การเดินทางไปยังเกาะช้าง จ.ตราด สามารถเดินทางไปได้หลายวิธี แต่ทริปนี้เราเลือกเดินทางไปกับบางกอกแอร์เวย์ อาจจะเป็นความชอบส่วนตัวที่อยากจะไปเยือนสนามบินของบางกอกแอร์เวย์ทั้งสามแห่ง (สมุย, สุโขทัย และตราด) เมื่อเจอตั๋วถูกเลยรีบคว้าไว้ 😆
- อย่างแรกต้องบอกก่อนว่าสนามบินของบางกอกแอร์เวย์ตั้งอยู่ อำเภอเขาสมิง จ.ตราด ไม่ได้ตั้งอยู่บนเกาะช้างนะ ทีแรกเราก็เข้าใจว่าอยู่เกาะช้างเลย แต่ไม่ใช่จ้า
- ไฟล์ทที่เราเลือกเป็นไฟล์ทเช้าสุด ก็เลยจะมีความง่วงเยอะมากเวอร์ คือไปถึงสนามบินตั้งแต่หกโมงเช้า กลัวไม่ทันไปกินของว่างที่เล้าจน์ 55555 แต่รอบนี้ไม่ได้เข้าเล้าจน์บลูริบบอนเพราะใช้สิทธิพิเศษและแต้มที่มีก็ใช้ไปจนหมดแล้วววว
- ก่อนจะบินทริปนี้ เพื่อนๆ ที่ทำงาน ก็มีการบอกกล่าวกันมาบ้างว่าเส้นทางนี้ถ้าผู้โดยสารไม่เยอะ เค้าอาจจะไม่บินนะแก ไอ้เราก็กลัวสิคะ ที่อยากบินก็เพราะจะไปเก็บแต้มสนามบิน แต่สุดท้ายก็ผ่านค่ะ โล่งอกไป ผู้โดยสารไฟล์ทนี้โหลดเยอะพอสมควร แต่ไม่ถึงกับเต็มลำ
- เราได้ราคาตั๋วมาในราคา 750 บาทต่อขา เพราะใช้คะแนนแลกตอนที่ Flyer Bonus มันลด 70%
- ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิมาสนามบินตราดประมาณ 1 ชั่วโมงแต่จริงๆ บินแค่ประมาณ 40 นาที
- เครื่องบินที่โดยสารมาเป็นเครื่องบินใบพัด ATR72 ลำนี้ค่อนข้างใหม่ทีเดียวล่ะ ตอนบินก็บินไม่สูงมาก เรียกได้ว่าเป็นการบินชมวิวทะเล ชมวิวสวนยางไปในตัว
- อาหารที่เสริฟในไฟล์ทนี้เป็นแซนด์วิชไข่ (ถ้าจำไม่ผิดเด้อ) อันเบ้อเร้อเลย เราหิวมากตอนนั้น รีบหยิบขึ้นมากินเลยจ้า แต่ปรากฎว่ากินไม่หมดคือมันทั้งใหญ่ ทั้งหนา แล้วก็จะเย็นๆ หน่อย สุดท้ายกินได้แค่ครึ่งก้อนเท่านั้น ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ มันแน่นอก.....
- ชมวิวข้างทางยังไม่ทันหนำใจเลย เครื่องก็ค่อยๆ ลดระดับลงแล้วค่ะ เอ้า...จะถึงแล้วเหรอเนี่ย ไวมากกกก
- เมื่อเครื่องทำการแลนดิ้งก็จะมีรถราง (คล้ายกับที่สมุยและสุโขทัยแหละ) รถขนกระเป๋าและรถเซอร์วิสอื่นๆ มารออยู่
- สนามบินตราดเป็นสนามบินเล็กๆ เงียบๆ เท่าที่รู้ก็มีแต่เครื่องของสายการบินบางกอกที่ทำการบิน และรับได้แต่เครื่องเล็กๆ เช่น ATR ที่เราโดยสารมา
- ลงเครื่องปุ๊ป ก็ขึ้นรถรางเข้ามาอาคารเลย มารอรับกระเป๋าไม่ถึง 5 นาที ที่รับกระเป๋าก็ง่ายๆ ไม่มีสายพานให้วุ่นวาย
- เมื่อรถขนกระเป๋าเข้ามถึงจุดที่รับกระเป๋า พี่ๆ พนักงานก็ยกมาตั้งไว้ให้ผู้โดยสารรับได้เลย ง่ายดี
- รถตู้ต่อไปเกาะช้าง มีให้บริการโดยบริษัทกรุงเทพ ลิมุซีน ซึ่งจะมีเคาน์เตอร์อยู่ด้านซ้ายมือ เมื่อออกมาจากที่รับกระเป๋าก็จะเจอเลย
- ค่ารถตู้+ค่าเรือ ขาเดียวอยู่ที่ 500 บาท ต่อคน ถ้าซื้อแบบไปกลับจะอยู่ที่ 900 บาท ต่อคน เมื่อจ่ายเงินเสร็จเขาจะให้สติ้กเกอร์มาให้เราติดคนละอัน
- ภายในรถตู้สภาพดีมาก เบาะใหญ่ นั่งสบาย ผู้โดยสารที่มาคันเดียวกันก็ไม่เยอะ รถคันที่เรานั่งมามีทั้งหมด 5 คน (รวมเราและน้องสาวแล้ว)
- รถตู้ใช้เวลาวิ่งประมาณ 15 นาที จากสนามบินมายังท่าเรืออ่าวธรรมชาติ มารอขึ้นเรือเฟอร์รี่ตามคิวสักพัก วันนั้นคิวรถที่รอค่อนข้างเยอะเราเลยได้ขึ้นเรือลำที่สอง
- พอรถขึ้นมาบนเรือแล้วพี่คนขับรถก็จะบอกให้เราไปพักด้านบนของเรือ ใกล้ถึงเกาะค่อยกลับมาขึ้นรถ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที
- รถตู้คันเราจะมีสติ้กเกอร์ติดรถว่า TDX10 เป็นที่ให้สังเกตุ ฉะนั้นไม่ขึ้นรถผิดคันแน่นอน
- ก่อนถึงเกาะเราและผู้โดยสารคนอื่นก็ทยอยกลับมาที่รถ รถตู้คันนี้จะไปแวะส่งผู้โดยสารทุกคนถึงโรงแรมเลย ตามลำดับใกล้ไกล ที่พักเราอยู่แถวๆ คลองพร้าว เลยได้ลงเป็นที่สุดท้าย
- สรุปว่า การเดินทางด้วยเครื่องบินนี่สะดวกสบายมาก ลงเครื่อง ต่อรถ ต่อเรือ ถึงที่พักไม่มีเหงื่อออกหน้าสักหยดเดียว เจ้ช้อบบชอบ แต่....ได้ตั๋วมาแค่ขาเดียวค่ะ (เพราะงบหมด อดบินกลับเลย) ส่วนขากลับนั้นคงต้องผจญภัยตามยถากรรมจ้า 55555
รีวิวการเดินทางสู่เกาะช้างกับบางกอกแอร์เวย์
- อย่างแรกต้องบอกก่อนว่าสนามบินของบางกอกแอร์เวย์ตั้งอยู่ อำเภอเขาสมิง จ.ตราด ไม่ได้ตั้งอยู่บนเกาะช้างนะ ทีแรกเราก็เข้าใจว่าอยู่เกาะช้างเลย แต่ไม่ใช่จ้า
- ไฟล์ทที่เราเลือกเป็นไฟล์ทเช้าสุด ก็เลยจะมีความง่วงเยอะมากเวอร์ คือไปถึงสนามบินตั้งแต่หกโมงเช้า กลัวไม่ทันไปกินของว่างที่เล้าจน์ 55555 แต่รอบนี้ไม่ได้เข้าเล้าจน์บลูริบบอนเพราะใช้สิทธิพิเศษและแต้มที่มีก็ใช้ไปจนหมดแล้วววว
- ก่อนจะบินทริปนี้ เพื่อนๆ ที่ทำงาน ก็มีการบอกกล่าวกันมาบ้างว่าเส้นทางนี้ถ้าผู้โดยสารไม่เยอะ เค้าอาจจะไม่บินนะแก ไอ้เราก็กลัวสิคะ ที่อยากบินก็เพราะจะไปเก็บแต้มสนามบิน แต่สุดท้ายก็ผ่านค่ะ โล่งอกไป ผู้โดยสารไฟล์ทนี้โหลดเยอะพอสมควร แต่ไม่ถึงกับเต็มลำ
- เราได้ราคาตั๋วมาในราคา 750 บาทต่อขา เพราะใช้คะแนนแลกตอนที่ Flyer Bonus มันลด 70%
- ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิมาสนามบินตราดประมาณ 1 ชั่วโมงแต่จริงๆ บินแค่ประมาณ 40 นาที
- เครื่องบินที่โดยสารมาเป็นเครื่องบินใบพัด ATR72 ลำนี้ค่อนข้างใหม่ทีเดียวล่ะ ตอนบินก็บินไม่สูงมาก เรียกได้ว่าเป็นการบินชมวิวทะเล ชมวิวสวนยางไปในตัว
- อาหารที่เสริฟในไฟล์ทนี้เป็นแซนด์วิชไข่ (ถ้าจำไม่ผิดเด้อ) อันเบ้อเร้อเลย เราหิวมากตอนนั้น รีบหยิบขึ้นมากินเลยจ้า แต่ปรากฎว่ากินไม่หมดคือมันทั้งใหญ่ ทั้งหนา แล้วก็จะเย็นๆ หน่อย สุดท้ายกินได้แค่ครึ่งก้อนเท่านั้น ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ มันแน่นอก.....
- ชมวิวข้างทางยังไม่ทันหนำใจเลย เครื่องก็ค่อยๆ ลดระดับลงแล้วค่ะ เอ้า...จะถึงแล้วเหรอเนี่ย ไวมากกกก
- เมื่อเครื่องทำการแลนดิ้งก็จะมีรถราง (คล้ายกับที่สมุยและสุโขทัยแหละ) รถขนกระเป๋าและรถเซอร์วิสอื่นๆ มารออยู่
- สนามบินตราดเป็นสนามบินเล็กๆ เงียบๆ เท่าที่รู้ก็มีแต่เครื่องของสายการบินบางกอกที่ทำการบิน และรับได้แต่เครื่องเล็กๆ เช่น ATR ที่เราโดยสารมา
- ลงเครื่องปุ๊ป ก็ขึ้นรถรางเข้ามาอาคารเลย มารอรับกระเป๋าไม่ถึง 5 นาที ที่รับกระเป๋าก็ง่ายๆ ไม่มีสายพานให้วุ่นวาย
- เมื่อรถขนกระเป๋าเข้ามถึงจุดที่รับกระเป๋า พี่ๆ พนักงานก็ยกมาตั้งไว้ให้ผู้โดยสารรับได้เลย ง่ายดี
- รถตู้ต่อไปเกาะช้าง มีให้บริการโดยบริษัทกรุงเทพ ลิมุซีน ซึ่งจะมีเคาน์เตอร์อยู่ด้านซ้ายมือ เมื่อออกมาจากที่รับกระเป๋าก็จะเจอเลย
- ค่ารถตู้+ค่าเรือ ขาเดียวอยู่ที่ 500 บาท ต่อคน ถ้าซื้อแบบไปกลับจะอยู่ที่ 900 บาท ต่อคน เมื่อจ่ายเงินเสร็จเขาจะให้สติ้กเกอร์มาให้เราติดคนละอัน
- ภายในรถตู้สภาพดีมาก เบาะใหญ่ นั่งสบาย ผู้โดยสารที่มาคันเดียวกันก็ไม่เยอะ รถคันที่เรานั่งมามีทั้งหมด 5 คน (รวมเราและน้องสาวแล้ว)
- รถตู้ใช้เวลาวิ่งประมาณ 15 นาที จากสนามบินมายังท่าเรืออ่าวธรรมชาติ มารอขึ้นเรือเฟอร์รี่ตามคิวสักพัก วันนั้นคิวรถที่รอค่อนข้างเยอะเราเลยได้ขึ้นเรือลำที่สอง
- พอรถขึ้นมาบนเรือแล้วพี่คนขับรถก็จะบอกให้เราไปพักด้านบนของเรือ ใกล้ถึงเกาะค่อยกลับมาขึ้นรถ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที
- รถตู้คันเราจะมีสติ้กเกอร์ติดรถว่า TDX10 เป็นที่ให้สังเกตุ ฉะนั้นไม่ขึ้นรถผิดคันแน่นอน
- ก่อนถึงเกาะเราและผู้โดยสารคนอื่นก็ทยอยกลับมาที่รถ รถตู้คันนี้จะไปแวะส่งผู้โดยสารทุกคนถึงโรงแรมเลย ตามลำดับใกล้ไกล ที่พักเราอยู่แถวๆ คลองพร้าว เลยได้ลงเป็นที่สุดท้าย
- สรุปว่า การเดินทางด้วยเครื่องบินนี่สะดวกสบายมาก ลงเครื่อง ต่อรถ ต่อเรือ ถึงที่พักไม่มีเหงื่อออกหน้าสักหยดเดียว เจ้ช้อบบชอบ แต่....ได้ตั๋วมาแค่ขาเดียวค่ะ (เพราะงบหมด อดบินกลับเลย) ส่วนขากลับนั้นคงต้องผจญภัยตามยถากรรมจ้า 55555