เรื่องโดย akinson149
สวัสดีคับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆใน TSS เมื่อวานนี้ผมได้นำเสนอบทความเรื่องวิกฤติกองหน้าไทยในวันที่ยังไร้มือเพชรฆาตไปแล้ว หากใครยังไม่ได้อ่าน ท่านสามารถตามอ่านได้จากกระทู้ด้านล่าง มาในวันนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นกึ่งๆ ตอนต่อของบทความที่ผมว่ามา (ด้วยกำลังใจและความรบเร้าที่พี่ๆน้องๆได้หลังไมด์กันมาว่าอยากให้เขียนขยายความขึ้นอีกนิดหรือเเนบเเนวทางเเก้ไขเข้ามาด้วย) ซึ่งผมหวังว่าเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้ จนจบเเล้ว ท่านอาจจะได้ไอเดียดีๆอะไรบ้างต่อทีมชาติไทยเราในวันที่ยังคลำหาตัวกองหน้าไม่เจอ
วิกฤติทีมชาติขาดกองหน้า หรือ มีเเต่ยังไม่เข้าสเป็ค ไม่ใช่ปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นครั้งเเรกเเต่มันเคยเกิดขึ้นมาเเล้วในยุคก่อนๆ ทั้งในระดับสโมสรและในนามทีมชาติ ครั้งนึงในบอลโลก ปี1994 ทีมชาติโรมาเนียภายใต้การนำของโค้ชสมองใสอย่าง Anghel Iordănescu โรมาเนียในยุคนั้นถูกขนานนามว่าเป็นทีมที่มีเเต่กองหน้าตีนบอด เเละทีมเต็มไปด้วยมิดฟิลล์ตัวรุก เเต่โค้ชสมองใสรายนี้กลับมองสภาพทีมในตอนนั้นว่ามันคือโอกาสเพราะในเมื่อทรัพยากรภายในทีมไม่มีกองหน้าที่ไว้ใจได้เลยเเละบรรดานักเตะที่ฟอร์มดีในเวลานั้นกลับกลายเป็นแผงมิดฟิลล์ไปทั้งหมด เเล้วเป็นแบบนี้ทำไมจะไม่เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ในเกมฟุตบอลโลกปี1994 รอบ16ทีมสุดท้าย ทีมชาติโรมาเนียต้องโคจรมาพบกับทีมฟ้าขาว อาเจนติน่าที่มีสตาร์ดังอยู่เต็มทีม ทั้งเรดอนโด, บาติสซูต้า, มาราโดน่า, ดิเอโก้ ซิมิโอเน่ เเถมทีมโรมาเนียเองยังประสบปัญหาไม่มีศูนย์หน้าที่พร้อมลงเล่นในเกมดังกล่าว โค้ชเออดันเนสคูร์ จึงให้ทีมลงเล่นด้วยระบบ 4-6-0 และผลที่ได้นั้นดีกว่าที่คิดเสียด้วยเพราะโรมาเนียชนะอาเจนติน่า ด้วยสกอร์ 3-2 ชนิดช็อคคนทั้งโลก
4-6-0?
อย่าพึ่งตกใจ...กับสิ่งที่ท่านได้เห็น เจ้าฟอร์เมตที่ว่านี้คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาเเล้วในเกมฟุตบอลเเละไม่ใช่เเต่เฉพาะทีมชาติโรมาเนียตามบทนำที่ผมได้เขียนไว้เท่านั้น ฟอร์เมตที่ไร้ซึ่งศูนย์หน้าเป็นที่วิพากษ์วิจาร์ณกันอย่างมากว่ามันดูผิดเพี้ยนจากความเป็นไปของฟุตบอล หรือฟังดูตลกๆว่า "ระบบอะไรหว่า...ไม่มีกองหน้าเเล้วจะเอาใครยิงประตู" แม้กระทั่งแฟนบอลทางฝั่งยุโรปในยุค90 ยังเคยสบถออกมาเลยว่า "นี่มันระบบบ้าบออะไรว่ะ"
เเต่เชื่อหรือไม่ว่ายังมีผู้ที่นิยมของแปลกและเขาสามารถเข้ามาทำให้ระบบที่หลายคนบอกว่าบ้านี้ให้มีประสิทธิภาพเเละได้รับการยอมรับกันมากขึ้น เขาคนนั้นก็คือ ลูเชียโน่ สปาเล็ตติ กุนซือหัวโล้นชาวมักกะโรนี ผู้ที่เข้ามาปลุกหมาป่าโรม่าให้ผงาด ในช่วงปี2005-2006 โค้ชชาวอิตาลีเข้ามารับเผือกร้อนในช่วงที่ปิดตลาดซื้อขายนักเตะเเถมทีมยังมีเเต่กองหน้าบาดเจ็บและหลุดฟอร์ม ยิ่งไปกว่านั้นโรม่ากลายเป็นทีมที่ไม่ได้อยู่ในฐานะของทีมลุ้นเเชมป์เลยเพราะสถานการ์ณที่เป็นอยู่ โรม่าขณะนั้นร่อเเร่เเละกำลังดิ้นรนหนีออกจากพื้นที่ในโซนท่อนล่างของตาราง กุนซือหัวโล้นรายนี้เข้ามาโดยการปรับระบบการเล่นใหม่จาก 4-4-2 มาเป็น 4-6-0 เพราะทีมหมาป่ามีเเต่กองกลางที่พร้อมใช้งานในขณะนั้นมากกว่าศูนย์หน้าที่เขาคิดว่าพึ่งพาไม่ได้เเละเขาก็สามารถทำผลงานจนจบฤดูกาลเป็นที่2ในบอลลีกได้ไปเตะบอลยุโรปแบบเหลือเชื่อ
เเม้กระทั้งในฟุตบอลสมัยใหม่ ทีมชาติสเปนภายใต้การนำของบิเซนเต เดล บอสเก้ ในปี2012 สเปนในยุคนั้นฝากความทั้งหมดไว้กับตอร์เรส เเต่ในช่วงยูโร เขากลับไม่อยู่ในฟอร์มที่น่าสนใจ กุนซือเฒ่าอย่างเดล บอสเก้ จึงนำเอา 4-6-0 เข้ามาให้ลูกทีมใช้เเละโชคดีที่สเปนในยุคนั้นมีเเต่กองกลางที่อันตรายเเละไว้ใจได้ ทั้ง ฟาเบกาส, ซิลบา, เฮซุส นาบาส, อลอนโซ่, อิเนสต้า และ ฮวน มาต้า ทีมสเปนได้ประตูอย่างเป็นกอบเป็นกำจากบรรดามิดฟิลล์ที่ว่ามาจนคว้าเเชมป์ยูโรปได้สำเร็จชนิดที่มีเเต่คนสรรเสริญ ว่ากันว่าในยุคนั้นมิดฟิลล์ที่ดีที่สุดในโลกถูกรวมไว้หมดที่สเปนและ 4-6-0 กลายเป็นเรื่องที่แฟนบอลพูดกันไม่รู้จักจบ เเละส่วนนึงของความสำเร็จนั้นก็มาจากเเทคติกที่เข้ามาช่วยผสานให้ 4-6-0 ของสเปนมีความเข้มข้นเเละดุร้าย นั่นคือ "เกเกนเพลสซิ่ง" (Gegenpressing) หรือ เคาน์เตอร์เพรสซิ่ง (counterpressing)ในภาษาอังกฤษ
4-6-0 เเละเกเกนเพลสซิ่งอาวุธใหม่ทีมชาติไทยในวันที่ไร้กองหน้า by akinson149
สวัสดีคับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆใน TSS เมื่อวานนี้ผมได้นำเสนอบทความเรื่องวิกฤติกองหน้าไทยในวันที่ยังไร้มือเพชรฆาตไปแล้ว หากใครยังไม่ได้อ่าน ท่านสามารถตามอ่านได้จากกระทู้ด้านล่าง มาในวันนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นกึ่งๆ ตอนต่อของบทความที่ผมว่ามา (ด้วยกำลังใจและความรบเร้าที่พี่ๆน้องๆได้หลังไมด์กันมาว่าอยากให้เขียนขยายความขึ้นอีกนิดหรือเเนบเเนวทางเเก้ไขเข้ามาด้วย) ซึ่งผมหวังว่าเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้ จนจบเเล้ว ท่านอาจจะได้ไอเดียดีๆอะไรบ้างต่อทีมชาติไทยเราในวันที่ยังคลำหาตัวกองหน้าไม่เจอ
วิกฤติทีมชาติขาดกองหน้า หรือ มีเเต่ยังไม่เข้าสเป็ค ไม่ใช่ปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นครั้งเเรกเเต่มันเคยเกิดขึ้นมาเเล้วในยุคก่อนๆ ทั้งในระดับสโมสรและในนามทีมชาติ ครั้งนึงในบอลโลก ปี1994 ทีมชาติโรมาเนียภายใต้การนำของโค้ชสมองใสอย่าง Anghel Iordănescu โรมาเนียในยุคนั้นถูกขนานนามว่าเป็นทีมที่มีเเต่กองหน้าตีนบอด เเละทีมเต็มไปด้วยมิดฟิลล์ตัวรุก เเต่โค้ชสมองใสรายนี้กลับมองสภาพทีมในตอนนั้นว่ามันคือโอกาสเพราะในเมื่อทรัพยากรภายในทีมไม่มีกองหน้าที่ไว้ใจได้เลยเเละบรรดานักเตะที่ฟอร์มดีในเวลานั้นกลับกลายเป็นแผงมิดฟิลล์ไปทั้งหมด เเล้วเป็นแบบนี้ทำไมจะไม่เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ในเกมฟุตบอลโลกปี1994 รอบ16ทีมสุดท้าย ทีมชาติโรมาเนียต้องโคจรมาพบกับทีมฟ้าขาว อาเจนติน่าที่มีสตาร์ดังอยู่เต็มทีม ทั้งเรดอนโด, บาติสซูต้า, มาราโดน่า, ดิเอโก้ ซิมิโอเน่ เเถมทีมโรมาเนียเองยังประสบปัญหาไม่มีศูนย์หน้าที่พร้อมลงเล่นในเกมดังกล่าว โค้ชเออดันเนสคูร์ จึงให้ทีมลงเล่นด้วยระบบ 4-6-0 และผลที่ได้นั้นดีกว่าที่คิดเสียด้วยเพราะโรมาเนียชนะอาเจนติน่า ด้วยสกอร์ 3-2 ชนิดช็อคคนทั้งโลก
4-6-0?
อย่าพึ่งตกใจ...กับสิ่งที่ท่านได้เห็น เจ้าฟอร์เมตที่ว่านี้คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาเเล้วในเกมฟุตบอลเเละไม่ใช่เเต่เฉพาะทีมชาติโรมาเนียตามบทนำที่ผมได้เขียนไว้เท่านั้น ฟอร์เมตที่ไร้ซึ่งศูนย์หน้าเป็นที่วิพากษ์วิจาร์ณกันอย่างมากว่ามันดูผิดเพี้ยนจากความเป็นไปของฟุตบอล หรือฟังดูตลกๆว่า "ระบบอะไรหว่า...ไม่มีกองหน้าเเล้วจะเอาใครยิงประตู" แม้กระทั่งแฟนบอลทางฝั่งยุโรปในยุค90 ยังเคยสบถออกมาเลยว่า "นี่มันระบบบ้าบออะไรว่ะ"
เเต่เชื่อหรือไม่ว่ายังมีผู้ที่นิยมของแปลกและเขาสามารถเข้ามาทำให้ระบบที่หลายคนบอกว่าบ้านี้ให้มีประสิทธิภาพเเละได้รับการยอมรับกันมากขึ้น เขาคนนั้นก็คือ ลูเชียโน่ สปาเล็ตติ กุนซือหัวโล้นชาวมักกะโรนี ผู้ที่เข้ามาปลุกหมาป่าโรม่าให้ผงาด ในช่วงปี2005-2006 โค้ชชาวอิตาลีเข้ามารับเผือกร้อนในช่วงที่ปิดตลาดซื้อขายนักเตะเเถมทีมยังมีเเต่กองหน้าบาดเจ็บและหลุดฟอร์ม ยิ่งไปกว่านั้นโรม่ากลายเป็นทีมที่ไม่ได้อยู่ในฐานะของทีมลุ้นเเชมป์เลยเพราะสถานการ์ณที่เป็นอยู่ โรม่าขณะนั้นร่อเเร่เเละกำลังดิ้นรนหนีออกจากพื้นที่ในโซนท่อนล่างของตาราง กุนซือหัวโล้นรายนี้เข้ามาโดยการปรับระบบการเล่นใหม่จาก 4-4-2 มาเป็น 4-6-0 เพราะทีมหมาป่ามีเเต่กองกลางที่พร้อมใช้งานในขณะนั้นมากกว่าศูนย์หน้าที่เขาคิดว่าพึ่งพาไม่ได้เเละเขาก็สามารถทำผลงานจนจบฤดูกาลเป็นที่2ในบอลลีกได้ไปเตะบอลยุโรปแบบเหลือเชื่อ
เเม้กระทั้งในฟุตบอลสมัยใหม่ ทีมชาติสเปนภายใต้การนำของบิเซนเต เดล บอสเก้ ในปี2012 สเปนในยุคนั้นฝากความทั้งหมดไว้กับตอร์เรส เเต่ในช่วงยูโร เขากลับไม่อยู่ในฟอร์มที่น่าสนใจ กุนซือเฒ่าอย่างเดล บอสเก้ จึงนำเอา 4-6-0 เข้ามาให้ลูกทีมใช้เเละโชคดีที่สเปนในยุคนั้นมีเเต่กองกลางที่อันตรายเเละไว้ใจได้ ทั้ง ฟาเบกาส, ซิลบา, เฮซุส นาบาส, อลอนโซ่, อิเนสต้า และ ฮวน มาต้า ทีมสเปนได้ประตูอย่างเป็นกอบเป็นกำจากบรรดามิดฟิลล์ที่ว่ามาจนคว้าเเชมป์ยูโรปได้สำเร็จชนิดที่มีเเต่คนสรรเสริญ ว่ากันว่าในยุคนั้นมิดฟิลล์ที่ดีที่สุดในโลกถูกรวมไว้หมดที่สเปนและ 4-6-0 กลายเป็นเรื่องที่แฟนบอลพูดกันไม่รู้จักจบ เเละส่วนนึงของความสำเร็จนั้นก็มาจากเเทคติกที่เข้ามาช่วยผสานให้ 4-6-0 ของสเปนมีความเข้มข้นเเละดุร้าย นั่นคือ "เกเกนเพลสซิ่ง" (Gegenpressing) หรือ เคาน์เตอร์เพรสซิ่ง (counterpressing)ในภาษาอังกฤษ