินส่วนใหญ่..(รวมถึงตัวเราเอง) เราจะไม่ซื้อ,ไม่กิน ร้านที่มากะเกณฑ์ว่าเราต้องทำตามใจเค้า(แม่ค้า) ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าเราขอให้ใส่ถุงแยกน้ำให้เรา..แล้วร้านบอกว่า ซื้อแยกไปสิ ณ จุดๆนั้น ก็อาจซื้อแยกหรือบอกว่าราดไปเลย (แบบมึนๆ) แต่ร้านนี้จะไม่ได้เงินจากเราอีก หรือถ้าได้ก็ต้องเป็นตัวเลือกท้ายๆ ..ไม่มีทางเป็นร้านประจำหรือตัวเลือกแรกที่เราจะเลือกกิน
...คนรอบตัวเราส่วนใหญ่ เรื่องมากกับอาหารการกิน ทำให้เราได้เปิดหูเปิดตามาหลายครั้ง ..คนแรก ไม่ชอบกินกับข้าวที่เป็นน้ำแล้วเอามาราดข้าวจนแฉะไปทั้งจาน ดังนั้นเวลาสั่งกับข้าวจำเป็นต้องสั่งแยก หรือไม่ก็สั่งแม่ค้าให้ตักมาแบบแห้งๆเลย ไม่ต้องราดน้ำกับข้าวมาจนชุ่ม ...แต่คนที่สองกลับชอบมาก ถ้ามีต้มจืดแทบจะเอาข้าวในจานเทใส่ชามต้มจืด กินเป็นข้าวต้ม ..คนที่สาม กินข้าวซ้ำกันไม่ได้ อย่างน้อย 2-3 วัน ยกเว้นไข่เจียว ไข่ดาว ที่อาจซ้ำกันได้ แต่กับข้าวตัวหลักต้องเปลี่ยน เช่น กลางวันกินไข่เจียวราดข้าว , เย็นก็อาจเป็นมาม่า แต่กินไข่เป็นเครื่องเคียงได้ ดังนั้นซื้อแกง 1 ถุง กินหลายมื้อ ไม่อยู่ในหัวแน่นอน
การที่แม่ค้าปฏิเสธไม่แยกให้ ...ไม่ใช่ความผิดของแม่ค้า เพียงแต่ก็เหมือนกับปิดโอกาสที่จะครองใจลูกค้าที่อาจเคยเป็นขาประจำ ...ร้านที่ขายอาหาร การแข่งขันสูงมาก ต้องคอยเดาใจลูกค้า ปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ ...เพราะลูกค้า ถ้าไม่ถูกใจเพียงครั้งเดียวก็อาจหายหน้าไปเลย ไม่กลับมาบอกล่าวว่าร้านผิดอะไร ไม่ถูกใจตรงไหน สุดท้ายพอลูกค้าหายไปหมดขายไม่ดี..ก็โทษว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจแย่ ของขึ้นราคา ซะส่วนใหญ่ (แม้แต่ตัวเรา เลิกกินข้าวแกงร้านประจำเพราะน้ำปลาพริกจืด เหมือนน้ำเปล่าใส่พริกลอยไว้เฉยๆ เราก็เลิกกินโดยไม่บอกเค้านะว่าเพราะอะไร ..จริงๆร้านอาจจะหวังดี ไม่อยากให้ลูกค้าเป็นโรคไต แต่มันเป็นความชอบของเรา ในเมื่อรสชาติมันไม่ตรงกับสิ่งที่เราอยากกิน ก็แค่ไม่กินเท่านั้นเอง)
สมาชิกหมายเลข 6753019 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5628004 ถูกใจ, แมวกกไข่ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2287551 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2217663 ถูกใจ, It is a life ถูกใจ, Angel City ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2503579 ถูกใจ, ToR_GerRarD ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 769190 ถูกใจรวมถึงอีก 15 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
สั่งข้าวราดแกงกับ 2 อย่าง เพื่อไปทานเป็นอาหารกลางวัน แต่ขอให้แยกแกงเล็กๆ 1 ถุง
เพราะกลัวว่าข้าวจะแฉะ
อยากทราบความเห็น โดยเฉพาะความเห็นคนขายว่า สั่งแบบนี้ ok ไหม
หรือควรสั่งแกงไก่ 1 ถุงไปเลย ถ้าทานไม่หมด ก็เก็บไว้ทานมื้อต่อไป
ถ้าควรสั่งแยก จะบอกลูกค้าอย่างไร ไม่ให้เสียความรู้สึก