เที่ยวเหมืองเกลือที่ Hallstatt – Salt Mines แบบ 1 Day Trip

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้อยากแชร์เรื่องราวการเที่ยวเหมืองเกลือที่ Hallstatt (ฮอลสแตท) เมืองที่ร่ำรวยมาจากการทำเหมืองเกลือ ขุดเท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด สถานที่ในฝันของใครหลายคนรวมถึงเราด้วยค่ะ ที่นี่นอกจากจะมีทะเลสาป และหมู่บ้านชาวเหมือง ชาวประมงที่ครั้งนึงเคยมีชาวประมงอาศัยอยู่จริงๆ ตอนนี้ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มตัว บ้านไม้เก่าตามเนินเขา พร้อมกับโรงเก็บเรือริมทะเลสาปก็ถูกเปลี่ยน Function จากเดิมเป็นที่อยู่อาศัย ปัจจุบันได้กลายเป็นร้านอาหารและโรงแรม ปฎิเสธไม่ได้นะคะเพราะเวลาเปลี่ยน User ก็ถูกเปลี่ยนมือ Function ก็เปลี่ยนตาม เหตุผลนึงเพื่อรองรับการท่องเที่ยว อีกเหตุผลนึงที่สำคัญคือเพื่อการอนุรักษ์ เช่นเดียวกับบ้านไม้ที่อัมพวา ที่ถูกปรับเปลี่ยนกลายเป็น Homestay ที่เกียวโต Ninenzaka และ Sannenzaka (ทางที่ไปวัดน้ำใส) บ้านแบบโบราณก็ถูกปรับเปลี่ยนกลายเป็นร้านค้าเหมือนกันค่ะ



กลับมาที่ฮอลสแตทนอกจากจะมีทะเลสาปที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีเหมืองเกลือที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ภายในเหมืองยังพบโครงกระดูกมนุษย์ ของใช้ บันไดไม้ และเศษผ้า ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นของมนุษย์ยุคสำริด ของใช้เหล่านี้ถูกสตาฟเอาไว้อย่างดีด้วยเกลือที่อยู่ภายในเหมือง ทำให้สภาพยังคงสมบูรณ์ แน่นอนค่ะเหมืองเกลือแห่งนี้ก็ถูกเปลี่ยนหน้าที่กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของเกลือ และด้วยความที่สถานที่แห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่สำคัญทำให้ Hallstatt เป็น World Heritage site ประเภท Cultural Landscape (UNESCO)


การเดินทางในครั้งนี้เราเดินทางจาก Salzburg มายัง Hallstatt ด้วยรถไฟรอบ 7 โมง 12 นาที เปลี่ยนขบวนที่ Attnang-Puchheim Bahnhof ประมาณ 10 นาที ก็มาถึง Hallstatt 9 โมง 24 นาทีค่ะ



การจองตั๋วรถไฟ: ตั๋วนี้จองล่วงหน้าก่อนไป 1 เดือนบนเว็บไซต์ของ OBB ได้ตั๋วทั้งขาไปและขากลับมาในราคา 24 ยูโร (ขาละ 9 ยูโร รวมที่นั่งอีก 3 ยูโรค่ะ) เป็นตั๋วแบบ sparschiene ซึ่งฟิกวันเดินทาง เปลี่ยนแปลงวันเดินทางไม่ได้ เราปริ้นใส่ A4 มาใช้ขึ้นรถไฟได้เลยค่ะไม่ต้องเอา code ไปกดที่ตู้อีกรอบ



รถไฟจะมาส่งเราที่ Hallstatt Bahnhof เดินมาซื้อตั๋วเรือไปกลับ 10 ยูโรข้ามมาฝั่ง Hallstatt Markt



มาถึงเช้าคนยังไม่เยอะค่ะ ทัวร์ยังไม่มา ลงเรือปุ๊ปเราก็มุ่งหน้าไป Ticket Counter (Salzwelten Hallstatt) ซึ่งอยู่โซน Hallstatt Lahn เดินไม่ไกลประมาณ 10 นาที ผ่านร้านค้าและโรงแรมริมทะเลสาปมากมาย ลัดเลาะทางเล็กๆก็มาถึงที่ซื้อตั๋ว เราซื้อตั๋วแบบ Combined ticket ราคา 30 ยูโร ตั๋วนี้รวมรถรางไปกลับด้านบน และค่าเข้าเหมืองเกลือค่ะ ราคาตามรูปค่ะ update 2018



รถรางขึ้นไปด้านบนเชื่อมอยู่กับที่ขายตั๋ว แวะเข้าห้องน้ำ 0.5 ยูโร ไม่รอช้าก็พาตัวเองขึ้นรถรางมาอย่างรวดเร็ว มองขึ้นไปข้างบนสูงมากๆค่ะ ไม่แน่ใจสูงเท่าไหร่ ใครอยากเทรกกิ้งขึ้นมาก็ได้นะคะแต่ไม่แน่ใจจุด start อยู่ตรงไหน พอขึ้นมาเราก็เจอนทท.สาว 2 คนเพิ่งเดินขึ้นมาถึง



ด้านบนมีแผนที่ตำแหน่งแต่ละที่ ไฮไลท์คือจุดชมวิว Heritage กับ ทัวร์เหมืองเกลือค่ะ



ก่อนไปเหมืองเกลือเราก็ขึ้นลิฟท์แวะมาชมวิวเล็กน้อยตรงจุดไฮไลท์





เดินย้อนกลับมาที่ลิฟต์แต่ไม่ลงค่ะ เดินตามทางเล็กๆที่เริ่มเหมือนเดินเข้าป่าตรงไปเรื่อยๆจะเจอพิพิธภัณฑ์ที่เป็นที่เก็บโครงกระดูกมนุษย์ยุคสำริดมาถูกทางแล้วค่ะ



เดินต่อไปประมาณ 15 นาทีหอบเล็กน้อยก็มาถึงทางเข้าเหมืองเกลือแล้ว (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ เพราะหอบมาก 55) รูปจาก google ค่ะ ภาพนี้เป็นทางเข้าสำหรับการผจญภัย 2 ชั่วโมงที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น



มาถึงจะเจอจอที่โชว์รอบเหมืองเราได้รอบ 11.30 ค่ะ ผ่านตรวจตั๋วรอบแรก ฝากของฝากกระเป๋า เอาเข้าได้แค่กระเป๋าเล็ก กล้อง มือถือ ขวดน้ำค่ะ (ฝากฟรี) ฝากเสร็จแล้วเปลี่ยนชุดค่า มาเป็นคนงานเหมืองกันเถอะ จนท.ก็จะเลือกไซส์ให้เรา ไม่รอช้าไปรวมกลุ่มกะแก๊งค์ใหญ่ ดูจากสายตาน่าจะอายุ 13-14 มากะคุณครู 3 ท่าน มีคนเกาหลีอีก 5 คน คนจีน 2 คน คนญี่ปุ่น 2 คน คนไทย 2 คน คุณลุงต่างชาติอีก 4 คนค่ะ รวมๆแล้วประมาณ 30 คนค่ะรอบนี้

พอถึงเวลาไกด์สุดหล่อก็มาแนะนำตัวชื่ออะไรจำไม่ได้แล้วค่ะ มองแต่หน้าอย่างเดียว 55 คุณไกด์พูดได้ 3 ภาษา คือ ภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส และภาษาอังกฤษ ตรวจบัตรอีกรอบแล้วก็พาคณะคนงานเหมืองไปยังปากอุโมงค์ มาถึงตรงนี้เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมค่ะ อุปกรณ์ในทีนี้ไม่ใช่สิ่วไม่ใช่ค้อน แต่เป็นขวดน้ำกับกล้องถ่ายรูป ทัวร์เหมืองเริ่มต้นขึ้นแล้ว







เราเดินเป็นแถวเข้าไปด้านในเหมือง ความรู้สึกแรกในเหมืองคือเย็นมาก มือชา เดินไปประมาณ 10 นาที คุณไกด์ก็อธิบายทางเข้าชั้นแรก คือแปปๆก็ลงมาลึก 85 เมตรแล้วค่ะ เราไม่ค่อยได้ยินเที่ไกด์พูดพราะอยู่ปลายแถว เป็นเด็กหลังห้องกับกลุ่มคนเอเชีย 55





ห้องต่างๆอาจจะมีสลับกันบ้างนะคะ ห้องแรกไกด์ก็อธิบายก้อนเกลือที่เค้าสะกัดออกมามีความโปร่งแสง





สังเกตหน้าไกด์หลับตายังหล่อ

เดินไปเรื่อยๆเริ่มมืด ทางเริ่มแคบมาก อากาศก็เย็นลงๆ ตามแสงไฟของไกด์ไปเรื่อยๆ เด็กๆข้างหน้าเริ่มดูตื่นเต้น เรามาเจอสไลด์เดอร์คนงานเหมืองจุดที่ 1 แล้วค่ะ ตรงนี้ไม่สูงมากประมาณ 30-40 เมตร ใครไม่อยากสไลด์ก็เดินลงบันไดได้ แต่เราก็ไม่พลาดค่ะสไลด์ลงมา สนุกดีค่ะ เด็กๆขำกันใหญ่ พอลงมาไกด์ก็พาไปดูวิดีโอการกำเนิดเหมืองเกลือ ฉายบนกรอบวงกลม ดูเสร็จก็เดินต่อค่ะ หนาว และมืดมาก ถ่ายรูปมาก็มัวๆ



มาเจอสไลด์เดอร์จุดที่ 2 ตรงนี้ห้ามพลาดค่ะ เพราะมีความสูงถึง 75 เมตร ใครไม่ไหวเดินลงบันไดได้เหมือนเดิมค่ะ เด็กๆกรี๊ดกันใหญ่ ส่วนเราพอรู้ว่ามีกล้องจับภาพด้วย ยิ้มแป้นลงมาเลยค่ะ สนุกมากๆ



ไกด์พาไปชมวิวัฒนาการของเหมืองเกลือที่นี่ผ่านวิดีโอที่ Mapping ลงไปบนผนังถ้ำ ไม่น่าเชื่อว่าแคบขนาดนี้ยังสามารถฉายอะไรแบบนี้ได้ แล้วแสงสีเสียงอลังการมาก เล่าเรื่องของเหมืองนี้ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ความสามารถของกล้องได้แค่นี้ค่ะ เบลอๆมัวๆ



ตั้งแต่จุดนี้ไปก็จะเป็นเรื่องราวของเหมืองในยุคประวัติศสาตร์ และการทำงานของคนงานเหมืองตั้งแต่ยุคสำริดจนมาถึงปัจจุบัน การขุดค้นพบบันไดไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก การสกัดเอาเกลือทั้งแบบ wet และแบบ dry



บันไดไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก



ไกด์ก็พาเดินมาจนถึงทางออก ทางออกไปยังโลกภายนอก จะเดินออกมันดูธรรมดาไป มาถึงจุดนี้คือจุดที่ต้องขนเกลือออกไปนอกเหมือง ซึ่งจะมีรถรางขนออกไป แน่นอนค่ะการออกจากที่นี่เราต้องนั่งบนรถรางออกไป โดยที่ห้ามเอามือแตะปนังระหว่างรถรางเคลื่อนเพราะมันแคบและอันตรายมาก



จบการทัวร์เหมืองเกลือ 2 ชั่วโมงเต็ม ได้ความรู้แถมสนุกมากๆ ประทับใจสุดๆ มี 100 ให้ 100 ถ้ามีโอกาสจะขึ้นไปอีกแน่นอนค่ะ  ทัวร์เหมืองเกลืออาจจะไม่เหมาะกับคนที่กลัวที่แคบและมืดเพราะข้างในเหมืองคือของจริงทั้งหมด ยิ่งเข้าไปยิ่งลึกค่ะอาจจะเกิดอาการแพนิกได้ หลอนบางช่วงเพราะชอบดูหนังผีที่อยู่ในถ้ำ แต่ก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี ขอจบรีวิวนี้ด้วยภาพของทะเลสาปก่อนกลับไป Salzburg ขอบคุณค่ะ







แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่