เกริ่นก่อนนะครับว่า ผมก็เป็นคนนึง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับวงจรมนุษย์เงินเดือน ที่ต้องดิ้นรนเพื่อให้วันนึงจะมีทางหลุดพ้นไปได้
(ไม่ได้ชวนมาขายตรงนะ อย่าเพิ่งปิด ถ้าใครอยากอ่านแค่รีวิวของกิน ข้ามไปช่วงท้ายเลยนะ 5555)
เป็นวัฎจักรเดิมๆ ที่มนุษย์เมืองหลายคนก็ต้องเจอเหมือนกัน (ถ้าทำงานในย่านออฟฟิศต่างๆ)
.
ตื่นเช้ามาเพื่อ.... เจอกับคุณภาพชีวิตดีๆ ที่ลงตัว ....โคตรๆ
เสียเวลา 2 ชม ไปกับรถติด หรือถ้าไม่ขับรถก็ต้องยอมพลีกายให้กับชายแปลกหน้าในรถไฟฟ้า..(เบียดกว่านี้ถ้าท้องได้ก็ท้องไปละ)
เจอแจ็คพอต กับวันที่รถไฟฟ้าเสีย (สายตัวแดงโดน Hr เรียกคุยอีก ความผิดกรูใช่มั้ยเนี่ย)
ส่วนเรื่องเจ้านายกับเพื่อร่วมงาน ข้ามไปเนอะรู้ๆกันอยู่ 5555 คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก อันนี้จริง
.
พักเที่ยง....
วิ่งสี่คูณร้อยไปยังศูนย์อาหาร เพื่อจองที่นั่ง (บริษัทไหนที่มีโรงอาหารของตัวเองก็โชคดีไป) รสชาติอาหารก็...นะ
.
เย็น... เหมือนตอนเช้า แค่พระอาทิตย์ตก.. อาศัยกินอาหารระหว่างทางกลับบ้านไป เพราะจะให้ไปตามร้านคนก็เยอะและ...ไม่มีตังค์ 555
เป็นลูปๆวนแบบนี้ ต้นเดือนอาจจะได้กินของอร่อยหน่อย ปลายเดือนก็ข้าวราดแกง ผมรู้สึกมาตลอดว่า เบื่อ กับชีวิตแบบนี้ แต่ทำไงได้อะครับ ถึงรูปจะหล่อ (หลงตัวเองโคตรๆ 55 ) แต่พ่อไม่รวย ก็ใช้ชีวิตแบบเฮง- ต่อไป ผมคิดแบบนี้ คิดมาตลอด จนเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้า...โรคยอดฮิตของปี 2018
.
บางคนบอกว่า อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น เพราะจะทำให้เครียด ไม่มีความสุข ผมก็คิดมาตลอดนะว่ามันจริง จนเลิกเปิดดูเฟสบุ๊คไปช่วงนึง เพราะเวลามีคนโพสอะไรประสบความสำเร็จ บางทีมันก็ทำให้ผมมองย้อนนะว่าตัวเองทำไรอยู่ (แต่ก็นั่นแหละ ด้านแย่ๆคงไม่มีใครโพสกันเท่าไร) แต่แล้ววันนึงไอ้ความคิดที่ว่า การเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่นมันจะทำให้เรารู้สึกแย่ ก็เปลี่ยนไป....
.
เมื่อสองวันก่อนด้วยความที่ลูกค้างานเร่งมาก (จริงๆก็ไม่เห็นมีใครไหนนะที่ไม่เร่งอะ ทำไมไม่สั่งตั้งแต่เมื่อวาน !! 55 ) ผมเลยต้องกลับดึกกว่าปกติ (โอทีไม่มีมีแค่ โอ้โห ... ฟรี) รถไฟฟ้าก็หมด เลยนั่งแท็กซี่มาลงหน้าปากซอย กะว่าหาไรกินหน่อยก่อนเข้าบ้าน ผมก็เดินผ่านร้านราเมนร้านนึง เป็นร้านราเมนแบบบ้านๆข้างทาง
ผมเคยเห็นในหนังคนญี่ปุ่นชอบไปกินร้านราเมนข้างทาง เพื่อปรับทุกข์กับเพื่อนร่วมงาน เวลาเครียดๆ ผมเลยคิดว่าเออ เอาวะลองสักหน่อย (อีกอย่างพวกร้านรถเข็นไม่น่าจะแพงมาก) พอเดินเข้าไปดู อืม 80 ราคารับได้ เพราะตามห้างก็ 100+ หมดละ
แต่ก่อนสั่ง ผมดันมองไปเห็นเด็กกลุ่มนึง แต่งตัวปอนๆ มากัน 4 กำลังนั่งซดราเมนอยู่ ด้วยความสงสัยเลยก็เลยถาม (อย่าหาว่าสอใส่เกือกเลยนะ 55) ว่าทำไมมากินกันแต่เด็กๆ พ่อแม่ไปไหน

ผม : อร่อยมั้ยเนี่ย (เช็คก่อนสั่งของตัวเอง 555 )
เด็ก : อร่อยดิพี่
ผม : เออแล้วนี่มาทำไรกัน พ่อแม่ไปไหน
เด็ก : พ่อไม่มีพี่ แม่เก็บของขาย นี่มาช่วยแม่ (จึ้กไปอีก)
(คิดในใจ เก็บของขายแล้วมานั่งกินราเมนแบบนี้ รวมๆกันก็เป็นสองสามร้อยอยู่นะ)
ผม : เออ แล้วเนี่ย กินแค่นี้อิ่มมั้ย ใครเลี้ยงเนี่ย
เด็ก : ก็อิ่มนะพี่ ไม่มีใครเลี้ยงแต่นี่กินฟรี
งง สิครับ กินฟรีก็ได้เหรอไม่มีใครเลี้ยงเนี่ยนะ เลยเดินเข้าไปก็ถึงบางอ้อ เพราะเจอกับป้ายนี้

ถ้าคนขี้เกียจอ่านป้าย ผมสรุปให้ คือเรากินแล้วเราสามารถซื้ออีกชามแปะไว้ ให้ใครก็ได้มากินฟรี Social Enterprise มากกเวอร์ ( หมายถึงการทำกิจการแต่มีการให้กับสังคมด้วย) ผมว่ามันก็เวิร์คดีนะ ให้กันได้เลยแบบเห็นๆ ไม่ต้องรอออกข่าวบริจาค แต่เป็นการให้เงียบๆที่ได้จริง อิ่มจริง แต่รสชาตินี่อีกเรื่องนะ ถ้าอร่อยก็ว่าอร่อย ไม่อร่อยก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า..555

ส่วนตัวผมคิดว่ากับราคาเท่านี้ รสชาติก็ได้เกินราคาอยู่ (เดี๋ยวรีวิวแปะไว้ล่างสุด) สรุปวันนั้นผมก็สั่งไป 2 ชาม กินเองอันนึง แปะไว้อีกอัน (สรุปจ่ายเกือบสองร้อยเท่ากินในห้าง 555 ) แต่ความอิ่มมันต่างกันว่ะ ครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันอิ่มกว่า แล้วก็มีคนที่จะได้อิ่มไปกับเราด้วย ถามว่าการที่ได้เจอเด็กกลุ่มนี้ มันทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปมั้ย...ก็ไม่ พรุ่งนี้ก็ยังต้องไปเจอลุงแปลกหน้าเบียดง่ามก้นอยู่ดี แต่สิ่งนึงคือผมได้รู้ว่า ผมโชคดีขนาดไหนแล้ว ที่ได้มาใช้ชีวิตในลูปน่าเบื่อๆนี้ อย่างน้อยยังมีข้าวกินครบ 3 มื้อ และก็ยังแบ่งให้คนอื่นได้บ้าง ดีกว่าบางคนที่ไม่มีโอกาสเลย....
ฝากไว้ให้กับมนุษย์เงินเดือนอีกหลายๆคน ที่กำลังเบื่อกับเรื่องเดิมๆ เอาจริงมันอยู่ที่มุมมองเราว่าเราจะมองยังไง แล้วเราจะเอาตัวเองไปเทียบกับใคร....แค่นั้นเอง
ปล.เกือบลืม รีวิวราเมน 5555 (รีวิวเพราะอยากรีวิวเองนะ ไม่ได้เงินสักบาทจริงๆ สาบาน) เต็ม 5 ดาวนะ
เส้น – 3.5 เหนียวนุ่มใช้ได้ หนึบๆ แต่สำหรับผมชอบแบบนิ่มๆมากกว่าเลยหักคะแนนความชอบส่วนตัวไป 555

ซุป – 4 มีน้ำซุปชนิดเดียว คือ ทงคตสึ กลมกล่อมใช้ได้เลย รสชาติของซุปที่เคี่ยวด้วยกระดูกหมู รสชาติไม่แพ้ร้านดังๆในห้างแน่นอน ดูความเข้มของน้ำซุปร้อนๆนี่สิ ซี้ดเลยอ้ะ !!!

ไข่ – 4 ไข่ลาวา หากินยากนะเอาจริงแบบเยิ้มๆกำลังดี ฟินจริงอันนี้ สั่งเพิ่มได้ด้วย ไหลไปตามร่องลิ้นในปาก อูววว
หมู – 4.5 คือมาทั้งชิ้นจริงๆ สองชิ้น ความนุ่มของหมูกำลังดี ไม่รุ่ยไม่แข็งจนเกินไป ให้ชิ้นใหญ่เหมือนกัน
ความคุ้มค่าต่อราคา – 4
ความคุ้มค่าต่อใจ -5
พิกัด พระราม 9 ซอย 49 ร้าน Ramenga ใครผ่านไปก็แวะเติมแต้มบุญ เติมความฟิน กันได้จ้า
[CR] ระบาย+รีวิว !! จากใจมนุษย์เงินเดือน กับของอร่อยที่กินแล้วหายเครียด !?
(ไม่ได้ชวนมาขายตรงนะ อย่าเพิ่งปิด ถ้าใครอยากอ่านแค่รีวิวของกิน ข้ามไปช่วงท้ายเลยนะ 5555)
เป็นวัฎจักรเดิมๆ ที่มนุษย์เมืองหลายคนก็ต้องเจอเหมือนกัน (ถ้าทำงานในย่านออฟฟิศต่างๆ)
.
ตื่นเช้ามาเพื่อ.... เจอกับคุณภาพชีวิตดีๆ ที่ลงตัว ....โคตรๆ
เสียเวลา 2 ชม ไปกับรถติด หรือถ้าไม่ขับรถก็ต้องยอมพลีกายให้กับชายแปลกหน้าในรถไฟฟ้า..(เบียดกว่านี้ถ้าท้องได้ก็ท้องไปละ)
เจอแจ็คพอต กับวันที่รถไฟฟ้าเสีย (สายตัวแดงโดน Hr เรียกคุยอีก ความผิดกรูใช่มั้ยเนี่ย)
ส่วนเรื่องเจ้านายกับเพื่อร่วมงาน ข้ามไปเนอะรู้ๆกันอยู่ 5555 คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก อันนี้จริง
.
พักเที่ยง....
วิ่งสี่คูณร้อยไปยังศูนย์อาหาร เพื่อจองที่นั่ง (บริษัทไหนที่มีโรงอาหารของตัวเองก็โชคดีไป) รสชาติอาหารก็...นะ
.
เย็น... เหมือนตอนเช้า แค่พระอาทิตย์ตก.. อาศัยกินอาหารระหว่างทางกลับบ้านไป เพราะจะให้ไปตามร้านคนก็เยอะและ...ไม่มีตังค์ 555
เป็นลูปๆวนแบบนี้ ต้นเดือนอาจจะได้กินของอร่อยหน่อย ปลายเดือนก็ข้าวราดแกง ผมรู้สึกมาตลอดว่า เบื่อ กับชีวิตแบบนี้ แต่ทำไงได้อะครับ ถึงรูปจะหล่อ (หลงตัวเองโคตรๆ 55 ) แต่พ่อไม่รวย ก็ใช้ชีวิตแบบเฮง- ต่อไป ผมคิดแบบนี้ คิดมาตลอด จนเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้า...โรคยอดฮิตของปี 2018
.
บางคนบอกว่า อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น เพราะจะทำให้เครียด ไม่มีความสุข ผมก็คิดมาตลอดนะว่ามันจริง จนเลิกเปิดดูเฟสบุ๊คไปช่วงนึง เพราะเวลามีคนโพสอะไรประสบความสำเร็จ บางทีมันก็ทำให้ผมมองย้อนนะว่าตัวเองทำไรอยู่ (แต่ก็นั่นแหละ ด้านแย่ๆคงไม่มีใครโพสกันเท่าไร) แต่แล้ววันนึงไอ้ความคิดที่ว่า การเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่นมันจะทำให้เรารู้สึกแย่ ก็เปลี่ยนไป....
.
เมื่อสองวันก่อนด้วยความที่ลูกค้างานเร่งมาก (จริงๆก็ไม่เห็นมีใครไหนนะที่ไม่เร่งอะ ทำไมไม่สั่งตั้งแต่เมื่อวาน !! 55 ) ผมเลยต้องกลับดึกกว่าปกติ (โอทีไม่มีมีแค่ โอ้โห ... ฟรี) รถไฟฟ้าก็หมด เลยนั่งแท็กซี่มาลงหน้าปากซอย กะว่าหาไรกินหน่อยก่อนเข้าบ้าน ผมก็เดินผ่านร้านราเมนร้านนึง เป็นร้านราเมนแบบบ้านๆข้างทาง
ผมเคยเห็นในหนังคนญี่ปุ่นชอบไปกินร้านราเมนข้างทาง เพื่อปรับทุกข์กับเพื่อนร่วมงาน เวลาเครียดๆ ผมเลยคิดว่าเออ เอาวะลองสักหน่อย (อีกอย่างพวกร้านรถเข็นไม่น่าจะแพงมาก) พอเดินเข้าไปดู อืม 80 ราคารับได้ เพราะตามห้างก็ 100+ หมดละ
แต่ก่อนสั่ง ผมดันมองไปเห็นเด็กกลุ่มนึง แต่งตัวปอนๆ มากัน 4 กำลังนั่งซดราเมนอยู่ ด้วยความสงสัยเลยก็เลยถาม (อย่าหาว่าสอใส่เกือกเลยนะ 55) ว่าทำไมมากินกันแต่เด็กๆ พ่อแม่ไปไหน
เด็ก : อร่อยดิพี่
ผม : เออแล้วนี่มาทำไรกัน พ่อแม่ไปไหน
เด็ก : พ่อไม่มีพี่ แม่เก็บของขาย นี่มาช่วยแม่ (จึ้กไปอีก)
(คิดในใจ เก็บของขายแล้วมานั่งกินราเมนแบบนี้ รวมๆกันก็เป็นสองสามร้อยอยู่นะ)
ผม : เออ แล้วเนี่ย กินแค่นี้อิ่มมั้ย ใครเลี้ยงเนี่ย
เด็ก : ก็อิ่มนะพี่ ไม่มีใครเลี้ยงแต่นี่กินฟรี
งง สิครับ กินฟรีก็ได้เหรอไม่มีใครเลี้ยงเนี่ยนะ เลยเดินเข้าไปก็ถึงบางอ้อ เพราะเจอกับป้ายนี้
ถ้าคนขี้เกียจอ่านป้าย ผมสรุปให้ คือเรากินแล้วเราสามารถซื้ออีกชามแปะไว้ ให้ใครก็ได้มากินฟรี Social Enterprise มากกเวอร์ ( หมายถึงการทำกิจการแต่มีการให้กับสังคมด้วย) ผมว่ามันก็เวิร์คดีนะ ให้กันได้เลยแบบเห็นๆ ไม่ต้องรอออกข่าวบริจาค แต่เป็นการให้เงียบๆที่ได้จริง อิ่มจริง แต่รสชาตินี่อีกเรื่องนะ ถ้าอร่อยก็ว่าอร่อย ไม่อร่อยก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า..555
ส่วนตัวผมคิดว่ากับราคาเท่านี้ รสชาติก็ได้เกินราคาอยู่ (เดี๋ยวรีวิวแปะไว้ล่างสุด) สรุปวันนั้นผมก็สั่งไป 2 ชาม กินเองอันนึง แปะไว้อีกอัน (สรุปจ่ายเกือบสองร้อยเท่ากินในห้าง 555 ) แต่ความอิ่มมันต่างกันว่ะ ครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันอิ่มกว่า แล้วก็มีคนที่จะได้อิ่มไปกับเราด้วย ถามว่าการที่ได้เจอเด็กกลุ่มนี้ มันทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปมั้ย...ก็ไม่ พรุ่งนี้ก็ยังต้องไปเจอลุงแปลกหน้าเบียดง่ามก้นอยู่ดี แต่สิ่งนึงคือผมได้รู้ว่า ผมโชคดีขนาดไหนแล้ว ที่ได้มาใช้ชีวิตในลูปน่าเบื่อๆนี้ อย่างน้อยยังมีข้าวกินครบ 3 มื้อ และก็ยังแบ่งให้คนอื่นได้บ้าง ดีกว่าบางคนที่ไม่มีโอกาสเลย....
ฝากไว้ให้กับมนุษย์เงินเดือนอีกหลายๆคน ที่กำลังเบื่อกับเรื่องเดิมๆ เอาจริงมันอยู่ที่มุมมองเราว่าเราจะมองยังไง แล้วเราจะเอาตัวเองไปเทียบกับใคร....แค่นั้นเอง
ปล.เกือบลืม รีวิวราเมน 5555 (รีวิวเพราะอยากรีวิวเองนะ ไม่ได้เงินสักบาทจริงๆ สาบาน) เต็ม 5 ดาวนะ
เส้น – 3.5 เหนียวนุ่มใช้ได้ หนึบๆ แต่สำหรับผมชอบแบบนิ่มๆมากกว่าเลยหักคะแนนความชอบส่วนตัวไป 555
หมู – 4.5 คือมาทั้งชิ้นจริงๆ สองชิ้น ความนุ่มของหมูกำลังดี ไม่รุ่ยไม่แข็งจนเกินไป ให้ชิ้นใหญ่เหมือนกัน
ความคุ้มค่าต่อราคา – 4
ความคุ้มค่าต่อใจ -5
พิกัด พระราม 9 ซอย 49 ร้าน Ramenga ใครผ่านไปก็แวะเติมแต้มบุญ เติมความฟิน กันได้จ้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น