[วิเคราะห์วันพีซ] เหตุผลที่คาตาคุริ...

ใครยังอ่านไม่ถึงตอนที่ 896 ปิดกระทู้ไปได้เลย เพราะว่าคาตาคุริ...[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และสำหรับใครที่ไม่มีเวลาอ่าน เลื่อนไปอ่านสรุปย่อหน้าสุดท้ายได้เลยครับ

ไก่ไก่ไก่ไก่ไก่ไก่


เกริ่นก่อนว่าผมก็แปลกใจเหมือนกัน ที่ลูฟี่ปราบหมายเลขหนึ่งของกลุ่มโจรสลัดบิ๊กมัมได้ เพราะถ้ามองในอีกมุมหนึ่งก็เปรียบเสมือนว่า ลูฟี่โค้นคนระดับฟีนิกส์มัลโก้หรือเบนเบคแมนลงได้ (ประมาณว่าเป็นหมายเลขหนึ่งเหมือนกัน) แต่ผมมีโอกาศได้อ่านบทความการตีความของศึกประลองครั้งนี้จากบอร์ดต่างประเทศ (Reddit) ซึ่งทำให้ผมเริ่มเข้าใจสิ่งที่โอดะพยายามจะนำเสนอขึ้นมาหน่อย และผมคิดว่าค่อนข้างน่าสนใจเลยอยากจะมาแบ่งปันในบอร์ดพันทิป

ถ้าว่ากันตามตรง มองมุมไหนคาตาคุริก็เหนือกว่าลูฟี่ในทุกด้าน และขนาด "แครกเกอร์" ที่แกร่งน้อยกว่าคาตาคุริก็ยังดูแข็งแกร่งกว่าลูฟี่ด้วยซ้ำไป เพราะศึกลูฟี่ vs แครกเกอร์ ถ้าไม่มีนามิอยู่ด้วย ภาคโฮลเค้กไอแลนด์ก็จบแค่เจอแครกเกอร์นั่นแหละ (คหสต.) งั่นอะไรกันละ? ที่ทำให้ชายผู้มีค่าหัวหนึ่งพันห้าสิบเจ็ดล้านถูกโค้นล่ม สิ่งนั่นคือ "ภาระ"

คาตาคุริเดิมที่เป็นคนไม่สนว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับตนเอง ถึงแม้เจ้าตัวจะมีปากที่ไม่เหมือนกับชาวบ้านก็ตาม แต่แล้วนักเลงหัวไม้ที่มีเรื่องบาดหมางกับคาตาคุริ ได้ทำร้าย "บูเร่" น้องสาวของคาตาคุริ เพียงเพราะว่าไม่สามารถอัดคาตาคุริลงได้ ได้ทำให้คาตาคุริตระหนักถึงผลลัพธ์ของการไม่สนใจภาพลักษณ์ของตนเอง และเริ่มสร้างภาระที่ไม่จำเป็นนับตั้งแต่นั่นมา

ในภาคโฮลเค้กไอแลนด์จะสังเกตได้เลยว่า ในสายตาของพี่น้องตะกูลชาล็อต คาตาคุริถือเป็นพี่ที่เป็นแบบอย่างในทุกๆด้าน รูปลักษณ์​ พละกำลัง ความสามารถ ไหวพริบ คาตาคุริเกิดมาเพื่อเป็นที่สุดของที่สุด สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ทุกคนในตะกูลไว้ใจ และเคารพสุดยอดพี่ชายคนนี้ ชื่อเสียงมากมายถูกสร้างขึ้นมาจากชายคนนี้ ที่จริงบ้างไม่จริงบ้าง คาตาคุริก็แบกรับไว้ทุกอย่าง และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับน้องๆ เพียงเพื่อจะให้น้องๆรู้ว่าตนสามารถเป็นที่พึ่งพากับน้องๆได้ และพร้อมจะปกป้องน้องๆจากทุกภัยที่จะเกิดขึ้น จึงเกิดเป็นภาระมากมายมหาศาลรอบชายคนนี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับด้วยความยินดี

ชื่อเสียงเริ่มมากขึ้น ภาระก็มากขึ้นตาม เริ่มมีความเชื่อต่างๆจากทั้งภายในครอบครัวก็ดี หรือคนนอกก็ดี ยัดเยียดให้เป็นภาระมากขึ้น กฏที่ว่าไม่เคยพ่ายแพ้บ้างละ กฏที่ว่าหลังไม่เคยถึงพื้นบางละ การที่คาตาคุริยอมรับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดทำให้ตัวตนของเขาหลงทาง จากที่เคยทำทุกอย่างเพื่อปกป้องครอบครัว กลับกลายเป็นทำทุกอย่างเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง สังเกตได้จากการที่เวลาจะกินอาหาร ก็ต้องแอบกินไม่ให้ใครเห็น หรือเวลาต่อสู้ถึงแม้จะบาดเจ็บแค่ไหน หลังก็ห้ามโดนพื้น ภาระไม่จำเป็นเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่ผลักดันให้คาตาคุริแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เหมือนดาบสองคมที่ส่งผลทำให้เขาพ่ายแพ้เหมือนกัน

ตรงกันข้ามกับคาตาคุริ ลูฟี่เป็นคนที่เป็นตัวของตัวเองเสมอมา ถึงจะโง่งี่เง่าในหลายๆโอกาส แต่ลูฟี่มีพรรคพวกที่เชื่อใจ ไว้ใจได้ และยอมรับในสิ่งที่ลูฟี่เป็น กลุ่มหมวกฟางแข็งแกร่งเพราะทุกคนเข้าใจกัน รู้ดีว่าใครมีจุดอ่อนจุดแข็งอะไร รู้ดีว่าตัวเองทำอะไรได้ จึงทำหน้าที่ของตัวเองแบบสุดความสามารถ และปล่อยหน้าที่อื่นไว้ให้กับสมาชิกที่ตนไว้ใจ ไม่มีใครหักโหมทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เช่น ลูฟี่มีหน้าที่จัดการคาตาคุริเพื่อไม้ให้ไปขัดขวางพรรคพวกคนอื่น ซันจิมีหน้าที่ทำเค้กเพื่อหยุดการไล่ล่าของบิ๊กมัม นามิและพรรคพวกที่เหลือมีหน้าที่ดูแลเรือ และเตรียมความพร้อมสำหรับการหลบหนี ไม่มีใครสร้างภาระให้ใคร แม้ไม่พูดทุกคนก็เข้าใจหน้าที่ของตนเอง ความใว้ใจเชื่อใจตรงนี้คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง และเป็นสิ่งที่ผลักดันทำให้พวกเขาแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก



ในศึกปะทะระหว่างคาตาคุริกับลูฟี่ การต่อสู้แบ่งเป็น 3 ยก ยกแรกจบตอนที่ลูฟี่เริ่มใช้เกียร์ที่สี่ แต่โดนคาตาคุริใช้ "โมจิกระจก" ฝังลูฟี่ (ลูฟี่แพ้) ยกสองจบตอนที่ลูฟี่ใช้เกียร์ที่สี่จนฮาคิหมด จึงหนีออกโลกกระจก (ลูฟี่แพ้) ซึ่งในระหว่างการต่อสู้เราจะเห็นว่า เมื่อภาระที่เป็นภาพลักษณ์ของคาตาคุริถูกทำร้ายลง คาตาคุริจะเริ่มหัวเสีย เพราะนี่เปรียบเสมือนสิ่งที่เขาคอยปกป้องยึดถือถูกทำลายลง เช่น ตอนที่ถูกคนอื่นเห็นปาก หรือตอนที่ "แฟลมป์" ยื่นมือเข้ามาช่วย นั่นก็ทำให้เขาหัวเสียเหมือนกัน เพราะเหมือนเป็นการดูถูกว่าเขาไม่สามารถชนะลูฟี่ได้ด้วยตนเอง ซึ่งขัดกับลูฟี่ที่ใช้ความช่วยเหลือจากพรรคพวกทุกครั้งที่มีโอกาศ เช่นให้นามิช่วยตอนต่อสู้กับแครกเกอร์ และใช้ลูกไม้สกปรกทุกครั้งเมื่อจำเป็น เช่นตอนใช้บูเร่หนีออกจากห้องกระจกตอนที่ฮาคิหมด ถึงจะโดนอัดพ่ายแพ้ขนาดไหนก็ลุกขึ้นใหม่ เพราะนี้คือความเชื่อใจที่ลูกเรือคนอื่นมีในตัวลูฟี่ เขาจึงต้องทำทุกทางที่ทำได้ เพื่อให้เป้าหมายสำเร็จลุล่วง ซึ่งจุดนี้ทำให้คาตาคุริแปลกใจ แล้วเข้าใจในเวลาต่อมา



ทันที่ที่แฟลมป์เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของคาตาคุริ เธอก็เริ่มดูถูกเหยียดหยาม และขับไสไล่ส่งคาตาคุริทันที ซึ่งจะโทษแฟลมป์ทั้งหมดก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะรูปลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมานี่ ตัวคาตาคุริเองก็เลือกที่จะยอมรับ และซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ ภาระที่เรียกว่า "คาตาคุริจอมปลอม" คือสิ่งที่คาตาคุริและคนในครอบครัวสร้างขึ้นและยึดถือ เป็นสิ่งที่ผลักดันให้เขาแข็งแกร่งมาตลอด แต่ตอนนี้มันเริ่มทำให้เขาอ่อนแอลง คาตาคุริเริ่มเข้าใจตรงจุดนี้ในระหว่างการต่อสู้กับลูฟี่ ที่ไม่ยอมแพ้และต่อสู้ถึงที่สุด ถึงจะโดนอัดด้วยศัตรูที่เหนือกว่า หรือโดนกดดันด้วยกองทัพที่มีพลังอำนาจมากกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่เรียกว่าความเชื่อ เพียงพรรคพวกทุกคนเชื่อใจกันว่าทุกอย่างจะต้องสำเร็จ และมันต้องสำเร็จเพื่อที่จะปกป้องความเชื่อใจตรงนี้ สิ่งเหล่านี้มีค่ามากกว่า "คาตาคุริจอมปลอม" ที่ตัวคาตาคุริสู้เพื่อปกป้องมาตลอด แม้ตัวเขาเองจะโดนอัดน้อยกว่า หรือบาดเจ็บน้อยกว่า ณ จุดสุดท้ายของต่อสู้ เขาเลือกที่จะล้มลงและยอมรับความผ่ายแพ้ ทิ้งทุกอย่างที่เขาเชื่อและปกป้องมาตลอด เพียงเพราะเขาอยากจะแข็งแกร่งขึ้น และสู้เคียงคู่พี่น้องของตนอีกครั้งเหมือนอย่างกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง และตัวลูฟี่





สรุป ในความคิดผม โอดะตั้งใจจะนำเสนอว่า ลูฟี่กับคาตาคุริเหมือนคนคนเดียวกัน ที่เกิดในสภาพแวดล้อมและมีความเชื่อมั่นยึดถือไม่เหมือนกัน คาตาคุริเลือกที่จะแบกรับทุกอย่างที่พี่น้องอยากให้เป็น ยอมเป็นตัวอย่างของความสมบูรณ์แบบให้กับคนอื่น แม้จะไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง ปกป้องและยึดถือใน "คาตาคุริจอมปลอม" เพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น แต่ลูฟี่เป็นทุกอย่างที่ตัวเองอยากเป็น มีพวกพ้องที่เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ลูฟี่เป็น ปกป้องและยึดถือใน "ความเชื่อใจ" ที่พวกพ้องมีให้ เพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ผลการต่อสู้จึงเป็นเหมือนผลลัพธ์จาก "ภาระ" แรงกดดันจากพวกพ้องที่มีต่อตัวคาตาคุริและลูฟี่ นั่นเป็นเหตุผลที่คาตาคุริเลือกที่จะยอมแพ้ เป็นเหตุที่เขายินดีที่ลูฟี่ชนะ เพราะเหมือนคาตาคุริได้เห็นตัวเองในรูปแบบที่ดีกว่า คาตาคุริแข็งแกร่งกว่า แต่ลูฟี่สู้เพื่อสิ่งที่มีค่ามากกว่า คาตาคุริเลยแพ้ (เลือกยอมแพ้)

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงจุดนี้ บทความทั้งหมดนี้เป็นบทความวิเคราะห์ จึงอาจมีถูกบางหรือผิดบ้าง (หรืออาจผิดหมด) เป็นเรื่องธรรมดา คิดเห็นเหมือนหรือต่างยังไง ก็แสดงความเห็นได้เลยครับ และโปรดแสดงความเห็นกันแบบสุภาพชนด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่