[SR] Taj Mahal Touch My heart 7 วัน 7 พัน จัยปูร์-อัครา-อุดัยปูร์ อย่าตัดสินเพียง“เค้าเล่าว่าอินเดีย” มาเองถึงได้รู้

Taj Mahal Touch My heart 7 วัน 7 พัน จัยปูร์-อัครา-อุดัยปูร์ อย่าตัดสินเพียง“เค้าเล่าว่าอินเดีย” มาเองถึงได้รู้
ตอนที่ 1 https://pantip.com/topic/37714482
ตอนที่ 2 https://pantip.com/topic/37714588


จัยปูร์ เมืองสีชมพู???
วาร์ปมาถึงจัยปูร์ก็ค่ำพอดี อยากลองเรียก Uber ดู เพราะถูกกว่าเยอะ แต่ไม่สำเร็จครับรอนานมาก เปลี่ยนมานั่งแท็กซี่ของรัฐบาลเช่นเคย ราคาเท่าตอนมาวันแรก 450 รูปี ให้มาส่งที่ Krishna Palace Hotel ใช้เวลาไม่นาน อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟนี่แหละ ความรู้สึกแรก เหมือนมาถึงบ้านเพื่อน ชอบโรงแรมนี้มากๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีบูติก โฮลเทล สไตล์เฮอริเทจ ซ้อนตัวอยู่ในซอยเล็กๆ ที่นี้ปลอดเสียงคนเสียแตร เงียบสงบดีมาก แม้มองในมุมมืดก็รู้สึกได้ว่าที่นี่สวยโคตรๆ (คั่นโฆษณาให้นิดส์ ของเค้าดีจริงๆ) แต่วันนี้เหนื่อยแล้ว ขอพักก่อนพรุ่งนี้ตื่นเช้าๆมาสำรวจโรงแรมรอบๆกัน


“นมัสเต จัยปูร์” ตื่นมาตอน 6 โมงเช้า ที่นี่สูดอากาศได้แบบไม่กังขาใดๆ ยิ่งเดินดูรอบๆก็ยิ่งชอบ พนักงานต้อนรับดี มีอาหารอร่อย ขอรีวิวที่พักเบาๆ ก่อนออกไปเที่ยว(บางที่ที่อยากไป) คงไปไม่ครบเพราะงบมันน้อย ตัดสินใจโบกตุ๊ก ตุ๊ก ราคา ไปกลับ 700 รูปี ไม่รู้ว่าถูกหรือแพง “เอาล่ะ ได้เวลาผจญภัยบนถนอินเดียอย่างเต็มรูปแบบ” ที่แรกที่จะไปอยู่ไกลจากตัวเมืองผ่านเนินเขา เลย Amber Fort ไปสักพัก ถ้าเป็นบ้านเราก็จะเป็นอีกตำบลหนึ่งนั่นแหละ ผมอยากมาดูบ่อน้ำขั้นบันได Panna Meena Ka Kund Stepwells ไม่อลังการงานสร้างเท่า Chand Baori บ่อน้ำขั้นบันไดขนาดใหญ่ อยู่ค่อนไปทางเมืองอัครา เคยอ่านข้อมูลมาว่า บ่อน้ำขั้นบันได เป็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนที่ขุดบ่อให้ลึกๆเข้าไว้ แล้วทำเป็นขั้นบันได เมื่อระดับน้ำลดระดับก็จะได้เดินลงไปตักมาใช้ได้อย่างง่ายดาย กลายเป็นสถาปัตยกรรมน่าทึ่งในปัจจุบัน แต่ดูเหมือนคนไทยกลุ่มหนึ่งอาจจะไม่อิน(หรือเปล่า) เห็นคุณเธองัดเอาทั้งพร็อพทั้งคอสตูมมาโพสต์ท่าถ่ายรูป ประหนึ่งมาเพื่อถ่ายภาพเรียกไลค์แค่นั้นจบ (เรื่องนี้เราจะไม่ยุ่ง เป็นสิทธิความชอบส่วนบุคคล) “เอ้า ได้ไงอ่ะ ไม่ให้ลงไปข้างล่าง แล้วตรูจะเอาเสื้อผ้ามาทำเพื่อ” หนึ่งในนั้นสบถออกมาด้วยอาการเซ็งสุดขีด ก่อนเสียงเพื่อนๆ จะพลุสวาทคำไม่สุภาพออกมาสมทบ ผมใช้เวลาอยู่สักพัก เพื่อเฝ้าดูพวกเธออยู่ห่างๆพอๆกับจนท.ที่จ้องเราอยู่ยังกับกล้องฟูจิโก๊ะก็ไม่ปาน เพราะกลัวคนเดินลงไปแล้วเกิดอันตราย “พวกเรามันบอกว่าถ้าไม่มีคนแล้วจะให้เราลงไปข้างล่างได้คนละ 5 นาที ก็ยังดีว่ะAnimal” เสียงแก๊งค์แฟชั่นนิสต้าสาวไทยตะโกนบอกเพื่อนอย่างดีใจ ที่จะได้ลงไปโพสต์ท่าก้นบ่อน้ำ “โอ้ น้องเอ๋ย ข้านับถือความพยายามของพวกเจ้ายิ่งนัก”

ผมกับพี่สารถี ขับออกมาจากจุดนั้น มุ่งหน้าเข้าเมือง ผ่าน Amber Fort แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าแวะคงต้องใช้เวลาพอสมควร ได้แต่ตั้งจิตคิดในใจ “เจ้าพระคุ๊ณ หากลูกช้างมีบุญให้ได้มาอีกทีเถ๊อะ”
ผมให้พี่คนขับส่งหน้า Jaipur City Palace เป็นจุดต่อไป
City Palace of Jaipur  เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1797 สมัย Maharaja Sawai Jai Singh II (มหาราชา ไสวจัย ซิงห์ ที่ 2) และได้รับการบูรณะซ้อมแซมจากรุ่นสู่รุ่น เป็นพระราชวังที่ออกแบบอย่างงดงามตระการตา สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างราชปุตกับโมกุลเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ค่าเข้า 500 รูปี “ผมถูกถามอีกแล้ว” มาจากไหน ชื่ออะไร ไชน่าใช่ไหม ไอ้กระผมก็เพลินที่จะตอบนะ555 สนุกดี

จากจุดนี้ถ้าเดินออกทางจุดเดิม เปิด GPS นำทางไปวัดฮินดู(ชื่ออะไรผมก็ลืม) เดินตรงไปทางซ้ายมือไม่นานก็เจอ “แต่ปิด!” วัดนี้เปิดปิด 2 ช่วง เปิดอีกทีก็บ่าย 3 โมงเย็น พี่ตุ๊ก ตุ๊ก ตื้อผมไม่เลิกตั้งแต่ออกมาแล้ว ตื้อหนักมากอ่ะ ตัดรำคาญเลยให้ไปส่ง ณ แลนด์มาร์กของจัยปูร์เลยล่ะกัน ในงบ 150 รูปีก็ถือว่าถูก พี่แกก็พาผมมาถึงพระราชวังสายลม Hawa Mahal ใครไม่มาถือว่ายังไม่ถึงเมืองนี้เลยทีเดียว อ่านจากประวัติแล้ววังแห่งนี้น่าสนใจมากนะ เป็นหนึ่งในตำหนักสำคัญของ Jaipur City Palace มีหน้าต่างขนาดเล็กตกแต่งด้วยลวดลายฉลุ จำนวน 953 บาน(จริงป่ะ ผมไม่ทันนับ) เพื่อให้นางในในวัง มองเห็นวิถีชีวิตของผู้คนโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เพราะจะดูไม่งามนะออเจ้า อยากแรกที่พยายามถามตัวเอง “มันสีชมพูจริงๆเหรอว่ะ มองไงก็ออกส้มๆ อ่ะๆ ชมพูก็ชมพู” มองรอบๆเท่าที่สายตาจะมองเห็น สังเกตได้ว่าตึกราบ้านช่องกำลังเร่งปรับปรุงซ้อมแซม แต่งแต้มสีสันให้เป็นโทนเดียวกันหมด อาจจะเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นให้ได้อินตามธีมเมืองที่โปรโมทไว้

เปลี่ยนมามองมุมสูงบ้าง มีสองร้านที่แข่งกันเรื่องวิวสวย คือ ร้าน Tattoo Cafe’ และร้าน Wind View Coffee ผมเลือกร้านหลัง “เออ มุมดีจริงๆ” ตอนนั้นหิวมาก สั่งซามัวซ่า 2 ชิ้นกินกับคาปูชิโน่เย็นแกล้มวิวไปพลาง คนในร้านบอกว่า “ที่นี่คนไทยมาเยอะ นุ่นกับเบลล่าก็เพิ่งมาที่นี่นะ” อืม รู้จักด้วยนะเนี่ย ถ้าร้านนี้อยู่เมืองไทยนะ ป่านนี้เจ้าของร้านคงขอถ่ายรูปคู่ซุปตาร์ แปะข้างผนังร้านจนเต็มไปหมด ดื่มด่ำกับบรรยากาศสักพักใหญ่ ลงมาเดินหาซื้อของฝากข้างทางอยู่สักพักจนถึงบ่ายอ่อนๆ ก่อนกลับที่พัก ชักหิวและเหนื่อย อยากเอนหลัง

ดินเนอร์มื้อสุดท้าย ผมสั่ง Dal Fry+แป้งโรตี้ กับน้ำอัดลมเย็นๆ อ๋อ ลืมบอกไป จริงๆผมจองไว้แค่คืนเดียวแต่เกิดติดใจเลยขอต่ออีกคืน(คืนละ 790 รูปี) แต่ไม่เต็มวันดี ตี 3 คืนนี้ผมนัดให้รถมารับ ไปสนามบิน กลับกรุงเทพไฟล์ต 06.15 น. เพราะฉะนั้นคืนนี้ของฟินกับหนังอินเดีย เพลงภาษาฮินดีให้หนำใจนะจ๊ะนาย...

Knock Knock…Knock Knock  ราวๆตี 3 รีเซฟชั่นก็มาเคาะหน้าห้อง กระชับเป้บนหลัง พร้อมเดินทางกลับ แอบใจหายนิดหน่อยที่ต้องไปกลับซะแล้ว
จัยปูร์ตอนกลางคืนอากาศยังเย็นเหมือนเคยสัมผัส ถนนโล่ง ไม่นานก็มาถึงสนามบินนานาชาติจัยปูร์ ได้เวลาบินกลับไทย
...อินเดียไม่เพลียอยากที่คิดนะครับคุณ แม้ผมจะมีเวลาเที่ยวแต่ละเมืองน้อยกว่าเพื่อนๆคนอื่นๆที่เคยมา ผมยอมรับว่าก่อนไปมีหวั่นๆกล้าๆกลัวๆอยู่เหมือนกัน เพราะโดยสปอยจากบรรดาเพื่อนประเภทไม่เคยมาแต่ “เค้าเล่าว่า...” ยังดีที่มีแรงผลักจากความสนใจประวัติศาสต์อินเดีย แขกขายโรตีหน้าเซเว่น ละครนาคินและมิสอินเดียด้วย  ความอยากไปรู้ไปเห็นเต็มไปหมด มันมากพอ จนชนะมารทั้งปวง เงินก็ไม่ค่อยจะเยอะ อยากไปก็อยาก แต่ทริปนี้ได้เห็นอะไรต่อมิอะไรมากมาย มุมที่ไม่ดี ก็ใช่ว่าจะเลวร้ายจนรับไม่ได้ และคิดว่าบ้านเราก็มีแบบนี้เหมือนกัน ต่างชาติมาเที่ยวเค้าก็คงมีบ้างที่ระแวงคนไทยเหมือนคนไทยไปอินเดียนั่นแหละ ลองเปิดตาเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ อินเดียเป็นประเทศน่าเที่ยวมากๆ ด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม อาหารการกิน  คนอินเดียถึงหน้าดุบ้าง แต่ขอบอกเค้าให้ใจเราเต็มที่ เป็นมิตรฮิบหาย ที่เห็นว่าเค้าแอบมอง you อยู่นะจ๊ะนั้น ส่วนมากรอจังหวะที่จะเข้ามาทักทายถามไถ่ พอคุ้นเคยก็จะจับมือโอบไหล่ ผมนี่เสียตัวอยู่บ่อยๆ โอบกอด จับมือ ดูเค้าตื่นเต้นมากกับการมาถึงของเรา ตอนอยู่อุดัยปูร์มีวัยรุ่นกลุ่มสองกลุ่ม เข้ามาถามไถ่และขอถ่ายรูป ประหนึ่งเป็นคนดังหยังไงหยั่งงั้น ทุกที่มีขาวก็ต้องมีดำเป็นธรรมดา ส่วนไม่ดีที่น้อยนิด ก็มองให้เป็นสีสันเบี้ยบ้ายรายทางไปก็แล้วกันครับ
เสน่ห์อินเดียมีให้เห็นทุกซอกทุกมุมจริงๆ  อย่าปฏิเสธใจตัวเองเลย ยอมรับเถอะว่า ที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมา ก็เพื่อมาดูให้เห็นในภาพที่อยากเห็น รับรูปในโสตสัมผัสทั้ง5 นี้ไม่ใช่เหรอ ถ้าใช่ก็ตอบกันมาตรงๆ
“แย่ล่ะ ผมชักติดท่าเอียงหัวนิดๆ แทนคำว่า “ตกลง” สไตล์อินเดียกลับมาด้วยแล้วล่ะซิ”  
ชื่อสินค้า:   เที่ยวอินเดีย Rajasthan
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่