JJNY : โพลแสลงใจ นัก"ลบ"ไซเบอร์ ....พิษเศรษฐกิจ!! ของแพง หนี้สินรุงรัง ถาโถมคนไทยเครียดขึ้นสมอง

กระทู้คำถาม
เอยูโพล เผยคนไทยในกทม.-เชียงใหม่-ขอนแก่น-สงขลา ตั้งแต่วัยเด็กยันแก่ ยังคงเครียดเรื่องเศรษฐกิจมาเป็นอันดับ 1 จากสินค้าแพง หนี้สินรุงรัง ต้องกัดฟันใช้จ่ายอย่างประหยัด...

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. สถาบันวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอยูโพล เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องดัชนีความเครียดของคนไทยเดือน พ.ค. ในเขตกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 2,008 ตัวอย่าง พบว่า คนไทยมีความเครียดคล้ายคลึงกับการสำรวจในครั้งที่ผ่านมาเมื่อต้นปี 2561
โดยส่วนใหญ่มีความเครียดในเรื่องสภาพเศรษฐกิจมากกว่าเรื่องอื่นๆ (ร้อยละ 65.64)
รองลงมา คือ เรื่องสภาพแวดล้อม (ร้อยละ 52.59)
และเรื่องสุขภาพ (ร้อยละ 43.48) เป็นต้น

ประเด็นที่น่าเป็นห่วง เมื่อพิจารณาความเครียดของคนในแต่ละวัยพบว่า คนไทยตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน จนถึงวัยชรา (อายุ 18 ปีขึ้นไป) ต่างก็มีความเครียดในเรื่องสภาพเศรษฐกิจมาเป็นอันดับ 1 เหมือนๆ กัน ถึงแม้ว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องนี้จะคาดการณ์ว่า แนวโน้มสภาพเศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่จากสภาพความเป็นจริงที่คนไทยกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพที่นับวันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ราคาน้ำมันและก๊าซที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการต่างจ่อคิวเริ่มจะขยับขอปรับราคาขึ้น ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคนไทยเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว จึงไม่แปลกที่คนไทยส่วนใหญ่จะรู้สึกกังวลและอดที่จะเครียดไม่ได้ว่า สภาพเศรษฐกิจในปีนี้จะดีขึ้นอย่างที่หลายหน่วยงานคาดการณ์ไว้จริงหรือ

นอกจากเรื่องสภาพเศรษฐกิจแล้ว รองลงมา คนไทยยังเครียดในเรื่องสภาพแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
ปัญหาการจราจร (ร้อยละ 63.60)
ปัญหาสภาพแวดล้อม เช่น ขยะ น้ำเน่าเสีย เป็นต้น (ร้อยละ 44.17)
รวมทั้งปัญหาอื่นๆ ที่ส่งผลทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมของตนตกต่ำลง

ส่วนความเครียดในเรื่องสุขภาพที่อาจได้รับผลกระทบจากความวิตกกังวลในเรื่องอื่นๆ เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่คนไทยส่วนใหญ่กำลังประสบอยู่ เนื่องจากเห็นว่าตนเองมีร่างกายไม่แข็งแรง (ร้อยละ 65.36)
มีโรคประจำตัว (ร้อยละ 36.48)
และเจ็บป่วย/ไม่สบายบ่อย (ร้อยละ 26.47) เป็นต้น

จากผลการสำรวจพบว่า เพื่อจะเผชิญหน้ากับสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้
คนไทยส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้จ่ายอย่างประหยัด โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง (ร้อยละ 50.33)
หาอาชีพเสริมและพยายามทำงานให้มากขึ้น (ร้อยละ 14.52)
ยอมรับความเป็นจริง มีสติ และพยายามไม่เครียดกับเรื่องเศรษฐกิจ
(ร้อยละ 8.73) เป็นต้น

ส่วนความเครียดในเรื่องสภาพแวดล้อมนั้นจะพยายามปล่อยวาง ทำใจยอมรับความเป็นจริง และมีสติ (ร้อยละ 22.80)
รู้จักวางแผนการเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจร (ร้อยละ 15.98)
และหากิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุข หางานอดิเรก (ร้อยละ 13.66) เป็นต้น

ทั้งนี้จากผลสำรวจในครั้งนี้จะเห็นว่าปัญหาที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่เกิดความเครียด คือ
ปัญหาหนี้สิน/รายรับไม่พอกับรายจ่าย สินค้าราคาแพง ปัญหาสุขภาพ ปัญหาความไม่ซื่อสัตย์สุจริตของนักการเมือง และปัญหาการจราจร ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำไปพิจารณาเพื่อปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้คนไทยเกิดความเครียดต่อปัญหาต่างๆ เหล่านี้น้อยลง โดยปัญหาที่เกิดขึ้นได้ส่งผลทำให้คนไทยส่วนใหญ่เกิดความ
รู้สึกเบื่อหน่าย (ร้อยละ 62.85)
ไม่มีความสุขเลย (ร้อยละ 69.17)
และรู้สึกหมดกำลังใจ (ร้อยละ 52.69)
ซึ่งความรู้สึกต่างๆ เหล่านี้ อาจส่งผลทำให้ความสุขและคุณภาพชีวิตของคนไทยถดถอยลงได้ในที่สุด.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่