
ตอนที่ 2 ตามหาเส้นขอบฟ้าที่เชียงเก๋อหลีล่า
https://pantip.com/topic/37756772
ตอนที่ 3 เต้าเฉิง ย่าติง นี่หรือทาง
https://pantip.com/topic/37757272
ตอนที่ 4 ย่าติ่ง จริงหรือนี่สวยดุจสวรรค์บนดิน
https://pantip.com/topic/37757948
ตอนที่ 5 ย่าติ่ง...แบบบ้าพลังสุดๆ
https://pantip.com/topic/37761899
ตอนที่ 6 จากทุ่งหญ้าชงกู่สู่งทุ่งหญ้าลั่วหลง ฟินเบาๆ (ตอนสุดท้ายแล้วจ้า)
https://pantip.com/topic/37765258
กลับจากจีนมาหลายเดือนว่าจะเขียนบันทึกลับเก็บไว้อ่านซะหน่อย แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนค่อยๆเขียนไปแล้วกันอ่านรู้เรื่องก็อ่านไม่รู้เรื่องก็ข้ามๆไปค่ะ
(จริงๆแล้วเราเขียนไว้นานแล้วแต่ไม่กล้าเอามาลง เพื่อนที่อ่านในเฟสเห็นว่าเขียนดีน่าจะพอมีประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปบ้างจึงเชียร์ในมาลงในพันทิป คิดอยู่นานมากกว่าจะเอามาลงได้กลัวว่าจะไม่มีคนอ่าน555 และเนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกมีอะไรก็ติชมกันได้ค่า)

คำถามที่ชอบถามกันว่าทำไมถึงชอบไปเที่ยวจีน? ก็คงเหมือนคนที่ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ติดใจธรรมชาติ บ้านเมือง นิสัยใจคอ ความสะดวกสบายในการเดินทาง และอาหารการกิน ส่วนเราชอบไปเที่ยวจีนเพราะมันถูกกกเมื่อเที่ยบกับที่อื่น และอยากมีรูปที่ฉากหลังไม่ซ้ำกับคนอื่น ซึ่งก็ต้องไปที่ที่คนปรกติเค้าไม่ค่อยไปกัน ที่ที่โหดๆ ไปยากๆ นั่งรถเป็นวันๆ หลายๆต่อ ทั้งต่อเครื่อง รถไฟ รสบัส รถเมล์ แทคซี่ เราใช้บริการทุกอย่าง ซึ่งที่จีนนี่แหละมีทุกสิ่งให้เลือกสรรครบทุกรส ตั้งแต่ธรรมชาติที่สวยงามและยิ่งใหญ่อลังการ การเดินทางที่สมบุกสมบัน ลำบากเหนือคำบรรยาย การเดินทางไปพบเจอ ผู้คนใหม่ๆ การผจญภัยต่างๆที่ไม่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้น บางที่ก็มาให้ปวดหัวเล่น แล้วที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องน้ำอันเลื่องลือ ถ้าคุณเข้าห้องน้ำที่จีนได้ก็ไม่มีห้องน้ำที่ไหนที่จะต้องกลัวเกรงอีกต่อไป เวลาจะเข้าก็เหมือนการผจญภัยว่าาเราจะต้องพบเจออะไรก่อนเข้าต้องทำอะไรช้าๆ ค่อยๆย่อง ค่อยๆผลัก ห้ามพรวดพลาดเข้าไปเดี๋ยวเจอของดี555 พอได้เข้าแล้วจะไม่มีคำว่าถ่วงเวลาเพราะเราจะต้องทำเวลากับการกลั้นหายใจ ถ้าช้าอาจจะหน้ามืดเป็นลมได้ แรกๆก็ยี้ หลังๆเริ่มชิน พกไปหมดทั้งหน้ากากคาร์บอน และเซียงเพียวอิ้ว สภาพไหนมาก็เข้าได้หมด คือที่จีนเนี่ยเค้าคัดคนเข้าประเทศไง ถ้าอยากเห็นของดีราคาน่าคบคุณต้องปรับตัว ต้องยืดหยุ่น ต้องมีความอดทน อึดและใจเย็น ต้องคิดว่าาเรามาเที่ยวอย่าไปมีเรื่องเดี๋ยวจะไม่ได้กลับบ้าน จึงจะมาเที่ยวแบ็คแพ็คได้ เพระมันต้องมีเรื่องให้ใช้สมองประลองปัญญาตลอดๆ มาครั้งแรกเหมือนโดนลองของเจอมัน 7 วันเลย หลังๆมาเตรียมตัวมาดีหรือทำใจไว้แล้วว่าาต้องเจอ เลยเจอน้องลง รอบนี้ก็เจอเรื่องน่าเครียส เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง สุดๆอ่ะ
เริ่มเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ทริปนี้เกิดจากที่เราเห็นรูปในหน้าเพจของอาแปะที่ลงรูปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ย่าติง พอเราเห็นรูปเท่านั้นแหละ น้ำลายไหลเลย ก็มันช่างสวยเสียนี่กระไร ใจคิดว่ามันจะสวยอย่างนั้นจริงไหมหนอ? แล้วจะสวยสู้จิ่วจ่ายโกวได้หรือเปล่า ?เพราะที่จิ่วนี่ก็สวยเหนือคำบรรยาย คิดได้ดังนั้นแล้วอย่ารอช้า เริ่มหาข้อมูลว่าามันอยู่ที่ไหนเดินทางอย่างไร ช่วงไหนที่จะพีคสุดๆ แล้วสิ่งที่สำคํญสำหรับการเดินทางคือรอช่วงตั๋วโปร ถ้าจำไม่ผิดช่วง พ.ย. ปี่ที่แล้วเราก็จองตั๋วโปรไปคุนหมิงพร้อมเพื่อนอ๋อย ในราคาที่ถูกมาก ไป-กลับราคา 3 พันบาท เดินทาง 15 วัน หลังจากนั้นก็เสพข้อมูลและรอเวลาอย่างใจจดใจจ่อที่จะได้ไปเที่ยวววว ทำการนัดแนะวางแผนการท่องเที่ยวกับอ๋อยอย่างดิบดีแต่เรา ต้องเปลี่ยนแผนกะทันหันเลยได้ไปคนละรอบกะเพื่อนอ๋อยแต่ก็นัดเจอกันที่แชงกรีล่าแทน
ก่อนไปเราต้องออกกำลังกายเพื่อเตรียมตัวสำหรับทริปการเดินทางที่โหดตามคำบอกเล่าของผู้ที่เดินทางไปมาแล้ว ทั้งอากาศทั้งความสูง ทั้งการเดินทางที่ทรหด อดทน ดังนั้นจากปรกติที่เราออกกำลังกายโดยการเดินวิ่งที่สวนสาธารณะในวันเสาร์ อาทิตย์กันอยู่แล้ว จากแรกเริ่มคือวันละ 6 กิโลเมตร เราค่อยๆ เพิ่มเป็น 8 ,10 และ 12 ส่วนวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ ก็ว่ายน้ำวันละ 2 กิโลเมตรเพื่อขยายปอดเพิ่มความอึด มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะเพราะตอนที่เราไปหวนหลง ขนาดว่าไปเช้ากลับเย็น ความสูงแค่ 3,500 - 4000 เมตรจากระดับน้ำทะเล พอลงมานี่ตาบวม เส้นตรงคอตึง ปวดตุบๆ เป็นเดือนเลยกว่าจะหาย มารอบนี้จึงต้องจริงจังกันหน่อย
เราวางแผนเดินทาง 22-30 ต.ค. 2559 (9วัน) ตั้งใจไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่อุทยานย่าติง เข้าย่าติง 26-28 เหลืองอร่ามสมใจ
Day 1 : BKK- Kunming-Lijiang เดินเล่นเมืองเก่าลี่เจียง
Day 2 : Lijiang เดินเล่นสระมังกรดำชมวิวเขามังกรหยก -เมืองเก่าลี่เจียง -ชมวิวหลังคาเมืองโบราญว่านกู่โหลว กินกาแฟชิวชิว
Day 3 : Lijiang- Shangri la นั่งรถ 4 ชั่วโมง เที่ยววัดซงจ้านหลิน -วัดต้าฝอ หรือวัดระฆังทอง -เมืองเก่าแชงกลีร่า
Day 4 : Shangri la -Daocheng เดินทางทั้งวัน นั่งรถ 11 ชั่วโมง
Day 5 : Daocheng - Yading เที่ยวอุทยานย่าติ่ง - วัดชงกู้-ทะเลสาปไข่มุก เดินเบาๆ 5 กิโลเมตร
Day 6 : Yading เที่ยวทุ่งหญ้าลั่วหลง - ทะเลสาปน้ำนม - ทะเลสาปห้าสี เดินหนัก ๆ บ้าพลังสุดๆ 12 กิโลเมตร
Day 7 : Yading - Daocheng เดินไปกลับทุ่งหญ้าชงกู้ - ไปทุ่งหญ้าลั่วหลง 11 กิโลเมตร นั่งรถกลับเต้าเฉิง 3 ชั่วโมง
Day 8 : Daocheng - Shangri la นั่งรถกลับแชงกลีร่า 11 ชั่วโมง -เที่ยววัดต้าฝออีกรอบ พร้อมเพื่อนอ๋อย
Day 9 : Shangri la - Kunming - BKK
ตอนที่หนึ่ง#เมืองโบราณลี่เจียง เรามาเริ่มเดินทางไปเที่ยวลี่เจียงกันค่ะ
Day 1 : ออกเดินทางจากกรุงเทพ 10.50 ถึงคุนหมิงบ่ายโมง ปรับเวลาเป็นบ่ายสองโมงให้ตรงกับที่จีน ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง

ผ่าน ตม. รับกระเป๋า ใช้เวลาอีก 1 ชม. รับกระเป๋าเสร็จก็บ่ายสามโมง ขึ้นลิปไปชั้นสามเพื่อเช็คอินต่อเครื่องไปลี่เจียงซึ่งเรามีไฟล์บินตอน 5.20 โมงเย็น ตอนแรกกะว่าจะจองเที่ยวสี่โมงเย็น แต่กลัวฉุกละหุกและต้องรีบทุกอย่างเลยเปลี่ยนใจเอาแบบสบายๆดีกว่า ถามว่าถ้าจองรอบสี่โมงจะทันไหม ตอบว่าทันเพราะตอนเรามานั่งรอ เค้าเรียกขึ้นเครื่องรอบสี่โมงพอดี แต่ถ้าเครื่องดีเลย์หรือ ตม.คนเยอะมากอาจจะไม่ทันและสนามบินคุนหมิงนี่ใหญ่โตใช่ย่อย ตอนแรกกะว่าจะนั่งรถไฟแต่พอดีเช็คราคาตั๋วเครื่องบินเห็นมีลดราคาแบบไม่อาจปฎิเสธได้คือ ได้ราคา 1,670 บาท MU เครืองใหม่นั่งสบาย จองจาก Ctrip ตัดบัตรเครดิต ซึ่งแพงกว่ารถไฟนิดหน่อยใช้เวลาแค่ 45 นาที แนะนำให้เข้าไปเช็คราคาบ่อยๆเพราะราคาขึ้นลงตลอด ราคานี้เราจองล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน นั่งก้นไม่ทันร้อนกัปตันก็ประกาศให้เตรียมตัวลง ถึงเร็วจังวู้ววว รับกระเป๋าเสร็จออกมาก็มองหาป้าย Shutter bus เห็นรถจอดอยู่ให้ลุงจุ้ยถามคนขับว่าจะไปเมืองเก่าลี่เจียงผ่านไหม คนขับชี้ไปให้ดูป้ายว่ารถผ่านที่ไหนบ้าง อืมมมม ลุงจุ้ยอ่านเสร็จหันมาบอกคันนี้เหละ ก็คงงั้นเห็นมีจอดแค่คันเดียว แล้วก็ยกกระเป๋าเก็บใต้ท้องรถ ที่จีนนี่ต้องยกเองนะคะคนขับรถเค้าไม่ยกให้ ค่าารถบัสคนละ 20 หยวน เก็บเงินบนรถ นั่งรถประมาณ 1 ชม.ก็ถึงจุดจอดรถ Shutter bus ใกล้เมืองเก่าลี่เจียงแต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามันอยู่ใกล้มาก ตอนออกมารถรถประมาณทุ่มครึ่งแล้ว กว่าจะหารถไปได้ก็เกือบครึ่งชั่วโมง โชคดีเจอสาวหมวยกำลังรอรถอยู่เลยส่งลุงไปเจรจาต้าอ่วย ตอนแรกนางก็ดูกลัวๆไม่อยากคุยด้วยพอคุยไปคุยมา นางก็ช่วยโทรหา รร.ถามทางแล้วอาสาหารถแท็คชีบอกทางแทคชี่ให้อีก เราก็มัวแต่ดีใจที่ได้รถเลยลืมขอบคุณนางซะนี่ ตอนแรกแท็คชี่ไม่ยอมไป จะไปส่งที่หน้าเมืองเก่าาแล้วให้เดินหาเองอย่างเดียว ต้องขอร้องกันอีกรอบ ซึ่งจริงๆ รร.เราอยู่ก่อนถึงเมืองเก่าเจ็ดร้อยเมตร และต้องเดินขึ้นเขายี่สิบเมตร
พอใกล้ถึง รร.คนขับรถโทรหาเจ้าของ รร.ให้ออกมารับแล้วช่วยยกกระเป๋าเข้าที่พัก ค่าแทคชี่ 20 หยวน น่าจะ 2-3 กิโลเมตร
ที่พักเราพักที่ Yue Tu House ราคา 397 หยวนสำหรับสองคืน ตกคืนละหนึ่งพันบาท อยู่ก่อนถึงทางเข้าเมืองเก่าเจ็ดร้อยเมตร ไม่ติดถนนต้องเดินขึ้นเนินประมาณยี่สิบเมตร ทางขึ้นเนินจะอยู่ตรงข้าม รร. Lijang International Hotel ใกล้ป้ายรถเมล์ ร้านอาหารเพียบ

ทางเข้าที่พัก

หน้าที่พัก
เช็คอินเข้าที่พักประมาณสองทุ่ม ออกมาหาอะไรกินที่ร้านอาหารข้างๆ แล้วเดินเรียบถนนไปทางเข้าเมืองเก่าด้านที่มีกังหันยักษ์สัญญาลักษ์เมืองลี่เจียง เดินเล่นไปเรื่อย

บริเวณที่พัก
จนมาถึงว่านกู่โหลว พอดู GPS เหมือนมันเป็นวงกลม ใจไม่อยากเดินกลับเพราะดูแล้วมันเดินมาสามในสี่แล้ว เลยถามคนแถวนั้นว่าจากว่านกู่โหลวสามารถเดินลงไปถนนใหญ่ได้ไหม ปรากฎว่าได้ แต่ช่วงที่ไปเค้าทำทางอยู่ทำให้เดินลำบากนิดนึง คลำทางไปเรื่อยๆจนลงออกถนนใหญ่ใกล้ที่พัก พอออกมาเราก็เลี้ยวซ้ายแต่ดูทางไม่คุ้น พอดู GPS บอกเลี้ยวผิดให้ไปทางขวาจ้า เดินมาอีกนิดก็เจอทางเข้าที่พักปาเข้าไปห้าทุ่มแล้ว อาบน้ำนอนดีกว่า (ว่านกู่โหลวคือจุดชมหลังคาเมืองเก่า)

Day 2 : วันนี้ออกจากที่พักแปดโมงนิดๆ ว่าจะแวะไปซื้อตั๋วรถไปแชงกลีร่า แต่ก่อนอื่นนกองทัพต้องเดินด้วยท้อง หาอะไรง่ายๆกินกันก่อนแล้วค่อนเดินไปรอขึ้นรถเมล์ตรงป้ายที่อยู่แถวนั้น กินเสร็จก็เดินไปขึ้นรถเมล์ที่นี้ไม่แน่ใจว่าต้องขึ้นฝั่งไหน พอดีมีเจ่รอรถเมล์อยู่เลยแถวนั้นเลยได้โอกาสถามทางไปขนส่ง เจ่บอกให้ขึ้นฝั่งตรงข้ามสาย 18 จริงๆป้ายรถเมล์มันอยู่เยื้องไปทางขวาแต่เรามองไม่เห็นเลยเดินไปทางซ้าย ว่าแล้วทำไมเดินนานจังก็เล่นเดินไปอีกป้าย หึหึ ตอนขากลับถึงได้เห็นว่ามันเยื้องกันนิดเดียว
ค่ารถน่าจะคนละ 1 หยวนแต่พอดีลุงฟังผิดตอนคุยกับพี่เจ้าของ รร.เค้าบอกว่าคนละ 2 หยวนสงสัยว่ารวมไปกลับแน่เลย ส่วนค่าารถบัสไปแชงกลีร่าคนละ 80 หยวน ตก 416 บาท ซื้อตั๋วเสร็จก็ออกมาขึ้นรถสายเดิมคือสาย 18 เพื่อไปสระมังกรดำ ขึ้นฝั่งเดิมตอนที่ลงเนื่องจากเป็นต้นสาย รถขับไปพักใหญ่ๆจะเห็นวิวเขามังกรหยกชัดเจนมากแต่ยังไม่ใช่ที่ลงต้องเลยไปอีกประมาณ 5-6 ป้าย พอถึงป้ายสระมังกรดำคนลงเกือบหมดคัน พอเดินลงมามองไม่เห็นทางเข้าถามคนแถวนั้นบอกให้เดินย้อยไปตรงที่รถเลี้ยวมา ข้ามถนนแล้วเดินต่อไปอีกนิดนึงจะเห็นทางเข้า

ก่อนเข้าถ้ายังไม่มีบัตรเข้าเมืองเก่าจะต้องซื้อบัตรคนละ 80 หยวน ให้เก็บไว้ให้ดีเพราะต้องใช้สำหรับตอนเข้าเมืองเก่าด้วย โชคดีที่วันนี้อากาศดีทำให้เห็นวิวสระมังกรดำพร้อมฉากหลังเป็นเขามังกรหยก สวยงามสมดังที่คิดไว้

หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจแล้วเราก็เดินตามป้ายที่บอกว่าสามารถไปเมืองเก่าได้ คือเดินเลียบคูน้ำไปเดินไปเลื่อยๆประมาณกิโลกว่าๆก็ถึง กังหันยักษ์สัญญาลักษณ์เมืองลี่เจียง
[CR] รีวิวเที่ยวจีน แบบโหดๆวิวสวยๆ...กับลี่เจียง แชงกลีร่า เต้าเฉิง ย่าติง (Lijiang,Shangri-La,Daocheng,Yading) EP.1
ตอนที่ 2 ตามหาเส้นขอบฟ้าที่เชียงเก๋อหลีล่า https://pantip.com/topic/37756772
ตอนที่ 3 เต้าเฉิง ย่าติง นี่หรือทาง https://pantip.com/topic/37757272
ตอนที่ 4 ย่าติ่ง จริงหรือนี่สวยดุจสวรรค์บนดิน https://pantip.com/topic/37757948
ตอนที่ 5 ย่าติ่ง...แบบบ้าพลังสุดๆ https://pantip.com/topic/37761899
ตอนที่ 6 จากทุ่งหญ้าชงกู่สู่งทุ่งหญ้าลั่วหลง ฟินเบาๆ (ตอนสุดท้ายแล้วจ้า) https://pantip.com/topic/37765258
กลับจากจีนมาหลายเดือนว่าจะเขียนบันทึกลับเก็บไว้อ่านซะหน่อย แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนค่อยๆเขียนไปแล้วกันอ่านรู้เรื่องก็อ่านไม่รู้เรื่องก็ข้ามๆไปค่ะ
(จริงๆแล้วเราเขียนไว้นานแล้วแต่ไม่กล้าเอามาลง เพื่อนที่อ่านในเฟสเห็นว่าเขียนดีน่าจะพอมีประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปบ้างจึงเชียร์ในมาลงในพันทิป คิดอยู่นานมากกว่าจะเอามาลงได้กลัวว่าจะไม่มีคนอ่าน555 และเนื่องจากกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกมีอะไรก็ติชมกันได้ค่า)
คำถามที่ชอบถามกันว่าทำไมถึงชอบไปเที่ยวจีน? ก็คงเหมือนคนที่ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ติดใจธรรมชาติ บ้านเมือง นิสัยใจคอ ความสะดวกสบายในการเดินทาง และอาหารการกิน ส่วนเราชอบไปเที่ยวจีนเพราะมันถูกกกเมื่อเที่ยบกับที่อื่น และอยากมีรูปที่ฉากหลังไม่ซ้ำกับคนอื่น ซึ่งก็ต้องไปที่ที่คนปรกติเค้าไม่ค่อยไปกัน ที่ที่โหดๆ ไปยากๆ นั่งรถเป็นวันๆ หลายๆต่อ ทั้งต่อเครื่อง รถไฟ รสบัส รถเมล์ แทคซี่ เราใช้บริการทุกอย่าง ซึ่งที่จีนนี่แหละมีทุกสิ่งให้เลือกสรรครบทุกรส ตั้งแต่ธรรมชาติที่สวยงามและยิ่งใหญ่อลังการ การเดินทางที่สมบุกสมบัน ลำบากเหนือคำบรรยาย การเดินทางไปพบเจอ ผู้คนใหม่ๆ การผจญภัยต่างๆที่ไม่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้น บางที่ก็มาให้ปวดหัวเล่น แล้วที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องน้ำอันเลื่องลือ ถ้าคุณเข้าห้องน้ำที่จีนได้ก็ไม่มีห้องน้ำที่ไหนที่จะต้องกลัวเกรงอีกต่อไป เวลาจะเข้าก็เหมือนการผจญภัยว่าาเราจะต้องพบเจออะไรก่อนเข้าต้องทำอะไรช้าๆ ค่อยๆย่อง ค่อยๆผลัก ห้ามพรวดพลาดเข้าไปเดี๋ยวเจอของดี555 พอได้เข้าแล้วจะไม่มีคำว่าถ่วงเวลาเพราะเราจะต้องทำเวลากับการกลั้นหายใจ ถ้าช้าอาจจะหน้ามืดเป็นลมได้ แรกๆก็ยี้ หลังๆเริ่มชิน พกไปหมดทั้งหน้ากากคาร์บอน และเซียงเพียวอิ้ว สภาพไหนมาก็เข้าได้หมด คือที่จีนเนี่ยเค้าคัดคนเข้าประเทศไง ถ้าอยากเห็นของดีราคาน่าคบคุณต้องปรับตัว ต้องยืดหยุ่น ต้องมีความอดทน อึดและใจเย็น ต้องคิดว่าาเรามาเที่ยวอย่าไปมีเรื่องเดี๋ยวจะไม่ได้กลับบ้าน จึงจะมาเที่ยวแบ็คแพ็คได้ เพระมันต้องมีเรื่องให้ใช้สมองประลองปัญญาตลอดๆ มาครั้งแรกเหมือนโดนลองของเจอมัน 7 วันเลย หลังๆมาเตรียมตัวมาดีหรือทำใจไว้แล้วว่าาต้องเจอ เลยเจอน้องลง รอบนี้ก็เจอเรื่องน่าเครียส เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง สุดๆอ่ะ
เริ่มเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ทริปนี้เกิดจากที่เราเห็นรูปในหน้าเพจของอาแปะที่ลงรูปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ย่าติง พอเราเห็นรูปเท่านั้นแหละ น้ำลายไหลเลย ก็มันช่างสวยเสียนี่กระไร ใจคิดว่ามันจะสวยอย่างนั้นจริงไหมหนอ? แล้วจะสวยสู้จิ่วจ่ายโกวได้หรือเปล่า ?เพราะที่จิ่วนี่ก็สวยเหนือคำบรรยาย คิดได้ดังนั้นแล้วอย่ารอช้า เริ่มหาข้อมูลว่าามันอยู่ที่ไหนเดินทางอย่างไร ช่วงไหนที่จะพีคสุดๆ แล้วสิ่งที่สำคํญสำหรับการเดินทางคือรอช่วงตั๋วโปร ถ้าจำไม่ผิดช่วง พ.ย. ปี่ที่แล้วเราก็จองตั๋วโปรไปคุนหมิงพร้อมเพื่อนอ๋อย ในราคาที่ถูกมาก ไป-กลับราคา 3 พันบาท เดินทาง 15 วัน หลังจากนั้นก็เสพข้อมูลและรอเวลาอย่างใจจดใจจ่อที่จะได้ไปเที่ยวววว ทำการนัดแนะวางแผนการท่องเที่ยวกับอ๋อยอย่างดิบดีแต่เรา ต้องเปลี่ยนแผนกะทันหันเลยได้ไปคนละรอบกะเพื่อนอ๋อยแต่ก็นัดเจอกันที่แชงกรีล่าแทน
ก่อนไปเราต้องออกกำลังกายเพื่อเตรียมตัวสำหรับทริปการเดินทางที่โหดตามคำบอกเล่าของผู้ที่เดินทางไปมาแล้ว ทั้งอากาศทั้งความสูง ทั้งการเดินทางที่ทรหด อดทน ดังนั้นจากปรกติที่เราออกกำลังกายโดยการเดินวิ่งที่สวนสาธารณะในวันเสาร์ อาทิตย์กันอยู่แล้ว จากแรกเริ่มคือวันละ 6 กิโลเมตร เราค่อยๆ เพิ่มเป็น 8 ,10 และ 12 ส่วนวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ ก็ว่ายน้ำวันละ 2 กิโลเมตรเพื่อขยายปอดเพิ่มความอึด มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะเพราะตอนที่เราไปหวนหลง ขนาดว่าไปเช้ากลับเย็น ความสูงแค่ 3,500 - 4000 เมตรจากระดับน้ำทะเล พอลงมานี่ตาบวม เส้นตรงคอตึง ปวดตุบๆ เป็นเดือนเลยกว่าจะหาย มารอบนี้จึงต้องจริงจังกันหน่อย
เราวางแผนเดินทาง 22-30 ต.ค. 2559 (9วัน) ตั้งใจไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่อุทยานย่าติง เข้าย่าติง 26-28 เหลืองอร่ามสมใจ
Day 1 : BKK- Kunming-Lijiang เดินเล่นเมืองเก่าลี่เจียง
Day 2 : Lijiang เดินเล่นสระมังกรดำชมวิวเขามังกรหยก -เมืองเก่าลี่เจียง -ชมวิวหลังคาเมืองโบราญว่านกู่โหลว กินกาแฟชิวชิว
Day 3 : Lijiang- Shangri la นั่งรถ 4 ชั่วโมง เที่ยววัดซงจ้านหลิน -วัดต้าฝอ หรือวัดระฆังทอง -เมืองเก่าแชงกลีร่า
Day 4 : Shangri la -Daocheng เดินทางทั้งวัน นั่งรถ 11 ชั่วโมง
Day 5 : Daocheng - Yading เที่ยวอุทยานย่าติ่ง - วัดชงกู้-ทะเลสาปไข่มุก เดินเบาๆ 5 กิโลเมตร
Day 6 : Yading เที่ยวทุ่งหญ้าลั่วหลง - ทะเลสาปน้ำนม - ทะเลสาปห้าสี เดินหนัก ๆ บ้าพลังสุดๆ 12 กิโลเมตร
Day 7 : Yading - Daocheng เดินไปกลับทุ่งหญ้าชงกู้ - ไปทุ่งหญ้าลั่วหลง 11 กิโลเมตร นั่งรถกลับเต้าเฉิง 3 ชั่วโมง
Day 8 : Daocheng - Shangri la นั่งรถกลับแชงกลีร่า 11 ชั่วโมง -เที่ยววัดต้าฝออีกรอบ พร้อมเพื่อนอ๋อย
Day 9 : Shangri la - Kunming - BKK
ตอนที่หนึ่ง#เมืองโบราณลี่เจียง เรามาเริ่มเดินทางไปเที่ยวลี่เจียงกันค่ะ
Day 1 : ออกเดินทางจากกรุงเทพ 10.50 ถึงคุนหมิงบ่ายโมง ปรับเวลาเป็นบ่ายสองโมงให้ตรงกับที่จีน ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง
ผ่าน ตม. รับกระเป๋า ใช้เวลาอีก 1 ชม. รับกระเป๋าเสร็จก็บ่ายสามโมง ขึ้นลิปไปชั้นสามเพื่อเช็คอินต่อเครื่องไปลี่เจียงซึ่งเรามีไฟล์บินตอน 5.20 โมงเย็น ตอนแรกกะว่าจะจองเที่ยวสี่โมงเย็น แต่กลัวฉุกละหุกและต้องรีบทุกอย่างเลยเปลี่ยนใจเอาแบบสบายๆดีกว่า ถามว่าถ้าจองรอบสี่โมงจะทันไหม ตอบว่าทันเพราะตอนเรามานั่งรอ เค้าเรียกขึ้นเครื่องรอบสี่โมงพอดี แต่ถ้าเครื่องดีเลย์หรือ ตม.คนเยอะมากอาจจะไม่ทันและสนามบินคุนหมิงนี่ใหญ่โตใช่ย่อย ตอนแรกกะว่าจะนั่งรถไฟแต่พอดีเช็คราคาตั๋วเครื่องบินเห็นมีลดราคาแบบไม่อาจปฎิเสธได้คือ ได้ราคา 1,670 บาท MU เครืองใหม่นั่งสบาย จองจาก Ctrip ตัดบัตรเครดิต ซึ่งแพงกว่ารถไฟนิดหน่อยใช้เวลาแค่ 45 นาที แนะนำให้เข้าไปเช็คราคาบ่อยๆเพราะราคาขึ้นลงตลอด ราคานี้เราจองล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน นั่งก้นไม่ทันร้อนกัปตันก็ประกาศให้เตรียมตัวลง ถึงเร็วจังวู้ววว รับกระเป๋าเสร็จออกมาก็มองหาป้าย Shutter bus เห็นรถจอดอยู่ให้ลุงจุ้ยถามคนขับว่าจะไปเมืองเก่าลี่เจียงผ่านไหม คนขับชี้ไปให้ดูป้ายว่ารถผ่านที่ไหนบ้าง อืมมมม ลุงจุ้ยอ่านเสร็จหันมาบอกคันนี้เหละ ก็คงงั้นเห็นมีจอดแค่คันเดียว แล้วก็ยกกระเป๋าเก็บใต้ท้องรถ ที่จีนนี่ต้องยกเองนะคะคนขับรถเค้าไม่ยกให้ ค่าารถบัสคนละ 20 หยวน เก็บเงินบนรถ นั่งรถประมาณ 1 ชม.ก็ถึงจุดจอดรถ Shutter bus ใกล้เมืองเก่าลี่เจียงแต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามันอยู่ใกล้มาก ตอนออกมารถรถประมาณทุ่มครึ่งแล้ว กว่าจะหารถไปได้ก็เกือบครึ่งชั่วโมง โชคดีเจอสาวหมวยกำลังรอรถอยู่เลยส่งลุงไปเจรจาต้าอ่วย ตอนแรกนางก็ดูกลัวๆไม่อยากคุยด้วยพอคุยไปคุยมา นางก็ช่วยโทรหา รร.ถามทางแล้วอาสาหารถแท็คชีบอกทางแทคชี่ให้อีก เราก็มัวแต่ดีใจที่ได้รถเลยลืมขอบคุณนางซะนี่ ตอนแรกแท็คชี่ไม่ยอมไป จะไปส่งที่หน้าเมืองเก่าาแล้วให้เดินหาเองอย่างเดียว ต้องขอร้องกันอีกรอบ ซึ่งจริงๆ รร.เราอยู่ก่อนถึงเมืองเก่าเจ็ดร้อยเมตร และต้องเดินขึ้นเขายี่สิบเมตร
พอใกล้ถึง รร.คนขับรถโทรหาเจ้าของ รร.ให้ออกมารับแล้วช่วยยกกระเป๋าเข้าที่พัก ค่าแทคชี่ 20 หยวน น่าจะ 2-3 กิโลเมตร
ที่พักเราพักที่ Yue Tu House ราคา 397 หยวนสำหรับสองคืน ตกคืนละหนึ่งพันบาท อยู่ก่อนถึงทางเข้าเมืองเก่าเจ็ดร้อยเมตร ไม่ติดถนนต้องเดินขึ้นเนินประมาณยี่สิบเมตร ทางขึ้นเนินจะอยู่ตรงข้าม รร. Lijang International Hotel ใกล้ป้ายรถเมล์ ร้านอาหารเพียบ
ทางเข้าที่พัก
หน้าที่พัก
เช็คอินเข้าที่พักประมาณสองทุ่ม ออกมาหาอะไรกินที่ร้านอาหารข้างๆ แล้วเดินเรียบถนนไปทางเข้าเมืองเก่าด้านที่มีกังหันยักษ์สัญญาลักษ์เมืองลี่เจียง เดินเล่นไปเรื่อย
จนมาถึงว่านกู่โหลว พอดู GPS เหมือนมันเป็นวงกลม ใจไม่อยากเดินกลับเพราะดูแล้วมันเดินมาสามในสี่แล้ว เลยถามคนแถวนั้นว่าจากว่านกู่โหลวสามารถเดินลงไปถนนใหญ่ได้ไหม ปรากฎว่าได้ แต่ช่วงที่ไปเค้าทำทางอยู่ทำให้เดินลำบากนิดนึง คลำทางไปเรื่อยๆจนลงออกถนนใหญ่ใกล้ที่พัก พอออกมาเราก็เลี้ยวซ้ายแต่ดูทางไม่คุ้น พอดู GPS บอกเลี้ยวผิดให้ไปทางขวาจ้า เดินมาอีกนิดก็เจอทางเข้าที่พักปาเข้าไปห้าทุ่มแล้ว อาบน้ำนอนดีกว่า (ว่านกู่โหลวคือจุดชมหลังคาเมืองเก่า)
Day 2 : วันนี้ออกจากที่พักแปดโมงนิดๆ ว่าจะแวะไปซื้อตั๋วรถไปแชงกลีร่า แต่ก่อนอื่นนกองทัพต้องเดินด้วยท้อง หาอะไรง่ายๆกินกันก่อนแล้วค่อนเดินไปรอขึ้นรถเมล์ตรงป้ายที่อยู่แถวนั้น กินเสร็จก็เดินไปขึ้นรถเมล์ที่นี้ไม่แน่ใจว่าต้องขึ้นฝั่งไหน พอดีมีเจ่รอรถเมล์อยู่เลยแถวนั้นเลยได้โอกาสถามทางไปขนส่ง เจ่บอกให้ขึ้นฝั่งตรงข้ามสาย 18 จริงๆป้ายรถเมล์มันอยู่เยื้องไปทางขวาแต่เรามองไม่เห็นเลยเดินไปทางซ้าย ว่าแล้วทำไมเดินนานจังก็เล่นเดินไปอีกป้าย หึหึ ตอนขากลับถึงได้เห็นว่ามันเยื้องกันนิดเดียว
ค่ารถน่าจะคนละ 1 หยวนแต่พอดีลุงฟังผิดตอนคุยกับพี่เจ้าของ รร.เค้าบอกว่าคนละ 2 หยวนสงสัยว่ารวมไปกลับแน่เลย ส่วนค่าารถบัสไปแชงกลีร่าคนละ 80 หยวน ตก 416 บาท ซื้อตั๋วเสร็จก็ออกมาขึ้นรถสายเดิมคือสาย 18 เพื่อไปสระมังกรดำ ขึ้นฝั่งเดิมตอนที่ลงเนื่องจากเป็นต้นสาย รถขับไปพักใหญ่ๆจะเห็นวิวเขามังกรหยกชัดเจนมากแต่ยังไม่ใช่ที่ลงต้องเลยไปอีกประมาณ 5-6 ป้าย พอถึงป้ายสระมังกรดำคนลงเกือบหมดคัน พอเดินลงมามองไม่เห็นทางเข้าถามคนแถวนั้นบอกให้เดินย้อยไปตรงที่รถเลี้ยวมา ข้ามถนนแล้วเดินต่อไปอีกนิดนึงจะเห็นทางเข้า
ก่อนเข้าถ้ายังไม่มีบัตรเข้าเมืองเก่าจะต้องซื้อบัตรคนละ 80 หยวน ให้เก็บไว้ให้ดีเพราะต้องใช้สำหรับตอนเข้าเมืองเก่าด้วย โชคดีที่วันนี้อากาศดีทำให้เห็นวิวสระมังกรดำพร้อมฉากหลังเป็นเขามังกรหยก สวยงามสมดังที่คิดไว้
หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจแล้วเราก็เดินตามป้ายที่บอกว่าสามารถไปเมืองเก่าได้ คือเดินเลียบคูน้ำไปเดินไปเลื่อยๆประมาณกิโลกว่าๆก็ถึง กังหันยักษ์สัญญาลักษณ์เมืองลี่เจียง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้