วันนี้ไม่มีรูปค่ะ เพราะเป็นวันที่วุ่นวายมากที่สุดของทริปนี้เลย เรียกว่าตั้งแต่มาถึงโคโลจน์นี่ได้พจญภัยทุกวินาทีเลยทีเดียว
ก่อนอื่นต้องเกริ่นได้ก่อนที่จะบินมา เราได้ทำการจองกัยสายการบินยุโรปแห่งนึง ชื่อ WOW AIR เราไม่รู้ว่าสายนี้มีรูทบินไปเอเชียรึป่าวนะ
แต่เรานั่งจากอเมริกามาเที่ยวทริปนี้ หลังจากที่เราจองตั๋วมาได้สัก 1 เดือน ก็มีเมล์จากสายการบินมาแจ้งว่าได้ยกเลิกเที่ยวบินขากลับของเราจากโคโลจน์กลับอเมริกานั่นเอง เราก้ตามตลอด โทรเช็คกับสายการบินมาเรื่อยๆ ทุกวีคเลย แต่ก็ไม่ได้ตั๋วใหม่มา จนกระทั่งถึงวันที่เราต้องออกเดินทาง เรายังไม่ได้ตั๋วขากลับ ก่อนจะขึ้นเครื่องไปฮอลแลนด์ เราก็โทรไปที่ Customer Service และ พนง ก็รับปากว่าเราจะได้ตั๋วแน่นอนการันตี ขาไปการเดินทางราบเรียบ นอกจากการยังไม่ได้ตั๋วขากลับที่แน่นอน จนกระทั่งเช้าวันนี้ที่ต้องกลับบ้านแล้ว เรายังไม่รู้เลยว่าจะกลับยังไง ต้องไปสนามบินไหน เพราะโคโลจน์สามารถไปขึ้นได้ 2 สนามบิน เราพยายามติดต่อทุกวันเลย แต่ก็เงียบ จนสุดท้ายต้องขอช่วยเพื่อนที่อยู่อเมริกาโทรติดต่อให้ เพราะเราไม่ได้เปิดโรมมิ่งไป
ระหว่างนั้น เราก็คิดว่าต้องไปสนามบินที่ตั๋วใบที่โดนแคนเซิ่ลมาแหละ เพราะดูจ make sense ที่สุดละ เราก็ซื้อจากรถไฟจากสถานีรถไฟไป Köln/Bonn Airport เราเรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าต่อรถไฟผิดค่ะ
คือตอนที่เราซื้อตั๋วเราก็ถามพนักงานว่าฉันต้องเปลี่ยนสายรึป่าว แต่นางบอกว่าไม่ได้ นั่งยาวได้เลย สุดปลายทาง แล้วตอนที่ขึ้นรถไฟก็ยากมากในการหาชานชาลา เรามีรูปประกอบการดูชานชาลาในดูนะ คืองงมาก เที่ยวจบกลับมาถึงทุกวันนี้ยังไม่เก็ตเลยว่าดูยังไง ที่สำคัญไม่มีภาษาอังกฤษค่ะ เราก็พยายามถามคนแถวๆ นั้น ซึ่งบางคนก็พูดอังกฤษได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จนสุดท้ายก็ได้ขึ้นถูกสาย

นั่งไปสักพักนึงได้ยินเสียงประกาศ Airport อะไรสักอย่าง ไม่ถนัด เราคือเขาประกาศรอบเดียวไง แถมเป็นภาษาเยอรมันแล้วเสียก้เบามากด้วย ทั้งๆ ที่บนรถไฟก็เงียบอยู่นะ เราแทบไม่ได้ยินอะไรเลย แต่คิดว่าน่าจะออกไปก่อน ถ้าเกิดต้องไปสายนี้จริงๆ ไว้รอคันหน้ามาก้ได้ เรานั่งตรงประตูเลย แต่ที่นี่คือการเข้าออกต้องกดประตูให้เปิดนะ ไม่งั้นไม่เปิด เราก็พย๊ายามสุดท้ายไม่เปิด แล้วรถไฟก็ค่อยๆ คลานออกจากชานชาลา คิดในใจหลงทางแน่ๆ คนบนรถก็น้อย แถมถามใครเขาก็พูดอังกฤษไม่ได้ เราเลยตัดสินใจออกป้ายหน้า แต่ป้ายหน้านั้นก็ไกลออกไปมาก เกือบครึ่งชั่วโมง แล้ววิว 2 ข้างทางเริ่มเป็นชนบทในใจคิดละ หลงทางแน่ๆ จนมาถึงสถานีที่เราตั้งใจจะลง ก้ลงแล้วก้รีบถามคุณลุงกับคุณป้าคู่นึง เขาก็พยายามช่วยเรามากแต่ปัญหาคือเขาพูดอังกฤษไม่ได้ค่ะ แต่เขาก็พยายามถามคนแถวๆ นั้น 2-3 คนว่ามีใครพูดอังกฤษได้บ้างมั้ย ปรากฎว่าไม่มีเลย มาถึงตอนนี้ไม่รู้อะไรเลย รู้อย่างเดียวว่าเขารอรถกันนานมาก แล้วขบวนต่อไปที่จะมาอีกเกือบชั่วโมงเลย เราก็คิดในใจสงสัยจะได้ติดแหง่กอยู่ที่นี่รึป่าวว๊า สุดท้ายคุณลุงบอกว่าไม่เป็นไรให้ขึ้นไปกับเขาขบวนหน้าแล้วฉันจะหย่อนเธอไว้ให้เธอไปต่อสายใหม่ ตอนนั้นคือโมโหและเสียเวลามาก ที่สำคัญได้ตั๋วเครื่องบินมาแล้ว แต่ปรากฎว่าต้องไปอีกสนามบินนึงที่ไกลออกไป เรียกว่าคนละทางกับที่เรามาเลย ชื่อว่า Düsseldorf Airport

แล้วคือต้องซื้อตั๋วกลับเข้าไปใหม่ค่ะ เราก็ถูกหย่อนไว้ ณ สถานีอะไรสักอย่าง จำไม่ได้แล้ว ภาษาเยอรมันบอกเลยว่าไม่ถนัดจริงๆ เราก็เดินที่หาคนขายตั๋วเพื่อจะซื้อตั๋วไป Düsseldorf Airport ก็เหมือนเดิมถามทุกสิ่งอย่างและเรื่องการเปลี่ยนสายรถไฟ ปรากฎว่า งง ไม่รู้เรื่องอ่า รู้แค่ว่าให้ไปที่ชานชาลานี่แล้วยังไงต่อคือต้องไปดูตารางอีกทีว่าจะต้องขึ้นขบวนที่มาถึงกี่โมง คือมันยากตรงนี้นี่แหละ งง และ งง มาก เราก้ถามคนที่รอรถไฟแถวๆ นั้น 3-4 คนแรกบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน ฉันก็ดูไม่เป็น เราก็แบบ เอ้า! เจ้าถิ่นไม่เป็นแล้วเราจะเป็นมั้ย บางคนก็แบบ อ่อ ฉันพูดอังกฤษไม่ได้ คืออะไร ทำไมมันยากเย็นจังกับการขอช่วยดูรถไฟเนี่ย จนคนสุดท้ายเราก็ถามอีกรอบ เขาบอกว่าน่าจะใช่ตรงนี้แหละ เด๋วรอรถไฟมาอีกทีแล้วเขาจะส่งสัญญาณให้นะ 555 คือจริงๆ เราก็เดาๆ ตามที่คนขายตั๋วบลอกมา แต่เราไม่ค่อยมั่นใจเพราะนางก็ไม่ค่อยมั่นใจไง ตอนบอกเรา เราก็อยากจะมั่นใจว่าไม่ผิดแล้วนะ และตอนนั้นก็รีบมา มีเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ต้องไปถึงสนามบิน จากที่ๆ ที่เราอยู่ ณ จุดๆ นั้นคือ นั่งรถไฟไปประมาณ 1 ชั่วโมง แต่เราก็เช็คอินออนไลน์ไว้ละ กะว่าไปถึงก็เข้าซีเคียวได้เลย

จนรถไฟมาจอดเขาก็ส่งสัญญาณแล้วก็เดินแยกทางจากเราไปเลย ในใจแอบคิดทำไมไม่ส่งเราให้ถึงที่หว่าเน้อะ เราก็เลือกนั่งกับคนที่ดูหน้าตาใจดี ที่สำคัญของนั่งเบาะที่มีคนนั่งอยู่ด้วยนะ เพราะจะต้องถามอีกแน่ๆ จนรถไฟเริ่มออกไปได้ 20 นาที เราก็ถามคนข้างๆ ว่าอะไร ยังไง ลุงคนนี้ใจดีมาก บอกเราแล้วส่งเราลงถึงที่เลย พอรถไฟจอดเราก็รีบวิ่งเข้าสนามบินไปที่บอร์ดเพื่อจะเช็คเกท ปรากฎว่าไฟล์ทดีเลย์ เหลือเวลาเดินเล่นชิลๆ อีก 4 ชั่วโมง ว่าแล้วก็ขอแวะไปที่เค้าท์เตอร์ WOW AIR ก่อน ทำการคอมเพลน เสร็จแล้วเราก็ไปที่เค้าท์เตอร์ Air Berlin เพราะตั๋วใหม่ที่ได้มายังไม่มีเลขที่นั่งให้ ต้องไป update อีกที นางก็เช็คๆๆ แล้วบอกว่าให้เข้าไปขอที่นั่งหน้าเกท ตอนนั้นก็แอบกังวลที่นั่งจะเต็มรึป่าว จนสุดท้ายเข้าไปข้างใน รอ ร๊อ รอ พนง ก็ไม่ยอมให้ที่นั่งซะที เราก็กังวลเพราะได้ยินคนคุยกันว่าโดนยกเลิกไฟล์ทมาเหมือนกัน ซึ่งเยอะประมาณนึงเลย จนสุดท้าย เรียก Boarding ถึงจะได้เลขที่นั่งแล้วเราก็นั่งแบบหางเลย เป็นการบินที่โหดร้ายมาก เพราะตกหลุดอากาศบ่อยมากอยู่ช่วงนึง แล้วก็แบบสั่นไปทั้งลำ บรรยากาศแบบนั่งโรเลอร์โคลเตอร์เลยอ่า เราก็สวดมนต์ๆๆๆ อีกแระ ตอนนั้นแบบอยากจะกรี๊ดมา แต่ต้องหักห้ามใจ แต่อย่างนึงที่อยากบอกเกี่ยวกับ Air Berlin คือบนเครื่องบริการดีมาก น้ำไม่ขาด Entertainไม่อั้นจริงๆ

ที่นั่ง พร้อมผ้าห่ม


อาหารบนเครื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ท่านจะไม่ได้รับจาก WOW AIR ค่ะ ถ้าเทียบแล้ว WOW AIR = Air ASIA นั่นเอง


และแล้วทริปนี้ก็จบลงด้วยความตื่นเต้น เหงา สนุก เรียกว่าครบทุกรสชาติจริงๆ ทริปแรกกับการแบกเป้เที่ยวคนเดียว ที่เคยเป็นความฝันมาตลอด จนวันนี้เราได้ทำมันสำเร็จแล้ว และนั่งไม่ใช่การเที่ยวคนเดียวของเราอีกต่อไป
สำหรับใครที่อยากจะทำอะไร ไม่ใช่เฉพาะแค่การท่องเที่ยวนะค่ะ เราว่าถ้ามีโอกาสลองทำมันเถอะค่ะ ถึงจะมีอุปสรรคบ้างระหว่างทาง แต่เมื่อเราผ่านมันมาได้แล้วมองย้อนกลับไปข้างหลัง เราจะรู้เลยว่าจริงๆ แล้ว การที่เราได้ทำอะไรสักอย่างที่เราเคยใฝ่ฝันเอาไว้ให้มันสำเร็จ มันเหมือนเป็นการทดสอบตัวเองว่าเราแกร่งแค่ไหน แล้วเราได้เรียนรู้อะไรมาเพิ่มบ้าง เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันในตัวของตัวคุณเอง เรามีเพื่อนหลายคนที่ชอบบ่นว่าอยากทำนู้น ไปนี่แต่ไม่มีใครทำด้วย ไปด้วย จรองๆ แล้วการเที่ยวคนเดียวไม่ได้ยากอะไรมากมาย เพียงแต่ต้องทำการบ้านหาข้อมูลมาดีๆ แล้วที่สำคัญต้องไวและรู้จักระวังตัวเท่านั้นเองค่ะ สำหรับทริปนี้เราขอจบการท่องเที่ยวของเราไว้ด้วยภาพอำลามุมจากที่ Düsseldorf กันนะค่ะ
จนกว่าจะกลับมาใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้อีกเมื่อไหร่ เยอรมันกับเราคงจะอีกสักพักเลยจริงๆ

สำหรับรีวิวที่เที่ยวในวันอื่นๆ ของทริปนี้ติดตามได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะค่ะ
https://pantip.com/topic/37500575 วันแรกเที่ยว Amsterdam
https://pantip.com/topic/37507648 วันที่ 2 Zaanse Schans กับ Volendam
https://pantip.com/topic/37510980 วันที่ 3 เก็บตกอัมสเตอร์ดัม + นั่งรถไฟไปบรัสเซล
https://pantip.com/topic/37533741 วันที่ 4 เที่ยว Bruges + Gent เมืองมรดกโลก
https://pantip.com/topic/37573568 วันที่ 5 นั่งรถไฟตะลุย Luxembourg
https://pantip.com/topic/37718956 เก็บตก วันที่ 5 Flower Carpet ที่ Brussels
https://pantip.com/topic/37715596 วันที่ 6 เที่ยวโคโลจน์ ประเทศเยอรมนี เจออะไรบ้าง ต้องขยาย!!
[CR] ลุยเดี่ยว เที่ยว Benelux + Germany ดินแดนในฝัน
ก่อนอื่นต้องเกริ่นได้ก่อนที่จะบินมา เราได้ทำการจองกัยสายการบินยุโรปแห่งนึง ชื่อ WOW AIR เราไม่รู้ว่าสายนี้มีรูทบินไปเอเชียรึป่าวนะ
แต่เรานั่งจากอเมริกามาเที่ยวทริปนี้ หลังจากที่เราจองตั๋วมาได้สัก 1 เดือน ก็มีเมล์จากสายการบินมาแจ้งว่าได้ยกเลิกเที่ยวบินขากลับของเราจากโคโลจน์กลับอเมริกานั่นเอง เราก้ตามตลอด โทรเช็คกับสายการบินมาเรื่อยๆ ทุกวีคเลย แต่ก็ไม่ได้ตั๋วใหม่มา จนกระทั่งถึงวันที่เราต้องออกเดินทาง เรายังไม่ได้ตั๋วขากลับ ก่อนจะขึ้นเครื่องไปฮอลแลนด์ เราก็โทรไปที่ Customer Service และ พนง ก็รับปากว่าเราจะได้ตั๋วแน่นอนการันตี ขาไปการเดินทางราบเรียบ นอกจากการยังไม่ได้ตั๋วขากลับที่แน่นอน จนกระทั่งเช้าวันนี้ที่ต้องกลับบ้านแล้ว เรายังไม่รู้เลยว่าจะกลับยังไง ต้องไปสนามบินไหน เพราะโคโลจน์สามารถไปขึ้นได้ 2 สนามบิน เราพยายามติดต่อทุกวันเลย แต่ก็เงียบ จนสุดท้ายต้องขอช่วยเพื่อนที่อยู่อเมริกาโทรติดต่อให้ เพราะเราไม่ได้เปิดโรมมิ่งไป
ระหว่างนั้น เราก็คิดว่าต้องไปสนามบินที่ตั๋วใบที่โดนแคนเซิ่ลมาแหละ เพราะดูจ make sense ที่สุดละ เราก็ซื้อจากรถไฟจากสถานีรถไฟไป Köln/Bonn Airport เราเรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าต่อรถไฟผิดค่ะ
คือตอนที่เราซื้อตั๋วเราก็ถามพนักงานว่าฉันต้องเปลี่ยนสายรึป่าว แต่นางบอกว่าไม่ได้ นั่งยาวได้เลย สุดปลายทาง แล้วตอนที่ขึ้นรถไฟก็ยากมากในการหาชานชาลา เรามีรูปประกอบการดูชานชาลาในดูนะ คืองงมาก เที่ยวจบกลับมาถึงทุกวันนี้ยังไม่เก็ตเลยว่าดูยังไง ที่สำคัญไม่มีภาษาอังกฤษค่ะ เราก็พยายามถามคนแถวๆ นั้น ซึ่งบางคนก็พูดอังกฤษได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จนสุดท้ายก็ได้ขึ้นถูกสาย
สำหรับใครที่อยากจะทำอะไร ไม่ใช่เฉพาะแค่การท่องเที่ยวนะค่ะ เราว่าถ้ามีโอกาสลองทำมันเถอะค่ะ ถึงจะมีอุปสรรคบ้างระหว่างทาง แต่เมื่อเราผ่านมันมาได้แล้วมองย้อนกลับไปข้างหลัง เราจะรู้เลยว่าจริงๆ แล้ว การที่เราได้ทำอะไรสักอย่างที่เราเคยใฝ่ฝันเอาไว้ให้มันสำเร็จ มันเหมือนเป็นการทดสอบตัวเองว่าเราแกร่งแค่ไหน แล้วเราได้เรียนรู้อะไรมาเพิ่มบ้าง เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันในตัวของตัวคุณเอง เรามีเพื่อนหลายคนที่ชอบบ่นว่าอยากทำนู้น ไปนี่แต่ไม่มีใครทำด้วย ไปด้วย จรองๆ แล้วการเที่ยวคนเดียวไม่ได้ยากอะไรมากมาย เพียงแต่ต้องทำการบ้านหาข้อมูลมาดีๆ แล้วที่สำคัญต้องไวและรู้จักระวังตัวเท่านั้นเองค่ะ สำหรับทริปนี้เราขอจบการท่องเที่ยวของเราไว้ด้วยภาพอำลามุมจากที่ Düsseldorf กันนะค่ะ
จนกว่าจะกลับมาใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้อีกเมื่อไหร่ เยอรมันกับเราคงจะอีกสักพักเลยจริงๆ
สำหรับรีวิวที่เที่ยวในวันอื่นๆ ของทริปนี้ติดตามได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะค่ะ
https://pantip.com/topic/37500575 วันแรกเที่ยว Amsterdam
https://pantip.com/topic/37507648 วันที่ 2 Zaanse Schans กับ Volendam
https://pantip.com/topic/37510980 วันที่ 3 เก็บตกอัมสเตอร์ดัม + นั่งรถไฟไปบรัสเซล
https://pantip.com/topic/37533741 วันที่ 4 เที่ยว Bruges + Gent เมืองมรดกโลก
https://pantip.com/topic/37573568 วันที่ 5 นั่งรถไฟตะลุย Luxembourg
https://pantip.com/topic/37718956 เก็บตก วันที่ 5 Flower Carpet ที่ Brussels
https://pantip.com/topic/37715596 วันที่ 6 เที่ยวโคโลจน์ ประเทศเยอรมนี เจออะไรบ้าง ต้องขยาย!!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้