ในละครบุพเพสันนิวาส ท่านขุนแสดงบทยิ้มเจ้าเล่ห์ ที่เห็นๆ แค่ฉากเดียว คือฉากวางแผนหลอกขี่ม้ากอดสาวในตำนาน 555
แต่ในนิยาย ท่านขุนแสดงบทลีลาร้ายลึกและเจ้าเล่ห์ (ลีลาร้ายลึกผมไม่ได้ชอบนะ แต่เจ่าเล่ห์นี่ชอบๆ 555) เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งฉาก
ซึ่งในละคร ท่านขุนแกจะดูเป็นคนตรงๆ เป็นคนอบอุ่น คอยเป็นที่พึ่งให้นางเอกมากกว่า เช่น สงสัยก็ถามนางเอกตรงๆ ว่า ออเจ้าเป็นใคร นางยังไม่บอกก็อดทนรอ
เวลาหึง ก็แสดงวาจาท่าทาง ที่ดูออกง่ายๆ ว่า แกกำลังหึง นางเอกอยากไปเที่ยวไหน แล้วแม่ไม่ให้ แกก็ไปช่วยขอแม่ให้
เวลาทะเลาะกับนางเอก ถ้าแกผิด พอแกสำนึกได้ แกก็จะโอนอ่อนให้นางเอกในเวลาต่อมา เช่นจะเอาสร้อยไปร้อยให้ พูดคุยดีๆ กับนางเอก ไม่แสดงท่าทีงอนนาน
แต่ในนิยาย ท่านขุนหลังจากทะเลาะกับนางเอกแล้ว (แต่ไม่ได้ทำสร้อยขาดนะ)
แม้ต่อมาแกสำนึกได้ แกก็วางมาดวางฟอร์ม ไม่พูดไม่คุยด้วย ทำท่าทีเหินห่างตอบโต้นางเอก ที่ก็วางท่าทีเหินห่างแก เรียกว่า ไม่มียอมง้อนางเอก 555
ทีนี้ พอถึงฉากที่อยากจะพานางเอกไปเที่ยวงานแข่งเรือ และเที่ยวงานวัดตอนค่ำ ท่านขุนที่ทำบึ้งตึงไม่ยอมคุยกับนางเอก ก็วางแผนเสร็จสรรพ ทำทีเดินไปดูต้นไม้ใกล้ๆ นางเอกที่กำลังร้อยดอกไม้อยู่
และแกล้งพูดให้บ่าวตนเตรียมตัว ไม่กี่วันจะมีแข่งเรือ แล้วแกล้งเดินเลี่ยงไป 555 ลีลามาก จากนั้น นางเอกก็หงุดหงิด เพราะถ้าจะไปเที่ยวก็ต้องไป ง้อ แก
นางเอกจึงไปขอพ่อพระเอกแทน ทำให้ท่านออกญา ไปบอกแม่จำปา แล้วแม่จำปาก็จำต้องมาบอกพระเอกตอนกินข้าวรวมกัน ว่าให้พาน้องไปงานแข่งเรือด้วย
พระเอก ทำทีเป็นถามว่า จะดีเหรอ (ลีลา 555) แม่จำปาจึงต้องกำชับว่า เจ้าก็ดูแลน้องให้ดีอย่าให้คลาดสายตา
ทำเอานางเอกก้มลงอมยิ้ม เห็นมั้ย ฉันได้ไปงานแข่งเรือ โดยไม่ต้องง้อคุณพี่ก็ได้
ในขณะที่พระเอกมองนางเอกแว๊บหนึ่ง แล้วอมยิ้มแบบเหนือชั้นกว่า "เสร็จข้าล่ะ แม่การะเกด"
555 เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ผมชอบว่ะ
พระเอกในนิยาย เจ้าเล่ห์ร้ายลึก และลีลากว่าในละครอีก 555
แต่ในนิยาย ท่านขุนแสดงบทลีลาร้ายลึกและเจ้าเล่ห์ (ลีลาร้ายลึกผมไม่ได้ชอบนะ แต่เจ่าเล่ห์นี่ชอบๆ 555) เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งฉาก
ซึ่งในละคร ท่านขุนแกจะดูเป็นคนตรงๆ เป็นคนอบอุ่น คอยเป็นที่พึ่งให้นางเอกมากกว่า เช่น สงสัยก็ถามนางเอกตรงๆ ว่า ออเจ้าเป็นใคร นางยังไม่บอกก็อดทนรอ
เวลาหึง ก็แสดงวาจาท่าทาง ที่ดูออกง่ายๆ ว่า แกกำลังหึง นางเอกอยากไปเที่ยวไหน แล้วแม่ไม่ให้ แกก็ไปช่วยขอแม่ให้
เวลาทะเลาะกับนางเอก ถ้าแกผิด พอแกสำนึกได้ แกก็จะโอนอ่อนให้นางเอกในเวลาต่อมา เช่นจะเอาสร้อยไปร้อยให้ พูดคุยดีๆ กับนางเอก ไม่แสดงท่าทีงอนนาน
แต่ในนิยาย ท่านขุนหลังจากทะเลาะกับนางเอกแล้ว (แต่ไม่ได้ทำสร้อยขาดนะ)
แม้ต่อมาแกสำนึกได้ แกก็วางมาดวางฟอร์ม ไม่พูดไม่คุยด้วย ทำท่าทีเหินห่างตอบโต้นางเอก ที่ก็วางท่าทีเหินห่างแก เรียกว่า ไม่มียอมง้อนางเอก 555
ทีนี้ พอถึงฉากที่อยากจะพานางเอกไปเที่ยวงานแข่งเรือ และเที่ยวงานวัดตอนค่ำ ท่านขุนที่ทำบึ้งตึงไม่ยอมคุยกับนางเอก ก็วางแผนเสร็จสรรพ ทำทีเดินไปดูต้นไม้ใกล้ๆ นางเอกที่กำลังร้อยดอกไม้อยู่
และแกล้งพูดให้บ่าวตนเตรียมตัว ไม่กี่วันจะมีแข่งเรือ แล้วแกล้งเดินเลี่ยงไป 555 ลีลามาก จากนั้น นางเอกก็หงุดหงิด เพราะถ้าจะไปเที่ยวก็ต้องไป ง้อ แก
นางเอกจึงไปขอพ่อพระเอกแทน ทำให้ท่านออกญา ไปบอกแม่จำปา แล้วแม่จำปาก็จำต้องมาบอกพระเอกตอนกินข้าวรวมกัน ว่าให้พาน้องไปงานแข่งเรือด้วย
พระเอก ทำทีเป็นถามว่า จะดีเหรอ (ลีลา 555) แม่จำปาจึงต้องกำชับว่า เจ้าก็ดูแลน้องให้ดีอย่าให้คลาดสายตา
ทำเอานางเอกก้มลงอมยิ้ม เห็นมั้ย ฉันได้ไปงานแข่งเรือ โดยไม่ต้องง้อคุณพี่ก็ได้
ในขณะที่พระเอกมองนางเอกแว๊บหนึ่ง แล้วอมยิ้มแบบเหนือชั้นกว่า "เสร็จข้าล่ะ แม่การะเกด"
555 เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ผมชอบว่ะ