ซ่อมให้ไหม? หัวใจ Boss is trouble - 6

ความเดิมตอนที่แล้วจ้ะ >>  https://pantip.com/topic/37693008




ผมเผ้าที่ผ่านการผึ่งลมร้อนจนแห้งดี  ถูกชโลมหมาดๆ ด้วยน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์เพื่อบำรุงจากโคนจรดปลาย มือเล็กสางลวกๆ ทีสองทีแล้วรวบตวัดวนเป็นทรงน้ำพุเซอร์ๆ เสริมความแข็งแรงให้กับฐานน้ำพุด้วยกิ๊ฟดำไปสองตัว เป็นอันจบง่ายดายสำหรับท่อนหัว


ท่อนตัวยิ่งไม่ยาก เปิดตู้เสื้อผ้าเจออะไรก็คว้ามาใส่ไม่คิดเยอะ แต่ขอปรับลุคตัวเองกับความห่ามห้าวในยูนิฟอร์มช่างที่ต้องฝืนใจใส่ตลอดสัปดาห์ ด้วยการแต่งตัวสบายๆ ในชุดเสื้อยืดแขนยาวตัวหลวม กางเกงยีนซีดขาด กับรองเท้าผ้าใบสีชมพูคู่เก่ง ที่มีอยู่เพียงคู่เดียว และตบท้ายด้วยกระเป๋าผ้าลดโลกร้อนที่แถมมาตอนซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในงานมหกรรมสินค้าธงฟ้า




วันหยุดทั้งที ขอสโลว์ไลฟ์ด้วยการออกไปขี่รถชิลๆ เปิดหูเปิดตาบ้างเถอะ ถึงแม้ว่าเธอจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เกือบปีแล้ว แต่ถนนหลายสาย ชายหาดหลายแห่ง และร้านก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดย่านดังอีกหลายร้านที่เธอยังไม่ได้แวะไปสัมผัส




ชะโงกหน้ามองลงไปในลังกระดาษA4 เจ้ามะเดื่อยังหลับปุ๋ยหลังจากได้กินอาหารแมวเด็กไปสองกำมือ เธอวางแถมให้มันไปอีกครึ่งชามข้างๆตัว ถ้าตื่นมาหิว มันได้กลิ่นคงกินเองเป็น



หญิงสาวเดินผิวปากฮัมเพลงสบายอุราออกมาจากห้องพัก จำเป็นต้องผ่านห้องดูทีวีเพราะผนังอยู่ติดกัน พลันหางตาเหลือบไปเห็นคล้ายๆ โจทก์เก่า นึกว่าแค่ตาฝาด ไม่ทันกะพริบดูให้เต็มๆ ตา เสียงป้านวลคนเฝ้าโรงซักรีดก็กวักมือพร้อมส่งเสียงเรียก




“ลูกหมูเว้ย มาตรงนี้หน่อยลูก”




ไม่เพียงแต่ป้านวล หากยังมีสายตาเข้มขรึมดุดันของบุคคลอันตรายสองคน ที่ปีกุนขอใช้สรรพนามเรียกขานว่า ‘โจทก์เก่า’ หันมองตามกระแสเสียงฝีเท้าเธออีกด้วย



“คุณสองคนนี้มาถามหาผู้หญิงตัวผอมๆ สวยๆ ผมยาวเกือบถึงเอว นอกจากเอ็งแล้วยังจะมีใครในหอพักเราอีกวะที่ผอมๆ ผมยาวๆ แต่เอ็งนะรึ ป้าว่าก็ไม่สวยนะแค่พอดูได้ ไอ้พวกที่สวยๆ มีฟงมีแฟน เขาก็ไปพักกับแฟนเขาสิ จะมาพักที่แฟลตสับปะรังเคนี่ทำไม”  


ป้านวลนอกจากหาว่าเธอไม่สวยแล้ว ยังจะมีหน้าพูดซะยาวเหยียดราวกับหายใจได้ทางผิวหนัง



ปีกุนยิ้มอย่างจนใจ ถึงจะอยากแทรกเพื่อช่วยแก้ไขสถานการณ์ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะคนต้นเรื่องเอ่ยขึ้นทันทีที่ป้าแกพูดจบประโยค




“ไม่ต้องหาแล้วล่ะครับป้า ผมเจอตัวแล้ว” เจ้าของร่างสูงสง่าเอ่ย แววตาของเขาเหมือนมีรอยยิ้มขบขัน




ปีกุนจำได้แม่นว่าหมอนี่คือ ‘คนของคุณช้าง’




"สวัสดีค่ะ" ปีกุนกลั้นใจยกมือไหว้ให้กับคนทั้งคู่ คุณช้างถึงไม่ได้ยิ้มตอบ แต่ก็มีแก่ใจเลื่อนมือขึ้นรับไหว้ด้วยความกรุณา ขณะที่นายอ่ำมือแข็งทื่อเป็นสากกะเบือ สงสัยโตมาไม่เคยมีใครสอนเรื่องมารยาท




เห็นปีกุนแสดงความเคารพชายทั้งสองไปแบบนั้น ป้านวลขมวดคิ้วใบหน้าเหยเกทันที




ปีกุนรีบกระเถิบร่างกระซิบบอกป้านวลให้หายงง




“คุณช้าง ลูกชายเจ้าของรีสอร์ท กับนั่นคนรับใช้จ๊ะป้า”




ป้านวลหน้าซีดเผือด ไม่กล้าพูดอะไรต่อ




จนกระทั่งนายอ่ำเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นกับเธอว่า




“จะไปไหน วันนี้ไม่ทำงานเหรอ”




หญิงสาวเหลือบดูหน้าเข้มๆ ภายใต้ผิวสีแทนแบบคนโดนแดดเยอะแต่ยังดูดีเหมือนรู้จักทาครีมเพราะไม่มีรอยฝ้า กระ จุดด่างดำของนายอ่ำ จิกตามองแรงใส่เขาอย่างกับจะสวนไปว่า ‘จำเป็นต้องตอบคำถามนายด้วยเหรอ’ แต่ไอร้อนคุกรุ่นจากรังสีความเป็น ‘คนของคุณช้าง’ สะท้อนแยงลูกตาเธอกลับมา




หญิงสาวเลยหลบตา หันหน้ามามองและกล่าวตอบกับคุณช้างสั้นๆ อย่างสุภาพ




“วันนี้เป็นวันหยุดค่ะ”




“กำลังจะออกไปข้างนอกเหรอ” คุณช้างเอ่ยผ่านใบหน้าขาวตี๋เจือด้วยรอยยิ้มบางๆ ซึ่งแววตาของเขาความจริงก็ดูใจดีไม่น้อย...บางทีเขาคงจะดุร้ายในบางเรื่องน่ะ




“บังเอิญชะมัด!” เสียงนายอ่ำแทรกขึ้นกลางห้วงความรู้สึกชื่นชมต่อเจ้าของใบหน้าขาวใสไร้ริ้วรอยของคุณช้าง




“เราสองคนก็จะออกไปข้างนอก ไปด้วยกันเลยสิ กำลังอยากได้คนขับรถอยู่พอดี” เขาพูดทึกทักเอาดื้อๆ




คนโดนโมเมเลยควันออกหู เอ่ยเสียงสูงขึ้นอย่างลืมตัว




“ก็บอกไปแล้วไงว่าวันนี้เป็นวันหยุด...ค่ะ” ป้านวลกระตุกชายเสื้อเธอเบาๆ ทำให้นึกได้ว่าคุณช้างยืนอยู่ด้วย เลยรีบเค้นเสียง ‘ค่ะ’ ออกไปได้ทันในท่อนสุดท้ายปลายประโยค




“งั้นรบกวนหน่อยละกัน” คุณช้างเอ่ยทำนองสั่ง




“แต่ดิฉันมีธุระต้องไปทำนะคะ คงไม่ว่างเป็นคนขับรถให้คุณสองคนหรอก”




“ฉันไม่ได้ใช้งานเธอทั้งวัน แค่ช่วงเช้าแป๊บเดียวเท่านั้นแหละ แล้วก็ไม่ได้จะใช้งานเธอฟรีๆ เดี๋ยวจะมีค่าจ้างให้พิเศษ” คุณช้างเอ่ยข้อเสนอ




ปีกุนไม่ใช่คนงก เห็นแก่เงินหยุมหยิม แต่ถ้าเป็นเงินจำนวนที่มากพอ เธอก็ขอคิดดูอีกที




“เอาเป็นว่าถ้าเธอมีธุระสำคัญจริงๆ ก็ไม่เป็นไร ไปเถอะ” คุณช้างบอก รอยยิ้มใจดีหม่นลงเล็กน้อย จนป้านวลอดไม่ได้ที่ต่อมความเห็นใจจะผลักดันให้ปากพูดโพล่งออกมาอย่างแสนรู้ว่า




“อย่างยายลูกหมูเหรอคะคุณ วันหยุดจะมีธุระอะไรถ้าไม่ใช่ขี่มอเตอร์ไซค์เล่นรอบเกาะ ตากแดดจนตัวดำ ค่ำๆ ถึงยอมกลับมา”




“เอ้า ป้านวล พูดงี้หนูก็เสียเครดิตหมดสิ!” คนโดนดีสเครดิตกระเถิบตัวกระซิบตำหนิคนปากโป้งทันควัน




“นี่ลูกชายเจ้าของโรงแรมถึงกับออกปากขอให้เอ็งช่วยขับรถให้ ได้รับเกียรติขนาดนี้ เอ็งยังจะกล้าปฏิเสธอีกหรือวะลูกหมู” ป้านวลพึมพำถาม




เมื่อเห็นอาการยุกยิกซุบซิบของเธอกับป้านวล ก็ดูเหมือนนายอ่ำจะเดาเรื่องได้ เขาจึงแทรกขึ้นว่า




“คือจริงๆ ไม่ได้มีธุระสำคัญ แต่รังเกียจเราสองคน?”




ปีกุนยิ้มอ่อน ‘ใครล่ะเจ้าคะ จะไปกล้าคิดแบบนั้น’




นายอ่ำมองเธออย่างคุกคามทางความคิดทันที แต่เธอก็รีบส่ายหน้ากลบเกลื่อนเสียงมโนของตัวเอง ก่อนจะกลั้นใจบอกออกไป  




“เปล่าค่ะ ดิฉันไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย ถ้าคุณช้างกับเอ่อ คุณอ่ำ ไม่รังเกียจที่ดิฉันจะขอแวะหาอะไรกินรองท้องก่อน ดิฉันก็ยินดีจะเป็นโชว์เฟอร์ขับรถให้ละกันค่ะ”




เมื่อหาข้อสรุปกันได้ คนที่พ่นเสียงลมหายใจโล่งอกออกมาก่อนใครก็คือป้านวล




"งานนี้ลงเอยกันด้วยดี" ป้านวลรำพึงยิ้มๆ ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะค้างเก้อตอนที่คุณช้างซึ่งกำลังจะเดินกลับไปที่รถดันหันมาถามป้าแกว่า




"ป้านวลเป็นคนดูแลงาน laundry ใช่ไหม?"




คนโดนถามเหลียวหน้ามามองเธอหาตัวช่วย




แต่ปีกุนไม่มีสัญญาณตอบรับว่าจะช่วยอะไรได้ ป้าแกก็เอ่ยตอบเองแบบเลิกๆ ลั่ก ๆ




"ค...ค่ะ ใช่ค่ะ ป้าเป็นคนดูแลงานลอนดรี้ แต่ป้าไม่ใช่หัวหน้าแผนกนะคะ " ออกตัวปฏิเสธว่องไวด้วยกลัวว่างานจะเข้า "หัวหน้าแผนกนี้ ลากลับบ้านที่หาดใหญ่ วันสองวันถึงจะกลับจ้ะ"




"ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไรป้าเลย" คุณช้างยิ้มใจดี "ฉันแค่จะบอกว่าเดี๋ยวเราคงได้เจอกันอีก เพราะบ่ายๆ ฉันจะกลับมาตรวจงานโรงซักรีด"




พูดจบเท่านั้นแหละ หน้าแป้นๆ ของป้านวลถอดสีทันที




คุณช้างเดินนำหน้ากลับไปขึ้นรถ ส่วนนายอ่ำชะลอฝีเท้าเพื่อจะหันมาพูดแขวะใส่คนร่างเล็กที่เดินไร้วิญญาณตามมาอย่างเชื่องช้า




"เดินให้ไวหน่อยไม่ได้เหรอ...เราน่ะ ชื่ออะไรแล้วนะ"




"ปีกุนค่ะ" เสียงของหญิงสาวอ้อมแอ้มเต็มที




แต่นายอ่ำเหมือนไม่แยแสคำตอบเธอ




"ลูกหมูใช่ไหมที่ป้านวลเรียก"




แวบหนึ่งเธอเห็นเขาปราดมองมาแบบหัวจรดเท้า ก่อนจะพูด




"เด็กๆ อ้วนรึไงถึงชื่อลูกหมู แล้วกินท่าไหนโตมาถึงตัวเท่าลูกแมวแบบนี้ได้" เขาส่ายหัวยิ้มๆ อย่างไม่ได้คอยคำตอบ แข้งขายาวสาวไวๆ นำลิ่วไปจนถึงรถ แถมใจดีเปิดประตูฝั่งคนขับให้ พร้อมหันมาผายมือเชื้อเชิญอีกด้วย




"ไวหน่อยครับคุณลูกหมู ผู้โดยสารรอนานมาก รากจะงอกแล้ว"




ปีกุนกัดฟันกรอด ...ฮึ่ม! นายอ่ำ นายมันผีบ้า!!!




พอเดินมาถึงรถแล้วก้าวเข้าไปนั่งตำแหน่งพลขับ นายอ่ำเดินอ้อมกระโปรงรถเปิดประตูอีกฝั่ง แทนที่จะไปนั่งข้างคุณช้าง กลับก้าวเข้ามานั่งแหมะลงข้างๆ ทำเอาสมาธิเธอชะงักงัน



"ออกรถสิครับคุณลูกหมู ไม่หิวรึไง" เขาบอก แถมยังโน้มเอาใบหน้าเข้มของตัวเองเข้ามาใกล้ๆ กับใบหน้าของเธอ พูดรำพึงว่า... "เสียงพยาธิจากท้องคุณร้องดังมาก"




คนโดนล้อถลึงตาดุใส่ทันที




เออนะสิ! เธอหิวจนจะเขมือบหมูเป็นๆได้ทั้งตัวอยู่แล้วเนี่ย ซึ่งถ้านายอ่ำยังไม่ยอมหุบปาก เธออาจเขมือบหัวเขาเป็นออร์เดิฟ!




เพียงขับรถพ้นออกมาจากอาณาเขตหอพักซึ่งอยู่ทางด้านหลังของรีสอร์ทได้แค่ชั่วอึดใจเดียว นายอ่ำที่หุบปากเงียบไปได้ราวห้านาทีก็เอ่ยขึ้นอีกว่า


"ทำงานที่นี่นานรึยัง"


เขาถามขณะที่สายตายังจับจ้องอยู่กับถนนสายยาวเบื้องหน้า


หญิงสาวจึงไม่มั่นใจว่าเขาพูดกับเธอ ถ้าคิดว่าเขาพูดคนเดียวก็คงไม่ใช่ เธอเหลือบมองกระจกหลัง คุณช้างนั่งเงียบ ไม่ใช่เขาหลับหรือถอดจิตออกไปไหนทั้งนั้น แต่เขายังคงจับตามองพฤติกรรมเธอจากทางด้านหลัง แววตาใจดีบัดนี้ฉายแววดุออกมา ประหนึ่งจะส่งสัญญาณเตือนว่าถ้าเธพูดจาไม่ดีกับนายอ่ำแม้สักนิด หัวของเธออาจจะหลุดออกจากบ่า


"ทำงานที่นี่นานรึยัง?" คำถามเดิม คนถามก็คนเดิม แต่เสียงกลับเข็มขึ้น


ปีกุนแอบทำหน้าเซ็ง ไม่รู้เขาจะซักไซ้อะไรนักหนา ทำหน้าที่ผู้ตรวจการให้คุณช้างหรือไง


"ก็นานค่ะ" เธอจำใจตอบ มือยังแน่วแน่อยู่บนพวงมาลัย และสายตาก็ยังจดจ่อกับการมองรถที่แล่นสวนมา


"กี่ปี"


"สิบเอ็ดเดือน"


"งั้นต้องพูดว่ายังไม่นาน"


เอ้า! หมอนี่ กวนประสาทตลอด นี่คงตั้งใจยั่วโมโห จะให้เธอฟิวส์ขาด เพื่อที่คุณช้างจะได้ตำหนิเธอแรงๆ สินะ ฝันไปเถอะ เธอจะอดทนนั่งนับหนึ่งถึงแสน หรือจนกว่าจะหาร้านอาหารอร่อยๆ ได้ เพราะทุกครั้งที่กินของอร่อย เธอจะอารมณ์ดี จนต่อให้หมามาฉี่รดหน้าแข้งก็ไม่โกรธ ฮ่าๆๆๆ นึกซะว่านายอ่ำก็เหมือนหมา เอ๊ย! เหมือนคนบ้าก็แล้วกัน โบราณบอกอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา โอเค ตามนั้น


กิตติแม้ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเจ้านาย ว่าจะต้องไปให้ความใส่ใจใคร่รู้ทำไมนัก กับแค่เด็กขับรถ แต่ความที่เอรามักชอบคิดอะไรนอกเหนือความคาดหมายเสมอ ครั้งนี้จึงถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก


แต่ที่ตนแปลกใจอยู่ตอนนี้ก็คือ แม่เด็กขับรถไฉนถึงได้จู่ๆก็ยิ้มขึ้นมา แถมทำหน้าทำตาเหมือนคนสติไม่สมประกอบ


ผ่านกระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดยาวสำหรับคนขับไว้มองหลัง กิตติจับจดอยู่กับการพิเคราะห์อาการของโชเฟอร์สาวด้วยความรู้สึกไม่ค่อยไว้วางใจนัก
.....
** ลืมน้องแมวค่ะ เลยแอบมาเอาอาหารให้น้องแมวนึกนึง แฮ่ๆ**
.....

ขอขอบคุณคนอ่านมากๆค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่