ทริปเสริมแต้มบุญที่พม่า ย่างกุ้ง-หงสาวดี-สิเรียม


ทริปนี้เริ่มต้นจากความรู้สึกที่ว่าแต้มบุญของเรากำลังจะหมดแล้วเลยอยากจะจัดทริปเพื่อไปไหว้พระขอพรกัน สุดท้ายลงความเห็นตรงกันว่าควรเป็นที่พม่า เพราะเป็นประเทศที่มีความศรัทธาในศาสนาพุทธมาก มีอารายธรรมที่แสดงความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธอยู่เยอะ วัดแต่ละที่ก็สวยงามและที่สำคัญค่าครองชีพไม่สูงมาก(อันนี้สำคัญสุด) โชคดีที่ทริปนี้มีสมาชิกเข้าร่วมเยอะซึ่งทุกคนลงความเห็นตรงกันว่าขอไปแบบ"กินหรูและอยู่สบาย" เลยตัดสินใจเช่ารถตู้พร้อมไกด์ชาวท้องถิ่น เผื่อคุณไกด์จะได้ช่วยอธิบายความเป็นมาของแต่ละสถานที่และที่สำคัญสุดคือวิธีการขอพรที่ถูกต้อง ทริปนี้เป็นทริปสั้นๆแค่ 2 วัน 1 คืน แต่ก็เพียงพอสำหรับการพักผ่อนร่างกายและการเติมแต้มบุญแล้ว โปรแกรมการเที่ยวของเรา
วันแรก: เจดีย์ชเวมอดอร์-วังบุเรงนอง-วัดพระนอนยิ้มหวาน-เจดีย์ชเวดากอง-china town
วันที่สอง: เจดีย์เยเลพญา-เจดีย์โบตาทาวน์-ตลาดสก๊อต- เดินทางกลับประเทศไทย
การแลกเงิน: ก่อนหน้านี้เคยอ่านเจอว่าต้องเตรียมเงินดอลล่าร์ไปแลกเป็นเงินจ๊าดที่พม่า แต่พอโทรไปสอบถามที่superrichถึงได้รู้ว่าสามารถแลกเงินจ๊าดไปจากที่ไทยได้เลย
งบประมาณสำหรับทริปนี้: ค่าตั๋วเครื่องบิน(ไม่ซื้อน้ำหนักเพิ่ม) 2,388 บาท, ค่าโรงแรมห้องเตียงคู่เฉลี่ยคนละ 800 บาท, ค่าไกด์พร้อมรถตู้เฉลี่ยคนละ 1,444 บาท(สมาชิกทั้งหมด 8คน), เงินที่แลกไปสำหรับค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ค่าของฝากรวมแล้ว 3,500 บาท
เมื่อถึงวันเดินทาง สมาชิกทุกคนก็พร้อมเพรียงกันที่สนามบินดอนเมืองตั้งแต่เช้ามืดเพราะเลือกบินไฟลท์ 07.15
รอบนี้เลือกเดินทางกับพี่หางแดง
ก่อนเครื่องออกก็แวะเติมพลังที่เลาจน์ของ king power เพราะไม่รู้ว่าลงเครื่องแล้วจะเจอกับอาหารแบบไหนอมยิ้ม09ขอตุนไว้ก่อน
วันที่ไปอากาศแปรปรวนมากแถมพยากรณ์อากาศยังแจ้งว่าเจอฝน 100% ระหว่างที่บินฟ้าก็มืดตลอด เจอหลุมอากาศเป็นระยะๆ😂
เตรียมกรอกเอกสารผ่านเข้าเมือง แอบถามละเอียดเหมือนกัน
ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางถึงประเทศพม่าเรียบร้อย
พอผ่านด่าน ตม มาได้ไฟในสนามบินก็ดับทันที ซึ่งไฟดับที่พม่าเป็นเรื่องปกติมาก เจอทุกที่ 555
ออกมาก็จะเจอกับร้านแลกเงินและร้านขายซิมเรียงกันเต็มเลย ขอแนะนำยี่ห้อ telenor ราคาดี(เลือกแพคเกจ net 2GB/ 2วัน
ราคาอยู่ที่ 4,000 จ๊าดประมาณ 100 บาท) สัญญาณดีมากไม่กระตุกเลย พนักงานก็บริการดีจัดการเปลี่ยนซิมให้พร้อมใช้เลย
ตอนแรกว่าจะไปหาร้านกาแฟจิบสักหน่อย แต่คุณไกด์บอกว่าคนพม่าส่วนใหญ่นิยมดื่มชามากกว่า ข้างนอกจะหาร้านกาแฟยากให้กินร้านในสนามบินไปเลย ตามประสาคนติดกาแฟก็คงไม่มีทางเลือก
สั่งลาเต้ร้อนมาลอง รสชาติก็มาตราฐานทั่วไปแต่ราคาแอบแรงไปนิด แพงกว่าซิมอีก 555
หลังจากนั้นคุณไกด์ก็พาเราไปกินอาหารมื้อเช้าแบบพม่า ก่อนจะเดินทางไปยังเมืองหงสาวดี
ร้านที่พามาเป็นร้านใหญ่พอสมควรคล้ายกับ food court มีอาหารให้เลือกเยอะมากแต่ไม่รู้จักสักเมนู สุดท้ายคุณไกด์ต้องมาสั่งให้ โดยสั่งอย่างละจานเพื่อให้มาลองชิมแล้วใครชอบอันไหนก็ค่อยสั่งเพิ่ม แถมด้วยชาร้อนคนละแก้ว
จานแรกเป็นแป้งโรตีกินกับถั่ว
โรตีเสริฟพร้อมแกง
โรตีใส่ไข่แต่ที่นี่ไม่ราดนมข้ม ไม่โรยน้ำตาลก็จะจืดๆหน่อย
งานถาดหลุมก็มาจ้า อันนี้กลิ่นเครื่องเทศในแกงฉุนไปนิด
อันนี้ดี เป็นบะหมี่ผัด เส้นจะนุ่มและเหนียวกำลังดี
อันนี้คล้ายราดหน้าที่ไทยเลย รสชาติดีเลย
อันนี้คือดีสุด เป็นบะหมีแห้งกับไก่แต่ที่พีคคือกระเทียมเจียวที่โรยมา มันดีมากจริงๆ
ก๋วยเตี๋ยวแกงรสชาติคล้ายๆขนมจีน
ปิดท้ายด้วยชาร้อน
ค่าเสียหายของมื้อแรก
ตอนออกมาจากร้านเจอหมาพม่าด้วย น้องหมาที่นี่ส่วนใหญ่ผอมมากจนมองไกลๆคิดว่าเป็นพันธุ์เกรย์ฮาวด์ 555

หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังเมืองหงสาวดีใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที คุณไกด์เล่าให้ฟังว่าการเดินทางข้ามเมืองจะต้องเสียค่าเข้าเมืองซึ่งเงินส่วนนี้จะเอาไปใช้ซ่อมแซมถนนในเมือง


ระหว่างทางที่ไปก็จะเจอทั้งวัดแขกและโบสถ์เรียงรายตลอดทาง


บรรยากาศในเมืองก็ใกล้เคียงกับต่างจังหวัดในประเทศเรา เจอพี่วัวเดินอยู่ข้างทางด้วย

ในที่สุดก็ถึงเมืองหงสาวดีหรืออีกชื่อคือพะโค (bago) อดีตเคยเป็นเมืองหลวงของมอญ

เป้าหมายแรกของเราคือการสักการะ 1ใน 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของพม่าคือ เจดีย์ชเวมอดอร์ หรือ พระธาตุมุเตา


ยังไม่ทันลงรถก็จะมีชาวบ้านมารอขายดอกไม้บูชาพระธาตุทันที ในชุดไหว้ก็จะมีดอกบัว ธูปและเทียน


ก่อนเข้าในวัดก็ต้องถอดรองเท้าฝากไว้ข้างนอก ถ้าใครกลัวเท้าเลอะก็เตรียมทิชชู่เปียกสำหรับเช็ดเท้ามาด้วยก็ได้ครับ


เดินเข้ามาก็จะเจอกับพระธาตุเลย สีทองอร่ามสวยงามมาก

เริ่มจากการไหว้พระพุทธก่อน จุดนี้ยังไม่ต้องขอพรแค่ไหว้แล้วบอกชื่อ, วันเกิดแล้วถวายดอกไม้บูชาพระ

ข้างในก็จะเจอคนมานั่งสวดมนต์กันเยอะเลย



เมื่อเดินออกมาก็จะเจอกับยอดพระธาตุอันเก่าซึ่งเคยหักลงเมื่อครี้งเกิดแผ่นดินไหว โดยที่ยอดพระธาตุที่หักลงมาไม่มีรอยแตกหักและไม่ตกลงสู่พื้นดิน ชาวพม่าจึงเชื่อว่าเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุ

ชาวพม่ามีความเชื่อว่าหากใครมาสักการะแล้วใช้ไม้ค้ำยอดพระธาตุก็จะเป็นการเสริมมงคลชีวิต

วิธีขอพรให้หลับตาแล้วเอาหน้าผากไปแตะที่ยอดพระธาตุพร้อมกับอธิษฐานขอพรโดยขอได้เพียงเรื่องเดียว จากนั้นให้ใช้ธูปสามดอกค้ำยันตามในรูป หากธูปหักต้องทำใหม่




บรรยากาศภายในวัด


วัดที่อยู่ตรงข้ามก็สวยอยู่นะเนี่ย


หลังจากนั้นก็เดินทางต่อไปยังวังบุเรงนอง


พระราชวังกัมโพชธานีหรือพระราชวังแห่งเมืองหงสาวดีของพระเจ้าบุเรงนองเป็นการสร้างจำลองขึ้นมาใหม่บนสถานที่จริง





บรรยากาศภายในตกแต่งด้วยสีทอง ส่วนแรกเป็นการจำลองท้องพระโรง




ข้างในมีการจัดแสดงเสาไม้และประตูไม้ของวังจริงที่ขุดเจอด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่