รีวิวเรื่องที่19/100

The Dark Knight Rises เป็นหนึ่งในหนังที่ถูกตั้งความหวังไว้มากที่สุดในปี2012เพราะเป็นหนังจบไตรภาคBatmanสุดยิ่งใหญ่ของ Christopher Nolan บวกกับการที่สองภาคแรกสร้างมาตรฐานไว้ดีมากถึงมากที่สุด เลยไม่แปลกที่จะกลายเป็นตัวเต็งหนึ่งในหนังทำเงินแห่งปี เนื่องจากภาคที่แล้วในThe Dark Knight ได้ทำไว้ดีมากถึงขนาดที่ว่ายากที่จะทำภาคต่อออกมาได้เหนือกว่าจึงเป็นที่น่าจับตามองว่าNolanจะทำอย่างไหร่ให้ภาคนี้ทำได้ไม่แย่กว่าหรือดีเทียบเท่าภาคที่แล้ว แน่นอนว่าเนื้อเรื่องต้องเข้มข้นและเข้าถึงคนดูในวงกว้างได้ง่ายมากขึ้น อาจจะเพิ่มบทบู๊ให้ได้หวือหวามากขึ้นและแน่นอนว่าจะต้องหาตัวร้ายหลักของเรื่องที่คู่ควรแก่การจดจำเหมือนอย่างที่Heath Ledger ได้ทำไว้ในภาคที่แล้วในบทของJoker ซึ่งภาคนี้ตัวร้ายหลักที่เราได้เห็นในตัวอย่างก็คือBane มนุษย์หน้ากากสุดแข็งแกร่งและCatwomanซึ่งเท่าที่เห็นบทของเธออาจจะไม่ใช่ตัวร้ายเต็มตัวสักเท่าไหร่นักเพราะจริงๆแล้วCatwoman เป็นตัวละครที่เป็นAnti-Hero ซะมากกว่า ฉะนั้นความหวังทั้งปวงจึงไปตกอยู่บนบ่าของBane ซึ่งรับบทโดยนักแสดงเจ้าบทบาทอย่างTom Hardy ที่เพิ่งแสดงในInception ของNolan ไปหมาดๆ Baneเป็นตัวร้ายที่เคยปรากฏตัวในโลกภาพยนต์ไปแล้วใน Batman&Robin ในปี1997 ซึ่งในตอนนั้นBaneเป็นแค่ตัวร้ายโง่ๆที่เป็นลูกสมุนของPoison Ivy ซึ่งไม่ได้มีบทบาทอะไรที่น่าจดจำเลยสักนิดครับ การที่หนังเลือกBaneมาเป็นตัวร้ายหลักในการจบไตรภาคนี้จึงเกิดคำถามตามมามากมายว่า Baneคู่ควรหรือไม่กับการเป็นตัวร้ายหลักของเรื่อง ซึ่งถ้าจะว่ากันในแบบฉบับComicต้องบอกว่าBaneคู่ควรครับ เพราะจริงๆแล้วBaneไม่ได้ง่อยเหมือนในเรื่องBatman&Robin ซ้ำแล้วยังเป็นคนที่ทำให้Bruce WayneหรือBatman เกือบเอาตัวไม่รอดเลยด้วยซ้ำ

วอย่างของหนังเรื่องนี้ตัดต่อออกมาได้ดีมากครับตั้งแต่ฉากระเบิดในสนามอเมริกันฟุตบอลและการปรากฏตัวของBane ช่างดูน่าแกรงขามและมีพลังมากทีเดียวครับ เรียกได้ว่าเป็นTrailerที่ทำงานด้วยตัวของมันเองได้ดีมากจริงๆ เรารู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังของBatmanและเมืองGothamจริงๆครับ หลังจากดูTrailerแล้วบอกได้คำเดียวครับว่ายังไงก็ต้องดูในโรงให้ได้
The Dark Knight Rises เล่าถึงเรื่องราว2ปีให้หลังจากภาคก่อนที่Batmanได้ขอรับหน้าเป็นแพะรับบาปคนที่สังหารHarvey Dent แทนเพราะไม่ต้องการให้ชื่อของHarvey Dentที่เป็นอัศวินม้าขาวแห่งGothamต้องแปดเปื้อน Batmanได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย2ปี ส่วนBruce Wayneได้ขาพิการจากอุบัติเหตุ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จริงๆขาหักจากเหตุการณ์ตกตึกในท้ายเรื่องภาคก่อน Baneผู้ก่อการร้ายคนใหม่ได้เริ่มแทรกซึมเข้ามาในเมืองGothamและวางแผนที่จะให้Gothamตกอยู่ภายใต้อำนาจของตน Batmanจึงต้องปรากฏตัวอีกครั้งเพื่อย้ำยั้งแผนชั่วร้ายของBaneและปกป้องประชากรผู้บริสุทธิ์ในเมืองGothamให้ปลอดภัยจากโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นเอง
เรื่องราวในภาคนี้ค่อนข้างเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงมากกว่าภาคที่แล้วและมีความตรงไปตรงมาเช่นเดียวกับการต่อสู้ระหว่างBatmanกับBaneที่จะว่าด้วยเรื่องของพละกำลังความแข็งแกร่งมากกว่าการชิงไหวชิงพริบอย่างเช่นตอนที่ต่อสู้กับJoker ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับเพราะจะได้ไม่ซ้ำแนวกับภาคที่แล้วในขณะเดียวกันภาคนี้ค่อนข้างมีการFocusไปที่ตัวละครใหม่หลายตัวเหมือนกันครับอย่างเช่นCatwoman, Miranda สาวปริศนาขวัญใจคนใหม่ของBruceและJohn Blake หนุ่มที่คาดว่าน่าจะเป็นRobin ซึ่งโดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าการfocusที่ตัวละครอย่างCatwomanและMirandaยังคงอยู่ในเส้นเนื้อเรื่องหลักแต่ในกรณีการมีอยู่ของ John Blake นั้นค่อนข้างขัดใจพอสมควรเพราะผมรู้สึกว่าเป็นตัวละครที่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้แถมยังมีหลายฉากที่แย่งซีนBatmanหรือBruce Wayneอีกต่างหาก แต่ผมเข้าใจว่าNolanคงต้องการให้Blakeเป็นคนกระตุ้น Bruce ที่กำลังหมดไฟนั้นรู้ว่ายังมีคนที่เฝ้ารอการกลับมาของBatmanอยู่นั้นเองหรืออาจให้Blakeรับช่วงต่อในฐานะBatmanหรือRobinก็เป็นไปได้
ในเรื่องนี้สิ่งที่ผมค่อนข้างชอบคือเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง BruceและAlfred ที่เป็นบทสนทนานอกเหนือจากเรื่องแผนการปฏิบัติงานของBatman เราได้เห็นว่าAlfredนั้นแคร์และอยากเห็นอนาคตที่สดใสของBruceมากเท่าใดซึ่งแม้จะมีโผล่มาแค่ไม่กี่ซีนแต่เพราะการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Michael Caine จึงทำให้สร้างความประทับใจได้มากทีเดียวครับ พูดถึง ส่วนสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือฉากแอ๊คชั่นในเรื่องครับ ซึ่งฉากที่ทำออกมาได้ดีที่สุดตามความคิดของผมคือการประชันหน้าระหว่างBatmanและBaneในท่อระบายน้ำซึ่งChristopher Nolan สามารถทำให้เรารู้สึกได้ว่าแต่ละหมัดที่ปล่อยออกไปของทั้งคู่นั้นช่างทรงพลังจริงๆ เน้นทุกหมัดครับ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งซีนการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่ดีมากครับ
รีวิวตัวละคร
Bruce Wayne / Batman (Christian Bale) เนื่องจากเล่นมาหลายภาคบทนี้เลยเข้าเส้นพี่แกไปแล้วก็เป็นได้ครับเพราะตลอดทั้งเรื่อง Christian Bale สวมบทบาทของเขาได้อย่างอยู่หมัดเลยทีเดียว
Bane (Tom Hardy) แม้จะต้องใส่หน้ากากตลอดทั้งเรื่องแต่Tom Hardy ก็แสดงออกทางแววตาและน้ำเสียงได้อย่างดีมีมิติครับ แต่ละคำพูดที่เปล่งออกมาช่างดูน่าเกรงขามมากครับ
Catwoman/ selina kyle (Anne Hathaway) Anneเหมาะมากครับสำหรับบทนี้ผมว่าเป็น castingที่ดีที่สุดในเรื่องเลยทีเดียวเพราะเธอดูสวย เซ็กซี่พราวเสน่ห์ อีกทั้งยังดูฉลาดเฉลียวสมกับบทที่เธอได้รับครับ นับว่าเป็นCatwomanที่เท่มากครับสำหรับภาคนี้(แต่ยังสู้ของ Michelle Pfeifferไม่ได้นะครับสำหรับผม)
Miranda (Marion Cotillard) เธอไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายครับสำหรับบทคนรักปริศนาคนใหม่ของ Bruce Wayne แม้เธอจะดูมีความฉลาดแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่มีทำให้เราจดจำเธอได้มากเท่าไหร่นัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เว้นแต่ตอนท้ายที่รู้ว่าเธออยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดอีกทั้งเป็นบงการBaneด้วย
Alfred (Michael Caine) บทน้อยกว่าภาคที่แล้วแต่ยังคงทรงพลังเหมือนเดิมครับสำหรับการแสดงของเขา
Jim Gordon(Gary Oldman) ไม่ได้เด่นมากมายเหมือนภาคที่แล้วนะครับผมว่าดูเหมือนเป็นแค่ตัวเสริมไม่ใช่ตัวละครที่โดดเด่นอะไรมากมาย
John Blake (Joseph Gordon-Levitt) ที่จริง Joseph แสดงได้ดีทีเดียวนะครับ แค่ผมคิดว่าบทนี้ไปไม่สุดเท่านั้นเอง
โดยภาพรวมทำออกมาได้ดีครับฉากในซีนต่างๆอลังกาลงานสร้างยิ่งใหญ่มากทั้งฉากเปิดตัวBaneบนเครื่องบินในตอนต้นเรื่องและฉากการก่อการร้ายของBaneที่สนามแข่งอเมริกันฟุตบอล จริงๆScaleของหนังในภาคนี้ใหญ่กว่าภาคที่แล้วนะครับ แต่อาจเป็นเพราะความClassicของตัวร้ายอย่างJokerจึงทำให้ภาคที่แล้วเป็นที่น่าจดจำมากกว่า
ถือว่าเป็นการปิดฉากไตรภาคBatmanของNolan ได้สวยงามจริงๆครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่ามีบางช่วงที่หนังยืดไปหน่อยจริงๆสามารถกระชับได้มากกว่านี้ครับ เพราะเวลาของหนังเรื่องนี้ยาวถึง 2ชม. 44นาทีเลยทีเดียวครับ ยาวกว่าภาคที่แล้วซะอีก ต้องยกนิ้วให้ทีมทำฉากถล่มต่างๆจริงๆครับเพราะทำออกมาได้ดีสมจริงมากๆ เลยทำให้เราอินไปกับหนังได้ง่าย ในส่วนของเนื้อหาผมว่าเข้าใจง่ายกว่าภาคที่แล้วนะครับ แนะนำว่าถ้าจะดูควรดูหนังสองภาคแรกก่อนนะครับ ไม่งั้นคุณจะจับต้นชนปลายไม่ถูกและขาดความเข้าใจในเนื้อหามากพอสมควรเลย
บทภาพยนต์: 8/10
ความสนุก: 8/10
การตัดต่อภาพและเสียง:9/10
[SR] รีวิว "The Dark Knight Rises" (รีวิวหนัง100เรื่อง/100วัน)
The Dark Knight Rises เป็นหนึ่งในหนังที่ถูกตั้งความหวังไว้มากที่สุดในปี2012เพราะเป็นหนังจบไตรภาคBatmanสุดยิ่งใหญ่ของ Christopher Nolan บวกกับการที่สองภาคแรกสร้างมาตรฐานไว้ดีมากถึงมากที่สุด เลยไม่แปลกที่จะกลายเป็นตัวเต็งหนึ่งในหนังทำเงินแห่งปี เนื่องจากภาคที่แล้วในThe Dark Knight ได้ทำไว้ดีมากถึงขนาดที่ว่ายากที่จะทำภาคต่อออกมาได้เหนือกว่าจึงเป็นที่น่าจับตามองว่าNolanจะทำอย่างไหร่ให้ภาคนี้ทำได้ไม่แย่กว่าหรือดีเทียบเท่าภาคที่แล้ว แน่นอนว่าเนื้อเรื่องต้องเข้มข้นและเข้าถึงคนดูในวงกว้างได้ง่ายมากขึ้น อาจจะเพิ่มบทบู๊ให้ได้หวือหวามากขึ้นและแน่นอนว่าจะต้องหาตัวร้ายหลักของเรื่องที่คู่ควรแก่การจดจำเหมือนอย่างที่Heath Ledger ได้ทำไว้ในภาคที่แล้วในบทของJoker ซึ่งภาคนี้ตัวร้ายหลักที่เราได้เห็นในตัวอย่างก็คือBane มนุษย์หน้ากากสุดแข็งแกร่งและCatwomanซึ่งเท่าที่เห็นบทของเธออาจจะไม่ใช่ตัวร้ายเต็มตัวสักเท่าไหร่นักเพราะจริงๆแล้วCatwoman เป็นตัวละครที่เป็นAnti-Hero ซะมากกว่า ฉะนั้นความหวังทั้งปวงจึงไปตกอยู่บนบ่าของBane ซึ่งรับบทโดยนักแสดงเจ้าบทบาทอย่างTom Hardy ที่เพิ่งแสดงในInception ของNolan ไปหมาดๆ Baneเป็นตัวร้ายที่เคยปรากฏตัวในโลกภาพยนต์ไปแล้วใน Batman&Robin ในปี1997 ซึ่งในตอนนั้นBaneเป็นแค่ตัวร้ายโง่ๆที่เป็นลูกสมุนของPoison Ivy ซึ่งไม่ได้มีบทบาทอะไรที่น่าจดจำเลยสักนิดครับ การที่หนังเลือกBaneมาเป็นตัวร้ายหลักในการจบไตรภาคนี้จึงเกิดคำถามตามมามากมายว่า Baneคู่ควรหรือไม่กับการเป็นตัวร้ายหลักของเรื่อง ซึ่งถ้าจะว่ากันในแบบฉบับComicต้องบอกว่าBaneคู่ควรครับ เพราะจริงๆแล้วBaneไม่ได้ง่อยเหมือนในเรื่องBatman&Robin ซ้ำแล้วยังเป็นคนที่ทำให้Bruce WayneหรือBatman เกือบเอาตัวไม่รอดเลยด้วยซ้ำ
วอย่างของหนังเรื่องนี้ตัดต่อออกมาได้ดีมากครับตั้งแต่ฉากระเบิดในสนามอเมริกันฟุตบอลและการปรากฏตัวของBane ช่างดูน่าแกรงขามและมีพลังมากทีเดียวครับ เรียกได้ว่าเป็นTrailerที่ทำงานด้วยตัวของมันเองได้ดีมากจริงๆ เรารู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังของBatmanและเมืองGothamจริงๆครับ หลังจากดูTrailerแล้วบอกได้คำเดียวครับว่ายังไงก็ต้องดูในโรงให้ได้
The Dark Knight Rises เล่าถึงเรื่องราว2ปีให้หลังจากภาคก่อนที่Batmanได้ขอรับหน้าเป็นแพะรับบาปคนที่สังหารHarvey Dent แทนเพราะไม่ต้องการให้ชื่อของHarvey Dentที่เป็นอัศวินม้าขาวแห่งGothamต้องแปดเปื้อน Batmanได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย2ปี ส่วนBruce Wayneได้ขาพิการจากอุบัติเหตุ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ Baneผู้ก่อการร้ายคนใหม่ได้เริ่มแทรกซึมเข้ามาในเมืองGothamและวางแผนที่จะให้Gothamตกอยู่ภายใต้อำนาจของตน Batmanจึงต้องปรากฏตัวอีกครั้งเพื่อย้ำยั้งแผนชั่วร้ายของBaneและปกป้องประชากรผู้บริสุทธิ์ในเมืองGothamให้ปลอดภัยจากโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นเอง
เรื่องราวในภาคนี้ค่อนข้างเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงมากกว่าภาคที่แล้วและมีความตรงไปตรงมาเช่นเดียวกับการต่อสู้ระหว่างBatmanกับBaneที่จะว่าด้วยเรื่องของพละกำลังความแข็งแกร่งมากกว่าการชิงไหวชิงพริบอย่างเช่นตอนที่ต่อสู้กับJoker ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับเพราะจะได้ไม่ซ้ำแนวกับภาคที่แล้วในขณะเดียวกันภาคนี้ค่อนข้างมีการFocusไปที่ตัวละครใหม่หลายตัวเหมือนกันครับอย่างเช่นCatwoman, Miranda สาวปริศนาขวัญใจคนใหม่ของBruceและJohn Blake หนุ่มที่คาดว่าน่าจะเป็นRobin ซึ่งโดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าการfocusที่ตัวละครอย่างCatwomanและMirandaยังคงอยู่ในเส้นเนื้อเรื่องหลักแต่ในกรณีการมีอยู่ของ John Blake นั้นค่อนข้างขัดใจพอสมควรเพราะผมรู้สึกว่าเป็นตัวละครที่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้แถมยังมีหลายฉากที่แย่งซีนBatmanหรือBruce Wayneอีกต่างหาก แต่ผมเข้าใจว่าNolanคงต้องการให้Blakeเป็นคนกระตุ้น Bruce ที่กำลังหมดไฟนั้นรู้ว่ายังมีคนที่เฝ้ารอการกลับมาของBatmanอยู่นั้นเองหรืออาจให้Blakeรับช่วงต่อในฐานะBatmanหรือRobinก็เป็นไปได้
ในเรื่องนี้สิ่งที่ผมค่อนข้างชอบคือเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง BruceและAlfred ที่เป็นบทสนทนานอกเหนือจากเรื่องแผนการปฏิบัติงานของBatman เราได้เห็นว่าAlfredนั้นแคร์และอยากเห็นอนาคตที่สดใสของBruceมากเท่าใดซึ่งแม้จะมีโผล่มาแค่ไม่กี่ซีนแต่เพราะการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Michael Caine จึงทำให้สร้างความประทับใจได้มากทีเดียวครับ พูดถึง ส่วนสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือฉากแอ๊คชั่นในเรื่องครับ ซึ่งฉากที่ทำออกมาได้ดีที่สุดตามความคิดของผมคือการประชันหน้าระหว่างBatmanและBaneในท่อระบายน้ำซึ่งChristopher Nolan สามารถทำให้เรารู้สึกได้ว่าแต่ละหมัดที่ปล่อยออกไปของทั้งคู่นั้นช่างทรงพลังจริงๆ เน้นทุกหมัดครับ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งซีนการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่ดีมากครับ
รีวิวตัวละคร
Bruce Wayne / Batman (Christian Bale) เนื่องจากเล่นมาหลายภาคบทนี้เลยเข้าเส้นพี่แกไปแล้วก็เป็นได้ครับเพราะตลอดทั้งเรื่อง Christian Bale สวมบทบาทของเขาได้อย่างอยู่หมัดเลยทีเดียว
Bane (Tom Hardy) แม้จะต้องใส่หน้ากากตลอดทั้งเรื่องแต่Tom Hardy ก็แสดงออกทางแววตาและน้ำเสียงได้อย่างดีมีมิติครับ แต่ละคำพูดที่เปล่งออกมาช่างดูน่าเกรงขามมากครับ
Catwoman/ selina kyle (Anne Hathaway) Anneเหมาะมากครับสำหรับบทนี้ผมว่าเป็น castingที่ดีที่สุดในเรื่องเลยทีเดียวเพราะเธอดูสวย เซ็กซี่พราวเสน่ห์ อีกทั้งยังดูฉลาดเฉลียวสมกับบทที่เธอได้รับครับ นับว่าเป็นCatwomanที่เท่มากครับสำหรับภาคนี้(แต่ยังสู้ของ Michelle Pfeifferไม่ได้นะครับสำหรับผม)
Miranda (Marion Cotillard) เธอไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายครับสำหรับบทคนรักปริศนาคนใหม่ของ Bruce Wayne แม้เธอจะดูมีความฉลาดแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่มีทำให้เราจดจำเธอได้มากเท่าไหร่นัก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Alfred (Michael Caine) บทน้อยกว่าภาคที่แล้วแต่ยังคงทรงพลังเหมือนเดิมครับสำหรับการแสดงของเขา
Jim Gordon(Gary Oldman) ไม่ได้เด่นมากมายเหมือนภาคที่แล้วนะครับผมว่าดูเหมือนเป็นแค่ตัวเสริมไม่ใช่ตัวละครที่โดดเด่นอะไรมากมาย
John Blake (Joseph Gordon-Levitt) ที่จริง Joseph แสดงได้ดีทีเดียวนะครับ แค่ผมคิดว่าบทนี้ไปไม่สุดเท่านั้นเอง
โดยภาพรวมทำออกมาได้ดีครับฉากในซีนต่างๆอลังกาลงานสร้างยิ่งใหญ่มากทั้งฉากเปิดตัวBaneบนเครื่องบินในตอนต้นเรื่องและฉากการก่อการร้ายของBaneที่สนามแข่งอเมริกันฟุตบอล จริงๆScaleของหนังในภาคนี้ใหญ่กว่าภาคที่แล้วนะครับ แต่อาจเป็นเพราะความClassicของตัวร้ายอย่างJokerจึงทำให้ภาคที่แล้วเป็นที่น่าจดจำมากกว่า
ถือว่าเป็นการปิดฉากไตรภาคBatmanของNolan ได้สวยงามจริงๆครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่ามีบางช่วงที่หนังยืดไปหน่อยจริงๆสามารถกระชับได้มากกว่านี้ครับ เพราะเวลาของหนังเรื่องนี้ยาวถึง 2ชม. 44นาทีเลยทีเดียวครับ ยาวกว่าภาคที่แล้วซะอีก ต้องยกนิ้วให้ทีมทำฉากถล่มต่างๆจริงๆครับเพราะทำออกมาได้ดีสมจริงมากๆ เลยทำให้เราอินไปกับหนังได้ง่าย ในส่วนของเนื้อหาผมว่าเข้าใจง่ายกว่าภาคที่แล้วนะครับ แนะนำว่าถ้าจะดูควรดูหนังสองภาคแรกก่อนนะครับ ไม่งั้นคุณจะจับต้นชนปลายไม่ถูกและขาดความเข้าใจในเนื้อหามากพอสมควรเลย
บทภาพยนต์: 8/10
ความสนุก: 8/10
การตัดต่อภาพและเสียง:9/10
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้